Skip to main content
sharethis





การเมือง


สมชาย มือเปื้อนเลือด ไม่สนอะไรจะเกิด! เดินหน้าประชุม 4 ฝ่าย ตั้ง ส.ส.ร.3 


 ผู้จัดการออนไลน์ - ในวันนี้เวลา 10.00 น.จะมีการประชุม 4 ฝ่าย เพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.3 ซึ่งขณะนี้นายอภิสิทธิ์ ยืนยันชัดเจนว่าจะไม่เข้าร่วม ซึ่งต้องติดตามท่าทีของประธานวุฒิสภาด้วยว่าจะเข้าร่วมหรือไม่หลังจาก 40 ส.ว.ออกมากดดันให้ถอนตัว


      


โดยนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ 40 ส.ว.ได้เข้าพบเพื่อขอให้ประธานวฒิสภาทบทวนการเข้าร่วมประชุม 4 ฝ่ายว่า ตนตัดสินใจได้และจะตัดสินใจเองว่าจะเข้าร่วมประชุม 4 ฝ่ายหรือไม่ไม่มีใครขออะไรได้ ตนตัดสินใจได้ด้วยตัวเองการกดดันใช้ไม่ได้



เมื่อถามว่าทาง 40 ส.ว.ได้ประสานเพื่อขอเข้าพบแล้วหรือไม่ นายประสพสุขกล่าวว่า ยังไม่ได้รับการประสานอะไร ซึ่งจะหารือหรือไม่หารือก็ไม่สามารถเปลี่ยนการตัดสินใจของตนได้ ส่วนจะเข้าร่วมประชุม 4 ฝ่ายหรือไม่ ตนไม่ขอบอกว่าจะเข้าหรือไม่เข้า แต่เรื่องนี้ไม่มีใครมาเปลี่ยนแปลงได้ ตนตัดสินใจมานานแล้วว่าจะเข้าร่วมประชุมหรือไม่เข้าร่วมประชุม


      


ผู้สื่อข่าวถามว่าต้องมีการขอมติจากที่ประชุมวุฒิสภาหรือไม่ เพราะประธานวุฒิสภาถือว่าเป็นตัวแทนของส.ว.นายประสพสุขกล่าวว่า ตนเข้าร่วมประชุม 4 ฝ่ายไม่ได้ในฐานะตัวแทนส.ว.แต่ทำในฐานะตัวแทนตนเอง เรื่องแบบนี้ขอมติส.ว.ไม่ได้


      


ขณะเดียวกัน กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ประมาณ 20 คน ในนามโรงเรียนประชาธิปไตยสนามหลวง ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และรายชื่อประชาชน จำนวน 23,986 คน ผ่าน ส.ส.พรรคพลังประชาชน โดยนายสุชาติ ลายน้ำเงิน เป็นตัวแทนรับหนังสือ


      


ทั้งนี้ เนื้อหาส่วนใหญ่ในหนังสือเรียกร้องไม่ให้นายกรัฐมนตรีลาออก หรือยุบสภา และไม่เห็นด้วยที่กองทัพออกมากดดันนายกรัฐมนตรีลาออก เพราะถือเป็นการคุกคามการใช้อำนาจของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย


      


นอกจากนี้ยังขอให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายกับ 9 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และผู้เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด และให้พันธมิตรฯ ถอนออกจากทำเนียบรัฐบาลทันที และขอให้รัฐบาลออกพระราชกำหนดการออกเสียงประชามติ เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศในการพิจารณาการตัดสินใจลาออก ยุบสภา หรือการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ


      


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้ารัฐสภา มีกลุ่มผู้ชุมนุมใช้ชื่อว่า องค์กรพลังแผ่นดินแห่งประเทศไทย และแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กว่า 10 คน ปราศรัยโจมตีการทำหน้าที่ของกลุ่ม 40 ส.ว. รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล และตำรวจปราบจลาจล กว่า 50 นาย ดูแลรักษาความสงบ


 


สมเกียรติ ชี้มีคนชั่วชาติหวังเปลี่ยนไทยเป็น สาธารณรัฐสยาม   


 ผู้จัดการออนไลน์ - 19 ต.ค. เมื่อเวลาประมาณ 22.50น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ขึ้นปราศรัยที่เวทีทำเนียบว่า ขออนุญาตวิเคราะห์ถึงความสั่นคลอนของสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยในปัจจุบัน โดยระบุว่าตัวเองไม่ได้มีจุดประสงค์ในการลบหลู่ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูงแต่อย่างใด เพียงต้องการกล่าวอธิบายในเชิงวิชาการให้พี่น้องพันธมิตรฯ ได้ทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น


      


