Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ทักษิณ ชินวัตร


ตีพิมพ์ในไฟแนนเชียลไทมส์ 6 ตุลาคม 2551


แปลโดย : karn


 


เอเชียประสบโอกาสที่จะปกป้องตนเองและเศรษฐกิจโลกจากวิกฤติที่เกิดจากส่วนเกินในวอลล์สตรีท โดยที่ประเทศจีน ญี่ปุ่นและประเทศเอเชียอื่นๆ ซึ่งถือครองเงินสำรองจำนวนมากเอาไว้ จะต้องเริ่มออกพันธบัตรเอเชียทันที เพื่อยับยั้งผลกระทบที่เลวร้ายจากค่าเงินดอลลาร์อ่อน


 


ผมหวังว่าเพื่อนชาวอเมริกันจะไม่มองข้อเสนอนี้เป็นปฏิกิริยาในทำนองเนรคุณซึ่งโดดออกจากเรือที่กำลังจม ในทางตรงข้าม, แผนของผมกลับจะช่วยให้เรือคงอยู่รอดได้ต่อไปและซ่อมแซมมันด้วย นี่เป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับประเทศที่จะได้รับผลประโยชน์จากศตวรรษถัดไปที่อเมริกาจะต้องชำระหนี้ของตนเอง


 


ความเฟื่องฟูในเอเชีย — ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากการค้าและการลงทุนของสหรัฐอเมริกาได้ก่อปัญหาให้กับสหรัฐฯ ประเทศในเอเชียตะวันออก มีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดประมาณ 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ในขณะที่การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐฯ ตกราวปีละ 8 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ประเทศในเอเชียนอกเหนือจากญี่ปุ่นได้สะสมการเกินดุลขนาดมโหฬารได้โดยการผลิตสินค้าและบริการราคาถูกให้กับสหรัฐฯ แต่นับแต่นี้ไปประเทศเหล่านี้ไม่อาจพึ่งพิงตลาดหลักแห่งนี้ได้อีกต่อไป


 


เมื่อคำนึงถึงว่าความสามารถของอเมริกาที่จะธำรงการใช้จ่ายของผู้บริโภคนั้นถูกจำกัดลงอย่างยิ่งยวด ส่วนการพักมูลค่าของเงินเอาไว้ในสกุลเงินซึ่งแลกเปลี่ยนได้ง่ายที่สุด ซึ่งก็คือดอลลาร์ ประเทศในเอเชียจะพบความเสี่ยงซึ่งอาจขาดทุนได้ไม่น้อยกว่าประเทศที่เป็นเจ้าของสกุลเงินนี้ ประเทศเอเชียเก็บเงินที่ได้กำไรจากส่วนเกินนี้เอาไว้ในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นได้ทั้งตราสาร ตั๋วเงินฝาก และ หุ้นที่มีการกำหนดเงื่อนไขบางอย่างเอาไว้ แล้วเรามีทางที่จะปกป้องมูลค่าของสิ่งเหล่านี้เอาไว้ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐกำลังประสบปัญหาเช่นนี้หรือไม่ นั่นคือเงินสำรองของเอเชียจะต้องถูกเปลี่ยนให้เป็นพันธบัตรเอเชีย ซึ่งเมื่อไม่ได้สูญเสียมูลค่าของมันไปแล้ว ก็จะสามารถถูกใช้เพื่อนำมากระตุ้นการค้าและการลงทุนในเอเชีย

พันธบัตรเอเชียไม่ได้เป็นเกมส์แบบได้หมด-เสียหมด ที่ให้ประโยชน์เฉพาะตัวมันเองเท่านั้น มันยังเอื้อโอกาสให้กับการสร้างความมั่งคั่งได้ทั้งโลก ประชากรชาวเอเชียทั้งสามพันล้านคนต้องการให้รัฐบาลของพวกเขาได้นำเอาการเกินดุลการค้าที่พวกเขาไม่อาจหาประโยชน์จากมันได้เลยนั้นลงทุนในประสิทธิภาพการผลิตที่จับต้องได้ มากกว่าที่พวกเขาจะเห็นการเล่นกับการลงทุนในกระดาษ, อย่างเช่น ตราสารทางการเงินซึ่งยากต่อการทำความเข้าใจ


เราจะเรียกพันธบัตรนี้ว่า ดอลลาร์ของโลก หรือ "กลอบาร์" (แผลงมาจากคำ globars คือ global + dollars — ผู้แปล) (ซึ่งคุณอาจจะชอบเมื่อนึกถึงแท่งโลหะที่เปล่งประกาย และครั้งหนึ่งเคยเป็นมาตรฐานการวัดมูลค่าสกุลเงินมาตรฐาน) ในขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) สามารถเล่นบทที่ปรึกษา หรือผู้จัดการในการดูแลมูลค่าของดอลลาร์โลกหรือดอลลาร์นอกสหรัฐ ในขณะที่สกุลเงินในประเทศสหรัฐจะเสื่อมค่าลงถึงระดับดังที่เศรษฐกิจของประเทศดำรงอยู่


