Skip to main content
sharethis

เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทยออกจดหมายเปิดผนึกสนับสนุนการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิที่ดินของเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัดโดยระบุว่า การเคลื่อนไหวของเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2551 ที่ผ่านมา โดยการเดินรณรงค์รอบตัวเมืองจังหวัดตรัง พร้อมด้วยคาราวานพืชผักปลอดสารพิษจากชุมชนเพื่อแจ้งข่าวกับประชาชนจังหวัดตรังถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ถูกฝ่ายรัฐ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่ง เรียกค่าเสียหายจากสมาชิกเครือข่าย 5 คน เป็นจำนวนเงิน 11 ล้านบาท ในข้อหา ก่อให้เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินราชการ อันได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่า และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด


 


ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนจังหวัดตรังได้รับรู้ข้อมูลการถูกละเมิดสิทธิของชาวบ้าน การได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมจากหน่วยงานราชการ เนื่องจากมีการข่มขู่ ทำลายพืชผลการเกษตรของชาวบ้าน และมีความพยายามที่จะขับไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่ทุกวิถีทาง เป็นที่รับรู้กันในหมู่ผู้เกี่ยวข้องว่าพื้นที่ขัดแย้งกรณีดังกล่าว อยู่ในระหว่างการหาทางออกร่วมกันระหว่างหน่วยงานราชการท้องถิ่นและองค์กรชาวบ้าน ดังที่มีมติข้อตกลงระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และตัวแทนองค์กรชาวบ้าน เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2551 ว่าทั้งสองฝ่ายจะดำเนินการหาข้อสรุปและข้อยุติร่วมกันเรื่องความขัดแย้งในที่ดินดังกล่าว


 


เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นเครือข่ายของคนจนไร้ที่ดิน ผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายที่ดิน คนไร้ที่อยู่อาศัยและคนไร้บ้านสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด เพื่อยืนยันถึงสิทธิอันชอบธรรมของชุมชนท้องถิ่นที่ได้ทำกินและใช้ประโยชน์ในที่ดินมาแล้วอย่างต่อเนื่องก่อนที่จะมีการประกาศเขตพื้นที่ป่าของรัฐ  เพื่อความมั่นคงและความสงบสุขของชาวบ้านและชุมชนตามวิถีวัฒนธรรมท้องถิ่น


 


ทั้งนี้ ปัญหาความขัดแย้งเรื่องสิทธิที่ดินในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะในเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่า และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัดเกิดจากการที่หน่วยงานภาครัฐในระดับชาติ ได้แก่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช หน่วยงานราชการระดับจังหวัด ได้แก่ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ตรัง ปฏิเสธที่จะยอมรับสิทธิในที่ดินทำกินของชุมชนท้องถิ่น และชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ แม้ว่าชาวบ้านเหล่านั้นจะยืนยันว่าได้อยู่อาศัยและทำกินมาก่อนการประกาศเขตอุทยานฯจึงนำมาสู่ความขัดแย้ง และการเจรจาเพื่อหาข้อยุติในสิทธิที่ดินในพื้นที่ร่วมกัน


 


จดหมายยังระบุอีกว่ามีความพยายามของหน่วยงานภาครัฐ ในการฟ้องร้องเพื่อดำเนินคดีทางแพ่งกับชาวบ้านซึ่งโดยรวมมีฐานะทางเศรษฐกิจที่ยากจนด้วยการเรียกร้องค่าเสียหายรวมกันถึง 11ล้านบาท รวมทั้งสั่งการให้ชาวบ้านรื้อถอนต้นไม้ พืชผลทางการเกษตรในพื้นที่พิพาททิ้งภายในเวลาที่กำหนด ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำเกินกว่าเหตุ รวมทั้งไม่ได้ให้ความเคารพกฎกติกามติที่ประชุมที่หน่วยงานภาครัฐเป็นผู้ร่วมกำหนดเอง


 


ทั้งนี้ ความขัดแย้งในกรณีสิทธิทีดินทำกินระหว่างหน่วยงานราชการ และชาวบ้านในชุมชนต่างๆ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้เท่านั้น หากกรณีขัดแย้งยังลุกลามไปที่ภาคอีสาน และภาคเหนือ อย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ภาคอีสาน มีชาวบ้านในกลุ่มเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสานที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจากทางภาครัฐแล้วทั้งสิ้น 67 ราย ในขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ภาคเหนือถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอยู่ในปัจจบันทั้งสิ้น 109 ราย


 


ความขัดแย้งมีแต่จะลุกลามและก่อให้เกิดความไม่สงบสุขในพื้นที่ชนบท หากหน่วยงานภาครัฐยังคงยืนยันที่จะใช้เพียงกฎหมายและมาตรการที่รุนแรงในการจัดการกับชาวบ้าน ในขณะที่ในระดับนโยบายกลับไม่มีความชัดเจนในการรองรับสิทธิของชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่มาก่อนการเข้ามาของหน่วยงานภาครัฐ  รวมทั้งไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการปฏิรูปที่ดิน จัดสรรที่ดินทำกินให้กับชาวบ้านที่ยากจน และขาดแคลนที่ดินที่มีอยู่ในปัจจุบันถึง 3.2 ล้านครอบครัว


 


การเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมในที่ดินทำกินของตนเองของชาวบ้านเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัดเป็นอีกหนึ่งรูปธรรมที่ชี้ให้เห็นว่าหน่วยงานราชการในสังคมไทยทั้งในระดับนโยบายและระดับพื้นที่ ยังคงยึดติดกับมาตรการและกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม ปฏิบัติตามกฎหมายโดยไม่มีเหตุผลและไม่รับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน เครือข่ายองค์กรชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกินทั่วทุกภูมิภาค จึงต้องรวมตัวกันเพื่อทำงานและสะท้อนความเป็นจริงให้สังคมไทยโดยรวมได้เห็นถึงปัญหาและเข้ามาร่วมกันแก้ไข เพื่อให้คนยากจนในสังคมอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี และสังคมนี้ได้อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขต่อไป


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net