Skip to main content
sharethis

เมื่อเวลา 06.00 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุลอบยิงระเบิดเข้าใส่การ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และผู้ชุมนุม ที่บริเวณทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ส่งผลให้การ์ดพันธมิตรฯ บาดเจ็บทันที 1 ราย


 


นอกจากนี้ ยังมีรายงานเกิดเหตุต่อการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯที่เข้ายึดทำเนียบรัฐบาล ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราวดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิว่า เริ่มจากเวลา 02.00 น.เกิดเหตุระเบิดบริเวณสะพานดุสิต ถ.พระราม 5 แขวงและเขตดุสิต พบหลุมกว้างประมาณ 1 เซ็นติเมตร ลึกประมาณ 1 เซ็นติเมตร จำนวนหลายสิบหลุม นอกจากนี้ที่บริเวณข้างสะพาน ราวสะพาน ที่เป็นซีเมนต์ พบรอยแตกลึกประมาณ 1 เซม. รัศมีความเสียหายประมาณ 5 เมตร


      


ถัดมาเวลา 04.30 น. เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณ ปากซอยวิภาวดี ซอย 3 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. ที่เกิดเหตุพบตู้โทรศัพท์สาธารณะที่ตั้งอยู่ปากซอยดังกล่าว กระจกด้านหน้าตู้แตกกระจัดกระจายเต็มไปทั่วพื้น เบื้องต้นทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด 2 คน และถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณหางตา 1 คน เบื้องต้นทราบว่า บริเวณปากซอยดังกล่าวเป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ คลื่น 92.75 เมกกะเฮิร์ซ และคลื่น 107.50 เมกกะเฮิร์ซ


      


             


ส่วนที่สนามบินสุวรรณภูมิที่พันธมิตรยึดเมื่อคืนที่ผ่านมาก็มีเหตุระเบิด โดยเวลา 04.30 น.เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น 3 ครั้ง ที่บริเวณถนนด้านนอกอาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ห่างจากตัวตึกประมาณ 1 กิโลเมตร ทำให้เกิดความชุลมุนโกลาหลชั่วขณะ บรรดาผู้ชุมนุมพากันแตกตื่น โดยทางแกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมอย่าแตกตื่น เพราะยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น


      


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 06.45 น. เกิดเหตุปาระเบิดขวด เข้าใส่การ์ดพันธมิตรฯที่อาคารสำนักงานท่าอากาศยานดอนเมือง หลังจากเปิดเวทีได้ไม่นาน โดยคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนขว้างระเบิดขวดใส่กลุ่มการ์ดพันธมิตรที่รักษาการอยู่บริเวณสะพานทางเชื่อมระหว่างอาคาร1มุ่งหน้าไปอาคาร2 ทำให้การ์ดพันธมิตรผู้ชายที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยจุดนั้นบาดเจ็บทันที 2 ราย โดยคนหนึ่งมีอาการสาหัสเนื่องจากสะเก็ดเข้าที่เอวขวา และสะโพกหลังด้านขวา ส่วนอีกคนได้รับบาดเจ็บที่ขา อย่างไรก็ตามการ์ดที่บาดเจ็บหนักได้นำขึ้นรถกระบะของผู้ชุมนุมไปยังโรงพยาบาลภูมิพล ส่วนอีกรายมีรถของโรงพยาบาลภูมิพลเข้ามารับตัวไปดูแลเช่นกัน


      


นอกจากนี้ในเวลาไล่เลี่ยกันก็มีคนร้ายการยิงปืนไม่ทราบชนิดกระสุนขนาดใหญ่ แต่การ์ดพันธมิตรคาดว่าน่าจะเป็นชนิด M79 ตกลงบริเวณสวนหย่อมใต้สะพานกลับรถ แต่โชคดีที่กระสุนไม่ทำงานจึงไม่มีการระเบิดและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ


      


ด้านศูนย์นเรนทร ได้สรุปยอดเจ็บเหตุการณ์ในช่วงเช้าว่า เหตุระเบิดที่สนามบินสุวรรณภูมิมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ขณะนี้ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสิรินธร 1 ราย โดยผู้บาดเจ็บยังคงรู้สึกตัว


 


ส่วนที่สนามบินดอนเมือง ได้รับบาดเจ็บ 3 รายยังคงพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลภูมิพล 1 รายอาการไม่สาหัส สำหรับเหตุระเบิดบริเวณ ถ.วิภาวดี ซ.3  ไม่มีการแจ้งข้อมูลเข้ามาที่ศูนย์นเรนทร เนื่องจากเป็นอาการบาดเจ็บเล็กน้อย



 


ขณะที่เหตุปะทะบริเวณ ถ.วิภาวดี ซ.3 เมื่อช่วงเย็นวานนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 11 ราย ล่าสุด ยังคงพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 3 ราย โดยแยกอยู่ที่โรงพยาบาลเปาโล โรงพยาบาลราชวิถีและโรงพยาบาลภูมิพล



 


พธม.ดอนเมืองรับการ์ดอาสาเพิ่ม ตรวจโทลล์เวย์ 24 ชม.


นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวที่สนามบินดอนเมือง ว่า หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุระเบิดคาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของรัฐบาล ขอยืนยันว่า จะยังไม่เคลื่อนย้ายการชุมนุมออกจากทำเนียบรัฐบาลชั่วคราวขณะนี้การ์ดพันธมิตรฯ ส่วนใหญ่ถูกส่งไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้เหลือการ์ดพันธมิตรฯ ดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ไม่เพียงพอ จึงอาจต้องรับสมัครการ์ดอาสาเพิ่มเติม โดยจะจัดการ์ดอาสานั่งรถยนต์ตรวจตรา บริเวณทางด่วนโทลล์เวย์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ชึ้นอีก ส่วนระเบิดเอ็ม 79 ที่ถูกยิงเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม แต่ไม่ทำงาน ขณะนี้ได้ประสานไปยังทหารอากาศเพื่อเข้าเก็บกู้ แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับกลับมา



 


เหตุระเบิดที่สนามบินดอนเมืองเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มพันธมิตรฯ ยังไม่ยอมให้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยจะขอใช้ชุดตรวจสอบของตัวเองเท่านั้น และไม่อนุญาตให้ตำรวจเข้ามารักษาความปลอดภัยด้วย



 


"ณัฐวุฒิ" ยันประชุมครม.  คาด "สมชาย" ถึงไทย17.00-20.00น.


ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 26 พ.ย. ยังไม่มีการแจ้งเลื่อนหรือยกเลิก ดังนั้น จึงถือว่าจะมีการประชุมครม.ตามปกติ ส่วนสถานที่ประชุมนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป



 


นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงการเดินทางกลับของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ว่า เนื่องจากมีปัญหาเครื่องขัดข้องที่ประเทศเปรู คาดว่าจะทำให้เครื่องดีเลย์ ประมาณ 6- 7 ชั่วโมง โดยนายกรัฐมนตรีอาจถึงไทยเวลา 17.00 - 20.00 น.



 


ท่องเที่ยวเจ๊งแสนล้าน


นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เปิดเผยว่า ได้สั่งปิดให้บริการขาออกสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 21.30 น. วานนี้ (25 พ.ย.) หลังจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เข้าไปในอาคารผู้โดยสารเมื่อเวลา 21.15 น. ส่งผลให้สายการบินขาออกต้องยกเลิกทั้งหมด



 


สำหรับสายการบินขาเข้ายังเปิดให้บริการ เพราะผู้ชุมนุมยังไม่ได้ลงไปในชั้นที่ให้บริการผู้โดยสารขาเข้า โดยกลุ่ม พธม.ได้ตั้งเวทีหลักที่หน้าเทอร์มินอลอาคารผู้โดยสาร และนำรถเข็น รั้วเหล็ก กรวยจราจรไปวางเป็นบังเกอร์ขวางทางเข้า



 


ทั้งนี้ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่กลุ่ม พธม.ได้เคลื่อนเข้าไปชุมนุมทางเข้าออกด้านเหนือของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทางด้านถนนมอเตอร์เวย์ ส่งผลให้สายการบินหลายสายต้องเลื่อนเวลาการขึ้นบิน เช่น สายการบินลาวแอร์ไลน์ส ยูไนเต็ดแอร์ แอร์เอเชีย สายการบินไชน่า แอร์ไลน์ส สายการบินเกาหลี แอร์ไลน์ส ที่จะบิน ช่วงเวลา 18.30-19.30 น. ต้องประกาศดีเลย์



 


นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว(แอตต้า) กล่าวว่า การปิดล้อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของกลุ่ม พธม. กระทบต่อภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ



นายอภิชาติ กล่าวว่า การชุมนุมที่ยืดเยื้อมานานกว่า 6 เดือน และมีความรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาคการท่องเที่ยวของประเทศสูญเสียรายได้กว่า 1 แสนล้านบาท โดยเฉพาะช่วง 2 เดือนสุดท้าย ระหว่างเดือน พ.ย.-ธ.ค. นี้ เป็นฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซัน)


 


ทหารยังยันไม่ปฏิวัติ


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยว่า เมื่อเช้าวันที่ 25 พ.ย. ได้ประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพตั้งแต่ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.สส. ผบ.ทร. เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ซึ่งจากการประเมินยืนยันว่า สถานการณ์ขณะนี้อยู่ในสถานะที่เป็นการแสดงความคิดเห็น ไม่มีความรุนแรง



 


พล.อ.อนุพงษ์ผบ.ทบ. กล่าวว่า จุดยืนกองทัพเห็นตรงกันว่า


 


1.ทหารทุกเหล่าทัพจะดูแลประเทศชาติบ้านเมือง โดยมีแนวคิดที่จะดูแล สถาบันหลักของชาติไว้ให้ได้ สถาบันพระมหากษัตริย์ หรือประชาชนที่ต้องมีความสงบเรียบร้อย


2.ส่วนเรื่องประกันว่าจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ผบ.เหล่าทัพเห็นตรงกันว่า จะใช้มาตรการและศักยภาพ ทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อไม่ให้คนมาปะทะกัน ทำให้เกิดความสูญเสียขึ้น


3.ยึดแนวทางกระบวนการยุติธรรม หรือกฎหมายเป็นหลักในการช่วยกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์บ้านเมือง



 


พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ทุกเหล่าทัพ เห็นตรงกันว่า การปฏิวัติเป็นแนวทางอื่น ที่ยังไม่น่าจะแก้ไขปัญหาประเทศได้ ซึ่งทุกส่วนและทุกเหล่าทัพเห็นตรงกันว่าจะยึด แนวทางหลัก 3 ประการ เพื่อประคองให้สถานการณ์ประเทศชาติผ่านวิกฤตไปได้



 


พล.อ.ทรงกิตติพล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. กล่าวว่า ได้หารือกับ ผบ.เหล่าทัพตลอดเวลา ซึ่งทุกคนคิดเหมือนกัน สิ่งที่แสดงเจตนารมณ์ คือยืนยันการทำงานของกองทัพ ยึดมั่นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติ ราชบัลลังก์ และประชาชน ไม่เปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ ทำทุกอย่างให้ประเทศชาติมั่นคง ทำตามอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ รวมถึง พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม เรื่องของชาติเป็นเรื่องของประชาชน 63 ล้านคน



 


"กองทัพเป็นสถาบันหนึ่งของความเป็นชาติ ในการรักษาอธิปไตยและความมั่นคง ส่วนการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ กองทัพปกป้องทั้งทางตรงและทางอ้อม จะเทิดทูนสถาบันยิ่งกว่าชีวิต เราไม่สามารถบอกได้ว่า กองทัพมีวิธีอย่างไรกับบุคคล ที่โจมตีสถาบัน" ผบ.สส. กล่าว



 


ผบ.สส. กล่าวว่า กองทัพเตรียมกำลังรักษาความสงบความปลอดภัยให้ประเทศชาติ ให้สามารถเดินต่อไปได้ ขณะนี้กองทัพเตรียมกำลังตามจุดต่างๆ เพื่อให้ความปลอดภัย ไม่ให้เกิดความสูญเสีย



 


"คิดว่าสถานการณ์จะไม่ถึงขั้นนองเลือด ประเทศต้องเดินต่อไป ขอให้ทุกคนทำงานในหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด อดีตเราสร้างประเทศมา อนาคตคือทางเดินของประเทศ อยากให้ทุกคนช่วยกันเสียสละ ด้วยความรัก ความสามัคคี บางเรื่องเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ไม่มีคนใดอยู่นอกเหนือกฎหมาย ความผิดถูกขอให้กระบวนการศาลเป็นผู้ตัดสิน อย่าใช้ความรู้สึก กองทัพมั่นใจในความกล้าหาญที่ทำทุกอย่างเพื่อชาติ ราชบัลลังก์ และประชาชน ซึ่งความกล้าหาญนี้บางครั้งต้องเจ็บปวด แต่สิ่งที่ต้องทำเพื่อชาติและส่วนรวม" พล.อ.ทรงกิตติ กล่าว



 


ตำรวจเตรียมตรวจสอบหลักฐานเอาผิดพันธมิตรฯ


ด้าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. ในฐานะรองโฆษก บช.น. เปิดเผยว่า ขณะนี้เตรียมตรวจสอบหลักฐานจากภาพข่าวโทรทัศน์ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ไม่ได้ชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธ แต่กลับสร้างความวุ่นวายตลอดวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา และ พธม.พยายามพูดจาปลุกปั่นสร้างความตื่นตระหนกให้กับสังคมและคนกรุงเทพฯ ทำนองต้องการใช้ความรุนแรง เช่น 3 วันแตกหัก และปรับระดับความรุนแรงให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ



 


"ตำรวจนครบาลจึงอยากขอร้องให้แกนนำกลุ่ม พธม. ควบคุมการชุมนุมให้อยู่ในกรอบกฎหมาย ไม่ใช้ความรุนแรง เลิกคิด เลิกพูด และเลิกทำสิ่งยั่วยุให้เกิดความวุ่นวาย ได้แล้ว" พล.ต.ต.อำนวย กล่าว



 


อย่างไรก็ตาม จะดำเนินการกับผู้ที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด ประกอบด้วยการทำร้ายร่างกาย จ.ส.ต.รณกรณ์ ถาวรสิน ผบ.หมู่งานตรวจพิสูจน์มลภาวะ บก.จร. ขณะโบกรถอำนวยการจราจรแยกวิสุทธิกษัตริย์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าด้านซ้าย รวมทั้งคดีทำร้ายร่างกาย และถ่มน้ำลายใส่ พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ รอง ผบก.น.4 ได้รับบาดเจ็บที่ท้ายทอยเนื่องจากเสียหลักล้มฟาดแผงเหล็ก



 


พล.ต.ต.อำนวย กล่าวด้วยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เน้นย้ำให้ตำรวจทุกคนใช้ความอดทน ให้ถึงที่สุด


 


ขณะที่ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงคือมือที่สามที่อาจเข้ามาก่อกวนได้ จึงได้ประสานกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) สั่งการให้ตำรวจทางหลวงเพิ่มความเข้มงวดในการตั้งด่านตรวจค้นรถตู้หรือรถโดยสารประจำทางที่บรรทุกคนเข้ากรุงเทพฯ.



ทั้งนี้ จะเน้นตรวจค้นอาวุธและสิ่งผิดกฎหมายเป็นพิเศษ เพื่อสกัดไม่ให้ขนย้ายอาวุธหรือวัตถุต้องสงสัยเข้ามาก่อเหตุ ในกรุงเทพฯ ได้


 


ขสมก.งด-ปรับเส้นทางรถวิ่งเข้าสุวรรณภูมิ


นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า กรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปิดล้อมยึดอาคารสนามบินสุวรรณภูมิ ได้สั่งงดและปรับลดการวิ่งรถโดยสารของขสมก.เข้าสนามบินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในทุกเส้นทาง โดยสายรถที่งดวิ่งโดยสิ้นเชิง คือ สายที่วิ่งเข้ามอเตอร์เวย์ 551, 554 ขณะที่สายที่วิ่งเส้นบางนา จากปากน้ำมุ่งหน้าไปสนามบิน และวิ่งถึง บางนา กม. 12 คือ สาย 556, 552, 552A และ 553 ส่วนสาย 549 จะเดินรถถึงแค่ถนนร่มเกล้า และสาย 550 จะวิ่งถึงประเวศ ซึ่งเหตุผลที่ต้องปรับระยะทางการวิ่ง และหยุดเดินรถบางสายเพราะไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น


 


 


เรียบเรียงจาก : ผู้จัดการ คมชัดลึก โพสต์ทูเดย์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net