Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

กิติภูมิ จุฑาสมิต


คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สถานการณ์ปัจจุบันได้กลายเป็นวิกฤติการณ์ครั้งสำคัญที่ยากจะฝ่าข้ามพ้นไป นำมาซึ่งความโกลาหลวุ่นวายทางการเมือง ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ ความแตกแยกในสังคม อันล้วนเป็นเหตุที่เกิดมาจากสภาวะอนารยะไร้กฎหมาย และการละเมิดสิทธิเสียงของประชาชนส่วนใหญ่อย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มบุคคลคณะเดิม ๆ ที่เคยสร้างสถานการณ์จนเกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 มาแล้ว


 


วิกฤติการณ์ครั้งนี้ ได้กลายเป็นเหตุรุนแรงจนถึงเลือดเนื้อและชีวิต เมื่อเกิดการปะทะกันระหว่าง "แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กับ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และติดตามมาด้วยการฆาตกรรมกลางเมืองโดยกลุ่มฆาตกรโหดเสื้อเหลือง "การ์ดพันธมิตร" ที่กลุ้มรุมทำร้าย นายณรงค์ศักดิ์ กรอบไธสง อย่างทารุณโหดร้ายอำมหิตผิดมนุษย์ ด้วยพฤติกรรมขี้ขลาด "หมาหมู่" ทุบตีด้วยอาวุธจนนายณรงค์ศักดิ์ เสียชีวิต ณ ที่เกิดเหตุข้างถนนอย่างน่าเวทนา ไม่ผิดกับวีรชน 6 ตุลาคม 2519 ที่ได้สละชีวิตเพราะฝีมือของมวลชน "ขวาคลั่ง" ในอดีต (ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่กลุ่มฆาตกรโหดเมื่อ 32 ปีก่อนกับปีนี้ ล้วนดั้รบการหนุนหลังโดยคน ๆ เดียวกัน นั่นคือ 1 ในแกนนำพันธมิตรฯ - พล.ต.จำลอง ศรีเมือง)


 


ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ยังมีทีท่าว่าจะรุนแรงขึ้นจนอาจไปจบลงที่การรัฐประหาร และ/หรือสงครามกลางเมือง ก็ไม่มีใครกล้าจะคาดเดา กับสถานการณ์เช่นนี้ ทางกลุ่ม "ปีกซ้ายพฤษภาฯ" มีข้อเสนอ เพื่อยุติความรุนแรง และฟื้นฟูสภาพบ้านเมืองให้กลับมาเป็นปกติสุข ดังนี้


 


1. ข้อเสนอต่อ "พันธมิตรฯ"


1.1 มอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างสงบ และโดยไม่มีเงื่อนไข


1.2 ออกจากทำเนียบรัฐบาลทันที


1.3 ยุติการละเมิดสิทธิของประชาชนไทยตลอดไป


 


2. เมื่อ "พันธมิตรฯ" ได้กระทำการตามข้อ 1 แล้ว ทางรัฐบาลจะต้องประกาศยกเลิกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยทันทีเช่นกัน


 


3. เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องดำเนินคดีกับกลุ่มฆาตกรโหดเสื้อเหลือง "การ์ดพันธมิตรฯ" ให้ถึงที่สุด


 


4. ผู้นำนปช.ที่สั่งเคลื่อนขบวนจะต้องรับผิดชอบกับการเคลื่อนขบวนไปปะทะกับพันธมิตรฯ ด้วยเช่นกัน ทั้งทางอาญา, แพ่ง และทางการเมือง


 


5. สถานบันหลักต่างๆ ของชาติ ไม่ควรวางเฉยหรือหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน ดังนี้


5.1 สถาบันศาสนา ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดก็ตาม สมควรออกมาให้สติกับสังคม ต่อต้านความรุนแรง ทั้งทางกาย วาจา ใจ และความรุนแรงทางโครงสร้าง รวมทั้งต้องหลีกเลี่ยงการถือฝักฝ่ายทางการเมือง


