Skip to main content
sharethis

ที่มา: Siam Intelligence Unit


  






การโต้วาทีของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกาครั้งที่สาม (ตอนที่ 3)


ระหว่างวุฒิสมาชิกบารัค โอบามา จากพรรคเดโมแครต และวุฒิสมาชิกจอห์น แม็คเคน จากพรรครีพับลิกัน เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 2008 ที่มหาวิทยาลัยฮอฟตร้า มลรัฐนิวยอร์ก


ต้นฉบับจาก The New York Times, คลิปโต้วาทีจาก The New York Times


แปลและเรียบเรียงโดยกานต์ ยืนยง และอิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ : Siam Intelligence Unit


 


 


ความเห็นต่อผู้สมัครรองประธานาธิบดี



บ็อบ ชีฟเฟอร์:
เราจะคุยกันในหัวข้อถัดไป ถ้าคุณอยากกลับมาพูดในประเด็นที่ผ่านมานี้ทีหลังก็ทำได้ ผมอยากถามคุณทั้งสองคนเกี่ยวกับทีมงานที่คุณจะพาเข้ามาร่วมในรัฐบาล และคนที่เหมาะที่สุดคงไม่มีใครเกินผู้สมัครรองประธานาธิบดีของคุณทั้งคู่


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
ดังนั้นผมจะถามคุณด้วยคำถามนี้ และขอให้วุฒิสมาชิกโอบามาตอบก่อน คำถามคือ ประเทศจะเป็นอย่างไรถ้าเกิดว่าผู้สมัครรองประธานาธิบดีของคุณ ได้มาเป็นประธานาธิบดีเสียเอง

บารัค โอบามา:
ผมคิดว่าโจ ไบเดน เป็นผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศนี้ มันไม่ใช่แค่ว่าเขาทำงานด้านการต่างประเทศมากกว่าใคร ซึ่งตรงนี้ทั้งเดโมแครตและรีพับลิกันต่างยอมรับเป็นอย่างดี แต่มันเป็นเรื่องว่าเขาไม่เคยลืมกำพืดของตัวเองว่าเขามาจากเมืองสแครนตัน (Scranton)[19] มาจากครอบครัวชั้นกรรมาชีพ และไม่ลืมว่าพ่อของเขาเคยตกงานในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ


 


ผลจากประสบการณ์นี้ทำให้เขาต่อสู้เพื่อคนยากจนตลอดอาชีพการทำงานของเขา นี่คือสาเหตุที่เขาดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจ ที่ช่วยให้ครอบครัวชนชั้นล่างสามารถลืมตาอ้าปากได้


 


ตัวอย่างงานที่เขาทำก็อย่างเช่น ผ่านกฎหมายอาญาสำคัญในปี 1994 คือกฎหมายต่อต้านความรุนแรงต่อสตรี โจนั้นเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าเขาต้องเป็นตัวแทนของกลุ่มคนงาน และผมคิดว่าเขามีความเห็นไปในทางเดียวกับผมว่า ประเทศควรเดินหน้าไปอย่างไร


 


เพราะหลังจากแปดปีจากนโยบายที่ล้มเหลว เขาและผมต่างเห็นพ้องว่าสิ่งที่เราจะต้องทำคือการกำหนดลำดับความเร่งด่วนใหม่ เพื่อให้แน่ใจว่าเรากำลังลงทุนในคนอเมริกัน ไม่ใช่ให้การตัดภาษีกับบรรษัทที่ร่ำรวย แต่ให้การตัดภาษีนั้นกับธุรกิจขนาดย่อม และผู้คนที่กำลังต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนกันในขณะนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าในท้ายที่สุดเรามีความเป็นอิสระทางด้านพลังงานอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นด้านที่วอชิงตันอ่อนแอมาเป็นเวลากว่า 30 ปี และเพื่อให้แน่ใจว่าลูกหลานของเราได้รับการศึกษาที่ยิ่งใหญ่และสามารถเข้าเรียนในวิทยาลัยได้


 


ดังนั้นในจุดหลักที่สำคัญสำหรับครอบครัวอเมริกัน โจ ไบเด็น ยืนอยู่บนฝ่ายที่ถูกต้องเสมอ และผมคิดว่าเขาจะสามารถดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ยอดเยี่ยมได้ หากว่าลิขิตสวรรค์ทำให้ผมมิอาจเป็นได้


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
ท่านวุฒิสมาชิกครับ?


 


จอห์น แมคเคน :
เอาล่ะ คนอเมริกันจะต้องรู้จัก ซาร่าห์ เพ-ลิน ว่าเธอเป็นผู้หญิงต้นแบบ รวมทั้งคนอื่นๆ นักปฏิรูปทั่วอเมริกา เธอเป็นนักปฏิรูป เธอชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐมาจากคู่แข่งในพรรคเดียวกัน เมื่อเธอเป็นผู้ว่าการรัฐ เมื่อเธอเป็นหัวหน้าคณะกรรมการทรัพยากรธรรมชาติและพลังงาน เธอเห็นการฉ้อโกงและตัดสินใจลาออก พร้อมทั้งพูดว่า "เราไม่สามารถยอมให้มันเกิดขึ้นได้"


 


เธอจ่ายเงินคืนให้กับผู้เสียภาษี เธอลดขนาดของรัฐบาลลง เธอต่อรองกับบริษัทน้ำมันในโครงการท่อขนส่งก๊าซธรรมชาติมูลค่า 4 หมื่นล้านเหรียญซึ่งส่งพลังงานมาหล่อเลี้ยงมลรัฐในแผ่นดินหลักของสหรัฐอีก 48 รัฐ[20] และเอาชนะพวกเขาได้


 


เธอปฏิรูปครั้งแล้วครั้งเล่า และนี่เป็นเวลาที่เราต้องการอะไรที่แปลกใหม่และเร้าใจจริงๆ เธอเป็นสิ่งใหม่ที่ผ่านเข้ามายังเมืองหลวงของประเทศเราและกวาดเอาเครือข่ายพวกคนเก่าแก่ และการวิพากษ์วิจารณ์ที่ผมได้ต่อสู้มาตลอดปี


 


เธอจะเป็นหุ้นส่วนของผม เธอเข้าใจการปฏิรูป และเธอเข้าใจครอบครัวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ[21] เธอรู้ดีว่าผู้ป่วยโรคออทิสติกกำลังเพิ่มขึ้น ซึ่งเราต้องค้นหาต่อไปว่าอะไรเป็นสาเหตุของมัน แต่เราจะต้องเข้าถึงครอบครัวเหล่านี้ และให้ความช่วยเหลือที่พวกเขาต้องการ เพราะพวกเขาเรียกร้องความช่วยเหลือเป็นพิเศษให้กับลูกๆ


 


เธอเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้ดีกว่าคนอเมริกันเกือบทุกคนที่ผมรู้จัก ผมภูมิใจกับเธอ และเธอก็ได้จุดประกายให้กับพรรคของเรา รวมถึงคนอเมริกันทั่วไปที่ไม่เคยสนใจการเมืองมาก่อน ผมไม่สามารถอธิบายได้ว่าผมปลาบปลื้มเธอและครอบครัวมากเพียงใด สามีของเธอก็เป็นคนแกร่งอย่างยิ่งด้วย


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
คุณคิดว่าเธอมีคุณสมบัติเป็นประธานาธิบดีไหม?


 


บารัค โอบามา:
คุณก็รู้ว่า ผมคิดว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนอเมริกันต้องตัดสินใจ ผมคิดว่าเธอเป็นนักการเมืองที่สามารถ และมีสิ่งที่ ผมคิดว่าเป็นความตื่นเต้นในพรรครีพับรีกัน


 


และผมคิดว่างานที่เธอได้ทำในฐานะความต้องการพิเศษ เป็นเรื่องที่น่ายกย่อง ผมเห็นด้วยในเรื่องนั้น จอห์น


 


ผมอยากจะบอกแค่ว่า การดูแลผู้ป่วยโรคออทิสติกหรือผู้ที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษนั้นต้องการใช้เงิน โดยเฉพาะถ้าเราต้องการวิจัยเรื่องนี้อย่างจริงจัง นี่เป็นสิ่งที่ทุกครอบครัวที่มีเด็กด้อยโอกาสเหล่านี้พูดถึงอยู่เสมอ แต่ถ้าเราบอกว่าจะตัดงบประมาณ เราจะไม่สามารถลงทุนในเรื่องเหล่านี้ได้ นี่คือตัวอย่างของหลักการมีดผ่าตัดที่ผมนำเสนอไปแล้ว ว่าเราต้องมีเงินสนับสนุนโครงการจำพวกนี้


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
คุณคิดว่าวุฒิสมาชิกไบเด็น มีคุณสมบัติไหม?


 


จอห์น แม็คเคน:
ผมคิดว่าจอห์น ไบเด็น มีคุณสมบัติที่่น่านับถือหลายประการทีเดียว แต่ผมขอชี้ว่าเขาทำผิดพลาดในเรื่องนโยบายต่างประเทศ และนโยบายความมั่นคงหลายเรื่อง ทั้งที่นี่ควรเป็นจุดแข็งของเขา


 


เขาโหวตคัดค้านสงครามอ่าวครั้งแรก แต่ผลสุดท้ายเห็นได้ชัดว่า เราสามารถขับซัดดัม ฮุสเซน ออกจากคูเวตได้ ทำให้ซัดดัมคุกคามแหล่งน้ำมันในตะวันออกกลางไม่สำเร็จ



ในอิรัก เขามีแนวคิดเหลวไหลเกี่ยวกับการแบ่งอิรักออกเป็นสามประเทศ เราเห็นว่าอิรักต้องการรวมชาวอิรักด้วยกันเป็นหนึ่ง แม้ว่าจะยากลำยาก แต่เราก็ได้เห็น ตอนนี้เรากำลังคุยถึงข้อตกลงด้านสถานะของกองกำลังของเราในอิรักอยู่ด้วย


 


มีนโยบายความมั่นคงหลายประเด็นที่โจ ไบเด็น และผมเห็นไม่ตรงกัน และเขาคิดผิดในเรื่องใหญ่ๆ หลายเรื่อง แต่ผมขอย้อนกลับมาสู่ คำกล่าวของวุฒิสมาชิกโอบามาที่ย้ำทุกครั้งว่า "เราต้องการใช้จ่ายเพิ่ม, เราต้องใช้จ่ายเพิ่ม นั่นคือคำตอบ" — ทำไมเราถึงต้องใช้จ่ายเพิ่มตลอดเวลา?


 


ทำไมเราถึงไม่ปฏิรูปหน่วยงานรัฐให้ โปร่งใส ตรวจสอบเอาผิดได้เล่า? บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเรียกร้องงบประมาณเพิ่มอีก 8 แสน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมาจากการเพิ่มภาษีของประชาชนอเมริกันในช่วงเวลาที่ยากลำบากและเจ็บปวดอย่างในตอนนี้


 


 


 


นโยบายพลังงานและการค้าต่างประเทศ


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
เราจะไปยังหัวข้อใหม่ เพราะเราเลยเวลากันแล้วครับ เรามาคุยกันถึงเรื่องพลังงาน และการดูแลสภาพบรรยากาศ ประธานาธิบดีทุกคนนับตั้งแต่นิกสันพูดสิ่งที่พวกคุณทั้งคู่…


 


จอห์น แม็คเคน:
ภาวะโลกร้อน


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
ใช่ครับ ภาวะโลกร้อน — ประธานาธิบดีทุกคนได้พูดสิ่งที่คุณทั้งคู่ได้พูด ซึ่งก็คือเราจะต้องลดการพิ่งพิงน้ำมันจากต่างชาติ


 


ตอนที่นิกสันพูดเรื่องนี้ เรานำเข้าน้ำมันจากต่างชาติระหว่าง 17-34% ตอนนี้ตัวเลขขยับเพิ่มมาเป็นกว่า 60% คุณทั้งสอง ช่วยบอกตัวเลข เอาตัวเลขชัดๆ เลยนะ ว่าคุณเชื่อว่าจะลดการนำเข้าน้ำมันต่างชาติได้เท่าไหร่ ในช่วงการดำรงตำแหน่งในสมัยแรกของคุณ?


 


และผมคิดว่าคำถามแรก เป็นของคุณครับ วุฒิสมาชิก แม็คเคน


 


จอห์น แม็คเคน:
ผมคิดว่าเราสามารถลดการพิ่งพาน้ำมันในตะวันออกกลางและเวเนซูเอลาลงมาได้ ส่วนน้ำมันแคนาดาไม่เป็นไร


 


นอกจากนี้เมื่อวุฒิสมาชิกโอบามาพูดว่าเขาจะเปิดการเจรจาข้างเดียวครั้งใหม่ในข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) คนแคนาดาจะพูดว่า "ถ้าแบบนั้น เราจะขายน้ำมันให้กับจีน"


 


คุณไม่ได้บอกประเทศเหล่านั้นว่า คุณกำลังจะเปลี่ยนแปลงข้อตกลงที่เคยเจรจากับพวกเขา


 


เราสามารถลดการพึ่งพาน้ำมันต่างประเทศได้โดยการสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ใหม่ 45 โรงได้ทันที เราสามารถเก็บรักษา และเปลี่ยนแปลงกรรมวิธีได้


 


วุฒิสมาชิกโอบามาจะบอกคุณในฐานะนักรักษาสิ่งแวดล้อมสุดขั้วว่า ต้องบังคับให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ปลอดภัยนะ


ลองดูเถิดครับว่า เราขายเรือเดินทะเลพลังงานนิวเคลียร์ให้ทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 60 ปีแล้ว เราสามารถเก็บรักษาและเปลี่ยนแปลงกรรมวิธีพลังงานนิวเคลียร์ได้ไม่มีปัญหาเลย


 


ประเด็นคือพลังงานนิวเคลียร์ พลังงานลม, น้ำ, แสงอาทิตย์, ก๊าซธรรมชาติ การพัฒนาพลังงานทางเลือก (flex fuel), พลังงานลูกผสม, เทคโนโลยีถ่านหินสะอาด พวกนี้เป็นสิ่งสำคัญต่อหัวใจของอเมริกาที่กำลังย่ำแย่


 


ดังนั้นผมคิดว่าเราสามารถทำได้โดยง่าย ภายใน เจ็ด แปด หรือสิบปี ถ้าเราตั้งใจจริงๆ ถึงแม้เราจะไม่เป็นอิสระทางพลังงานโดยสมบูรณ์ แต่เราสามารถลดการพึ่งพิงพลังงานจากประเทศที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของเราได้


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
เราสามารถลดการพึ่งพาน้ำมันจากต่างชาติได้ไหม และได้เท่าไรในสี่ปีของสมัยแรก


 


บารัค โอบามา:
ผมคิดว่าภายในสิบปี เราสามารถลดการพึ่งพิงพลังงานลงได้ในระดับที่ เราไม่จำเป็นต้องนำเข้าน้ำมันจากตะวันออกกลางหรือเวเนซูเอลา ผมคิดว่ามันเป็นระยะเวลาที่ไม่เพ้อฝันจนเกินไป


 


ปัญหาด้านพลังงาน เป็นปัญหาเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดที่เราจะต้องเผชิญในอนาคต แน่นอนว่าตอนนี้เราก็เผชิญกับวิกฤตอยู่แล้ว แต่ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการที่เราเลิกยืมเงินจากจีน 700 ล้านดอลลาร์ แล้วนำไปซื้อน้ำมันจากซาอุดิอาระเบีย มันเป็นการเอาอนาคตของเยาวชนไปจำนอง


 


ตั้งแต่ผมเริ่มการหาเสียง ผมได้บอกมาตลอดว่าปัญหาพลังงานจะเป็นสิ่งแรกๆ ที่ผมต้องเข้าไปแก้ไข ผมคิดว่าสิ่งที่เราต้องทำมีดังนี้


 


อย่างแรก เราต้องขยายการผลิตน้ำมันภายในประเทศ ซึ่งแปลว่าพื้นที่ 68 ล้านเอเคอร์ที่บริษัทน้ำมันทั้งหลายได้สัมปทานอยู่ จะต้องเริ่มขุดเจาะในทันที หรือไม่อย่างนั้นเราจะถอนใบอนุญาตคืน


 


อย่างถัดไป เราต้องมองถึงการขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่ง เพื่อให้เราได้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น แต่เราต้องไม่ลืมว่าเรามีปริมาณน้ำมันสำรองเพียง 3-4% ของโลกเท่านั้น แต่เรากลับบริโภคน้ำมันคิดเป็น 25% ของน้ำมันที่ผลิตได้ในขณะนี้ แปลว่าเราต้องขุดเจาะอย่างระมัดระวังมาก


 


ดังนั้น ผมจึงให้ความสำคัญกับพลังงานชนิดอื่นๆ อย่างพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ไบโอดีเซล ความร้อนใต้พิภพ ผมเริ่มสนใจเรื่องนี้มาตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่งวุฒิสมาชิกแล้ว อีกประเด็นที่สำคัญไม่แพ้กันคือเราต้องพัฒนารถยนต์ที่ใช้พลังงานอย่างประหยัด ต้องผลิตได้ในสหรัฐอเมริกาด้วย ไม่ใช่ว่าเป็นรถของญี่ปุ่นหรือเกาหลี


 


ประเทศเราคิดค้นอุตสาหกรรมยานยนต์ขึ้นมา ตอนนี้เรากลับเป็นผู้ตามในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งเราต้องแก้ไขกันต่อไป


 


บารัค โอบามา:
ประเด็นสุดท้ายที่ผมอยากจะพูดคือเรื่อง NAFTA[22] เพราะท่านวุฒิสมาชิกแม็คเคนยกประเด็นนี้ขึ้นมา ผมเชื่อมั่นในการค้าเสรี แต่ผมก็เชื่อด้วยว่าข้อตกลงทางการค้าทุกฉบับที่มีเรื่องการค้าเสรีนั้นเป็นข้อตกลงทางการค้าที่ดี แต่ NAFTA ใต้การเจรจาของรัฐบาลบุชที่วุฒิสมาชิกแม็คเคนให้การสนับสนุนนั้น ไม่มีข้อบังคับใช้ด้านแรงงานและสิ่งแวดล้อมอยู่เลย


 


ผมจึงคิดว่าเราควรเพิ่มเรื่องเหล่านี้ลงไปใน NAFTA และบังคับใช้ เช่นเดียวกันเราต้องบังคับใช้ข้อตกลงเหล่านี้กับจีน ที่ใช้ลูกเล่นกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินของตัวเอง ทำให้สินค้าจีนที่ส่งมาขายในสหรัฐมีราคาถูก ในขณะที่สินค้าสหรัฐมีราคาแพงขึ้นเมื่อส่งไปขายในจีน


 


สุดท้ายคือเกาหลีใต้ เรามีข้อตกลงทางการค้าระหว่างกันในตอนนี้ และเกาหลีใต้ส่งรถยนต์เป็นแสนๆ คันเข้ามาขายในสหรัฐ นั่นเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าเราสามารถขายรถของเราได้เพียง 4,000-5,000 เท่านั้นในเกาหลีใต้ นี่ไม่ใช่การค้าเสรี เราต้องมีประธานาธิบดีที่บริหารประเทศเพื่อประโยชน์ของธุรกิจอเมริกันและแรงงานอเมริกัน และผมจะไม่แก้ตัวในเรื่องนี้


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
ท่านวุฒิสมาชิก


 


จอห์น แม็คเคน:
ผมชอบคำพูดสวยหรูของวุฒิสมาชิกโอบามานะ แต่ถ้าคุณมาพิจารณาคำพูดเหล่านี้อย่างจริงจัง เขาบอกว่าเราต้องขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่ง คุณเข้าใจความหมายหรือเปล่า? เราสามารถขุดเจาะน้ำมันได้ทันทีตอนนี้เลย มันช่วยเราลดค่าน้ำมันได้ เพราะมันเป็นการบอกให้โลกรู้ว่าเราผลิตน้ำมันของเราเองได้ สิ่งนี้สามารถทำได้เลย เทคโนโลยีการขุดเจาะนั้นพร้อมแล้ว เหลือแค่เริ่มขุดเท่านั้น


 


สำหรับประเด็นเรื่องการค้าเสรีนั้น ผมก็เป็นผู้นิยมการค้าเสรี และเราต้องมีโครงการด้านการศึกษาอบรมให้กับคนงานที่ไปเรียนในวิทยาลัยชุมชน


 


ให้ผมยกตัวอย่างด้านข้อตกลงการค้าเสรีอีกเรื่องที่วุฒิสมาชิกโอบามาคัดค้าน ปัญหาในตอนนี้เกิดจากข้อตกลงอันเก่าๆ ซึ่งบางอันเริ่มมาตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีคลินตัน สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เราส่งไปขายในโคลัมเบีย ซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าสินค้าเกษตรกรรมรายใหญ่ที่สุดของเรา ธุรกิจของเราต้องจ่ายเงินเป็นพันล้านดอลลาร์เพื่อจะนำสินค้าเข้าไปขายที่นั่น


 


แต่ข้อตกลงเหล่านั้นทำให้สินค้าจากโคลัมเบียเข้ามาขายในประเทศของเราได้ฟรีๆ วุฒิสมาชิกโอบามาไม่เคยเดินทางข้ามพรมแดนทางทิศใต้ของประเทศออกไปเลย จึงคัดค้านข้อตกลงการค้าเสรีกับโคลัมเบีย ประเทศนี้ช่วยเราสกัดกั้นยาเสพย์ติดไม่ให้เข้ามาฆ่าเยาวชนในประเทศของเรา


 


ประเทศที่เพิ่งช่วยชาวอเมริกันสามคนให้ปลอดภัย ยังช่วยเราสร้างอาชีพภายในประเทศของเราเอง เพราะโคลัมเบียจะเป็นตลาดให้เราเอาสินค้าไปขายได้โดยไม่ต้องเสียภาษีเป็นพันล้านดอลลาร์ ซึ่งเราได้จ่ายไปมากแล้ว ข้อตกลงการค้าเสรีกับโคลัมเบียเป็นสิ่งที่ใครก็เข้าใจได้ว่ามันมีประโยชน์ ถ้าคุณอยากเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้น ผมแนะนำว่าคุณควรลองเดินทางไปที่นั่นดู เผื่อว่าอะไรมันจะชัดเจนมากขึ้น


 


บารัค โอบามา:
ให้ผมชี้แจงดีกว่า จริงๆ ผมเข้าใจเรื่องนี้ค่อนข้างดีเลยนะ ประวัติศาสตร์ของโคลัมเบียคือ ผู้นำของชนชั้นแรงงานเป็นเป้าของการลอบสังหารมาโดยตลอด และไม่สามารถจับผู้ร้ายมาดำเนินคดีได้ด้วย


 


ที่ผมต้องพูดอย่างนี้ เพราะว่าข้อตกลงการค้าเสรีนั้นมีการคุ้มครองด้านแรงงานและสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว แต่ว่าเราต้องยืนหยัดต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน เราต้องป้องกันไม่ให้ความรุนแรงเข้ามาทำร้ายแรงงานที่พยายามต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิ์ของพวกเขา นี่เป็นเหตุผลที่ผมสนับสนุนข้อตกลงการค้าเสรีกับเปรู ซึ่งมีเงื่อนไขที่ครอบคลุมเรื่องเหล่านี้


 


สิ่งสำคัญคือเราต้องมีประธานาธิบดีที่เข้าใจประโยชน์ของการค้าเสรีเป็นอย่างดี และในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ยอมให้กับข้อตกลงทางการค้าไม่ยุติธรรม และกล้าต่อรองกับประเทศคู่ค้าด้วย


 


ประเด็นสุดท้ายที่ผมจะพูดคือเรื่องพลังงาน ตอนที่ผมพูดเรื่องอุตสาหกรรมรถยนต์นั้น เราเห็นกันชัดเจนว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศของเรากำลังแย่ พวกเขามีปัญหาเพราะค่าน้ำมันพุ่งสูง แถมตอนนี้ยังมาเจอวิกฤตด้านการเงินซ้ำอีก ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ต้องปิดตัวไป และผู้ซื้อรถยนต์ก็ไม่ได้รับการปล่อยกู้


ผมเลยคิดว่าเราต้องการันตีเงินกู้ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ โดยมีเงื่อนไขว่าพวกเขาต้องผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานออกมาขายในอนาคต


 


ดีทรอยต์[23] ปล่อยให้ปัญหานี้เกิดขึ้นมานานเกินไป นี่เป็นอีกปัญหาที่ผมต้องแก้อย่างเร่งด่วน เพราะพลังงานที่ใช้ในการขนส่งนั้นคิดเป็น 30% ของการบริโภคพลังงานทั้งประเทศ


 


ถ้าเราสามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างถูกต้อง ไม่เพียงแค่เราจะเป็นอิสระทางพลังงานเท่านั้น แต่เรายังสามารถสร้างงานอีก 5 ล้านตำแหน่งได้ทั่วอเมริกา รวมถึงพื้นที่ใจกลางประเทศ ซึ่งเราสามารถดัดแปลงโรงงานเดิมที่มีอยู่แล้วมาผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานได้ รวมถึงการสร้างกังหันลมและแผงโซลาร์เซลล์ พลังงานสะอาดจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเราในศตวรรษหน้า


 


จอห์น แม็คเคน:
ผมอธิบายได้ว่าวุฒิสมาชิกโอบามานั้นไม่ต้องการเจรจาข้อตกลงทางการค้ากับพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของเราในภูมิภาคนั้น (หมายถึงโคลัมเบีย - ผู้แปล) แต่เขาต้องการเจรจาโดยไม่มีเงื่อนไขกับอูโก ชาเวซ[24] ซึ่งเป็นผู้ที่สนับสนุนองค์การก่อการร้ายอย่าง FARC[25]


 


ผมเพิ่งบอกประโยชน์ของข้อตกลงการค้าเสรีกับโคลัมเบียไป เราจะประหยัดเงินไปเป็นพันล้านดอลลาร์ นำไปสร้างงานและธุรกิจในสหรัฐ และตลาดใหม่ๆ


 


ดังนั้นผมไม่คิดว่า จะมีคนสงสัยว่าวุฒิสมาชิกโอบามาต้องการจำกัดวงการค้าและขึ้นภาษี ประธานาธิบดีคนสุดท้ายที่ทำแบบนั้นคือเฮอเบิร์ต ฮูเวอร์ ซึ่งผลก็คือเราขยับจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ไปเป็นภาวะถดถอยครั้งใหญ่


 


ถ้าผมได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ผมจะไม่มีทางซ้ำรอยนั้น


 


 


 


จบตอนที่ 3 (โปรดติดตามตอนที่ 4)


 


 






เชิงอรรถ


19.  เป็นเมืองที่มีขนาดเป็นอันดับเจ็ดของรัฐเพนซิลวาเนีย


20.  ซาราห์ เพ-ลิน เป็นผู้ว่าการรัฐอลาสก้า ซึ่งไม่มีแผ่นดินต่อกับอีก 48 รัฐที่เหลือของสหรัฐ ชาวอลาสก้าเรียกรัฐเหล่านี้ว่า "lower 48″ หมายถึงอีก 48 รัฐที่อยู่ทางใต้ของอลาสก้า


21.  ลูกคนสุดท้องของเพ-ลิน ป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรม


22.  ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (North American Free Trade Agreement)


23.  เมืองดีทรอยต์ (Detroit) รัฐมิชิแกน เป็นต้นกำเนิดของอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก ในที่นี้หมายถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ของอเมริกา


24.  อูโก ชาเวซ (Hugo Chavez) ประธานาธิบดีของเวเนซูเอลา ซึ่งต่อต้านแนวทางของสหรัฐ


25.  กองกำลังปฏิวัติโคลอมเบีย (Revolutionary Armed Forces of Colombia) ตัวย่อ FARC มาจากชื่อในภาษาสเปนว่า Fuerzas Armadas Revolucionarias de Colombia


 


 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


การโต้วาทีของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาครั้งที่สาม (ตอนที่ 1), 25/10/2551


การโต้วาทีของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาครั้งที่สาม (ตอนที่ 2), 26/10/2551


การโต้วาทีของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกาครั้งที่สาม (ตอนที่ 3), 27/10/2551

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net