 นายสมเกียรติ ระบุว่า ขณะนี้มวลชนแนวร่วมของระบอบทักษิณในหลายภูมิภาคพยายามลบหลู่ดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจนไม่ว่จะเป็น กลุ่ม นปก.ที่เคลื่อนไหวในกรุงเทพฯ เชียงใหม่หรือในพื้นที่อื่นๆ โดยคนกลุ่มนี้มุ่งหวังที่จะเปลี่ยนระบอบการปกครองของประเทศจาก "ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" ให้เป็น "สาธารณรัฐสยามใหม่" ทั้งนี้ คนกลุ่มนี้ได้พยายามยกตัวอย่างความล่มสลายของสถาบันกษัตริย์ในประเทศเนปาล ซึ่งถูกแทนที่ด้วยลัทธิเหมาอิสต์ขึ้นมาเปรียบเทียบ ทั้งนี้การเคลื่อนไหวดังล่าวมีหลักฐานที่เห็นได้ชัดจากสื่อหลายแขนงไม่ว่าจะเป็นข่าวที่เคยลงในหน้าปกหนังสือมติชนสุดสัปดาห์ และ ข่าวและสารคดีที่แพร่ภาพทางเอ็นบีที


      


 กระนั้น แกนนำพันธมิตรฯ ได้กล่าววิเคราะห์ว่าเมื่อพิจารณาจาก 5 ปัจจัยทางสังคม ประกอบไปด้วย ชนชั้นล่าง ชนชั้นกลาง กลุ่มสหภาพแรงงาน สถาบันตุลาการ และ สถาบันทางทหารแล้ว ความมุ่งหวังของคนกลุ่มดังกล่าวไม่มีทางเป็นจริงได้เลย


      


 "ผมจะเปรียบเทียบว่าปัจจัย 5 ประการของราชวงศ์จักรีแข็งแกร่งมาก แต่ราชวงศ์ของกษัตริย์เนปาลล้มลง เพราะปัจจัยชนชั้นล่างถูกทำลายไป ปัจจัยชนชั้นกลางถูกทำลายไป กองทัพแตกแยก ตุลาการพึ่งไม่ได้ แต่ของไทยไม่มีกระเทือนเลยแม้แต่เรื่องเดียว" นายสมเกียรติกล่าว พร้อมกล่าวยืนยันว่ามีชนชั้นรากหญ้าส่วนน้อยเพียงบางกลุ่มเท่านั้นที่ถูกเงินซื้อไป แต่คนชนบทส่วนใหญ่ยังจงรักและภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่


      


 ในส่วนของกองทัพ ในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น นายสมเกียรติกล่าวว่าเพราะคนในระดับนายพลบางคนถูกนักการเมืองฉีดยาชาด้วยเม็ดเงิน ทว่านายทหารในระดับรองๆ ลงมานั้นมีความจงรักภักดีต่อสถาบันอย่างสูงสุด


      


 "กองทัพระดับระดับ ผบ.พล ผบ.พัน สักการะ เทิดทูนในพระองค์ และเป็นกองทัพในพระราชาและพระราชินีอย่างแท้จริง" นายสมเกียรติ กล่าว และชี้ให้เห็นด้วยว่า เมื่อเปรียบเทียบสถาบันตุลาการระหว่างไทยกับเนปาลแล้วยิ่งเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เพราะสถาบันตุลาการไทยยังคงไว้ซึ่งความซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม ไม่แตกสลายเหมือนกับสถานการณ์ที่เกิดในประเทศเนปาล


      


 ทั้งนี้ นายสมเกียรติได้กล่าวชื่นชมบทความของนายโสภณ องค์การในหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ในเครือเนชั่นด้วยว่า วิเคราะห์เรื่องดังกล่าวได้ดียิ่ง


 


สุชาติ นาคบางไทร ล่องหนหลังเจอหมายจับหมิ่นเบื้องสูง


มติชน - พ.ต.ท.สุเมธ จิตต์พานิชย์ รองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวนสอบสวน สน.ชนะสงคราม เปิดเผยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 ต.ค. ว่า  ภายหลังศาลได้อนุมัติออกหมายจับ นายสุชาติ นาคบางไทร แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ ราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีกล่าวปราศรัยที่เวที นปช.ท้องสนามหลวง เมื่อคืนวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา มีเนื้อหาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงไปแล้วนั้น ในวันดังกล่าวพนักงานสอบสวนก็ได้เดินทางไปยังบ้านพักนายสุชาติ  ซึ่งอยู่แถวดอนเมืองเพื่อจับกุมแต่ไม่พบตัวนายสุชาติแต่อย่างใด เพราะเจ้าตัวได้หลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง ดังนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้เร่งติดตามตัวนายสุชาติมาดำเนินคดีโดยเร็ว ซึ่งคดีดังกล่าวมีอายุความ 15 ปี


 






คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม


ตะลึงฝายแม้ว ของทส.คุณภาพต่ำเหมือนชาวบ้านทำเอง แต่ราคาสูงลิ่ว แถมใช้แรงงงานลูกจ้างอุทยานฯฟรี


มติชน - "ฝายแม้ว" ของกรมอุทยานฯที่ จ.เชียงใหม่ พบส่วนใหญ่ใช้แค่หินตามลำธารถมทับด้วยกระสอบใส่ดินก่อนเทปูนทับ ใช้ไม้ไผ่ในป่า ใช้แรงงานฟรีลูกจ้างอุทยานฯ ชาวบ้านบอกถ้าให้ 5 พัน สร้างได้ 20 ฝาย ข้องใจราคาแพงมาก ทั้งที่คนชุมชนร่วมทำไม่ต้องเสียเงินแต่คุณภาพไม่ต่างกัน


