อมธ.ยันไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและไม่สนับสนุนความรุนแรง

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ออกแถลงการณ์ ระบุขอดำรงอยู่บนความเป็นกลางทางการเมือง คือมิได้ฝักใฝ่กลุ่มการเมืองฝ่ายใด โดยจะได้มีการประชุมร่วมกันเพื่อเสนอทางออกที่ดีที่สุดให้แก่ประชาชน และไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ

ทั้งนี้ การประชุมเพื่อหาข้อสรุป ดังที่ได้แถลงนั้นจะกระทำโดยนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และทางองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะเป็นผู้ประกาศข้อสรุปดังกล่าวเอง โปรดอย่าเชื่อคำกล่าวจากกลุ่มการเมืองฝ่ายใด

อย่างไรก็ตาม ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็เคารพในสิทธิและเสรีภาพของกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่จะขอใช้สถานที่ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยการปราศรัยภายในมหาวิทยาลัยนั้น อนุญาตให้กระทำได้เฉพาะนิสิตนักศึกษาเท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากบุคคลภายนอก และหากมีนักศึกษากลุ่มใดที่มีความเห็นต่างไปจากกลุ่มการเมืองกลุ่มนี้ สามารถขอใช้พื้นที่ในการปราศรัยภายใต้กรอบของกฎหมายได้เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ อมธ. ขอประกาศย้ำอีกครั้งว่าการที่กลุ่มการเมืองใช้สถานที่ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั้น ไม่ได้แสดงถึงเจตนาของทางมหาวิทยาลัยว่าได้โอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใด

อนึ่ง จากอีเมลที่ อมธ.ได้ส่งแถลงการณ์มานั้น อมธ. ได้ย้ำว่า มีเพียงแถลงการณ์สองฉบับนี้เท่านั้นที่ออกในนามของ อมธ. ในเวลานี้

 

 

(1 ก.ย.)


แถลงการณ์องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เนื่องด้วยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นมหาวิทยาลัยที่ยึดมั่นในเสรีภาพทางการเมือง
ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงขอประกาศจุดยืนว่าองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอดำรงอยู่บนความเป็นกลางทางการเมือง คือมิได้ฝักใฝ่กลุ่มการเมืองฝ่ายใด โดยจะได้มีการประชุมร่วมกันเพื่อเสนอทางออกที่ดีที่สุดให้แก่ประชาชน และไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ

            ทั้งนี้การประชุมเพื่อหาข้อสรุป ดังที่ได้แถลงนั้นจะกระทำโดยนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และทางองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะเป็นผู้ประกาศข้อสรุปดังกล่าวเอง โปรดอย่าเชื่อคำกล่าวจากกลุ่มการเมืองฝ่ายใด แต่ทั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็เคารพในสิทธิและเสรีภาพของกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่จะขอใช้สถานที่ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยการปราศรัยภายในมหาวิทยาลัยนั้น อนุญาตให้กระทำได้เฉพาะนิสิตนักศึกษาเท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากบุคคลภายนอก และหากมีนักศึกษากลุ่มใดที่มีความเห็นต่างไปจากกลุ่มการเมืองกลุ่มนี้ สามารถขอใช้พื้นที่ในการปราศรัยภายใต้กรอบของกฎหมายได้เช่นเดียวกัน ทางองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขอประกาศย้ำอีกครั้งว่าการที่กลุ่มการเมืองใช้สถานที่ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั้น ไม่ได้แสดงถึงเจตนาของทางมหาวิทยาลัยว่าได้โอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใด

            อนึ่งการที่นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ต้องการแสดงจุดยืนเข้าร่วมกับกลุ่มการเมืองใดๆ ในระดับปัจเจกบุคคลถือเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลที่จักทำได้

 

ด้วยความสมานฉันท์
องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

๑ กันยายน ๒๕๕๑

แถลงการณ์ฉบับนี้เป็นข้อสรุปจากการประชุมหารือร่วมกันขององค์การนักศึกษา สภานักศึกษา
คณะกรรมการนักศึกษาคณะต่างๆ คณะกรรมการชมรม/ชุมนุม และตัวแทนกลุ่มอิสระ

 

000000

(31 ส.ค.)
แถลงการณ์เครือข่ายองค์กรนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยต่อสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน

เนื่องด้วยสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ที่เกิดการปะทะกันระหว่างฝ่ายรัฐบาลและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่น่ากังวลว่าจะก่อให้เกิดความรุนแรงในระดับสูง และส่งผลต่อความเป็นไปของบ้านเมืองและระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เครือข่ายองค์กรนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยในฐานะของนิสิตนักศึกษามีความเห็นเป็นห่วงต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน จึงได้รวมตัวกันเพื่อแสดงความคิดเห็นและข้อเรียกร้อง ดังต่อไปนี้

1.       พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองมีสิทธิที่จะทำการชุมนุมที่อยู่ในกรอบของกฎหมาย คือการใช้พื้นที่สาธารณะเพื่อารพูด การแสดงความคิดเห็นและการเสนอข้อเรียกร้อง โดยไม่ทำการบุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการและสถานที่สำคัญด้วยข้ออ้างเพียงว่าเป็นเจ้าของประเทศและแผ่นดินร่วมกัน เพราะทุกคน กล่าวคือ  ภาคส่วนอื่นๆ ของสังคม ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับพันธมิตรก็เป็นเจ้าของแผ่นดินนี้เช่นเดียวกัน อีกทั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังไม่สามารถที่จะทำให้ความเห็นของตนเป็นที่ยอมรับของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้ จึงเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมที่จะทำการอุกอาจในการชุมนุมเช่นที่ผ่านมา

