Skip to main content
sharethis

การเมือง

 

ส.ส.หนองคาย พปช. รับคนอีสานแห่สมทบ นปช.ร่วมงาน 1 พ.ย.นี้

เว็บไซต์แนวหน้า - ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงการชุมนุมของนปช.ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่1พ.ย.ว่า ถือเป็นการชุมนุมเพื่อแสดงพลังให้พธม.เห็นว่ากลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณก็มีเยอะเหมือนกัน ไม่ใช่จะมีเฉพาะในส่วนของคุณ และในการชุมนุมคงเป็นการชุมนุมให้ความรู้ประชาชน ส่วนประชาชนในต่างจังหวัดก็พร้อมที่จะชุมนุมแสดงพลังตลอด โดยเฉพาะในจ.หนองคาย เท่าที่ทราบมีคนจะเดินทางมาร่วมชุมนุมกับ นปช.เหมือนกัน แต่มาไม่เยอะเท่าที่ทราบจะมาแค่หลักร้อยเท่านั้น โดยประชาชนจะเดินทางมาเอง ตนไม่ได้เป็นคนพามา ซึ่งกลุ่มคนที่มาเพราะเป็นคนที่ไม่เห็นด้วยกับพธม.จะมาร่วมแสดงพลังเท่านั้น อย่างไรก็ดีทางนปช.หรือพธม.ก็มีสิทธิชุมนุมได้ แต่อยากให้ห่างๆกันไว้จะได้ไม่มีเหตุการณ์อะไร

 

กองทัพพร้อมออกช่วยตำรวจทันที หากเกิดเหตุรุนแรง

เว็บไซต์แนวหน้า - พ.อ.สรรเสริญ  แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.สล้าง  บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจประกาศยึดทำเนียบคืนในวันที่ 25 ต.ค.ว่า กองทัพบกเตรียมกองร้อยรักษาความสงบไว้ หากมีการประสานขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้ช่วยออกมาดูแลความสงบในพื้นที่ โดยกองทัพบก มีการเตรียมกำลังจากกองทัพภาคที่ 1 กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.)  หน่วยป้องกันภัยทางอากาศ (นปอ.) รวมถึงกองทัพเรือและกองทัพอากาศ ที่เตรียมพร้อมอยู่ในกรมกอง และสามารถออกปฎิบัติงานได้ทันที หากมีการร้องขอ เนื่องจาก ผบ.ทบ.ได้ให้นโยบายกองทัพว่าให้เข้าถึงพื้นที่โดยเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะ อย่างไรก็ตาม ทหารจะไม่ออกมาปฎิบัติการ หากไม่มีการร้องขอจากตำรวจ เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ และหากทหารออกมาโดยไม่ประสานงานกับตำรวจจะเกิดการสูญเสียขึ้นได้  ทั้งนี้กองทัพยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และหวังว่า สถานการณ์วันที่ 25 ต.ค.จะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไร

 

นปช.บุกบก.สส.จี้แสดงจุดยืนยุติแทรกแซงการเมือง

เว็บไซต์คมชัดลึก - (24ต.ค.) กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ประมาณ 25 คน นำโดยนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นายชินวัฒน์ หาบุญพาด 3 แกนนำนปช. เดินทางมาชุมนุมที่หน้ากองบัญชาการทหารสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการออกรายการโทรทัศน์กดดันนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลาออก ของผู้นำเหล่าทัพ ต่อพล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.)

 

พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผบ.สส.แสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่าจะร่วมกับประชาชนปกป้องประชาธิปไตย ให้ผู้นำเหล่าทัพยุติการแทรกแซงทางการเมืองทุกรูปแบบ และให้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่า มีการส่งกองกำลังทหารนอกเครื่องแบบและอาวุธ เข้าไปร่วมชุมนุมสนับสนุนให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก่อความรุนแรง กระทำผิดกฎหมาย

 

ของบ้านเมืองหรือไม่ โดยมีพ.ท.เกื้อกูล บัวเทศ นายทหารเวรผู้ใหญ่ ประจำ บก.สส. เป็นผู้ออกมารับหนังสือจากแกนนำนปช.

 

นายวิภูแถลง กล่าวว่า ที่นปช.มาวันนี้ ก็เพื่อขอให้ทหารยุติการปฏิวัติรัฐประหาร และร่วมกันรักษาระบอบประชาธิปไตย เนื่องจากเกรงว่า กองทัพจะใช้โอกาสที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศ กระทำการดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ นายกฯอยู่ระหว่างการประชุมระดับผู้นำเอเชีย-ยุโรป (อาเซม) ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน

 

หลังจากนี้นปช.จะดาวกระจายเดินทางไปยื่นหนังสือดังกล่าว ต่อหน่วยทหารทุกหน่วย รวมไปถึงกระทรวงกลาโหมด้วยและในวันที่ 25 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป นปช. จะมีการนัดชุมนุมที่ท้องสนามหลวง เพื่อซักซ้อมการต่อต้านรัฐประหาร เพื่อเตือนทหารว่า หากก่อรัฐประหารเมื่อไหร่ต้องพบกับการต่อต้านอย่างรุนแรง นอกจากนี้นปช.จะจัดชุมนุมใหญ่อย่างเป็นทางการ เนื่องในวันต่อต้านรัฐประหารแห่งชาติ ในวันที่ 30-31 ต.ค.นี้

 

"หากกทม.จะมาขัดขวางการชุมนุมของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ไม่ให้ชุมนุมที่ท้องสนามหลวง แต่ปล่อยให้พันธมิตรยึดทำเนียบชุมนุมได้อย่างเสรี ก็ให้มันรู้ไป ส่วนกรณีที่พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ประกาศจะนำกำลังมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล 3 วัน 3 คืน ให้กลุ่มพันธมิตรอดข้าวอดน้ำ นปช.คงไม่ไปร่วมเคลื่อนไหว เพราะเท่าที่อ่านภาษากายของ พล.ต.อ.สล้าง เข้าใจว่า เป็นเพียงแค่คำขู่ เพื่อกดดันให้กลุ่มพันธมิตรถอนตัวออกจากทำเนียบรัฐบาลเท่านั้นเอง ใจจริง พล.ต.อ.สล้างก็ยังเห็นว่า ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ ที่ถูก 5 แกนนำพันธมิตรหลอกลวงมา จึงไม่อยากทำร้ายให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต " นายวิภูแถลงกล่าว

 

นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลหากกทม.จะขัดขวางการชุมนุมใหญ่ของ นปช.ที่สนามหลวง ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ เพราะไม่คิดจะตั้งเวทีในสนามหลวงอยู่แล้ว เพียงแต่ให้สนามหลวงเป็นจุดนัดพบ เพื่อไปชุมนุมที่หน้ากระทรวงกลาโหม เพื่อซักซ้อมการต่อต้านรัฐประหาร สาธิตวิธีการต่อต้านรถถังให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบ และเพื่อเป็นการกดดัน ไม่ให้ กองทัพจะใช้โอกาสที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศ ก่อการรัฐประหารขึ้น

 

"ทักษิณ"ควง"หญิงอ้อ"ไปทำบุญวัดไทยในลอนดอน

เว็บไซต์คมชัดลึก - (24ต.ค.) รายงานข่าว จากสื่อท้องถิ่นย่านวิมเบิลดัน ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯของไทย พร้อมด้วย คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ได้ตอบรับคำเชิญของเจ้าของร้านอาหารไทยรายหนึ่ง ในกรุงลอนดอน เดินทางไปร่วมทำบุญที่วัดไทยแห่งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าเป็นวัดพุทธประทีปรายงานข่าว จากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับดังกล่าว ยังระบุว่าอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยและภริยา ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคนไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาทำบุญที่วัดดังกล่าวเช่นเดียวกัน โดยมีรายงานว่า

 

พ.ต.ท.ทักษิณ และภริยา ได้ทำบุญโดยถวายภัตตาหารและบริจาคเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อบำรุงวัดและร่วมรับประทานอาหารอย่างเป็นกันเองกับชาวไทย ที่มาร่วมทำบุญ

