การเมือง - สังคม

 

กกต.ชงทหารไฟเขียวหาเสียงฉุกเฉิน

สยามรัฐ - เมื่อวันที่ 4 ก.ย.51 นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.หมายเลข 5พรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าพบ พลเรือโทณรงค์ ชโลธร ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (กกต.ทถ.กทม.) เพื่อหารือถึงแนวทางหาเสียงในภาวะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมยื่นหนังสือขอทราบแนวทางการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

 

นายอภิรักษ์กล่าวว่า ที่เดินทางมาเพื่อขอความชัดเจนในแนวทางที่สามารถกระทำได้ ในช่วงนี้ที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งมีผลกระทบกับการหาเสียงของผู้สมัคร ขณะนี้ได้งดออกหาเสียงไว้ก่อน แต่ได้เปิดเว็บไซต์ให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าไปดูได้ ทั้งนี้ มีความกังวลว่าหากเลื่อนการเลือกตั้งออกไปจะเกิดสุญญากาศในการดูแลทุกข์สุขของประชาชนด้วย

 

ขณะที่พลเรือโทณรงค์กล่าวว่า เนื่องจากในช่วงนี้มีการประกาศใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในพื้นที่กทม. ทำให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เกิดความกังวลไม่แน่ใจเกี่ยวกับแนวทางการหาเสียง เกรงว่าจะเข้าข่ายความผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินกำหนด ซึ่งกกต.ทถ.กทม. จะได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) จากนั้น กกต.กทม.จะส่งหนังสือต่อไปยัง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อดำเนินการพิจารณาส่งหนังสือหารือไปยังทหารผู้รับผิดชอบที่อำนาจมีหน้าที่ในการตัดสินใจ และจะแจ้งให้ผู้สมัครทราบวันที่ 12 ก.ย.นี้ ที่อาคารศรีจุลทรัพย์

 

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นผู้สมัครฯ ยังคงหาเสียง ปราศรัยหาเสียงบนรถเคลื่อนที่ยังทำได้ตามปกติโดยต้องไม่ขัดกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คือต้องไม่เกิน 5 คน สำหรับการปราศรัยที่มีคนมารวมตัวเกิน 5 คน ในช่วงนี้ขอให้งดไว้ก่อน จนกว่าจะได้ข้อสรุปจากกกต. อีกครั้ง

 

"อธิการ มธ.-นิธิ"ยันนศ.มีเสรีภาพร่วมม็อบ
มติชนออนไลน์ - เมื่อวันที่ 4 กันยายน นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การที่นักศึกษาออกมาเคลื่อนไหวบนเวทีพันธมิตร โดยเฉพาะนักศึกษา มธ.ทำไปโดยไม่คิด ว่าการที่นักศึกษา มธ.ออกมาแสดงความคิดเห็นไม่ว่าจะไปในทิศทางใด ถือเป็นเสรีภาพที่จะแสดงออกได้ และเรื่องนี้มหาวิทยาลัยก็ส่งเสริมมาโดยตลอด แต่การแสดงความคิดเห็นต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย และไม่ไปละเมิดสิทธิของคนอื่น

นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน กล่าวถึงกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า ไม่อยากเห็นนักเรียนนักศึกษาออกมาเคลื่อนไหว หรือยุ่งเกี่ยวกับการเมืองว่า นักศึกษาควรมีสิทธิพูด หลายครั้งในหลายเวทีทางวิชาการ นักศึกษาบางคนมีความคิดดีกว่านักการเมือง หรือนักวิชาการระดับด็อกเตอร์บางท่านด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันเราไม่ควรเลือกข้าง เพราะทั้ง 2 ฝ่าย คือพันธมิตรและรัฐบาลต่างใช้ความรุนแรงเข้าหากัน ทั้งทางคำพูดและการกระทำ และขณะนี้มีเหตุผลมากเพียงพอที่นายสมัคร สุนทรเวช จะต้องลาออกจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ได้หมายความว่า นายสมัครทำผิดหรือแพ้ เพราะแม้จะมาจากการเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งมาจากความไว้วางใจ เมื่อประชาชนหมดความไว้วางใจ นายสมัครก็ไม่ควรจะอยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป

 

เช็ก รสก.เจ๊งม็อบ กทท.หยุดงานต่อ

ไทยโพสต์ - นายสันติ  พร้อมพัฒน์  รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเรียกประชุมหน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม    ว่า  ได้มอบหมายให้รวบรวมรายละเอียดความเสียหาย   รวมถึงรายได้ที่แต่ละหน่วยงานต้องสูญเสียจากการที่พนักงานหยุดงาน  รวมถึงถูกกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกีดขวางในการให้บริการ จนเป็นเหตุให้บริการต้องหยุดชะงักด้วย

 

นายเสรีรัตน์  ประสุตานนท์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย  (ทอท.)  สนามบินหาดใหญ่สูญรายได้กว่า  5  แสนบาท ส่วนสนามบินภูเก็ตเสียรายได้  5.7 ล้านบาท นอกจากนี้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง  (ตม.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แจ้งว่าขณะนี้ปริมาณผู้โดยสารลดลง 1 ใน 3 จากปกติ

 

ด้านนายสมเกียรติ   รอดเจริญ  ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การท่าเรือแห่งประเทศไทย  (กทท.) กล่าวว่า พนักงาน กทท.ไม่ได้หยุดงาน แต่เป็นการประชุมวิสามัญ ซึ่งยังไม่จบและจะประชุมต่อในวันที่  5  ก.ย.  ส่วนงานที่จำเป็น ยืนยันว่าพนักงานได้เร่งดำเนินการหมดแล้วตั้งแต่ 3 วันที่ผ่านมา และไม่ส่งผลกระทบต่อการขนส่งของประเทศ   เนื่องจากสหภาพฯ   ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าเอกชนรับทราบว่า    สหภาพฯ    จะมีการเรียกประชุมวิสามัญและเร่งเคลียร์สินค้าที่จะมีการนำเข้า-ส่งออกจำนวนมาก

 

ส่วนกรณีเรือที่จะเข้ามาเทียบท่าที่ท่าเรือกรุงเทพจำนวน  4  ลำเมื่อวันที่ 4 ก.ย.แต่ไม่สามารถเข้าท่าได้  เนื่องจากน้ำลง ทำให้ร่องน้ำตื้น ดังนั้น พนักงานจึงไม่สามารถทำงานได้

 

6 พรรค รบ.หนุนประชามติ

สยามรัฐ - ที่รัฐสภา ส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรค ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีที่ ครม.มีมติให้ทำประชามติ โดย นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคพลังประชาชนกล่าวจากการหารือของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรค ทุกคนเห็นพ้องต้องกันที่จะสนับสนุนการทำประชามติ เพราะปัญหาเกิดขึ้นจากการเมืองจึงต้องแก้ด้วยการเมืองที่ผ่านมาแม้จะมีการประชุมร่วม 2 สภา ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

 

ด้าน นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคมัชฌิมาธิปไตย กล่าวว่านอกจากแนวทางการทำประชามติแล้ว ฝ่ายนิติบัญญัติจะดำเนินการในทางลับโดยจะประสานกับตัวแทนของพันธมิตรฯ เพื่อเจรจาอย่างไม่เป็นทางการ โดยการส่งตัวแทนของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน พรรคละ 1 คน ไปเจรจา แต่ไม่ได้ทำในนามของรัฐบาล

 

ขณะที่ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ขณะนี้กฎหมายประชามติจะเข้าสู่การพิจารณาในวันที่ 5 ก.ย.นี้ โดยตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณา แต่คงไม่ถึงขั้นพิจารณาใน 3 วาระรวด อย่างไรก็ตาม ห่วงเวลาที่มีในขณะนี้ ไม่น่าจะทันในการพิจารณากฎหมายลูก อาจจะเสร็จไม่ทันสถานการณ์ขณะนี้ และคงจะรอกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ เพราะต้องใช้เวลาอย่างเร็วก็ 1 เดือน ถึงจะเรียบร้อย

 

ทางด้าน นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวว่า การทำประชามติในครั้งนี้ หากเป็นที่ยอมรับของทั้ง 2 ฝ่าย ก็สามารถยุติปัญหาของบ้านเมืองได้และไม่คิดว่าเป็นการยื้อเวลาของรัฐบาล เพราะที่ผ่านมารัฐบาลพยายามทำทุกวิถีทางที่จะแก้ปัยหาที่เกิดขึ้น

 

 

ยะลาซุ่มยิงสายข่าวทหารบาดเจ็บ
มติชนออนไลน์ - ครูสังกัดศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) และครูอาสาในพื้นที่ จ.ยะลา จำนวน 185 คน ประชุมร่วมกันที่ กศน.เมืองยะลา เมื่อวันที่ 4 กันยายน เพื่อเรียกร้องให้ทางการกำหนดมาตรการคุ้มครองความปลอดภัย หลังเกิดเหตุคนร้ายยิงนายทศทิศ สมิตะมุกสิก อายุ 48 ปี ครู กศน.กรงปินัง จ.ยะลา เสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ดูแลเรื่องความเป็นอยู่ของครู กศน. ที่แตกต่างจากครูสังกัดสำนักงานพื้นที่การศึกษา (สพท.) อาทิ ค่าครองชีพที่จะได้เพียงประกันสังคม สิทธิของบุตรก็ไม่ได้รับ เป็นต้น

