Skip to main content
sharethis


โดย ประชาไท ภาคใต้


 


 


นานทีหลายปีหนที่จังหวัดใหญ่ๆ ในภาคใต้อย่างสงขลา จะได้เป็นเจ้าภาพงานใหญ่อย่างการประชุมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 26 ระหว่างวันที่ 28 - 30 พฤศจิกายน 2551 ณ หอประชุมนานาชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา


แม่งานใหญ่ของงานอย่าง "ดร.สุรชัย จิตภักดีบดินทร์" ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา จึงต้องวิ่งวุ่นสาละวนอยู่กับการเตรียมงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด ยิ่งจะมีผู้หลักผู้ใหญ่ระดับประเทศหลายคน โดยเฉพาะ "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" นายกรัฐมนตรี จะมาร่วมงานนี้ด้วย จึงยิ่งต้องทุ่มแรงกายแรงใจให้มันมากที่สุด เขาจะทำอย่างไรในเมื่อรังใหญ่ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในสายใต้ก็อยู่ที่จังหวัดสงขลาด้วย



...........................................



             ตอนนี้การเตรียมความพร้อมของงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ได้เตรียมความพร้อมในทุกๆด้านพร้อมแล้ว แต่จะมีอุปสรรคอยู่หนึ่งเรื่อง ที่ยังเคลียร์ไม่ได้ 100% คือเรื่องการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย แต่คาดว่าทุกอย่างน่าจะเป็นไปได้ด้วยดี คิดว่าพูดคุยกันได้ คิดว่าทุกคนรักสงขลา คงอยากเห็นความเจริญก้าวหน้า และสิ่งดีๆเกิดขึ้นกับจังหวัดของพวกเขา ไม่ว่าจะให้ผมไปคุยกับพันธมิตรฯ อีกกี่ครั้งผมก็ยินดี จะคุยกับทุกท่าน ด้วยความเป็นในพื้นที่จังหวัดสงขลา ความเป็นคนรักแผ่นดินเกิดเหมือนกัน


วิธีการของหอการค้า คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้คนเห็นว่า เรามีศักยภาพในการจัดงานใหญ่ มีศักยภาพในด้านการค้า การลงทุน และการเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน การที่จะทำให้เขาเข้าใจเราอย่างถูกต้องได้ดีที่สุด คือ ต้องเชิญชวนให้เขาเข้ามาสัมผัสบรรยากาศ ในพื้นที่ด้วยตัวของเขาเอง จะได้เข้าใจว่า เรายังมีสิ่งดีๆให้เขามาสัมผัสอีกเยอะ ดังคำพูดที่ว่า สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น


หอการค้าจัดงานนี้เพื่อจังหวัดสงขลา และเพื่อจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เราได้รับผลกระทบมาจากสถานการณ์ความไม่สงบมากมาย คิดว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสดีที่เราจะแก้ภาพลักษณ์ตรงนี้ คนทั้ง 76 จังหวัดจะเดินทางมาที่นี้ แล้วเขาจะเห็นว่าจังหวัดสงขลา ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด


จากที่คุยกับพันมิตรมาแล้ว เรามีมุมมองที่ดีมาก เช่นเดียวกับส่วนอื่น เขายินดีมาที่เราได้เป็นเข้าภาพจัดงานนี้ ทุกหน่วยงานสนับสนุนงานนี้ รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา


การเป็นเจ้าภาพการสัมมนาครั้งนี้ มีความหมายกับจังหวัดสงขลามาก เพราะจะเป็นการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีๆของเรา ให้เขาอยากเข้ามาลงทุนค้าขายด้วย


ประเด็นยุทธศาสตร์หลักที่จะมีการนำเสนอในการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งนี้ คือโครงการสะพานเศรษฐกิจสงขลา-สตูล หรือแลนด์บริดจ์เรื่องเดียว เพราะการเสนอหลายๆเรือง ก็จะทำให้คนอื่นมองว่าเราจะเอาเรื่องอะไรกันแน่ เลยต้องจัดลำดับความสำคัญ โดยเอาเรื่องนี้เป็นเรื่องหลัก แล้วเรื่องอื่นจะตามมมา ส่วนเรื่องรองๆ ลงไป ได้แก่เรื่อง อินเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็ก มอเตอร์เวย์ เป็นต้น


การประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมที่จะมีการเสนอโดยภาพรวมทั่วประเทศ ซึ่งหอการค้าแต่ละจังหวัดได้เสนอโครงการมาหนึ่งโครงการ ดังนั้น หอการค้าจังหวัดสงขลาจึงเลือกที่จะเสนอเรื่อง แลนด์บริดจ์สงขลา - สตูล เป็นเรื่องหลัก เพราะโครงการนี้จะทำให้เศรษฐกิจภาคใต้ดีขึ้นเป็นการลดต้นทุน เพราการขนส่งสินค้าจากฝั่งอ่าวไทยไปยังฝุ่นทะเลอันดามัน ไม่ต้องอ้อมแหลมมะละกา  ซึ่งต้องใช้เวลาหลายวัน ค่าขนส่งสูง


ส่วนเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก้คือ ประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการแลนด์บริจด์สงขลา - สตูลแล้ว จะเกิดการค้าการลงทุนในพื้นที่ เพราะถ้าระบบโลจิสติกส์ดี การลงทุนในพื้นที่ก็จะมีมากขึ้น คนในพื้นที่ก็จะมีงานทำมากขึ้น คนมาลุงทุนมากขึ้น ถ้าภาคใต้เจริญ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็จะเจริญด้วย คนเมื่อไปรับการศึกษาดีขึ้น มีความเป็นอยู่ดีขึ้น มีความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยจากคนภาคกลาง ผมเชื่อว่าความไม่สงบจะค่อยๆ หายไปเอง  


ถามว่าจะแก้ไปได้ในพริบตาหรือไม่ ก็คงไม่ได้ เพราะปัญหานี้เกิดขึ้นมายาวนานเกินไป แต่ถ้าค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป หอการค้าเชื่อว่ามันก็จะดีขึ้น เมื่อเศรษฐกิจก็เชื่อว่าคนก็จะไม่ทำในเรื่องที่ก่อความไม่สงบ


เนื่องจากเราได้รับผลกระทบเหมือนกัน เราก็ต้องช่วย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะฉะนั้นจะมีบางบู๊ธใช้ชื่อว่า ร่วมใจหอการค้าแดนใต้ ก็คือ รวมของหอการค้า 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวมกัน นอกจากจะมีบู๊ธ 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งแสดงสินค้าชั้นหนึ่งของแต่ละจังหวัด


โครงการนี้ใช้งบประมาณประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งมาจากการสนับสนุนจากหอการค้าไทย จังหวัดสงขลา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เทศบาลนครหาดใหญ่ และจากผู้สนับสนุนรายอื่นๆ อีก


โครงการนี้ ไม่ใช่จะส่งผลดีเฉพาะจังหวัดสงขลา แต่หมายรวมถึงทุกจังหวัดในภาคใต้ เพราะถ้ามีการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึก มีการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ การวางท่องส่งน้ำมันได้ดิน รถไฟรางคู่ ก็จะทำให้เราสามารถลดต้นทุนในหารขนส่งสินค่าไปต่างประเทศได้มาก


โครงการ Land Bridge สงขลา-สตูล ผ่านการเห็นชอบจากการประชุมหอการค้าทุกจังหวัดในภาคใต้ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานในช่วงก่อนหน้านี้แล้ว แล้วเราก็จะเอาเรื่องนี้มาเป็นประโยชน์ เรื่องแรกทีคุยคือเรื่องนี้


ความคาดหวังตอนนี้ ต้องบอกก่อนว่ามันเหมือนกับการไปสู้คลื่นข้างนอก ข้างนอกคลื่นแรงเราอาจเซบ้าง แต่ต่อไปพอคลื่นสงบ แต่เรายังมั่นคง ต่อสู้อย่างเข้มแข็ง เราผ่านไปได้ เราก็จะเจอกับความสำเร็จได้ เราจะไม่หวั่นไหวกับสิ่งที่พยายามทำ


จุดเด่นหรือจุดขายของเราในการจัดสัมมนาครั้งนี้ฐานะเจ้าภาพ อยู่ที่การจัดสัมมนาครั้งนี้เป็นการจัดนอกสถานที่ ซึ่งปกติที่อื่นมักจะจัดที่โรงแรม ทำให้ดูน่าเบื่อ และไม่เห็นภาพของจังหวัด ผู้เข้าร่วม ประชุมเสร็จก็ขึ้นไปนอนบนโรงแรม ประชุมเสร็จก็เดินทางกลับ ไม่เห็นอะไรเลย


เราดึงคนมาเพื่อให้เห็นศักยภาพของเรา ดังนั้นงานนี้เราจะดึงสิ่งที่เป็นศักยภาพของเราทั้งมดมาโชว์ เช่น เรามีโรงไฟฟ้าจะนะ มีโรงแยกก๊าซไทย - มาเลเซีย นิคมอุตสาหกรรมฉลุง แท่นขุดเจาะน้ำมัน และลิกไนต์ที่สะบ้าย้อย มีความเหมาะอย่างไรในการค้าการลงทุน สิ่งเราหมายมั่นปั้นมือก็คือ ให้เขาเห็นถึงความปลอดภัยของจังหวัดสงขลา


นอกจากทั่วประเทศที่จะมาที่นี่แล้ว ประเทศเพื่อบ้านก็ให้ความสนใจงานนี้ด้วย วันแรก ท่าน ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ จะมาพูดถึงการค้าระหว่างประเทศ ในกรอบอาเซียน ฉะนั้นเรามีการเชิญหอการค้าประเทศเพื่อบ้านมาร่วมด้วย เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย เราเชิญไปประมาณ 20 ท่าน เราจะให้เห็นว่าเรามีความร่วมมืออะไรบ้าง นอกจากความร่วมมือที่มีอยู่แล้ว เช่น สามเหลี่ยมเศรษฐกิจ อินโดนีเซีย - มาเลเซีย - ไทย หรือ IMT - GT


คาดว่างานนี้จะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 1,200 คน จากทั่วประเทศ ครบทุกจังหวัด ไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องที่พักและอาหารการกิน เรามีเมนูร้อยอาหารร้อยรสชาติ มีโปรแกรมท่องเที่ยวที่ต่างๆ


วิทยากรที่เชิญมาทุกคนตอบรับที่จะเข้าร่วม แต่มีติดอยู่นิดหน่อยก็คือ มาแล้วจะได้รับการต้อนรับอย่างไร เพราะสี่ท่านที่จะมาก็มีรัฐมนตรีว่าการกระทวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทวงมหาดไทย ท่านผู้บัญชาการทหารบก ท่านเลขาธิการอาเซีย และท่านนายกรัฐมนตรี


ทุกท่านตอบรับมาแล้ว แต่ท่านถามเราว่าท่านจะมาได้มั้ยเท่านั้นเอง เหมือนกับท่านจะมาแล้ว แต่ท่านถามว่า แล้วไปแล้วจะได้กลับได้มั้ย ตอนนี้ยังไม่ให้คำตอบ เพราะต้องคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก่อน ซึ่งก็คิดว่าจะได้มาก เพราะเราลงทุนลงแรงกับเรื่องนี้มานาน เราไปต่อสู้กับเรื่องมาเพื่อให้เราเป็นเจ้าภาพ เพราะการเป็นเจ้าภาพ เป็นการประชาสัมพันธ์พื้นทีชายแดนภาคใต้เราไปสู่คนภายนอก หากเราทิ้งโอกาสนี้ไปแล้วจะมีวันไหนอีกที่หอการค้าสงขลาจะได้เป็นเจ้าภาพอีก


ทางท่านผู้ใหญ่ที่จะมาร่วมงานสัมมนาครั้งนี้ได้ยืนยันที่จะมาร่วมงานทุกท่าน ซึ่งในด้านเรื่องความปลอดภัย ผมได้ยืนยันไปแล้วว่าปลอดภัยแน่นอน เพราะผมและครอบครัวก็อยู่ที่นี่ ทำมาหากินที่นี่ไม่เห็นเป็นอะไร เพราะฉะนั้นท่านสามารถมาได้


มีประธานหอการค้าจังหวัดในภาคอื่นๆ หลายคนโทรศัพท์มาถามว่า จะปลอดภัยหรือเปล่า ผมก็บอกไปว่า ผมก็อยู่ที่นี่ ครอบครัวผมอยู่นี่ ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย เพราะฉะนั้นขอให้มาเถอะ จะได้เห็นว่าที่นี่ปลอดภัย เพราะถ้าน่ากลัวจริงๆ ผมย้ายออกไปนานแล้ว


ส่วนกรณีที่ท่าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก มาบรรยายพิเศษในงานนี้ด้วย เพราะท่านเสนอตัวมาเอง ซึ่งเรายินดีมาก ที่ท่านเสนอตัวมาก็เพราะท่านต้องการนำเสนอโครงการทำดีมีอาชีพ ต้องการนำเสนอเรื่องความสมานฉันท์ ท่านจะพูดเรื่องการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้มีความมั่นใจ เพราะท่านเป็นคนมาพูดเอง แต่ในการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่แล้วๆ มายังไม่เคยมีผู้บัญชาการทหารบกมาร่วมงานด้วยอย่างที่นี่


หลังจากการจัดงานสัมมนาครั้งนี้แล้ว คาดว่าจะมีนักลงทุนสนใจมาลงทุนในจังหวัดสงขลา แต่คิดว่าน่าจะยังไม่พอที่จะดึงนักลงทุนมาลงทุนได้ ดังนั้นหอการค้าสงขลาจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เขาเห็นว่าเรามีศักยภาพ สามารถจัดงานใหญ่ๆ ได้ โดยหลังจากงานนี้จะจัดงานมอเตอร์ โชว์, งานมันนี่ เอ๊กซโป จัดงานแต่งงานลอยฟ้า เป็นต้น เพื่อกระตุ้นให้เค้าเห็นศักยภาพของเราจะได้อยากเข้ามาลงทุน เรามีแผนไว้แล้ว


ในเรื่องการประชาสัมพันธ์นั้น หลังวันที่ 16 พฤศจิกายน 2551 หรือหลังงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนาฯ ทางหอการค้าจังหวัดสงขลา จะเดินหน้าประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่ทั่วประเทศ ผ่านทางสื่อต่างๆ เรามีแบนเนอร์ประมาณ 800 ชิ้น จะติดทั่วจังหวัดสงขลา ทั้งประเทศก็จะมีสปอตทางวิทยุประมาณ 400 สถานี จะมีการประชาสัมพันธ์ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ที่ผมจะไปให้สัมภาษณ์ อีกไม่จะนานนี้ผมจะออกรายการพิราบคาบข่าว รายการทางสถานีวิทยุชุมชน


วันก่อนก็มีผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ ASTV มาสัมภาษณ์ผมแล้ว ผมก็ได้บอกไว้ว่า อย่าเอามือตบผมแล้วกัน



 


.............................


 


 


กำหนดการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 26


ระหว่างวันที่ 28 - 30 พฤศจิกายน 2551


ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา


 


 














































วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2551


14.00 น.


บรรยายพิเศษ เรื่อง ภาคเอกชนไทยจะมีบทบาทอย่างไรในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดย ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน


15.45 น.


บรรยายพิเศษเครื่อง โครงการทำดีมีอาชีพ โดยพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก


18.00 น.


ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง นโยบายส่งเสริมการลงทุนภายใต้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทวงอุตสาหกรรม


วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2551


09.00 น.


พิธีเปิด โดย นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานหอการค้าไทย


กล่าวต้อนรับโดยนายสนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และ


นายสุรชัย จิตภักดีบดินทร์" ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา


กล่าวรายงาน โดยนายไพรัช บูรพชัยศรี กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย


10.00 น.


ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ความร่วมมือภาครัฐและเอกชนในการจัดทำแผนการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย


11.10 น.


บรรยายพิเศษเรื่อง การเสริมสร้างขีดความสารมารถของผู้ประกอบการไทยในเวทีระหว่างประเทศ โดย นายธนากร เสรีบุรี ประธานสภาธุรกิจไทย - จีน


13.00 น.


สัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย : เพื่อรองรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาค


กลุ่มที่ 1 เรื่อง การเตรียมความพร้อมของภาคเอกชนไทย ในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)


กลุ่มที่ 2 เรื่อง การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ การพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด : ภายใต้ความร่วมมือภาคเอกชน


กลุ่มที่ 3 โอกาสของประเทศไทยในการบริหารจัดการ : พลังงานทดแทน น้ำ และโลจิสติกส์


19.00 น.


ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง นโยบายการส่งเสริมภาคเอกชนไทยในเวทีการค้า การลงทุนโลก โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์


วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน 2551


10.20 น.


นายกรัฐมนตรี ประธานปิดการสัมมนาเดินทางถึงห้องประชุม


10.30 น.


กล่าวรายงานสรุปภาพรวมการสัมมนาหอหารค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 26 โดย นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานหอการค้าไทย


10.40 น.


นำเสนอผลการสัมมนาต่อนายกรัฐมนตรี โดยนายไพรัช บูรพชัยศรี กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย


มอบสมุดปกขาวแด่นายรัฐมนตรี โดยนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานหอการค้าไทย


11.00 น.


กล่าวปาฐกถาพิเศษและปิดการสัมมนาโดยนายกรัฐมนตรี


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net