 

ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณ เพิ่งถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของไทย ตัดสินให้ต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 2 ปี จากการเอื้อประโยชน์ให้ภริยา ในการซื้อที่ดินย่านรัชดา ในกรุงเทพมหานคร

 

ด้านพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย เชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุรุนแรงกรณีกลุ่มพลังกู้วิกฤติชาติของ พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ จะปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลวันพรุ่งนี้ เพื่อตัดช่องทางการนำเสบียงอาหารและเครื่องดื่มเข้าให้ผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ เพราะทุกฝ่ายต่างทำตามหน้าที่ และคนไทยทุกคนต่างคิดดีทำดี

 

ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโทรศัพท์ทางไกลจากต่างประเทศเข้ารายการ "ความจริงวันนี้ ต้านรัฐประหาร" ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ พล.ต.อ.โกวิท เห็นว่า จะไม่ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองทวีความรุนแรงขึ้น และเรื่องดังกล่าวถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล

 

"สมชาย" ไม่เพิ่มรปภ. ปรับทำงานเลี่ยงเผชิญหน้าม็อบพธม.ต่อต้าน

โลกวันนี้ - นายกรัฐมนตรีไม่สั่งเพิ่มการรักษาความปลอดภัย แม้จะโดนแนวร่วมพันธมิตรฯบุกเข้าประชิดตัวขว้างปาสิ่งของเข้าใส่ แต่จะใช้วิธีปรับการทำงานเพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า พร้อมกำชับรัฐมนตรีไอซีทีไม่ให้สอบเอาผิดพนักงานทีโอทีที่ชุมนุมต่อต้าน ยันไม่สนคำทำนายหมอดูที่ออกมาทักไปประชุมที่จีนแล้วจะไม่ได้กลับประเทศ ผบ.สส. ย้ำความสัมพันธ์ระหว่างนายกฯกับผู้นำเหล่าทัพยังอยู่ในขั้นปรกติ "มั่น" เผยไม่ใช่พนักงานทีโอทีทั้งหมด แต่มีคนนอกแฝงตัวก่อเหตุด้วย สั่งผู้บริหารเตือนพนักงานที่ทำไม่เหมาะสม "บรรหาร" ระบุรับพฤติกรรมที่ไม่เคารพกฎหมายไม่ได้ แกนนำพันธมิตรฯประกาศพร้อมรับมือม็อบ "สล้าง" ที่จะชุมนุมปิดล้อม

 

ส.ว.ถกแตกหักหนุน-ต้านส.ส.ร.

โลกวันนี้ - กลุ่ม 40 ส.ว. สนับสนุนพันธมิตรฯเปิดเกมไล่บี้ ส.ว. ที่สนับสนุนแนวทางการจัดตั้ง ส.ส.ร. แก้ไขรัฐธรรมนูญ เตรียมนำเรื่องเข้าอภิปรายในที่ประชุมวุฒิสภาวันนี้ (24 ต.ค.) เพื่อพูดจากันให้แตกหัก และจะล่ารายชื่อ ส.ว. ที่ไม่เห็นด้วยแข่งกับกลุ่มที่เห็นด้วย เชื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะนำไปสู่ความแตกแยกมากขึ้น ด้านอดีตประธานวุฒิสภาระบุถ้าเชื่อมั่นในระบบรัฐสภาก็ต้องทำตามเสียงส่วนใหญ่ วอนทุกฝ่ายเข้าร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อช่วยกันคลี่คลายปัญหาให้บ้านเมือง รองประธานสภาผู้แทนฯชี้แต่ละฝ่ายมีความเชื่อต่างกัน กลุ่มที่เชื่อว่าตั้ง ส.ส.ร. ช่วยแก้ปัญหาขัดแย้งได้จะเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อตั้ง ส.ส.ร. เต็มที่ ยันรัฐบาลไม่มีพิมพ์เขียว ให้อิสระ ส.ส.ร. พิจารณาเต็มที่

 

เศรษฐกิจ

  

แบงก์ชาติการันตี ศก.ไทยไม่ถดถอย

โพสต์ ทูเดย์ - นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจจะไม่เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และมีการเติบโตที่ติดลบแน่นอน เนื่องจากรัฐบาลกระตุ้นความต้องการใช้จ่ายในประเทศมาทดแทนการส่งออกที่จะชะลอลง  ทั้งการกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านงบประมาณ นโยบายการ คลัง และการท่องเที่ยว ทำ ให้เศรษฐกิจยังเดินได้

 

นอกจากนี้ อัตราการว่างงานก็ยังต่ำที่ 1.2% ต่างจากต่างประเทศที่ประสบวิกฤตที่มีการเลิกจ้างคนงาน มีตกงานสูง ประชาชนไม่มีเงินมาใช้จ่าย และที่สำคัญไทยยังมีภาคการเกษตรเป็นฐานที่ดีทำให้ประชาชนมีการใช้จ่ายอยู่ ดังนั้นที่เคยคาดว่าการเติบโตจะลดลงมากอาจจะไม่เป็นเช่นนั้น

 

"แต่การประเมินภาพผลกระทบจากปัจจัยที่ว่า เรายังไม่ได้สรุปว่าจีดีพีปีนี้จะโตด้านต่ำหรือด้านสูงของกรอบที่คาดไว้ เป็นเรื่องที่ต้องติดตามใกล้ชิดเกาะติดสถานการณ์ แล้วรอดูข้อมูลจริงของจีดีพีเราจะโตไปด้านบนหรือล่าง แต่ถึงแม้เศรษฐกิจชะลอ แต่เศรษฐกิจไทยไม่มีโอกาสเป็น Recession แน่นอน" นางธาริษา กล่าว

 

ทั้งนี้ ธปท.คาดการณ์อัตราการเติบโตล่าสุดเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาว่า จีดีพีปีนี้น่าจะขยายตัวที่ 4.3-5% และปีหน้าคาดที่ 3.8-5%

 

นางธาริษา กล่าวว่า ประเมินภาพผลกระทบจากปัจจัยเหล่านี้จากข้อมูลล่าสุดแล้วว่า ต้องยอมรับว่าคงให้เศรษฐกิจปีนี้และปีหน้าลดลงบ้าง เพราะตลาดส่งออกที่เคยส่งไปได้รับผลกระทบที่ชะลอไปแล้ว แต่ตลาดส่งออกยังมีการปรับตัวและหาตลาดใหม่มาทำแทนตลาดที่ได้รับผลกระทบได้ดี สำหรับนโยบายการเงินคงยังไม่มีอะไรเพิ่มเติมออกมาในช่วงนี้ แต่นโยบายการเงินก็พร้อมที่จะดูแลการเติบโตของเศรษฐกิจ เข้าไปเสริม

 

คลังไฟเขียวรัฐวิสาหกิจก่อหนี้เกินตัว

โพสต์ ทูเดย์ - นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ ที่มี นายสุชาติ ธาดา ธำรงเวช รมว.คลัง เป็นประธาน ได้อนุมัติผ่อนปรนให้รัฐวิสาหกิจจำนวน 13 แห่ง ติดปัญหาตามระเบียบการก่อหนี้ปี 2549 ที่มีสัดส่วนรายได้ต่อหนี้สินไม่ถึง 1.5 เท่า ไม่สามารถก่อหนี้เพิ่มเติมได้ ให้สามารถกู้หนี้ได้

 

ทั้งนี้ มีรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างเมกะ โปรเจกต์ เช่น รถไฟฟ้า ไม่สามารถดำเนินการได้หากไม่ได้รับการผ่อนผัน

 

รัฐวิสาหกิจที่อยู่ในข่าย ประกอบด้วย การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นต้น

 

"การผ่อนผันไม่น่าจะทำให้รัฐวิสาหกิจขาดวินัยการกู้เงิน หรือไม่พัฒนาตัวเอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการหารายได้ แต่จะเป็นประโยชน์โดยรวมกับเศรษฐกิจ ทำให้การเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจกต์ต่อไปได้" นายพงษ์ภาณุ กล่าว

 

นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า คณะกรรมการยังเห็นชอบให้รายงานสถานะหนี้สาธารณะ ณ เดือน ส.ค. ที่อยู่ที่ 35.49% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โดยจะรายงานให้รัฐบาลทราบว่ายังมีช่องว่างกู้เงินให้รัฐบาลดำเนินโครงการเมกะโปรเจกต์อีก 15% ในช่วง 4 ปี ของอายุรัฐบาล ซึ่งจากการประเมินหากมีการกู้เพื่อก่อสร้างโครงการต่างๆ เต็มที่ที่รัฐบาลต้องการหนี้สาธารณะปี 2555 ยังอยู่ที่ 41.59% ของจีดีพีภายใต้กรอบเศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ย 5.5% ต่อปี เงินเฟ้ออยู่ที่ 3.5% ต่อปี

 

ทางด้าน นายสมชัย สัจจพงษ์  ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า สศค.อยู่ระหว่างเตรียมมาตรการรองรับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในปี 2552 เพื่อเสนอให้ รมว.คลัง พิจารณากลางเดือน พ.ย. นี้ เพื่อทำให้เศรษฐกิจปีหน้าขยายตัวได้เกิน 4%

 

นายสมชัย กล่าวว่า จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านธนาคารของรัฐ รวมถึงพิจารณาเม็ดเงินงบประมาณที่อยู่ในหน่วยงานต่างๆ เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และรัฐวิสาหกิจ  มาใช้ประโยชน์แทนการตั้งงบ ประมาณกลางปี โดยจะนำเงินไปใช้จ้างงานมากขึ้น

 

นายสมชัย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2552 จะได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ที่คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวได้ไม่เกิน 3.8% ซึ่ง สศค.มองว่าอาจจะทำให้เกิดปัญหาการว่างงาน

 

คุณภาพชีวิต

 

ตั้งงบ 56 ล้านช่วยเหยื่อสลายชุมนุม

เว็บไซต์ไทยรัฐ -การช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ 7 ตุลาเลือดนั้น เมื่อเวลา 13.30 น.  วันที่ 24 ต.ค.  ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบ 7 ต.ค. และเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่อง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ เยียวยาฯ ภายหลังการประชุม น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการเยียวยาฯได้เตรียมงบประมาณเพื่อจ่ายเป็นค่าชดเชยทั้งสิ้น 56 ล้านบาท แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าผู้เสียชีวิต ทุพพลภาพ และผู้บาดเจ็บ จะได้รับเงินชดเชยรายละเท่าใด เนื่องจากต้องรอให้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.ก่อน แต่หลักเกณฑ์การจ่ายเงินชดเชยในครั้งนี้ เป็นหลักเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นมาโดยเฉพาะ มีความเหมาะสม โดยในกรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยมากกว่ากรณีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีความจริงใจในการช่วยเหลือผู้เสียหายจากเหตุการณ์ วันที่ 7 ต.ค. และเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง

 

นางพณิตา คำภู ณ อยุธยา อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปเรื่องหลักเกณฑ์ การจ่ายเงินชดเชยให้ผู้เสียหายและญาติผู้เสียชีวิตแล้วและจะนำหลักเกณฑ์ดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เพื่ออนุมัติในวันที่ 28 ต.ค. ทั้งนี้ จะให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการจ่ายเงินชดเชย โดยให้ผู้เสียหายนำหลักฐานพร้อมใบรับรองแพทย์มาลงทะเบียนที่กรมพัฒนาสังคมฯ จากนั้น มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านผู้เสียหาย เพื่อจ่ายเงินชดเชยให้เสร็จภายใน 90 วัน นับจากวันที่ ครม.มีมติอนุมัติให้การช่วยเหลือ เบื้องต้นคาดว่าผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยอยู่ระหว่าง 100,000-500,000 บาท

 

กมธ.พลังงานหนุนกฎหมายลูกม.67

มติชน-พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การพลังงาน วุฒิสภา กล่าวเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ว่า ได้เข้าพบ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยเสนอให้ออกกฎหมายลูกของรัฐธรรมนูญมาตรา 67 เพื่อผลักดันให้เกิดการลงทุนในไทย เนื่องจากมาตราดังกล่าวกำหนดสิทธิการคุ้มครองด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของคนในชุมชนเป็นขอบเขตกว้างจนโครงการขนาดใหญ่จากต่างประเทศวงเงินหลายแสนล้านบาท อาทิ โรงไฟฟ้า โรงถลุงเหล็ก ต้องชะลอการลงทุนออกไปอย่างไม่มีกำหนดเพราะกลัวผิดกฎหมายและการต่อต้านจากชุมชน เท่าที่ทราบหลายกระทรวงไม่สามารถทำงานได้ เพราะกลัวละเมิดรัฐธรรมนูญ เช่น กระทรวงพาณิชย์ อุตสาหกรรม และต่างประเทศ หากมีกฎหมายลูกออกมาเชื่อว่านักลงทุนจะเข้ามาในไทยมากขึ้น เพราะพื้นฐานเศรษฐกิจยังอยู่ในระดับดียืนยันว่าวุฒิสมาชิกพร้อมสนับสนุนการออกกฎหมายลูกเต็มที่ ทางออกของบทบัญญัติของกฎหมายลูกควรเน้นรายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณมลพิษต่อชุมชนและรัฐบาลควรตั้งกองทุนโดยสนับสนุนงบประมาณจำนวนหนึ่ง เพื่อชี้แจงให้ชาวบ้านรู้ข้อเท็จจริงถึงผลประโยชน์ของโครงการ

 

"อนงค์วรรณ"ย้ายด่วนหน.อุทยานเขาใหญ่ไม่แจ้งเหตุผล
มติชนออนไลน์ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ลงนามเร่งด่วนเมื่อวันที่  24 ตุลาคม โยกย้ายนายณรงค์ มหรรณพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่มรดกโลก ไปดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่ 10 จ.อุดรธานี  และแต่งตั้งนายมาโนช กาลพนักงาน เข้ามาดำรงตำแหน่งแทน เบื้องต้นถูกคัดค้านจากผู้เกี่ยวข้องอย่างมาก เนื่องจากนายมาโนช  เป็นข้าราชการซี 7 ประจำกรมอุทยาน จบการศึกษา ระดับปวส.ก่อสร้าง โดยไม่มีความรู้ด้านป่าไม้ ทั้งนี้ นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯได้คัดค้านอย่างไม่เป็นทางการเบื้องต้นไปแล้ว รวมทั้งสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มข้าราชการป่าไม้อย่างมาก  อีกทั้งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นพื้นที่นิยมท่องเที่ยวของประชาชน สร้างผลประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวปีละกว่าพันล้านบาท

 

เสนอ5แนวทางแก้ราคายางตก

โลกวันนี้ - นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการส่งเสริมราคาผลิตผลเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการจะเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อรัฐบาลจำนวน 5 ข้อคือ 1.ส่งเรื่องให้กระทรวงพาณิชย์ เพื่อกำหนดราคายางพาราไม่ให้ต่ำกว่า 52 บาทต่อกิโลกรัม 2.ถ้าราคายางต่ำกว่า 52 บาทต่อกิโลกรัม รัฐต้องเข้าแทรกแซงราคา 3.คณะกรรมาธิการเห็นว่ารัฐบาลควรใช้มาตรการลดต้นทุน โดยให้ควบคุมราคาปุ๋ยอย่างเคร่งครัด 4.รัฐบาลต้องช่วยเหลือผู้ส่งออก โดยเพิ่มโควตาการส่งออก และให้ต่างประเทศซื้อยางพาราในราคาที่ได้ตกลงซื้อขายล่วงหน้า และ 5.เร่งรัดให้บริษัทร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศปฏิบัติตามบันทึกความร่วมมือเรื่องการไม่ตัดราคายาง และหากราคายางตกต่ำให้แต่ละประเทศสต็อกยางเพื่อพยุงราคา

 

ต่างประเทศ

 

จีนเล็งลอยแพ 2.7ล้านคน

โพสต์ ทูเดย์ - สมาคมผู้ประกอบการร่วมการลงทุนต่างชาติของเมืองตงก่วน ทางตอนใต้ของจีน ซึ่งเป็นแหล่งโรงงานผลิตที่สำคัญของประเทศ เปิดเผยการคาดการณ์ว่า พนักงานโรงงานจีนอย่างน้อย 2.7 ล้านคน อาจต้องถูกลอยแพ หลังจากวิกฤตเศรษฐกิจได้ส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าโดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ของเล่น และเสื้อผ้าทั่วโลกลดลงอย่างรุนแรง

 

ทั้งนี้ โรงงาน 9,000 แห่ง จากทั้งหมด 4.5 หมื่นแห่ง ในเมืองกว่างโจว ตงก่วน และเสิ่นเจิ้น คาดว่าจะปิดกิจการก่อนถึงวันตรุษจีน ในช่วงปลายเดือน ม.ค. ปีหน้านี้ด้วย

 

สมาคมฯ คาดการณ์ด้วยว่า ความต้องการสินค้าที่ผลิตใน 3 เมืองอุตสาหกรรมนี้ จากตลาดต่างแดนจะปรับตัวลดลงถึง 30% ผลจากภาวะขาลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ของสหรัฐและวิกฤตการเงินโลก

 

วันเดียวกัน ธนาคารยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย สเบอร์แบงก์ มีแผนจะปลดพนักงานถึง 7 หมื่นอัตรา หรือคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของพนักงานทั้งหมดของธนาคาร ภายในปี 2556 โดยแผนลอยแพครั้งใหญ่นี้ได้รับการอนุมัติจากบอร์ดของธนาคารแล้วในสัปดาห์นี้

 

คอมเมอร์แชนต์ สื่อท้องถิ่นของรัสเซีย กล่าวว่า หากในปี 2550 มีพนักงานทั้งหมด 2.7 แสนคน ดังนั้น ภายในปี 2556 ธนาคารจะมีพนักงานเหลือไม่เกิน 2-2.2 แสนคน โดยแผนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่วิกฤตการเงินโลกได้ส่งผลลุกลามมายังรัสเซีย

 

"ธนาคารได้ตัดสินใจที่จะปลดพนักงาน 20-30% ของพนักงานทั้งหมด หรือคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของพนักงาน" สื่อแดนหมีขาว ระบุ

 

อย่างไรก็ดี โฆษกของสเบอร์แบงก์ ได้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานดังกล่าว

 

ทั้งนี้ สเบอร์แบงก์ มีสาขา กว่า 2 หมื่นแห่งทั่วประเทศ โดยที่ผ่านมา ธนาคารได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินอย่างหนัก โดยนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.ย. มูลค่ารวมของธนาคารได้ร่วงลงกว่า 60% แล้ว

 

ขณะที่ภาคธุรกิจสหรัฐ กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อรักษาผลกำไรในช่วงไตรมาสสุดท้าย และได้ตระหนักถึงความยากลำบากทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในช่วงปีหน้า โดยขณะนี้มีบริษัทหลายแห่งได้หันมาปลดคนงานในส่วนต่างๆ รวมถึงการลดการใช้จ่าย

 

จากรายงานล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐ พบว่า จำนวนของแรงงานสหรัฐยื่นขอเข้าร่วมโครงการสวัสดิการสำหรับคนว่างงาน เพิ่มขึ้น 1.5 หมื่นคน ไปอยู่ที่ 4.78 แสนคน ในสัปดาห์สุดท้ายสิ้นสุดวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยแนวโน้มดังกล่าวคาดว่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งภาครัฐบาลจำเป็นต้องเร่งให้เงินช่วยเหลือบริษัทเหล่านี้ให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ท่ามกลางวิกฤตการเงินที่เกิดขึ้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net