ด้านเหตุการณ์ความไม่สงบ เมื่อเวลา 17.30 น. ขณะที่นายอนันต์ แดมายุ อายุ 40 ปี ขับรถกระบะ โดยมีนางนูรีเม๊าะ หะสีแม อายุ 30 ปี ภรรยา นั่งมาภายในรถ เพื่อกลับบ้านพัก เมื่อมาถึง ต.สะเตง อ.เมืองยะลา ถูกคนร้ายที่ซุ่มอยู่ข้างทางใช้ปืนยิงเข้าใส่ กระถูกนายอนันต์ที่ไหล่ขวา 1 นัด และเฉี่ยวต้นคอ 1 นัด ส่วนนางนูรีเม๊าะ ถูกเศษกระจกบาดที่แขนขวา แต่นายอนันต์ได้ขับรถหลบหนีและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่ต้องการสังหารนายอนันต์ เนื่องจากสงสัยว่าเป็นสายข่าวให้กับทหารในพื้นที่

 

 

เศรษฐกิจ

 

โวย"หมัก"โครงการบีโอไอค้างเติ่งแสนล้าน

ไทยโพสต์ - อนุสาวรีย์ชัยฯ  -  "จักรมณฑ์" จี้ "สมัคร" เร่งตั้งประธานบอร์ดบีโอไอแทน "สุวิทย์" ระบุล่าช้ากว่า 2 เดือน โครงการค้างเติ่งต่อคิวอนุมัติกว่า 1 แสนล้าน

 

นายจักรมณฑ์   ผาสุกวนิช  ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี   ยังไม่มีคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีคนใดทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน  (บอร์ดบีโอไอ) แทนนายสุวิทย์  คุณกิตติ  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  ที่ลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาล  ส่งผลให้โครงการลงทุนยังค้างการพิจารณามูลค่าหลายหมื่นล้านบาท

 

"เรื่องการเมืองไม่กระทบต่อการลงทุนนัก        แต่การแต่งตั้งบอร์ดบีโอไอใหม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนมากกว่า    เพราะไม่สามารถอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนได้ และการอนุมัติล่าช้ามาเกือบ    2 เดือนแล้ว   ดังนั้นขอแค่ให้นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งประธานบอร์ดโดยเร็วที่สุด และขั้นตอนต่อไปบอร์ดต้องตั้งอนุกรรมการบีโอไอ" นายจักรมณฑ์กล่าว

 

ทั้งนี้  การลงทุนผลิตสินค้าส่งออกยังไม่กระทบมากนัก เนื่องจากกรณีเหตุการณ์การเมืองเคยเกิดขึ้นมาแล้ว นักลงทุนอาจชะลอตัวไปบ้างและรอให้สถานการณ์ต่างๆ ผ่านพ้นไปก่อน โดยเฉพาะการลงทุนเกี่ยวกับสัมปทานของภาครัฐ  เช่น โครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจ็กต์)  ต่างๆ  และรถไฟใต้ดินที่อาจต้องเลื่อนออกไปก่อนเหมือนกรณีโฮปเวลล์ที่เป็นอนุสาวรีย์อยู่ทุกวันนี้    ส่วนการที่ท่าเรือกรุงเทพฯ  หยุดงานอาจกระทบธุรกิจอาหาร แต่อุตสาหกรรมอื่นๆ ยังมีท่าเรือของภาคเอกชน จึงยังไม่มีปัญหา

 

สำหรับตัวเลขการขอรับการส่งเสริมการลงทุนล่าสุดที่มียอดประมาณ   3  แสนล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่   6  แสนล้านบาท ต้องเข้าใจว่าตัวเลขที่สูงกว่า เพราะโครงการลงทุนขอส่งเสริมไว้ก่อนหน้าแล้วสะสมทำให้มีตัวเลขสูง

 

แหล่งข่าวจากบีโอไอระบุว่า   ช่วงต้นเดือน ส.ค.มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีขนาดการลงทุนมากกว่า  1,000  ล้านบาท  รอการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนถึง 32 โครงการ และโครงการเล็กๆ  อีกหลายสิบโครงการ     ถ้าภายในเดือน ก.ย.นี้ยังไม่มีการแต่งตั้งบอร์ดบีโอไอชุดใหม่ คาดว่าน่าจะมีมูลค่าค้างเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1 แสนล้านบาท