2.       รัฐบาลจะต้องไม่ลดพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็นของภาคประชาชนลง รัฐบาลจำเป็นที่จะต้องจัดให้มีพื้นที่ที่ประชาชนสามารถพูดและแสดงออกซึ่งความคิดเห็นทางการเมืองได้โดยไม่ปิดพื้นที่นั้นลงไป และเมื่อภาคประชาชนฝ่ายใดก็ตามทำเกินขอบเขตที่เหมาะสม รัฐบาลจะต้องไม่ใช้กำลังในการสลายการชุมนุมอย่างอุกอาจทันทีเช่นเดียวกับที่ทำเมื่อวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2551 แต่ต้องพยายามทุกวิถีทางด้วยความอดทนอดกลั้นในการผลักดันให้ผู้ชุมนุมกลับไปอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมดังเดิม ไม่ว่าจะด้วยการเจรจาพูดคุย หรือการป้องกันพื้นที่สำคัญของการชุมนุมเอาไว้โดยไม่ก่อให้เกิดความรุนแรง

 

ทั้งนี้ การเมืองไทยจะสามารถคลี่คลายออกไปไม่ได้ หากทุกคนทุกฝ่ายในสังคมยังคงกระทำเช่นที่ผ่านมา  เครือข่ายองค์กรนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยจึงมีความคิดเห็นต่อการคลี่คลายสถานการณ์บ้านเมืองในอนาคตในทิศทางดังต่อไปนี้

 

1.       รัฐบาลจะต้องรับฟังประชาชนในการทำงานให้มากกว่าที่เป็นอยู่ จะต้องไม่ผ่านเพียงกลไกการบริหารและนิติบัญญัติเพียงอย่างเดียวเท่านั้น รัฐบาลจะต้องพึงระลึกไว้เสมอว่าตนเองเป็นผู้ที่ประชาชนเลือกให้เข้ามาทำงานตามที่ประชาชนเห็นชอบ ไม่ใช่ตามที่รัฐบาลเห็นชอบอย่างเดียว การเลือกพรรคการเมืองขึ้นมาเป็นรัฐบาล ไม่ได้หมายถึงว่าประชาชนเห็นชอบกับทุกสิ่งที่พรรคการเมืองรัฐบาลทำเสมอไป

2.       รัฐบาลจะต้องเปิดพื้นที่ให้แก่ประชาชนในการแสดงความคิดเห็นและข้อเรียกร้องทางการเมืองให้มากขึ้น การกระทำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ผ่านมาไม่ใช่เหตุผลและข้ออ้างที่รัฐบาลจะปิดพื้นที่ของการเมืองภาคประชาชนได้ การเมืองภาคประชาชนจำเป็นจะต้องมีต่อไปภายในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

3.       ระบบการเมืองแบบเลือกตั้งจะต้องดำรงอยู่ต่อไป เพราะเป็นวิถีทางเดียวที่ประชาชนจะลงเสียงรับรองให้ความชอบธรรมแก่ผู้ที่จะเข้ามาทำงานได้ การซื้อสิทธิขายเสียงและการโกงการเลือกตั้งไม่ใช่เหตุผลและข้ออ้างที่จะทำการล้มระบบเลือกตั้งลงไปแล้วใช้ระบบแต่งตั้งเข้าแทนที่ หากภาคประชาชนต้องการป้องกันไม่ให้การซื้อเสียงเกิดขึ้น หรือต้องการที่จะให้เกิดแนวนโยบายในทางที่ตนต้องการ                     

ภาคประชาชนควรจะลงไปให้การศึกษาแก่ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ อย่างใกล้ชิดและมีความอดทน หรือไม่เช่นนั้นก็เข้าสู่การช่วงชิงอำนาจรัฐผ่านการให้การรับรองความชอบธรรมโดยประชาชน คือผ่านการเลือกตั้ง นำแนวนโยบายลงไปหาเสียงโฆษณาให้การศึกษาให้ประชาชนมาเห็นด้วย หากประชาชนเห็นด้วยประชาชนจะเลือกนโยบายและผู้สมัครของภาคประชาชนเอง ไม่ใช่การใช้เสียงของตนเพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจประชาชนส่วนใหญ่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่  มิเช่นนั้นก็จะไม่ต่างกับรัฐบาล


4.       เครือข่ายองค์กรนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ไม่เห็นด้วยกับการคลี่คลายสถานการณ์โดยใช้วิธีการรัฐประหารและหากมีการกระทำการดังกล่าวขึ้น เครือข่ายองค์กรนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยพร้อมที่จะเคลื่อนไหวและต่อต้านภายใต้กรอบของกฎหมาย

 

ทั้งนี้ เครือข่ายองค์กรนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยขอแสดงจุดยืนที่จะไม่เลือกข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และเห็นความสำคัญของการมีความเคลื่อนไหวของการเมืองภาคประชาชน, กรอบของกฏหมาย, ระบบการเลือกตั้ง, ประชาธิปไตย, และการปฏิรูปสังคมการเมือง และจะร่วมกันแสดงความคิดเห็นในฐานะนิสิตนักศึกษา เพื่อผลักดันประเด็นเหล่านี้ให้ยกระดับ มีความสำคัญ และเป็นเครื่องมือในการพัฒนาบ้านเมืองที่เป็นประชาธิปไตยอันไพบูลย์ต่อไปในอนาคต

 

 

ด้วยความสมานฉันท์

เครือข่ายองค์กรนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย

(องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,องค์การนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม,องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น,องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์,องค์การนิสิตมหาวิทยาลัยบูรพา,องค์การนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร,สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเกริก,สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยสยาม,องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต,องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา,องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี,องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย,องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ,องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ,องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์)

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท