Skip to main content
sharethis


การ์ดตรึงเข้มสุวรรณภูมิ หลังรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน "สุริยะใส" บอก พ.ร.ก.ฉุกเฉินคือคิดจะใช้ความรุนแรง ลั่นจะป้องกันตนเองถึงที่สุด ป้าย นปก.จะใส่เสื้อเหลืองวางเพลิงป่วนเมือง ประณามนักวิชาการวิเคราะห์ปัญหาตัดตอน ขอให้หูตาสว่างเสียที "สมเกียรติ" ขู่หากถูกสลายจะเข้าไปในอาคารสนามบิน ลั่นให้ปิด 50 แยกในกรุงเทพฯ ล้อมศาลากลาง "จำลอง" บอกถ้าสลายจริงให้กลับบ้านแล้วกลับมารวมกันใหม่



 


 


พันธมิตรฯ ตรึงเข้มสุวรรณภูมิ หลังรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน


เมื่อเวลา 19.30 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แกนนำได้ประกาศบนเวทีปราศรัยหลังจากที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยเรียกรวบรวมการ์ดพันธมิตรฯ จำนวน 48 คน ลงมาบริเวณชั้น 1 ของตัวอาคารสนามบิน โดยแบ่งการ์ดออกเป็น 3 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 จำนวน 20 คน ไปปิดถนนที่จะวิ่งเข้าตัวอาคารสนามบิน โดยนำที่กั้นถนนพลาสติกมาวางขวางถนน เพื่อป้องกันการเข้ามาของเจ้าหน้าที่ตำรวจหากมีการเข้ามาสลายการชุมนุม กลุ่มที่ 2 และ 3 แบ่งออกเป็นกลุ่มละ 14 คน เฝ้าที่ประตู 3 และ 4 เพื่อรักษาความปลอดภัย และตรวจค้นอาวุธผู้ที่จะเดินทางเข้ามายังตัวอาคารผู้โดยสารของสนามบิน


 


 


สุริยะใสบอก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่จำเป็น เพราะชุมนุมสงบปราศจากอาวุธ แถมเตรียมอุทธรณ์


นาย สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลมีความมั่นใจประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อใช้สลายการชุมนุมในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิและทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว ดอนเมือง ก็สามารถทำได้ทันที เพราะพันธมิตรฯ ก็พร้อมที่จะปกป้องสถานที่ชุมนุมทุกจุดอย่างเต็มที่ เพราะว่าที่ผ่านมาการชุมนุมเราชุมนุมอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ และถ้าพ้นคืนนี้ไปทีมทนายก็จะยื่นให้ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งตนเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะจะใช้แนวทางเดียวกันกับกรณีที่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน


 


 


พ.ร.ก.ฉุกเฉินคือจะใช้ความรุนแรง ลั่นจะป้องกันตนเองถึงที่สุด


ดังนั้นการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เท่ากับรัฐบาลประกาศใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ซึ่งพันธมิตรฯ จะป้องกันตนเองจนถึงที่สุดคงไม่อยู่เฉยๆ ให้มาทำร้ายกันง่ายๆ เพราะจะแพ้หรือชนะก็ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ตามที่พันธมิตรฯ เคลื่อนไหวทั้งหมดเพราะกองทัพไม่เคยทำเพื่อประชาชนเลย ประชาชนเท่านั้นที่จะทำเพื่อประชาชนได้ ซึ่งไม่ทราบว่าการออกมาแถลงของกองทัพ เป็นละครฉากใหญ่ที่ไม่สามารถทำให้ประชาชนนั้นเชื่อถือได้อีกต่อไป และคงจะไม่เรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติ


 


นาย สุริยะใส กล่าวต่อไปว่า พันธมิตรฯ พร้อมที่จะกดดันจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยเฉพาะการกดดันให้นายสมชาย ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น พันธมิตรฯ ถึงจะยุติการชุมนุมหรือเจรจากับทุกฝ่าย แกนนำพันธมิตรฯ อาจทำอะไรได้ไม่มาก ได้แค่กำชับแกนนำในแต่ละจุดให้เตรียมพร้อมและป้องกัน ตำรวจในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบ


 


 


ป้าย นปก.จะใส่เสื้อเหลืองวางเพลิงป่วนเมือง


ทั้ง นี้ตนได้ทราบข่าวว่าในคืนนี้หลังจากมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กลุ่ม นปก.ปลอมตัวใส่เสื้อเหลือง เพื่อปฏิบัติการวางเพลิงและก่อกวน ให้เกิดเหตุความวุ่นวายในจุดที่สำคัญๆ โดยเฉพะพื้นที่ใกล้สถานที่ชุมนุม และป้ายสีว่าเป็นฝีมือของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการจับกุมอย่างเด็ดขาด อย่าเลือกปฏิบัติ ใช้กฎหมายเฉพาะกับพันธมิตรฯ เท่านั้น ทั้งที่การเกิดเหตุความวุ่นวายทั้งหมด เช่นการปาระเบิด M 76 และ M 26 ล้วนเป็นฝีมือของ นปก.ทั้งสิ้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถนำตัวมาลงโทษได้


 


 


ประณามนักวิชาการวิเคราะห์ปัญหาตัดตอน ขอให้หูตาสว่างเสียที


นายสุริยะใส ยังกล่าวถึงนักวิชาการจากมหาลัยเที่ยงคืน และกลุ่มนักวิชาการเพื่อสันติ ที่เสนอให้พันธมิตรฯ ถอนตัวออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ และทำเนียบรัฐบาล ชั่งคราว ดอนเมือง และระบุว่าพันธมิตรฯ สร้างมิคสัญญี ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นความ งี่เง่าของนักวิชาการเหล่านี้ที่อวดอ้างว่าตัวเองก้าวหน้า แต่กลับวิเคราะห์ ปัญหาอย่างตัดตอน ไม่เห็นปัญหาที่เป็นวิกฤติในขณะนี้ เกิดความล้มเหลวจากรัฐบาลที่ไม่ได้รับความชอบธรรมจากประชาชน และปกครองประเทศไม่ได้ รวมทั้งประดิษฐานประดอยถ้อยคำหาว่าพันธมิตรฯ เป็นอภิสิทธิ์ชน ยึดทำเนียบรัฐบาลชั่วคราวและทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนักวิชาการแต่ละคนก็รับเงินทำงานวิจัยให้กับนักการเมือง เป็นพวกฉลาดหลังเหตุการณ์ทั้งสิ้น ดังนั้นขอให้หยุดทำตัวเช่นนี้เสียที ขอให้หูตาสว่างบ้าง และขอให้วิชาการต้องวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา


 


 


สมเกียรติประกาศให้ปิด 50 แยกในกรุงเทพฯ ล้อมศาลากลางจังหวัด หากถูกสลาย


เวลาประมาณ 20.10 น. วันนี้(27พ.ย.) นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ปราศรัยที่เวทีชั่วคราวสนามบินสุวรรณภูมิ ถึงกรณีที่รัฐบาลจะประกาศภาวะฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบิน ดอนเมืองโดยให้ตำรวจรับผิดชอบว่า แกนนำได้หารือกันเพื่อเตรียมมาตรการรับมือและมีมติหลักๆ 3 ข้อ คือ 1.จะให้ประชาชนปลอดภัย ไม่ได้รับอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเจตนารมณ์สูงสุด 2.จะต่อสู้ด้วยอหิงสา ห้ามต่อสู้ด้วยอาวุธร้ายแรง โดยเฉพาะ ปืน มีด อย่างเด็ดขาด ส่วนมาตรการที่ 3.หากมีการสลายการชุมนุมของเรา และเราเพลี่ยงพล้ำ วันพรุ่งนี้ให้มาชุมนุมกันที่จุดเดิมอีก


 


นายสมเกียรติกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทันทีหากมีการสลายการชุมนุมที่นี่ กรุงเทพฯ จะเป็นอัมพาตทันที สี่แยกอย่างน้อย 50 แห่ง จะถูกปิดตาย นอกจากนี้พี่น้องใน 14 จังหวัดภาคใต้ จะจัดชุมนุมปิดล้อมศาลากลางจังหวัดทุกแห่ง และปิดถนนที่จะลงสู่ภาคใต้ที่จังหวัดชุมพร ยืนยันได้ว่าหากมีการสลายการชุมนุม จะเกิดปฏิบัติการโอบล้อมศาลากลางทุกภาคทันที


 


 


เผยตั้งแกนนำรุ่น 3 แล้ว ให้ "ตั้ว" เป็นหัวหน้าการ์ด


นอกจากนี้ นายสมเกียรติ เปิดเผยว่า แกนนำพันธมิตรฯ ได้ประกาศตั้งแกนนำฯ รุ่นที่ 3 ไว้สำรองแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยว่ามีกี่คนใครบ้าง แต่ได้มอบหมายภารกิจไว้ให้แล้ว หากแกนนำรุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 ถูกจับกุม


 


นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นเป้าหมายแรกที่รัฐบาลจะใช้ตำรวจชั่วและคนเสื้อแดงปะปนกันมาสลายการ ชุมนุมของพันธมิตรฯ ซึ่งเราจะมีมาตรการตอบโต้ และได้ประกาศแต่งตั้ง พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ เป็นโฆษกที่จะแถลงกับนักข่าวเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้ด้วย นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้นายศรัณยู วงศ์กระจ่าง แกนนำฯ รุ่นที่ 2 เป็นผู้ดูแลการ์ดอาสาดูแลความปลอดภัยผู้ชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิด้วย


 


 


สำราญเชื่อ "สิ่งศักดิ์สิทธิ์" เข้าข้างเรา


ด้านนายสำราญ รอดเพชร แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรุ่นที่ 2 กล่าวบนเวทีปราศรัยที่สนามบินสุวรรณภูมิ ว่าเป็นที่น่าสังเกตถึงการมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งจากเดิมจะเป็น ผบ.ทบ. หรือ ผบ.ตร. แต่ครั้งนี้กลับตั้งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 แทน ซึ่งเป็นการข้ามหัว ผบ.ทบ.และ ผบ.ตร. อย่างไรก็ตามการชุมนุมของเราจะยังเป็นไปตามเดิม


 


ทั้งนี้อยากขอร้องพี่น้องทุกคนอย่าได้แตกตื่น โดยอาวุธหนักที่พันธมิตรจะใช้ต่อสู้กับภาครัฐ นั่นคือหัวใจ วันนี้เราจะอยู่กันถึงสว่าง เผลอๆ อาจจะจบตอนเที่ยงคืนนี้ เชื่อว่าสิงศักดิ์สิทธิ์กำลังจะเข้าข้างเรา ดังนั้นขอให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ลาออกเถอะ เพื่อให้มีการเปิดโต๊ะเจรจากันต่อไป


 


 


ตั้วบอกอย่าตื่นเต้น ให้เชื่อคำสั่งรถกระจายเสียง


ด้านนายศรัณยู วงศ์กระจ่าง แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลการ์ดอาสาการชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ กล่าวว่า เราอาจจะเข้าไปในอาคารผู้โดยสารในเวลาที่เหมาะสม ไม่ใช่วิ่งกรูเข้าไป เพราะหากเกิดกรณีตื่นเต้นขึ้นมาอาจมีอันตรายได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในยุทธศาสตร์แต่ละจุดจะมีการนำเสนอออกมา สิ่งสำคัญเราต้องคุมสติอย่าตื่นเต้น


 


"ย้ำกันให้มั่น ทุกอย่างจะถูกสั่งโดยรถกระจายเสียง ซึ่งเป้าหมายแรกและสำคัญเราจะดูแลความปลอดภัยของพี่น้องทุกคน โดยอาวุธที่ร้ายแรงครั้งนี้นั่นคือหัวใจของเรานั่นเอง"นายศรัณยูกล่าว


 


 


นายพลพันธมิตรย้ำ ใช้อาวุธเพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้น บอกผู้ชุมนุมให้ฟังพี่ตั้ว


พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ กล่าวว่า เราให้ความสำคัญถึงความปลอดภัยของพี่น้องเป็นอย่างมาก อีกทั้งเรายืนยันต่อสู้อยู่บนอหิงสาไม่ทำร้ายใคร ป้องกันตัวเองเท่านั้น แม้ฝ่ายตรงข้ามกล่าวหาว่าเราใช้อาวุธนั้นไม่เป็นความจริง เพราะนั่นคือการป้องกันตัวเองของพวกเราเท่านั้น


 


ดังนั้นการป้องกันความปลอดภัยครั้งนี้ของให้รอฟังจากนายศรัณยู เราจะอยู่ได้อย่างสงบและปลอดภัย หากมีการใช้กำลังใช้ความร้ายแรงก็ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามที่ประกาศ ส่วนการที่พวกเขาจะจับกุมแกนนำ ก็ขอให้อย่าได้ต่อสู้ ให้เขาไปอ้างว่าเราใช้อาวุธหรือกำลัง เพราะสิ่งที่ผ่านมาเขาเสียหายมาก โดยเฉพาะการยิงเอ็ม 79 ซึ่งเป็นเรื่องที่ฟอกตัวเองอย่างไรก็ไม่สะอาด ทำให้พวกเขาหวั่นวิตก


 


 


สมเกียรติขู่ถ้าสลายการชุมนุมจะเข้าไปในอาคารผู้โดยสาร


ต่อมานายสมเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้รับทราบข่าวกองทัพได้มีการเคลื่อนย้ายกำลังพลบ้างแล้ว ดังนั้นจึงคาดว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่ระทึกมาก เพราะเป็นคืนที่ปลอดภัย คืนชัยชนะ คืนจุดจบของทรราช


 


"เราเตือนคุณไว้ก่อนแล้ว 3 คืน หากใครมาป่วนสร้างความแตกตื่นเราจะจัดการพวกสร้างชอบสร้างสถานการณ์ ซึ่งพวกนี้คอยรับฟังคำสั่งมาให้ปั่นหัวพวกเรา ดังนั้นขอเตือนอย่าเข้ามา การ์ดทุกคนที่พบเห็นขอให้นำตัวมาส่งที่เวทีด้วย"


 


นายสมเกียรติ กล่าวชี้แจงว่า ผู้ชุมนุมอาจเข้าไปข้างในอาคารผู้โดยสารเพื่อความปลอดภัย ไม่ให้ตำรวจไม่ดีมาทำร้ายประชาชน โดยขอถามตำรวจชั่วว่าจะเอาประเทศไทย หรือเอาทักษิณ สมชาย เลือกเอา ถ้าเลือกทำร้ายประชาชนระวังกรรมมันไปตอบสนอง


 


นายสมเกียรติยังอ้างว่า จะมีทหารที่ไม่ใช่กองทัพภาคที่ 1 ออกมาปกป้องประชาชน เพราะได้รับแจ้งว่า กองทัพที่ประจำการอยู่ที่ จ.นครราชสีมา ได้เตรียมพร้อมเครื่องบิน ซี-130 จำนวน 3 ลำ และจะส่งกำลังมาทันทีหากประชาชนถูกปิดล้อม


 


"ตอนนี้กองทัพประชาชนตอนนี้ อยู่ทุกที่ทุกภูมิภาคของประเทศไทยหมดแล้ว เพื่อให้ชัยชนะเป็นของประชาชนอย่างแน่นอน"นายสมเกียรติกล่าว


 


 


จำลองบอกถ้าถูกสลายจริง ให้กลับมารวมกันอีกที่ราชดำเนิน


พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวปราศรัยเมื่อเวลา 21.00 น. ว่า แกนนำทุกคนต่างตกลงกันที่จะต่อสู้ให้ถึงที่สุดและถอยไม่ได้ แม้จะมีกระแสข่าวการสลายการชุมนุมก็ตาม โดยแกนนำได้มีการประเมินสถานการณ์ว่ารัฐบาลอาจจะจับมือกับกองทัพเพื่อสลาย การชุมนุมในทุกจุด ทั้งทำเนียบรัฐบาล ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งหากมีการใช้อาวุธจนสลายการชุมนุมได้ ก็จะเรียกชุมนุมใหญ่อีกในวันรุ่งขึ้น เชื่อว่าจะยิ่งทำให้มีจำนวนผู้ชุมนุมเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า จึงขอให้ผู้ที่ยังอยู่ที่บ้านเตรียมตัวให้พร้อม ในขณะที่ต้องติดตามท่าทีของนายสมชาย และ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.


 


พล.ต.จำลอง ยังย้ำด้วยว่า หากมีการสลายจริงก็ขออย่าให้กลุ่มผู้ชุมนุมตกใจกลัว เพราะอาจจะเป็นลักษณะของการฉีดน้ำใส่


 


"หากมีการสลายการชุมนุมจริง ขอให้มารวมตัวกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ที่ถนนราชดำเนินนอก บริเวณแยก จปร.ถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์ และลานพระบรมรูปทรงม้า ถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อยึดทำเนียบรัฐบาลกลับคืนมาอีกครั้ง และขอให้พันธมิตรฯ เก็บซ่อนเสื้อเหลือง เพื่อป้องกันการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ" พล.ต.จำลอง กล่าว


 


 


ที่มา: เรียบเรียงจากแนวหน้าและผู้จัดการ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net