 

คลังยกฐานะเอสเอ็มแอล รับงบประจำแจกรากหญ้า

ข่าวหุ้น - นายนริศ ชัยสูตร ผู้ตรวจราชการ กระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านวิชาการ โครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน หรือเอสเอ็มแอลกล่าวว่า จะเสนอคณะกรรมการใหญ่เอสเอ็มแอล ซึ่งมีนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธาน เพื่อยกฐานะเอสเอ็มแอลให้เป็นสำนักงานเป็นนิติบุคคลจากที่ปัจจุบันเป็นเพียงแค่คณะทำงาน เพื่อให้มีระเบียบรองรับการดำเนินงานและการใช้เงินให้มีความโปร่งใส และมีความชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ โดยสำนักงานอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักเลขานุการนายกรัฐมนตรี

 

นอกจากนี้ ยังจะเสนอให้มีการจัดสรรงบประจำให้กับสำนักงานเอสเอ็มแอล ผ่านสำนักนายกรัฐมนตรี จากที่ปัจจุบันใช้จากงบประมาณกลางปี ซึ่งโครงการเอสเอ็มแอลถือเป็นงบประมาณภาคประชาชน เพื่อใช้พัฒนาปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ให้สอดคล้องกับที่ชุมชนต้องการ และก็เป็นไปตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นเรื่องที่ควรได้รับการสนับสนุน โดยที่ผ่านมาคณะกรรมการธิการพิจารณางบประมาณปี 2552 ก็ได้ให้ข้อสังเกตว่า เมื่อมีรัฐธรรมนูญใหม่ ก็ควรจัดงบประมาณของโครงการเอสเอ็มแอลภายใต้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งให้มีความชัดเจน

 

นายนริศ คณะอนุกรรมการได้มีการว่าจ้างมหาวิทยาลัย เพื่อทำการสำรวจเชิงลึกถึงความต้องการและความสำเร็จปัญหาอุปสรรคของหมู่บ้านเอสเอ็มแอลจำนวน 2.5 พันหมู่บ้านเพื่อนำมาสรุปในการจัดทำโครงการอบรมพัฒนาศักยภาพผู้นำชุมชน และชุมชน รวมถึงใช้เป็นข้อมูลร่างระเบียบการดำเนินงานและการใช้เงินของเอสเอ็มแอลให้ดีขึ้น สามารถติดตามประเมินผลงานความสำเร็จได้

 

สำหรับปีงบประมาณ 2551 เอสเอ็มแอลมีงบประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท จัดสรรให้หมู่บ้านไปแล้ว 3 หมื่นหมู่บ้าน ปีงบประมาณ 2552 คาดว่าจะได้งบอีก 1.5 หมื่นล้านบาทโดยจะแบ่งเป็น 1 หมื่นล้านบาทแรกจัดสรรให้กับหมู่ที่เหลืออีกประมาณ 3 หมื่นกว่าหมู่บ้านส่วนอีกที่เหลืออีก 5 พันล้านบาท จะเก็บไว้ดำเนินในช่วงต่อไป ซึ่งต้องรอทางนโยบายรัฐบาลจะให้ดำเนินการอย่างไร มีการเพิ่มให้เงินในแต่ละหมู่บ้านหรือไม่

 

ทั้งนี้ โครงการที่จะได้รับอนุมัติจัดสรรเงิน จะต้องเป็นโครงการที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน เช่น การสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน การปรับปรุงยุ้งฉาง การแปลรูปผลิตผลการเกษตร ไม่ให้ไปใช้ซื้อเต้น ทำป้ายหมู่บ้าน เป็นต้น

 

 ทั้งนี้ โครงการเอสเอ็มแอลเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา มีจำนวนหมู่บ้านและชุมชนที่ได้รับงบประมาณแล้ว 18,694 หมู่บ้าน/ชุมชน รวม 28,716 โครงการวงเงิน 4,448 ล้านบาท โดยเป็นหมู่บ้านขนาดกลาง(M) ได้รับการจัดสรรมากสุดจำนวน 2,247 ล้านบาท

 

รองลงมาคือ หมู่บ้านขนาดเล็ก(S) จำนวน 1,094.6 ล้านบาท หมู่บ้านขนาดใหญ่(L)ได้รับการจัดสรรจำนวน หมู่บ้านขนาดใหญ่พิเศษ(XL) จำนวน 325.85 ล้านบาท และหมู่บ้านขนาดเล็กพิเศษอีก 3 ขนาด (S3,S2,S1) รวม 175 ล้านบาท ตามลำดับ

 

ต่างประเทศ

 

'เชนีย์'เยือนจอร์เจียย้ำจุดยืนต้านเครมลิน

ไทยโพสต์ - รองประธานาธิบดีดิค  เชนีย์ ของสหรัฐ เดินทางถึงจอร์เจียเมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อแสดงท่าทีหนุนรัฐบาลทบิลิซิ  หลังรัสเซียส่งกองทัพบุกถล่มจอร์เจียจนเกิดสงครามช่วงสั้นๆ เมื่อเดือนก่อน   ขณะเดียวกันรัฐบาลวอชิงตันก็ประกาศมอบเงินช่วยเหลือจอร์เจียฟื้นฟูประเทศจำนวน 1 พันล้านดอลลาร์

 

เชนีย์   รองประธานาธิบดีสายเหยี่ยว ผู้ซึ่งมักวิจารณ์รัสเซียอย่างดุเดือด ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนแรกของสหรัฐที่เดินทางเยือนจอร์เจีย นับตั้งแต่ทางการทบิลิซีใช้กำลังขัดขวางการแยกตัวเป็นอิสระของแคว้นกบฏเซาท์ออสซีเชียเมื่อต้นเดือนก่อนจนทำให้รัสเซียไม่พอใจและเกิดสงครามตามมา

 

แน่นอนว่าการเดินทางเยือนของเชนีย์ครั้งนี้  ย่อมสร้างความขุ่นเคืองให้รัสเซียที่กล่าวหาสหรัฐมาตลอดว่า  พยายามเติมเชื้อไฟความขัดแย้งระหว่างจอร์เจียและรัสเซียด้วยการยุยงมิฮาอิล  ซาคัชวิลี ประธานาธิบดีจอร์เจียผู้มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลวอชิงตัน

 

เชนีย์ซึ่งก่อนหน้านี้ได้แวะเยือนอาเซอร์ไบจาน   มีกำหนดเข้าพบหารือกับประธานาธิบดีจอร์เจียก่อนเดินทางต่อไปยังยูเครนและอิตาลีเป็นที่หมายสุดท้าย

 

หลังรัสเซียส่งกองทัพบุกจอร์เจียทำให้ตะวันตกเป็นห่วงความปลอดภัยของทั้งจอร์เจียและอาเซอร์ไบจานมากขึ้น  เนื่องจากทั้งสองประเทศเป็นเส้นทางขนส่งพลังงานที่สำคัญหล่อเลี้ยงประเทศตะวันตก

 

แม้นานาชาติจะพยายามกดดันให้โลกโดดเดี่ยวรัสเซียเพื่อลงโทษกรณีเปิดฉากสงครามกับจอร์เจีย  แต่ประธานาธิบดีดมิตรี  เมดเวเดฟ  ของรัสเซีย  ก็ยังคงประกาศกร้าวว่ารัสเซียไม่เคยกลัวถูกขับออกจากกลุ่มประเทศร่ำรวย 8 ชาติ (จี 8) แถมยังไม่หวั่นไหวหากองค์การป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะตัดสินใจยุติความสัมพันธ์

 

แม้สหรัฐจะพยายามเรียกร้องให้สหภาพยุโรป   (อียู)  ใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับรัสเซีย แต่ที่ประชุมสุดยอดอียูเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา  ก็ตกลงกันว่าจะลงโทษรัสเซียแบบเบาะๆ  เพียงแค่ระงับการหารือกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน จนกว่าทางการมอสโกจะยอมถอนทหารทั้งหมดออกจากจอร์เจีย

 

นอกจากจะส่งรองประธานาธิบดีเชนีย์ไปเยือนจอร์เจียแล้ว    รัฐบาลสหรัฐยังประกาศมอบเงินช่วยเหลือจอร์เจีย  1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปฟื้นฟูประเทศหลังสงครามอีกด้วย อย่างไรก็ดี  นางสาวคอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศยืนยันว่างบช่วยเหลือก้อนนี้ไม่มีจุดประสงค์ทางการทหารแอบแฝงแต่อย่างใด

 

ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ  (ไอเอ็มเอฟ)   ก็เตรียมปล่อยเงินกู้ให้จอร์เจีย 750  ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับนำไปเยียวยาเศรษฐกิจที่บอบช้ำหลังการสู้รบ  ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าเศรษฐกิจของจอร์เจียได้รับผลกระทบจากสงครามกับรัสเซียค่อนข้างรุนแรง คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจจะเติบโตลดลงมาอยู่ที่ราว  5-6% จากเดิมที่ไอเอ็มเอฟประมาณการว่าเศรษฐกิจจอร์เจียจะเติบโต 9% ในปีนี้