5.2 สถาบันกษัตริย์ ส่วนหนึ่งที่สำคัญยิ่งที่ทำให้ปัญหาทางการเมืองในช่วง 5 ปีนี้รุนแรงขึ้น ล้วนเกิดจากการที่ฝ่ายพันธมิตรฯ แอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเครื่องมือในการทำลายล้างศัตรูทางการเมือง และสร้างความชอบธรรมกับฝ่ายตนเองที่จะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ


สภาพเช่นนี้ ทำให้ตลอดช่วงวิกฤติทางการเมืองที่ผ่านมา สถาบันพระมหากษัตริย์ต้องเสื่อมพระเกียรติลงอย่างมาก ทั้งในสายตาของชาวโลกและในสายตาของประชาชนไทยเราเอง เพราะข้ออ้างของพันธมิตรฯ ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกมองว่า เข้ามาแทรกแซงทางการเมือง และทางอื่น ๆ


ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักพระราชวัง และสำนักราชเลขาธิการ ต้องมีความกล้าหาญและฉับไวที่จะปฏิเสธหรือแก้ข้อกล่าวอ้างสามานย์เหล่านั้น เพื่อรักษาพระเกียรติ และเพื่อป้องกันมิให้สถานบันพระมหากษัตริย์ถูกใช้เป็นเครื่องมือเข่นฆ่าทำลายล้างกันทางการเมืองอีก


5.3 ศาลยุติธรรมต้องยุติกระบวนการ "ตุลาการภิวัฒน์" ทันที หันกลับมาสู่การตัดสินพิจารณาคดีตามหลักกฎหมาย อวยความยุติธรรมให้เสมอหน้ากับทุกกลุ่มทุกชนชั้น


5.4 สื่อมวลชนควรทบทวนบทบาทการ "เลือกข้าง" ของตน เราเห็นด้วยว่า สื่อมวลชนมีสิทธิที่จะเลือกข้างได้ แต่สิ่งนี้จะต้องมีเฉพาะในส่วนของ "ความเห็น" เท่านั้น สื่อมวลชนไม่มีสิทธิ์ที่จะบิดเบือน "ข้อเท็จจริง" ปกปิด "ข้อเท็จจริง" หรือแต่ง "ความเท็จ" ประเด็นการแต่งภาพ "ปืนจ่อหัว" ควรได้รับการตรวจสอบทั้งจากสภาวิชาชีพ และการรมการที่เป็นกลางอย่างเร่งด่วน


5.5 นักวิชาการไทยสมควรมีความกล้าหาญที่จะ "สวนกระแส" กล้าหาญที่จะยืนยันจุดยืนทางวิชาการต่อหน้ากล้องโทรทัศน์ กล้าที่จะยืนหยัดอยู่ร่วมฝ่ายเดียวกับประชาชนและระบอบประชาธิปไตย ให้สติปัญญากับสังคม โดยปราศจากอคติ


 


ข้อเสนอเหล่านี้เป็นเพียงข้อเสนอเฉพาะหน้า เพื่อป้องกันความรุนแรง และสงครามกลางเมือง ที่กำลังจะเกิดขึ้น หวังว่าจะได้รับการพิจารณาจากทุกฝ่ายในสังคมไทยด้วยสติไตร่ตรอง


 


 







 


หมายเหตุผู้เขียน


 


บทความนี้เขียนขึ้นเมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ.2551 ในงานสวดพระอภิธรรมคุณณรงศักดิ์ กรอบไธสง


แต่เนื่องจากผู้เขียนมีปัญหาด้านการประสานงานกับ กองบรรณาธิการฯ จึงทำให้บทความลงล่าช้า อาจไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่ผู้เขียนยังหวังว่าเนื้อหาบางส่วนในบทความอาจยังพอมีประโยชน์ต่อผู้อ่านอยู่บ้าง จึงใคร่ขออภัยต่อผู้อ่านมา ณ โอกาสนี้


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net