 


แล้วอะไรจะเกิดขึ้นหากรัฐบาลใหม่ของสหรัฐไม่ได้มีสายตายาวไกลที่จะให้การยอมรับมาตรฐานใหม่ซึ่งเป็นดอลลาร์ภายนอกนี้? รัฐบาลในประเทศเอเชียก็ยังคงสามารถออกพันธบัตรเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ประเทศเหล่านี้ได้รับส่วนเกินดุลครั้งใหม่ ประเทศอย่างจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, สิงคโปร์ และ ไทย สามารถเห็นชอบที่จะแบ่งปันบางส่วนของเงินทุนสำรองของตนเองในอัตราส่วนที่แน่นอนลงไปในตระกร้าสกุลเงินที่จะออกพันธบัตรนี้ ผลตอบแทนของพันธบัตรนี้จะอยู่ในระดับเดียวหรืออาจจะมากกว่าพันธบัตรสหรัฐ ในฐานะที่ผู้ออกพันธบัตรนี้มีฐานะดีกว่าสหรัฐที่จะให้ผลตอบแทนผู้ลงทุน


 


แต่ก็มีความยากลำบากสำหรับนักลงทุนที่จะตัดสินความเสี่ยงทางการเมืองในเอเชียอยู่บ้าง ตาลีบันยังคงปฏิบัติงานอยู่ในประเทศอัฟกานิสถานและปากีสถาน แต่บทบาทของประเทศเหล่านี้เป็นแต่เพียงในนาม ส่วนการปล่อยก๊าซพิษในสถานีรถไฟใต้ดินของญี่ปุ่นไม่สามารถกัดกร่อนความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นในการให้คำมั่นของพวกเขา ความเสี่ยงเป็นเรื่องสัมพัทธ์ ผมอยากจะวางเดิมพันลงฝั่งรัฐบาลจีน  ซึ่งเคยมองข้ามคำทำนายเมื่อ 18 เดือนก่อนโดย แฮงค์ พอลสัน, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐ, ว่าจีนอาจสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจนับล้านล้านดอลลาร์ หากพวกเขาไม่เปิดตลาดหุ้นแบบเสรี ซึ่งน่าคิดว่าเป็นเรื่องฉลาดกว่าการสวดอ้อนวอนแด่พระผู้เป็นเจ้าให้สหรัฐหาโมเดลการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่น่าเชื่อถือ และการกำกับการดูแลสถาบันการเงินให้พบ


 


สำหรับคนที่คุ้นเคยกับตลาดพันธบัตรแล้ว นี่อาจไม่ใช้ข้อเสนอที่เป็นเรื่องพลิกฟ้าดินแต่อย่างใด มีรัฐบาลประเทศเอเชียหลายประเทศได้ออกพันธบัตรในสกุลเงินของตนเอง คุณภาพและผลตอบแทนก็แตกต่างกันออกไป ผลตอบแทนของพันธบัตรเอเชีย ต้องรวมเอาความผันผวนต่างๆเข้าด้วยกัน แล้วไปเทียบกับผลตอบแทนที่ไม่ได้น่าพอใจในเวลานี้นักของพันธบัตรสหรัฐ แล้วให้ตลาดเป็นผู้ตัดสิน


 


แต่อย่างไรก็ตาม ผลรวมของพันธบัตรเอเชียให้ภาพที่เป็นบวกกว่ามาก ส่วนที่เป็นปัญหาจริงก็คือความรับรู้ในอดีต ซึ่งดูเหมือนกำหนดไปแล้วอย่างถาวรโดยพวกหน่วยงานจัดอันดับทั้งหลายว่าประเทศเอเชียทั้งหลายเป็นผู้กู้ สหรัฐเป็นผู้ให้ยืม แต่ตอนนี้ประเทศเหล่านี้บางแห่งเป็นผู้ให้กู้ มันเป็นเวลาที่จะเก็บเกี่ยวผลตอบแทนในฐานะผู้ให้กู้ มูลค่าของการให้กู้จะได้รับการปกป้องเป็นอย่างดีถ้าพวกเขาสร้างการตัดสินใจร่วมกัน


 


พันธบัตรร่วมเหล่านี้สามารถกำหนดให้ซื้อขายได้ใน โตเกียว สิงคโปร์ และฮ่องกง พันธบัตรนี้สามารถเอื้อให้เกิดการพัฒนาตลาดทุนที่เข้มแข็งขึ้นในภูมิภาค และรักษาไว้ได้อย่างมั่นคง ในขณะที่สหรัฐได้กลับไปดูแลปัญหาวิกฤติการเงินของตนเอง สิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุดก็คือส่วนเกินของเอเชียจะถูกวนกลับไปใช้ในการสร้างสินทรัพย์ที่มีผลิตภาพในเอเชีย


 


 


 


แปลและเรียบเรียงจาก : FT : An Asia bond could save us from the dollar


ที่มา : www.siamintelligence.com

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net