 


จากกรณีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) อนุมัติวงเงิน 770 ล้านบาท ทำโครงการก่อสร้างฝายต้นน้ำแบบผสมผสาน หรือ"ฝายแม้ว" จำนวน 119,600 แห่ง ตามโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติดินและป่าไม้ในพื้นที่อนุรักษ์ เพื่อลดผลกระทบจากภาวะวิกฤตโลกร้อนปรากฏว่า ถูกหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ชอบมาพากลในการดำเนินงานหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณก่อสร้างฝาย และเพาะชำหญ้าแฝก จำนวนแห่งละ 5,000 บาท น่าจะสูงเกินความเป็นจริง หรือกระแสข่าวที่มีกลุ่มบุคคลเรียกรับผลประโยชน์ครึ่งหนึ่งของราคาก่อสร้างนั้น ล่าสุด กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ "มติชน" ได้ส่งทีมผู้สื่อข่าวจากส่วนกลางลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินงานก่อสร้างฝายแม้วใน จ.เชียงใหม่ หนึ่งในพื้นที่เป้าหมายโครงการ อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 16 มีเป้าหมายก่อสร้างจำนวน 25,500 แห่ง พร้อมเพาะชำหญ้าแฝก 10 ล้านกล้า ใช้งบฯมากกว่า 145 ล้านบาท


 


ผู้สื่อข่าวพบว่า รูปแบบของฝายแม้วที่ก่อสร้างตามจุดต้นน้ำลำธารในหลายพื้นที่ของ จ.เชียงใหม่ ถูกจัดขึ้นทำในรูปแบบง่ายๆ กล่าวคือ มีการนำก้อนหินขนาดต่างๆ และกระสอบปุ๋ยบรรจุดินมาวางซ้อนกัน เพื่อก่อรูปเป็นฝายกั้นกลางลำธาร ก่อนนำท่อนไม้ไผ่ไม่เกิน 8 ท่อน มาปักเป็นเสายึดแนวฝายเพื่อให้อยู่ตัว จากนั้นเทปูนซีเมนต์ทับด้านบนฝายเป็นอันเสร็จสิ้น แต่เมื่อพิจารณาจากอุปกรณ์ที่นำมาใช้ก่อสร้างฝาย รวมถึงลักษณะงานที่ออกมา งบฯที่ใช้จัดทำไม่น่าจะสูงถึง 5,000 บาท นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพื้นที่รอบบริเวณที่มีการก่อสร้างฝาย พบร่องรอยการตัดกอต้นไผ่จำนวนมากมาใช้สร้างฝาย


 


แกนนำชาวบ้านใน จ.เชียงใหม่ รายหนึ่งยืนยันกับ "มติชน" ว่า ภายหลังทราบข่าวโครงการก่อสร้างฝายแม้วในพื้นที่ อ.เชียงดาว จึงเข้าไปสำรวจการดำเนินงานดังกล่าวพบว่า ลักษณะฝายแม้วของ ทส.ทำ ไม่ได้แตกต่างอะไรกับฝายแม้วที่ชาวบ้านร่วมมือกันทำมากนัก ต่างกันก็เพียงฝายของราชการนำคอนกรีตมาเทไว้ด้านบน ในขณะที่ฝายของชาวบ้านไม่มี เข้าใจว่าคงต้องการให้เกิดความสวยงามมากขึ้น แต่ผลจากการเทคอนกรีตที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะช่วงหัวและท้ายของฝายทำให้เกิดรอยรั่วมีน้ำไหลซึมอยู่ตลอด ในขณะที่ฝายของชาวบ้านแม้จะไม่เทคอนกรีตด้านบนแต่สามารถชะลอน้ำได้ดีมากกว่า


 






ต่างประเทศ


จักรพรรดินีญี่ปุ่นวิตก พระอาการจักรพรรดิสู้มะเร็ง


มติชน - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 20 ต.ค.สมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ พระชายาแห่งสมเด็จพระจักรพรรดิอาคิฮิโตะ แถลงโอกาสพระชนม์มาอายุครบรอบ 74 ชันษา กล่าวถึงกรณีเจ้าหญิงมาซาโกะ สะใภ้หลวง ซึ่งทรงประชวรเป็นโรคหดหู่ว่า เป็นบุคลลที่มีค่าต่อราชวงศ์ และพระองค์ยังคงสวดมนต์ให้พระองค์มีพระพลานามัยที่ดีขึ้น นอกจากนี้ จักรพรรดินีมิชิโกะยังได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับการต่อสู้กับโรคมะเร็งของสมเด็จพระจักรพรรดิอาคิฮิโตะ ซึ่งพระองค์ต้องรับผ่าการตัดและบำบัดรักษาโรคนี้เป็นเวลา 6 ปี  ขณะเดียวกัน พระองค์ตรัสว่ารู้สึกปิติยินดียิ่งต่อบรรดาพระราชนัดดาต่างๆ ที่ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงและมีความสุข

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net