Skip to main content
sharethis

เครือข่ายปัญญาชนสยามประกอบไปด้วยนักวิชาการ นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 100 คน ยื่นหนังสือขอ "ผบ.ทบ." ออกมายุติความรุนแรง ประธานสภาอาจารย์ จุฬาฯ บอกสมชายไม่มีความชอบธรรม ไฟเขียวให้ทหารปฏิวัติได้ ด้าน "นพ.ตุลย์" บอก ผบ.ทบ.เป็นความหวังปกป้องสถาบัน หลังยื่นหนังสือโผล่ "เวทีพันธมิตร" ต่อเรียกร้องจัดการสมชายให้ตายตก ใครไม่รักในหลวงถือเป็นพวกกลายพันธุ์ไม่ใช่คนไทย

 

เครือข่ายปัญญาชนสยามประกอบไปด้วยนักวิชาการ นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 100 คน ยื่นหนังสือขอ "ผบ.ทบ." ออกมายุติความรุนแรง ประธานสภาอาจารย์ จุฬาฯ บอกสมชายไม่มีความชอบธรรม ไฟเขียวให้ทหารปฏิวัติได้ ด้าน "นพ.ตุลย์" บอก ผบ.ทบ.เป็นความหวังปกป้องสถาบัน หลังยื่นหนังสือโผล่ "เวทีพันธมิตร" ต่อเรียกร้องจัดการสมชายให้ตายตก ใครไม่รักในหลวงถือเป็นพวกกลายพันธุ์ไม่ใช่คนไทย

 

"ปัญญาชนสยาม" ขอรถถัง

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน เวลา 11.30 น. บริเวณสนามฟุตบอล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เครือข่ายปัญญาสยามประกอบด้วยนักวิชาการ บุคลากรทางการแพทย์ ข้าราชการ นิสิต และประชาชนทั่วไป นำโดย ศ.นพ.ประมวล วีรุตมเสน ศาสตราจารย์เกียรติคุณคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และเครือข่ายประมาณ 100 คน รวมตัวกันเพื่อเดินขบวนไปยังกองทัพบก ถนนราชดำเนิน ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกมาดำเนินการยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยมีคณาจารย์ นักวิชาการ บุคลากรทางการแพทย์ นิสิต และประชาชนเข้าร่วมกว่า 100 คน ถือป้ายข้อความต่างๆ เช่น ยุติอำนาจรัฐเถิดท่าน ผบ.ทบ. ไม่ควรให้มีใครตายอีก ขอคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ แก้เพื่อซักฟอกใคร? นักศึกษาขอร่วมประณามการใช้ความรุนแรงของฝ่ายรัฐ เป็นต้น ทั้งนี้เวลา 11.30 น. กลุ่มเครือข่ายปัญญาสยามได้ส่งตัวแทนเข้ายื่นหนังสือดังกล่าวถึง ผบ.ทบ. โดยมี พล.ต.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล เลขานุการกองทัพบกเป็นผู้รับหนังสือแทน

 

"หมอตุลย์" บอกทหารควรออกมามีบทบาท

ผศ.นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ว่าเป็นความห่วงใยประเทศชาติ และร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องความถูกต้องเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม ความรุนแรงและปัญหาขัดแย้งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทหารควรมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นในประเทศชาติ และควรยึดมั่นในความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่ยึดคำสั่งของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

 

อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องให้ทหารออกมายุติความรุนแรง ไม่ได้เป็นการเชิญชวนให้ทหารออกมาปฏิวัติ แต่เป็นการให้ทหารออกมาแสดงบทบาทความถูกต้องอย่างต่อเนื่องและเป็นธรรม สร้างความสงบสุขให้แก่บ้านเมือง

 

"การเคลื่อนไหวของเครือข่ายปัญญาสยามยื่นหนังสือต่อ ผบ.ทบ.ในครั้งนี้ เป็นการเรียกร้อง 2 เรื่องหลักๆ ได้แก่ 1.ทหารควรออกมาแสดงจุดยืนที่แน่นอน และไม่ควรเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น รวมทั้งควรทำหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องเป็นธรรม อาทิ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องไม่ใช่เลื่อนออกไป แต่รัฐบาลชุดนี้ หรือชุดไหนๆ จะต้องไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง การกระทำดังกล่าวจะต้องไม่เกิดขึ้น 2.เมื่อทหารเป็นสถาบันหลักของประเทศชาติ ควรออกมาแสดงพลังในการทำหน้าที่เพื่อดำรงไว้ซึ่งประเทศชาติ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของประเทศ" ผศ.นพ.ตุลย์ กล่าว

 

 

ผบ.ทบ. เป็นความหวังของประชาชนปกป้องสถาบัน

ผศ.นพ.ตุลย์กล่าวอีกว่า การเคลื่อนไหวของเครือข่ายเป็นการกระทำเพื่อให้เกิดความชอบธรรม อะไรที่ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด อะไรถูกก็ต้องว่าไปตามถูก เครือข่ายไม่ได้มองว่ากลุ่มพันธมิตรถูก หรือรัฐบาลถูก แต่การกระทำที่ผ่านมาของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี รัฐบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่สามารถให้ความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนได้ ผบ.ทบ.จึงเป็นความหวังของประชาชนในการแสดงบทบาทปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปกป้องชีวิตของประชาชน โดยต้องกำจัดต้นตอแห่งปัญหาด้วยวิธีการที่เหมาะสม หาก ผบ.ทบ.หรือทหารไม่กระทำการใดๆ หลังจากเรียกร้อง เครือข่ายจะดำเนินการเรียกร้องไปยังศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรม ยุติความรุนแรง

 

 

ประธานสภาคณาจารย์ จุฬาฯ บอกสมชายไม่มีความชอบธรรม

รศ.ดร.พอพันธ์ วัชจิตพันธ์ ประธานสภาคณาจารย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ขณะนี้นายสมชายไม่มีความชอบธรรมที่จะเป็นผู้นำประเทศอีกต่อไป อีกทั้งระบบรัฐสภาตอนนี้กลายเป็นเผด็จการรัฐสภา มุ่งแต่แก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง ดังนั้นจึงมองว่าควรจะมีใครสักคนที่เข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ให้ประชาชนได้แล้ว ถามว่าทำไมไม่เป็นตำรวจ ขอบอกว่าเราไม่ไว้ใจตำรวจ และคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ทหารควรออกมาทำอะไรสักอย่าง

 

"ทหารต้องออกมาได้แล้ว ทำอะไรก็ได้ จะปฏิวัติก็ได้ แต่คุณต้องออกมาทำหน้าที่รักษาความสงบให้แก่บ้านเมือง เราเป็นกลุ่มที่อยู่ฝ่ายถูกต้องและจากนี้จะสร้างคนอีกกลุ่มหนึ่งเพื่อกดดันคนที่มีอำนาจ และยังไม่ทำอะไรให้ออกมาทำอะไรได้แล้ว" รศ.ดร.พอพันธ์กล่าว

 

 

นิสิตบอกทุกคนโยนความผิด เรียกร้องขอความสงบสุขจากทหาร

ด้านตัวแทนนิสิต จุฬาฯ หนึ่งในเครือข่ายปัญญาสยามกล่าวว่า ความขัดแย้งรุนแรงที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นการโยนความผิดให้แก่กันและกัน กลุ่มพันธมิตรโยนความผิดให้รัฐบาล ในขณะที่รัฐบาลก็โยนความผิดให้พันธมิตร กลุ่มตัวแทนนิสิต นักศึกษา จึงควรออกมาแสดงจุดยืน เพื่อยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้น การที่เหล่านิสิต คณาจารย์ และนักวิชาการ ออกมาเรียกร้อง ขอความสงบสุขจากทหาร ไม่ได้ต้องการให้เกิดการปฏิวัติ แต่หากมีการปฏิวัติจริงๆ แล้วทำให้ประเทศไทยสงบสุขขึ้น น่าจะเป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้นได้ เพราะตอนนี้หากไม่มีการดำเนินการใดๆ จากทหาร ประเทศไทยคงต้องวุ่นวายต่อไปไม่จบไม่สิ้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนิสิต นักศึกษานั้น การเคลื่อนไหวทางการเมือง ไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไหนก็แล้วแต่ อยากให้คำนึงถึงจุดยืนของพลังนิสิต นักศึกษา อย่าตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใคร

 

"ตอนนี้นิสิต นักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ในการเรียกร้องยุติความรุนแรงนั้น ส่วนมากเป็นนิสิต นักศึกษา ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มแกนนำ สโมสรนิสิต นักศึกษา ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้เห็นได้ว่า สังคมเปลี่ยนแปลงไป คนที่ได้รับหน้าที่ในการดูแล เป็นตัวแทนของนิสิต นักศึกษาไม่ได้สนใจเรื่องการเมือง ประเทศชาติ สนใจแต่ประโยชน์ของตนเอง อันเป็นสิ่งที่ส่อให้เห็นถึงอนาคตของประเทศชาติว่าเป็นอย่างไร ผมในฐานะนิสิตจุฬาฯ คนหนึ่ง จึงอยากให้เพื่อนนิสิต นักศึกษา ออกมาแสดงพลังของตนเองเพื่อความถูกต้อง และความสงบของประเทศชาติ ไม่ใช่จมอยู่กับเรื่องของตนเอง" ตัวแทนนิสิตจุฬาฯ กล่าว

 

 

เลขานุการกองทัพบกบอกตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ ทหารจะทำตามกรอบ

พล.ต.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล เลขานุการกองทัพบก กล่าวว่า ผบ.ทบ.ไม่ได้นิ่งนอนใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่สถานการณ์ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นฝ่ายเดียวที่จะเข้ามาดำเนินการ ส่วนทหารได้ส่งกำลังไปเสริมตามการร้องขอของตำรวจ ซึ่งทหารได้เตรียมพร้อมเข้ามาดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากัน ซึ่งท่านย้ำเสมอว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียเกิดขึ้นอีกเป็นอันขาด

 

อย่างไรก็ตาม ทหารจะต้องทำหน้าที่ตามกรอบที่มีอยู่ เพราะถ้าอยู่นอกเหนืออำนาจของทหาร หรือจะทำโดยพลการคงเป็นเรื่องยาก เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปขั้นตอน ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ได้ย้ำว่า จะอยู่กับประชาชนส่วนใหญ่โดยไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และจุดยืนของกองทัพก็ทำเพื่อประชาชนอย่างแน่นอน

 

 

เสร็จงานปัญญาชนสยาม "หมอตุลย์" โผล่ พธม. ต่อเรียกร้องจัดการสมชายให้ตายตก

โดยหลังจากยื่นหนังสือแล้ว นพ.ตุลย์ หนึ่งในเครือข่ายปัญญาสยามได้เดินทางไปปราศรัยกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภายในทำเนียบรัฐบาลต่อ ในเวลาประมาณ 14.57 น. โดยการปราศรัยปลุกเร้าผู้ชุมนุมโดย นพ.ตุลย์ เป็นไปอย่างเผ็ดร้อน ในตอนหนึ่ง นพ.ตุลย์กล่าวว่าสมชายติดคุกก็ไม่พอ เพราะคนที่สั่งให้คนอื่นตายจะต้องตายตกไปตามกัน เมื่อเขาออกจากตำแหน่งแล้ว ต้องถูกพิจารณาโทษอย่างเด็ดขาด

 

นอกจากนี้ นพ.ตุลย์ ยังกล่าวว่า ถ้าพูดภาษาหมอ ความรักชาติและรักในหลวงอยู่ใน DNA ของคนไทยเท่านั้น ชาติอื่นไม่มี แต่ที่น่าเสียใจคือเดี๋ยวนี้มันมีคนไทยกลายพันธุ์เหลือเกิน ตรวจ DNA แล้วมันไม่รักในหลวง เพราะฉะนั้นคนกลายพันธุ์เหล่านี้ เราอย่าเรียกว่าคนไทยอีกต่อไป

 

ผมขอเรียกร้องให้พวกที่รักทักษิณอยู่ เมื่อกลับบ้านไปดูว่ามีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถอยู่หรือไม่ ถ้ามี ขอให้กราบขอพระราชทานอภัยโทษและว่าคุณหลงผิดไปที่ไปหลงเชื่อคนที่หลบหลู่ในหลวง ถ้าคุณกำลังสนับสนุนคนที่บังอาจล้มล้างสถาบันกษัตริย์ นั่นคือคุณกำลังสนับสนุนการล้มล้างสถาบันกษัตริย์ด้วยตัวของคุณเอง คุณควรจะอัญเชิญพระรูปไปไว้ที่บ้านอื่นได้แล้ว เพราะพระรูปนั้นไม่ควรอยู่ในบ้านของคุณอีกต่อไป [ฟังการปราศรัยที่นี่]

 

 

ม.สุรนารีเอาบ้างเรียกร้องสมชายลาออก ขอรัฐบาลแห่งชาติ

วันเดียวกัน ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี นครราชสีมา (มทส.นม.) เมื่อเวลา 13.30 น. รศ.ดร.ทวิช จิตรสมบูรณ์ อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้อ่านแถลงการณ์ พร้อมกลุ่มคณาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี รวม 36 คน ระบุว่า การที่รัฐบาลได้ลุแก่อำนาจใช้กำลังตำรวจเข่นฆ่าทำร้ายประชาชนจำนวนมาก เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา ล่าสุดได้ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้เกิดการลอบทำร้ายประชาชนผู้ชุมนุมโดยสันติด้วยระเบิดที่ยิงมาจากระยะไกล เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน โดยหลังเกิดเหตุแล้วก็มิได้กระทำการอย่างเต็มที่ เพื่อสอบสวนจับกุมผู้กระทำผิด รวมทั้งการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุอีก กลับปล่อยให้เกิดการยิงระเบิดซ้ำสองเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน

 

นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้กระทำการอันมิชอบ และละเว้นการกระทำการอันชอบอีกหลายกรณี เช่น การไม่ยกเลิกพาสปอร์ต เดินทางของผู้หลบหนีคดีอาญาแผ่นดิน ซึ่งเป็นญาติสนิทกับนายกรัฐมนตรี พวกเรา "กลุ่มคณาจารย์ มทส. เพื่อสร้างสรรค์การเมืองใหม่" (ม.เทคโนโลยีสุรนารี นครราชสีมา) จำนวน 36 คน ขอแสดงจุดยืนเพื่อเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมดังนี้

 

1.ขอประณามนักการเมืองที่ใช้วิธีการอันไม่บริสุทธิ์เพื่อเข้ามาสู่ตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของความขัดแย้งและความด้อยพัฒนาของสังคมไทยมาจนถึงวันนี้

 

2.ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ลาออกทั้งคณะ เนื่องจากหมดความชอบธรรมและสมรรถภาพในการบริหารประเทศแล้ว เพราะได้กระทำความผิดร้ายแรงสะสมไว้หลายกรณี รวมทั้งกรณีทำร้ายและเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ และปล่อยให้เกิดการลอบทำร้ายอีกหลายครั้ง

 

3.เพื่อเป็นการไถ่บาปแห่งการกระทำผิดของตน และเพื่อจักได้รับการให้อภัยบางส่วนจากประชาชน ภายหลังจากการลาออกดังกล่าวแล้ว ควรกราบบังคมทูลขอรับพระราชทานรัฐบาลแห่งชาติ จากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามกรอบแห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อบริหารประเทศเป็นการชั่วคราว นำไปสู่การปฏิรูปการเมือง โดยคณะกรรมการอิสระ เพื่อสร้างสรรค์ประเทศไทยให้เป็นสังคมอารยะต่อไป พวกเราขอยืนหยัดร่วมต่อสู้กับประชาชนโดยสันติ เพื่อนำความถูกต้องสู่สังคมไทยตลอดไป

 

 

 

.........................

ที่มา: เรียบเรียงบางส่วนจาก คมชัดลึก เอเอสทีวี และบ้านเมือง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net