โพลล์ชี้ "คนกรุง" หนุนพันธมิตรฯ ลดลง ขออยู่ตรงกลางเพิ่มขึ้น

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง "ความพยายามของรัฐบาลในการสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติ" กรณีศึกษาเปรียบเทียบตัวอย่างประชาชนผู้ติดตามข่าวการเมืองในอินเทอร์เน็ตกับประชาชนผู้ไม่ใช้อินเทอร์เน็ตในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล  จำนวนทั้งสิ้น 2,487 ตัวอย่าง  ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1 - 6 พฤศจิกายน 2551 ผลสำรวจพบว่า ร้อยละ 30.4 ใช้อินเทอร์เน็ตติดตามข่าวการเมืองระดับมาก ในขณะที่ร้อยละ 21.1 ใช้อินเทอร์เน็ตบ้างในการติดตามข่าวการเมือง และร้อยละ 48.5 ไม่ได้ใช้อินเทอร์เน็ตเลย

 

ดร.นพดล กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศและการเติบโตของร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ กำลังทำให้ประชาชนทั่วไปในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าตัวเลขที่เคยค้นพบในช่วงที่สถานการณ์การเมืองไม่รุนแรงเข้มข้นเหมือนปัจจุบันที่เคยพบอยู่ประมาณร้อยละ 15 เท่านั้น แต่ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มถึงประมาณร้อยละ 50 เลยทีเดียวโดยเฉพาะในการติดตามข่าวทางการเมือง ซึ่งขณะนี้สำนักวิจัยฯ กำลังทำการสำรวจพฤติกรรมการรับข่าวสารทางโทรศัพท์มือถือและจะรายงานผลวิจัยให้สาธารณชนทราบในโอกาสต่อไป

 

แต่ประเด็นที่น่าพิจารณาคือ ความพยายามของรัฐบาลในการสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติในความรู้สึกของสาธารณชนที่ถูกศึกษาครั้งนี้ พบว่า เกือบครึ่งหรือร้อยละ 48.3 รู้สึกว่ารัฐบาลมีความพยายามเพียงเล็กน้อยถึงไม่มีเลยในการสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติ ในขณะที่ร้อยละ 15.5 ระบุรัฐบาลมีความพยายามระดับปานกลาง และร้อยละ 36.2 ระบุรัฐบาลมีความพยายามระดับมาก ถึงมากที่สุด และเมื่อวิเคราะห์ด้วยค่าคะแนนเฉลี่ยของความพยายามของรัฐบาลในการสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติเมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่า ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.40

 

นอกจากนี้ ดร.นพดล ยังกล่าวด้วยว่า ความคิดเห็นและท่าทีสนับสนุนของประชาชนที่ถูกศึกษาต่อการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร และกลุ่มผู้ไม่สนับสนุนพันธมิตร ลดลง จากร้อยละ 47.7 และร้อยละ 42.9 ในการสำรวจช่วงหลังเกิดเหตุ 7 ตุลาคม มาอยู่ที่ร้อยละ 26.3 และร้อยละ 29.6 ในการสำรวจครั้งล่าสุด แต่กลุ่มประชาชนส่วนมากกลับไปอยู่จุดยืนทางการเมืองจุดเดิมคือ ขออยู่ตรงกลางร้อยละ 44.1 ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี

 

และเป็นสัญญาณเตือนรัฐบาลด้วยว่า รัฐบาลต้องระวังไม่เป็นผู้สร้างเงื่อนไขทางการเมืองเพื่อหวังผลอะไรบางอย่าง โดยไม่คำนึงถึงคุณค่าความเป็นมนุษย์และชีวิตของประชาชน เพราะที่ผ่านมาเงื่อนไขทางการเมืองมักจะทำให้เกิดการเผชิญหน้าและการใช้ความรุนแรงของประชาชนสองฝักสองฝ่ายในสัดส่วนพอๆ กัน และจะเกิดความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศชาติ โดยประชาชนทั่วไปก็น่าจะคิดได้ด้วยว่า หากเกิดความเสียหายขึ้น แกนนำผู้ตัดสินใจของการเคลื่อนไหวทางการเมืองเหล่านั้นมักจะเอาตัวรอด แต่ประชาชนผู้ไปร่วมขบวนการด้วยความบริสุทธิ์ใจเลือกข้างเหล่านั้นมักจะตกเป็น "เหยื่อของความขัดแย้งรุนแรงทางการเมือง และสูญเสีย"

 

ที่น่าสนใจคือ ความรู้สึกของประชาชนต่อความพยายามของรัฐบาลในการสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติ เมื่อจำแนกออกระหว่างกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตติดตามข่าวการเมือง กับผู้ไม่ใช้อินเทอร์เน็ต พบว่า กลุ่มประชาชนที่ใช้อินเทอร์เน็ตติดตามข่าวการเมืองเกินครึ่งหรือร้อยละ 52.6 เห็นว่ารัฐบาลมีความพยายามน้อยถึงไม่มีเลยในการสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติ ซึ่งมากกว่ากลุ่มคนที่ไม่ใช้อินเทอร์เน็ตและคิดเช่นนั้นที่มีอยู่ร้อยละ 46.7

 

อย่างไรก็ตาม ที่น่าดีใจสำหรับประชาชนทั่วไปของคนทั้งประเทศคือ เมื่อถามถึงทางออกที่ดีที่สุดของปัญหาการเมืองขณะนี้ พบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 46.6 ระบุความรักความสามัคคีของคนในชาติ รองลงมาคือร้อยละ 37.8 ให้ยึดมั่นในกระบวนการยุติธรรม ใครถูกใครผิดว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม และที่เหลือร้อยละ 15.6 ระบุอื่นๆ ที่หลากหลายกันไปแต่ตัวเลขน้อยมากที่จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการสำรวจครั้งนี้ เช่น ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ยุติการชุมนุม ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ให้โอกาสรัฐบาลทำงานก่อน ไม่ยึดมั่นยึดติด ลดอคติต่อกัน เป็นต้น

 

ดร.นพดล กล่าวว่า ถ้าฝ่ายการเมืองและกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ ต้องการเสียงสนับสนุนจากสาธารณชนอย่างแท้จริง โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ควรแสดงวิสัยทัศน์ให้สาธารณชนทราบว่า ทางออกของปัญหาการเมืองที่ดีที่สุด และจับต้องได้เป็นรูปธรรมแท้จริงคืออะไร เพื่อหนุนเสริมขวัญกำลังใจของประชาชนให้มีแรงที่จะเดินก้าวต่อไปข้างหน้า โดยช่วยลดสภาวะความตึงเครียด ความกดดัน และอึดอัดกับบรรยากาศทางการเมืองในเวลานี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท