ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2551

การเมือง

ปลัดกลาโหมฮึ่ม!พันธมิตรเลิกบีบให้ "ปฏิวัติ" บอกยิ่งทำให้เลวร้ายขึ้น "บิ๊กป๊อก" ยันมติ 3 เหล่าทัพไม่ทำแน่

มติชน - ที่โรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์ ถนนวิทยุ เครือข่ายปัญญาสยาม แถลงข่าวเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก และขอให้กลุ่มพันธมิตรยุติการชุมนุม โดยนายสมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ อธิการบดีสถานบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายฯ กล่าวว่า หากสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้อยู่ต่อไป จะยิ่งรุนแรงขึ้น เครือข่ายฯจึงขอเสนอ 2 ข้อ คือ 1.ให้รัฐบาลลาออก 2.กลุ่มพันมิตรยุติการชุมนุม หลังจากนี้จะเสนอเอกสารต่อรัฐบาลและพันธมิตรต่อไป

 

พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ สมาชิกเครือข่ายฯ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการรัฐประหารยุติปัญหาเหมาะสมหรือไม่ว่า คงไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศในขณะนี้ เชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้น เมื่อปัญหาเกิดขึ้นจากการเมืองควรแก้ไขด้วยการเมือง การทำรัฐประหารขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสถานการณ์และ ผบ.เหล่าทัพในขณะนั้น

 

วันเดียวกัน พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ ถึงจุดยืนกองทัพต่อการสถานการณ์การเมืองและการปิดล้อมสถานที่สำคัญๆของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า แนวทางออกที่ผู้บัญชาการ (ผบ.)เหล่าทัพพูดคุยกัน ไม่ใช่ว่าไม่ห่วงสถานการณ์ หรือชาติบ้านเมือง สิ่งที่ ผบ.เหล่าทัพคิด คือพยายามอดทน อดกลั้น และยอมเจ็บพอสมควร ถ้าทำตามกลุ่มพันธมิตรที่ต้องการให้ทหารออกไปทำอะไร ยิ่งทำให้ชาติบ้านเมืองถอยหลังลงคลองและเลวร้ายไปอีก ผบ.เหล่าทัพคุยกันว่าอยากเห็นบ้านเมืองก้าวหน้ามากกว่าจะเห็นนานาประเทศบอยคอตไทย ยิ่งกลายเป็นปัญหา

 

"ผมไม่อยากให้กลุ่มพันธมิตรบีบผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะจะทำให้ชาติบ้านเมืองยิ่งเลวร้ายหนักลงไปอีก อยากขอร้องอย่าไปกดดัน ผบ.ทบ. เพราะไม่มีประโยชน์ และไม่มีอะไรดีขึ้น สิ่งที่กลุ่มพันธมิตรกล่าวหาว่า ทหารไม่ทำอะไร แต่สิ่งที่ทหารทำอยู่ถือว่ายิ่งใหญ่กว่าที่เขาเรียกร้อง เพราะความอดทนไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายๆ ดังนั้นอย่าบีบให้เราต้องมาทำในสิ่งที่เราคิดว่าไม่ใช่เป้าหมายของประเทศชาติ" ปลัดกระทรวงกลาโหมกล่าว

 

พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า เชื่อว่ากลุ่มพันธมิตรต้องการเอาระบบการเมืองใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหา เป้าหมายคือต้องการความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติ ไม่อยากเห็นการคอร์รัปชั่นการทุจริต สิ่งที่ต้องการ ทุกฝ่ายคิดเหมือนกัน แต่วิธีดำเนินการไม่เหมือนกัน เชื่อว่ายังสามารถคุยกันได้ ทางออกที่ดีที่สุดคือการเจรจาทั้ง 2 ฝ่าย ถอยกันคนละก้าวมาพูดคุยหาทางออกให้บ้านเมือง หรือหาคนกลางช่วยกันพิจารณาทางออก ขณะนี้ดูอยู่ว่าจะหาใครมาเป็นคนกลาง

 

พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า ตนกับ ผบ.เหล่าทัพหารือคุยกันตลอดเวลา ซึ่งทุกคนคิดเหมือนกัน เจตนารมณ์การทำงานของกองทัพ ยึดมั่นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติ ราชบัลลังก์ และประชาชน ทำทุกอย่างให้ประเทศชาติมั่นคงตามอำนาจหน้าที่ในรัฐธรรมนูญ ผู้สื่อข่าวถามว่า กองทัพจะปล่อยให้ชุมนุมต่อไปเรื่อยๆ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ไม่ใช่ ปัญหาของประเทศคือการแก้ไขโดยบุคคลรับผิดชอบ ขณะนี้ทุกคนเอาทุกอย่างมารวมกัน แล้วกำหนดให้เป็นหน้าที่ทหาร เมื่อถามต่อไปว่า ยืนยันจุดยืนเดิมหรือไม่ว่ากองทัพจะไม่ปฏิวัติ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า "ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน อยากถามว่าต้องการให้ทหารออกมาปฏิวัติอีกเหรอ"

 

ด้าน พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า กองทัพมีจุดยืน 3 ประการ 1.ดูแลปกป้องสถาบันหลักของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2.ในฐานะที่เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน รับมอบหมายให้ดูแลความสงบเรียบร้อย ต้องการให้บุคคลที่มีความขัดแย้ง ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ว่าเป็นฝ่ายใด ไม่ให้ประชาชนบาดเจ็บ 3.การดำเนินการใดควรเป็นไปตามครรลองของกฎหมาย หรือกระบวนการยุติธรรมเป็นหลัก ซึ่ง ผบ.เหล่าทัพ ยึดแนวทางใน 3 ประการ เพราะไม่อยากให้ใช้ความรุนแรง ให้ใช้ความสุขุมรอบคอบ สันติวิธี

 

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวถึงการดูแลการชุมนุมว่า มีแผนเตรียมไว้รองรับ แต่ขณะนี้ยังไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะเกิด แต่ให้กำลังเตรียมพร้อมไว้แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากให้กระแสสังคมตัดสินการชุมนุม แต่กองทัพอยู่เฉยๆ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ผบ.เหล่าทัพคุยกัน และยืนยันว่าสถานการณ์ขณะนี้อยู่ในสถานะที่เป็นการแสดงความคิดเห็น ไม่มีความรุนแรง กองทัพเห็นตรงกันในจุดยืน 3 ประการ

 

เมื่อถามว่า แสดงว่าทหารจะไม่ใช้การปฏิวัติอย่างที่หลายฝ่ายเรียกร้อง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ทุกเหล่าทัพเห็นตรงกันว่าการปฏิวัติเป็นแนวทางอื่น ยังไม่น่าที่จะแก้ไขปัญหาประเทศได้ ทุกส่วนและทุกเหล่าทัพเห็นตรงกันว่าจะยึดแนวทางหลัก 3 ประการ เพื่อประคองให้สถานการณ์ประเทศชาติ ผ่านวิกฤติไปได้

 

ขณะที่ พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า กองทัพบกสั่งให้กองทัพภาคที่ 1 ติดตามสถานการณ์ความปลอดภัยไม่ว่าเหตุลอบทำร้าย หรือผู้ไม่ประสงค์ดี หรือเหตุการณ์ใดก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดการแทรกแซง มีสารวัตรทหาร 3 เหล่าทัพวางกำลังร่วมกับตำรวจ 14 จุดในพื้นที่สำคัญ

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมองว่าหากทหารจะออกมาปฏิวัติ จะพุ่งเป้าไปที่แม่ทัพภาคที่ 1 และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก พล.ท.คณิต ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม เมื่อถามว่า แสดงว่าต้องรอให้ ผบ.ทบ.สั่งใช่หรือไม่ พล.ท.คณิต ชี้นิ้วขึ้นฟ้า พร้อมกล่าวว่า "ทหารไม่ได้มีแค่ ผบ.ทบ.ท่านเดียว"

 

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า ไม่ใช่เฉพาะกองทัพบกที่จะทำการปฏิวัติได้ใช่หรือไม่ พล.ท.คณิต ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม

 

 

รองฯโอฬารวอนพธม. ปิดล้อมสนามบินชาติเสียหาย [26 พ.ย. 51 - 00:30]

ไทยรัฐ - นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมปิดล้อมท่าอากาศยานดอนเมือง และ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า เป็นการกระทำที่กระทบต่อประเทศชาติแน่นอน ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจประเทศที่จะเสียหาย ธุรกิจการบินการท่องเที่ยวและความเชื่อมั่น เพราะสนามบินถือเป็นหน้าตาของประเทศ

 

"การกระทบต่อนักท่องเที่ยวทำให้เดินทางเข้า-ออกไม่สะดวกจะเกิดผลเสียเป็นอย่างมาก ขอภาวนาให้กลุ่มพันธมิตรฯ เห็นแก่ประเทศชาติ" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

 

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่กระทำได้แต่ต้องอยู่ในกรอบที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทั่วไป และช่วงบ่ายวันที่ 26 พ.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่กองบัญชาการกองทัพไทย

 

 

"ศรีเมือง-ไชยา"ลาออกส.ส."พปช."รับยุบพรรค

มติชน - ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงผลการประชุมพรรคพลังประชาชนประจำสัปดาห์ ว่าที่ประชุมได้ซักซ้อมและเตรียมพร้อมในการเข้าประชุมสภาฯ 2 นัดสุดท้ายก่อนปิดสมัยการประชุม ซึ่งคิดว่าเป็นภารกิจสำคัญในการเข้าไปพิจารณากฎหมายอีกหลายฉบับที่ค้างอยู่ นอกจากนั้น ที่ประชุมยังได้รับทราบความคืบหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายที่ไปต่อสู้คดียุบพรรค ซึ่งสัปดาห์หน้าศาลรัฐธรรมนูญจะนัดทุกพรรคที่มีคดีไปตกลงขั้นต้นเกี่ยวกับกรอบในการพิจารณาคดี โดยได้เตรียมบัญชีพยานไปยื่นเพื่อเบิกความเพิ่มเติมด้วย

 

ร.ท.กุเทพกล่าวถึงกรณีที่นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลาออกจาก ส.ส.สัดส่วน ว่าเป็นยุทธศาสตร์ของพรรคพลังประชาชน ที่จะให้คนที่มีภาระเปิดทางให้สมาชิกคนอื่นๆ ขึ้นมาเป็น ส.ส.มากขึ้น และเป็นการเตรียมรับทางการเมืองที่พรรคพลังประชาชนอาจจะต้องถูกสั่งให้ยุบพรรค ด้วยการให้รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.สัดส่วน และเป็นกรรมการบริหารพรรคทยอยลาออกจากตำแหน่งเพื่อรักษาจำนวนสมาชิกในสภา โดยผู้ที่จะเลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.แทนนายไชยา คือนายเรวัติ ศิรินุกูล ผู้สมัคร ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 7

 

นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า นายศรีเมือง เจริญศิริ ส.ส.สัดส่วน กลุ่ม 3 พรรคพลังประชาชน ได้ส่งตัวแทนมายื่นหนังสือลาออกต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรและลงเลขรับว่ายื่นหนังสือลาออกเวลา 15.00 น. โดยไม่ได้แจ้งเหตุผล โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน เป็นต้นไป สำหรับบุคคลที่จะเลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.แทน คือ นายชัยวัฒน์ กุลศักดิ์วิมล

 

 

ปล่อยตัวชั่วคราว6การ์ดพธม.ยึดรถเมล์สาย53-นัดรายงานตัว25ธ.ค.

มติชน - ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ว่า พนักงานสอบสวนมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว การ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จำนวน 6 ราย ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาถูกตำรวจจับกุมตัว ขณะยึดรถประจำทางสาย 53 เหตุเกิดบริเวณแยกวิสุทธิกษัตริย์ โดยจะนำไปรับส่งผู้ร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ที่เข้าปิดล้อมรัฐสภาในช่วงเช้ามืด เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) ทั้งนี้ ให้มารายงานตัวเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมในวันที่ 25 ธ.ค. เวลา10.00 น.อีกครั้ง ก่อนที่จะดำเนินการส่งฟ้องศาลต่อไป

 

 

ปชป.จวก"ทักษิณ"โจมตีอังกฤษ พาดพิงสถาบัน-ใช้คำพูดไม่เหมาะ

กรุงเทพธุรกิจ - นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อดูไบ ยืนยันจะกลับมาเล่นการเมือง โดยมีการพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูง และโจมตีรัฐบาลอังกฤษ ที่เพิกถอนวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ และภริยา ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พูดจาไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ทั้งการโฟนอินและการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ เพราะการที่พูดถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่บังควรอย่างยิ่ง

 

"คนที่เป็นนายกฯ มาแล้วไม่ควรจะพูดจาเช่นนี้ ผมยืนยันในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทย ในฐานะที่เป็นคนไทยเป็นพสกนิกรไม่อยากให้พูดจาก้าวก่ายล่วงล้ำไปถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นที่เคารพรัก"

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์โจมตีรัฐบาลอังกฤษเกี่ยวกับการถอนวีซ่า คิดว่ารัฐบาลไทยควรจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลไทยก็เป็นลูกน้อง พ.ต.ท.ทักษิณ จะไปบอกว่าควรทำอย่างไรคงไม่ได้ เพราะเขาคงไม่ฟังเรา ฟังแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเดียว ซึ่งเรื่องนี้ต้องคอยดูต่อไป ว่าเขาจะทำอย่างไร

 

นายสุเทพ ยังกล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุจะกลับมากอบกู้เศรษฐกิจ และช่วยเหลือคนยากจนว่า ตนไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะมากอบกู้เศรษฐกิจ หรือมาช่วยคนจนได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้พิสูจน์แล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กอบโกยไปจากประเทศนี้มากมาย มีคดีฉ้อโกงติดอยู่ในศาลมากมายและหนีคดีด้วย การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาพูดเช่นนี้ ถือเป็นการเอาดีเข้าตัวเท่านั้น จึงไม่น่าเป็นที่ไว้วางใจและเชื่อถือ

 

ด้าน นายกษิต ภิรมย์ รองนายกรัฐมนตรี (เงา) พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ วิพากษ์วิจารณ์ประเทศอังกฤษกรณีเพิกถอนวีซ่า ไม่เคารพประชาธิปไตย ว่า อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าใจว่าโดยหลักการถอนวีซ่าไม่ใช่อยู่เฉยๆ และจะมาถอน แต่ต้องมีหลักการและเหตุผล

 

โดยพบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีหลักฐานแน่ชัดว่ากระทำผิดกฎหมายไทย ในคดีการซื้อที่ดินจนศาลฎีกาพิพากษาจำคุก และในแง่มารยาททางการเมือง อังกฤษก็ไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ประเทศ เพื่อต่อสู้ทางการเมืองกับประเทศไทย เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เล่นการเมืองแบบไม่มีมารยาท ดังนั้นอังกฤษจึงต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม โดยการไม่ให้เข้าประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นการตัดปัญหาเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ที่อัยการและกระทรวงการต่างประเทศได้ส่งหนังสือไปยังอังกฤษเพื่อขอให้ส่งตัวกลับ ที่สำคัญเป็นการตัดประเด็นในเรื่องการขอลี้ภัยทางการเมือง ที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งหมดนี้เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า อังกฤษต้องการล้างมือ ไม่ต้องการยุ่งกับ พ.ต.ท.ทักษิณ อีก เพราะเชื่อว่าไม่มีวันที่จะหยุดเล่นการเมือง

 

"อย่าไปเชื่อคำพูดของคนบ้า หาสาระไม่ได้ การกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการตีโพยตีพาย เพราะอังกฤษก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย คนที่เคยเป็นถึงอดีตนายกฯ และคุยนักคุยหนาว่าเป็นที่ยอมรับในเวทีโลก แต่กลับมาพูดจาบ้าๆ บอๆ ไร้ความเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เหมือนเด็กทารกที่ขี้แพ้ชวนตี ไม่รู้จักโต" นายกษิต กล่าว

 

รองนายกรัฐมนตรี (เงา) กล่าวว่า คนที่เคยเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี แต่ไปด่าทออีกประเทศหนึ่ง โดยมารยาททางการเมืองหรือโดยระดับรัฐบุรุษ ผู้นำระดับชาติไม่มีใครทำแบบนี้แน่ ดังนั้นจึงอยาก ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พิจารณาตัวเองว่าทำอะไรไว้บ้าง อังกฤษ ไม่ใช่ประเทศการ์ตูนที่คิดว่าไม่ชอบหน้า พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วถอนวีซ่า ทุกอย่างต้องมีเหตุผล เพราะอังกฤษก็มีทูตประจำประเทศไทย พูดภาษาอังกฤษเก่งด้วย ดังนั้นจึงเข้าใจ รับรู้และรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

 

ส่วนกรณีที่นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ระบุผ่านรายการความจริงวันนี้ ที่วัดสวนแก้ว มีระดับอดีต รมว.ต่างประเทศของไทยไปล็อบบี้อังกฤษ เพื่อแลกกับประโยชน์ที่ภูเก็ต นายกษิต กล่าวว่า ไม่มีใครหรือระดับ อดีต รมว.ต่างประเทศ ที่จะทำแบบนั้นได้ ไม่มีใครไปบังคับรัฐบาลอังกฤษได้

 

"การกระทำของพวกนี้เป็นการโกหกชาวบ้านไปวันๆ ไม่รู้ข้อเท็จจริง เป็นการชักแม่น้ำเน่าทั้งห้าเท่านั้น เพราะตามหลักความจริงไม่มีเหตุผลที่ไทยต้องไปล็อบบี้อังกฤษให้ถอนวีซ่า สถานทูตอังกฤษก็อยู่ที่ประเทศไทย ซึ่งรู้ดีว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทำผิดกฎหมายจึงต้องถอนวีซ่าในที่สุด"

 

 

สุขุมพันธุ์หาเสียงนัดแรก-ท้าปลื้มลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.

ไทยรัฐ - ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่แนะนำตัวเป็นครั้งแรกด้วยการพบปะประชาชนในย่านเยาวราช ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมที่เคยเป็น ส.ส.เขต โดยมี ม.ล.อภิมงคล โสณกุล ส.ส.กรุงเทพฯ ร่วมคณะด้วย โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เริ่มด้วยการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มูลนิธิเทียนฟ้าก่อนจะเดินเท้าจากมูลนิธิเทียนฟ้าไปถึงเวิ้งนาครเขษม โดยมีการทักทายพูดคุยกับประชาชนอย่างคุ้นเคยและเมื่อแวะร้านขายกวยจั๊บก็โชว์ลีลาการสับหมูกรอบและปรุงอาหารในร้านด้วย

 

ทั้งนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ย.นี้ จะยื่นใบลาออกจากการเป็น ส.ส. ต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขณะนี้มีความพร้อมแล้วกับการลงพื้นที่หาเสียงในการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ก็กังวลทุกเรื่อง แต่การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งล่าสุด ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนนจากประชาชนเป็นอันดับ 1 ทั้ง 50 เขต

 

สำหรับแนวทางการหาเสียงของตนจะเน้นการเคาะประตูบ้านเข้าถึงประชาชน พร้อมกับแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะมีเวทีปราศรัย และการแห่ผู้สมัครเพื่อเข้าถึงคนกรุงในทุกพื้นที่ โดยจะชี้ให้คนกรุงเห็นว่าตนพร้อมจะทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และจะนำประสบการณ์มาทำประโยชน์ให้กับคนกรุงเทพฯ

 

ต่อข้อถามถึงกรณีที่ ม.ล.ณัฎฐกรณ์ เทวกุล หรือปลื้ม ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ อาจอายุมากเกินไป ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ตนอายุ 56 ปี แต่ยังมีความพร้อมและแข็งแรง สำหรับตนไม่ว่าใครจะลงสมัครก็ไม่สน ขอแค่ทำหน้าที่ด้วยความสุจริต ถ้าเป็นคนหนุ่มก็ขอให้มีคุณภาพเท่าตนแล้วกัน

 

"ปลื้ม เป็นหลานชายผม ผมไม่อยากพูด ขอให้หลานออกมาสมัครได้เลย แต่ขอให้มีคุณภาพเท่าผมแล้วกัน ผมเป็นรุ่นเดียวกับพ่อปลื้ม ผมไม่จำเป็นต้องคุยกับปลื้ม" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการหาเสียงของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ในการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์เตรียมมอบให้นายกรณ์ จาติกวณิช และนายประกอบ จิรกิติ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. คุมแผนการหาเสียงครั้งนี้

 

 

ประภัสร์-กิตติรัตน์-มิ่งขวัญ ชิงลงผู้ว่าฯกทม.สังกัด พปช.

ไทยรัฐ - น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชาชน ในฐานะโฆษกภาค กทม. กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้พิจารณาและส่งรายชื่อบุคคลให้คณะผู้บริหารระดับสูงของพรรคไปพิจารณาแล้ว ซึ่งมีรายชื่อมากกว่า 1 คน จะรอให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชาชน พิจารณาตัดสินใจ พร้อมประกาศตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.อย่างเป็นทางการ คาดว่าคณะผู้บริหารพรรค จะประชุมได้ภายหลังจากนายสมชายเดินทางกลับจากประเทศเปรู

 

"เราได้ทำความเข้าใจกับผู้ที่มีรายชื่อเสนอลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ว่า ไม่ว่าใครได้รับเลือกบุคคลที่เหลือ ก็พร้อมเป็นทีมงานสนับสนุนให้กับผู้ที่ได้รับเลือกลงสมัคร อย่างไรก็ตาม ภาค กทม.อยากให้ได้ผลสรุปโดยเร็ว และมีการเปิดตัวผู้สมัคร หลังจากพรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดตัวแล้ว อีกทั้งทุกคนในภาค กทม. พร้อมที่จะลงพื้นที่ช่วยหาเสียง" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

 

ด้าน ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ถึงเกิดการยุบพรรคระหว่างเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. จะไม่ส่งผลต่อผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.เพราะผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกพรรค เพียงแต่ว่ามีฐานคะแนนของพรรคสนับสนุนเท่านั้น

 

มีรายงานข่าวจากพรรคพลังประชาชน แจ้งว่า สำหรับรายชื่อผู้ที่ได้รับการเสนอตัวให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ประกอบด้วย 1.นายประภัสร์ จงสงวน 2.นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และ 3.นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เพื่อเสนอให้คณะผู้บริหารพรรคพลังประชาชน ซึ่งมี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ประธานคณะผู้บริหารพรรคฯพิจารณา คาดจะนัดประชุมโดยเร็วที่สุดมีแนวโน้มที่จะเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าประชุมผู้บริหารพรรคฯ เป็นกรณีด่วนในวันพรุ่งนี้ (26 พ.ย.)

 

สิ่งแวดล้อม - ทรัพยากรธรรมชาติ

กรมอุทยานฯ ตั้งกก.ตรวจฝายแม้ว

มติชน - นายศักดิ์สิทธิ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงกรณีที่นายสุรพล ดวงแข ประธานเครือข่ายสิ่งแวดล้อมไทย ระบุว่า การสร้างฝายแบบผสมผสาน หรือฝายแม้ว ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทำผิด พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ที่ห้ามเปลี่ยนแปลงทางน้ำ ว่า การสร้างฝายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติไม่ได้เปลี่ยนแปลงลำน้ำ แต่ทำให้น้ำซึมออกมาเพื่อให้พื้นที่รอบๆ มีความชุ่มชื้นขึ้น และเพื่อชะลอน้ำ นโยบายของ ทส.ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงลำน้ำตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่หากจะต้องทำเพื่อแก้ไขให้ลำน้ำดีขึ้น อธิบดีกรมอุทยานฯมีอำนาจสั่งการให้เจ้าพนักงานดำเนินการได้อยู่แล้ว

 

นายอุภัย วายุพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ กล่าวว่า มาตรา 19 ของกฎหมายฉบับเดียวกัน ให้อำนาจอธิบดีกรมอุทธยานฯสั่งแก้ไขเปลี่ยนแปลงลำน้ำในพื้นที่อุทยานแห่งชาติได้ แต่การสร้างฝายแม้วไม่ใช่การเปลี่ยนลำน้ำ แต่ทำให้น้ำไหลช้าลงเท่านั้น เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้ตรวจของกรมอุทยานฯได้ลงพื้นที่ไปตรวจฝายแม้วทั้ง 5 พื้นที่ ว่ามีข้อบกพร่องอย่างไร โดยให้ตรวจแบบ 100% ไม่ใช่การสุ่มตรวจเหมือนที่ผ่านมา โดยให้อำนาจผู้ตรวจแต่ละคนตั้งคณะทำงานหนุ่มที่ร่างกายแข็งแรง 3 คนต่อพื้นที่เพื่อให้สามารถเดินตรวจฝายในพื้นที่ป่าลึกและลาดชัน ทั้งบนเขาและในป่าได้อย่างละเอียด และให้รายงานทันทีที่กลับถึงส่วนกลาง

 

 

เศรษฐกิจ

กลุ่มปิโตรฯถอดใจลดกำลังผลิต

คมชัดลึก - นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทได้หยุดเดินเครื่องและปรับลดกำลังการผลิตลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ความต้องการซื้อลดลง ประกอบกับราคาปิโตรเคมิคอลได้ปรับตัวลดลง ซึ่งการหยุดเดินเครื่องและปรับลดกำลังการผลิตเป็นการปรับตัวตามสภาพของตลาด

 

ส่วนบริษัทวีนิไทยแจ้งว่า เพื่อเป็นการปรับตัวให้เข้ากับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน บริษัทจะดำเนินการลดกำลังการผลิตบางส่วนในโอกาสนี้ เพื่อซ่อมบำรุงเครื่องจักร โดยจะลดกำลังการผลิตวีซีเอ็มและโซดาไฟลง 50% จากกำลังการผลิตวีซีเอ็มที่ 4 แสนตันต่อปี และโซดาไฟที่ 272,800 ตันต่อปี เริ่มจากสัปดาห์นี้จนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2551

 

นอกจากนี้ บริษัทจะดำเนินการลดกำลังการผลิตพีวีซีชนิดเกรดซัสเพนชั่นลงประมาณ 25% จากกำลังการผลิต 253,000 ตันต่อปี และหยุดกำลังการผลิตพีวีซีชนิดเกรดอีมัลชั่น (เพสเรซิ่น) ซึ่งมีกำลังการผลิตที่ 2.7 หมื่นตันต่อปี เริ่มจากสัปดาห์นี้ จนกว่าจะมีการพิจารณาแผนการดำเนินการผลิตใหม่อีกครั้ง

 

ด้านนายชายน้อย เผื่อนโกสุม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น กล่าวว่า ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยและธุรกิจโรงกลั่นเข้าสู่วัฏจักรชะลอตัว บริษัทก็ยังไม่ได้พิจารณาในเรื่องของการปรับลดกำลังการผลิตหรือหยุดเดินเครื่อง เนื่องจากต้องขอพิจารณาในเรื่องของดีมานด์ก่อน เพราะว่าโดยรวมดีมานด์ลดลง เนื่องจากผลกระทบจากวิกฤติภาคการเงิน ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้หยุดซ่อมบำรุง SPRC ไป

 

"การลดกำลังการผลิตเรายังไม่ได้พิจารณา ซึ่งกำลังดูในเรื่องของดีมานด์ก่อน โดยตอนนี้เราก็หยุดซ่อมบำรุง SPRC ไป ซึ่งต้องพิจารณาดีมานด์อีกที"' นายชายน้อยกล่าว

 

 

โรงแรมไทยหวั่นพันธมิตรฯ ปิดสุวรรณภูมิ กระทบยอดจอง-ท่องเที่ยว

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย คาดหวังว่า การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะไม่ถึงขั้นปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะเป็นจุดอ่อนไหว หากปิดแล้ว ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมจะได้รับผลกระทบหนักขึ้น จากที่ขณะนี้หดตัวไปแล้วร้อยละ 10-15 จากวันที่ 7 ตุลาคม และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

 

ทั้งนี้ เตรียมเสนอรองนายกรัฐมนตรีพรุ่งนี้ (26 พ.ย.) กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ด้วยการจัดประชุมสัมมนาภาครัฐตลอดปี และให้เอกชนนำค่าใช้จ่ายงานสัมมนามาหักลดหย่อนภาษีได้

 

 

ไอเอ็มเอฟชี้ปี52ศก.ไทยโต4% เอเชียโต4.9%-สมคิดจี้รัฐหามาตรการดูแลด่วน

คมชัดลึก - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เผยรายงานฉบับล่าสุด ระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย รวมถึงญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ อาจชะลอตัวมาอยู่ที่ระดับ 4.9% ในปี 2552 ลดลงจากระดับ 5.6% ที่กองทุนเคยประเมินไว้เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะขยายตัว 4.5% ในปีนี้ และ 4.0% ในปีหน้า ขณะที่ยักษ์ใหญ่ในภูมิภาคอย่างจีน และอินเดีย มีความเป็นไปได้ว่า เศรษฐกิจจะขยายตัว 9.7% และ 7.8% ในปีนี้ ส่วนปีหน้า 8.5% และ 6.3% ตามลำดับ

 

ส่วน ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจโลกจะรุนแรงหนักในปีหน้า ดังนั้น รัฐบาลจะต้องพยายามออกมาตรการดูแล โดยยึดประโยชน์ของประเทศโดยรวม นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องรีบดำเนินการคือ 1.พยายามอย่าให้เกิดปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจซ้ำรอยประวัติศาสตร์ 2.อย่าปล่อยให้ประเทศชาติตกอยู่ในภาวะความกลัว จนไม่กล้าทำอะไร 3.รัฐบาลจะต้องเร่งใช้จ่าย และระมัดระวังการส่งเงินไปยังประชาชนระดับรากหญ้าว่าจะก่อให้เกิดการหมุนเวียนของระบบมากน้อยเพียงใด

นอกจากนี้ 4. อย่าปล่อยให้ประเทศเป็นชาติที่ไม่มีความหมายบนเวทีโลก และ 5.หามาตรการระยะยาวดูแลปัญหาเศรษฐกิจ โดยต้องวางแผนพัฒนาการพึ่งพาตลาดในประเทศให้สอดคล้องกับการพึ่งพาตลาดต่างประเทศ

 

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวคิดการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ว่าแม้จะเป็นแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เห็นว่าเป็นการลดภาระให้แก่คน 2 กลุ่ม แต่เงินที่ลดภาระให้จะไม่มีการนำออกไปใช้จ่าย ไม่มีการจ้างงาน และมองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้ควรจัดเก็บภาษีอัตราเดิม เพื่อให้ภาครัฐนำเงินไปใช้จ่ายในโครงการที่เป็นประโยชน์ก่อให้เกิดการจ้างงานและสร้างผลดีในระยะยาว

 

ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงหลายด้าน โดยเฉพาะการเบี้ยวหนี้กันเองของเอกชน ซึ่งอาจจะเหมือนปี 2540 ดังนั้น ภาคธุรกิจต้องหาช่องทางเพิ่มพันธมิตรดูแลธุรกิจให้มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอ ต้องพยายามสร้างสมดุลระหว่างรายได้ค้างรับและค้างจ่าย ขณะที่รายใหญ่ก็ต้องยอมลงทุนเพื่อประกันความเสี่ยง เพื่อให้เกิดความมั่นคงภายหลัง ส่วนปัญหาเศรษฐกิจโลกนั้นจะฟื้นตัวเร็วที่สุดกลางปีหน้า

 

 

ต่างประเทศ

โฟล์คสวาเกนเล็งปิดโรงงานในเยอรมัน

โพสต์ทูเดย์ - โฟล์ค สวาเกน เอจี ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของยุโรป กล่าวว่า บริษัทอาจระงับการผลิตที่โรงงานใหญ่สุดของบริษัทเป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์ ตั้งแต่เดือนหน้า เพื่อรับมือกับตลาดยานยนต์ที่ซบเซา

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ของโฟลค์สวาเกนซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม ว่า โรงงานในเมืองโวล์ฟสบวร์ก ประเทศเยอรมนี จะปิดดำเนินการผลิตระหว่างวันที่ 18 ธ.ค.นี้ - 11 ม.ค.ปีหน้า และอาจปิดโรงงานเป็นบางส่วนในวันที่ 5 ธ.ค.ด้วย

 

อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวยังไม่ได้รับการอนุมัติจากฝ่ายบริหารและตัวแทนของสหภาพแรงงาน

 

 

โอบามาย้ำภารกิจกอบกู้อุตฯรถยนต์

กรุงเทพธุรกิจ - นายบารัก โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ วางแผนให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ ที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องและมีแนวโน้มล้มละลาย โดยกล่าวว่า สหรัฐไม่สามารถปล่อยให้อุตสาหกรรมรถยนต์ล่มสลายได้ เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของระบบเศรษฐกิจของประเทศ

 

อย่างไรก็ตาม นายโอบามา กล่าวว่า รัฐบาลไม่อาจช่วยเหลือโดยไม่มีขีดจำกัด ประชาชนผู้เสียภาษีไม่ได้หวังว่าจะต้องจ่ายหนี้แทนอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงอะไรเลย เขารู้สึกประหลาดใจที่กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ทั้งสามราย ไม่มีข้อเสนอที่ดีมาแลกกับความช่วยเหลือมูลค่า 25,000 ล้านดอลลาร์ และเห็นว่ารัฐสภาตัดสินใจถูกต้องที่ยังไม่อนุมัติแผนช่วยเหลือดังกล่าว

 

ว่าที่ผู้นำสหรัฐ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ประชาชนควรคาดหวังได้จากการมอบเงินช่วยเหลือแก่อุตสาหกรรมรถยนต์ คือ การรับประกันว่าอุตสาหกรรมนี้จะอยู่รอดได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว เขาต้องการให้ผู้บริหารบริษัทรถยนต์แสดงความโปร่งใสทางการเงิน และมีแผนการให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลง โดยเข้าใจว่าสหรัฐกำลังก้าวไปสู่ยุคของเศรษฐกิจพลังงานใหม่ ที่จะต้องมีการแข่งขันกับทั่วโลก

 

ขณะเดียวกัน สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ เตือนว่า ค่ายรถยนต์รายหนึ่งในกลุ่มบิ๊กทรี ซึ่งประกอบด้วย เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป (จีเอ็ม) ฟอร์ด มอเตอร์ โค และไครสเลอร์ จะเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ในช่วง 12 เดือนจากนี้ เนื่องจากสถานะการเงินที่แย่ลง โดยปัจจุบันเอสแอนด์พี จัดอันดับความน่าเชื่อถือของค่ายรถยนต์ทั้ง 3 อยู่ที่ CCC+ แนวโน้มแง่ลบ ซึ่งหมายความว่าอาจมีการปรับลดอันดับในอนาคตอันใกล้

 

วิกฤติเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อความต้องการรถยนต์ ทำให้ จีเอ็ม แดวู หน่วยงานย่อยของจีเอ็มในเกาหลีใต้ มีแผนปิดโรงงานหลักในเมืองบูยอง ทางตะวันออกของกรุงโซล เป็นเวลา 1 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.นี้ถึง 4 ม.ค. ปีหน้า เนื่องจากยอดขายซบเซาทั้งในแดนกิมจิและต่างประเทศ นับเป็นการปิดดำเนินการครั้งแรกของจีเอ็ม ตั้งแต่ผนวกกิจการกับแดวู เมื่อปี 2545

 

ทางด้าน ฮุนได มอเตอร์ โค ค่ายรถยนต์รายใหญ่สุดของเกาหลีใต้ ลดกำลังผลิตรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (เอสยูวี) และรถปิกอัพขนาดเล็ก ที่โรงงานรถยนต์ในเกาหลีใต้ เนื่องจากความต้องการลดลง ขณะที่ ออดี้ ประกาศระงับการผลิตที่โรงงานในฮังการีเป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่กลางเดือนหน้า ส่วน นิสสัน มอเตอร์ โค ค่ายรถยนต์ชั้นนำของญี่ปุ่น ประกาศถอนตัวจากการร่วมจัดแสดงรถยนต์ในเมืองดีทรอยต์ และชิคาโก ในปีหน้า เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจและไม่มีรถยนต์รุ่นใหม่มาแสดง

 

 

ผู้ดีประกาศแผนกระตุ้นศก.ครั้งใหญ่

สยามรัฐ-ลอนดอน - อังกฤษผวาวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์พ่นพิษ ประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ อัดฉีดกว่า 3 หมื่นล้านดอลล์เข้าสู่ระบบ รวมปรับเปลี่ยนการจัดเก็บภาษี

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายอาลิสเทียร์ ดาร์ลิง รัฐมนตรีคลังของอังกฤษ ประกาศอัดฉีดเม็ดเงินจำนวน 3.02 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมทั้งเปิดเผยแผนการปรับลดภาษีมูลค่าเพิ่มลงจากร้อยละ 17.5 ให้เหลือร้อยละ 15 เพื่อกระตุ้นให้เกิดการบริโภคในหมู่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพุ่งเป้าไปที่คนชั้นกลาง รวมทั้งประกาศเตรียมขึ้นภาษีรายได้แก่ผู้ที่มีฐานะร่ำรวยด้วย

 

โดยนายดาร์ลิง กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องการประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจของอังกฤษในปีหน้าว่าอาจจะประสบกับภาวะถดถอยครั้งใหญ่ อันสืบเนื่องมาจากวิกฤติการเงินโลก

 

พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีคลังของอังกฤษ ยังระบุว่า รัฐบาลยังมีแผนอัดฉีดเงินกู้อีกกว่า 5.95 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในอีก 4 ปีข้างหน้าด้วย

 

 

รัสเซีย-จอร์เจียตึงเครียดหนัก

เดลินิวส์ - ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและจอร์เจียทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อฝ่ายจอร์เจียกล่าวหาทหารรัสเซียยิงขบวนรถยนต์ของผู้นำจอร์เจีย แต่รัสเซียปฏิเสธ พร้อมกล่าวหาตอบโต้เป็นการจงใจยั่วยุของฝ่ายจอร์เจีย

 

รัสเซียและจอร์เจียต่างกล่าวหาซึ่งกันและกัน กรณีเหตุการณ์ยิงกันใกล้ขบวนรถยนต์ของประธานาธิบดีมิคาอิล ซาคาชวิลลี ของจอร์เจีย และประธานาธิบดีเลค คาซินซกี ของโปแลนด์เมื่อ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่ จอร์เจีย จัดพิธีครบรอบปีที่ 5 ของการ "ปฏิวัติดอกกุหลาบ" สนับสนุนตะวันตก โดยจอร์เจียกล่าวหาทหารรัสเซียที่ประจำการอยู่ใกล้กับเซาท์ ออสเซเทีย ดินแดนกบฏของจอร์เจียว่าเปิดฉากยิงปืนเข้าใส่ ขณะขบวนรถยนต์ของประธานาธิบดีซาคาชวิลลีและประธานา ธิบดีคาซินซกี เคลื่อนผ่าน ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ทางรัสเซียปฏิเสธ

 

ประธานาธิบดีคาซินซกี กล่าวในเวลาต่อมาว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่า การยิงมีเป้าหมายที่ ขบวนรถ หรือเป็นการยิงขึ้นอากาศกันแน่ และไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

 

ผู้นำจอร์เจียกล่าวว่า กองทัพรัสเซียไม่พอใจที่เห็นขบวนรถและได้แสดงปฏิกิริยาตอบโต้ด้วยวิธีการอันป่าเถื่อน การรุกรานในจอร์เจียยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ข้อตกลงหยุดยิงและข้อตกลงที่ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรป กำลังถูกละเมิด อย่างไรก็ตาม นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งอยู่ระหว่างการประชุมเอเปกในกรุงลิมา ประเทศเปรู ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และกล่าวหาจอร์เจียคืนว่าจงใจยั่วยุ และเมื่อเช้าวันอาทิตย์ นายกริกอรี คาราซิน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซีย ก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยระบุว่า เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของฝ่ายจอร์เจียที่อ้างเหตุผลโดยถือเอาความปรารถนาของตนเป็นเกณฑ์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท