"มูจาฮีดีน" ถล่ม 100 ศพ อินเดียมิคสัญญี

บุกโจมตี-ยึดแหล่งท่องเที่ยว 2หญิงไทยยังไม่รู้ชะตากรรม


27 พ.ย.51  สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์ในนครมุมไบ รัฐมหาราษฎระ ของอินเดีย ว่า เกิดความวุ่นวายสับสุนอย่างหนัก หลังกลุ่มมือปืนที่เรียกตัวเอง ว่า "เดคคาน มูจาฮีดีน" ขนอาวุธหนัก ทั้งปืนกลอัตโนมัติและระเบิด เข้าโจมตีสถานที่ต่าง ๆ อย่างน้อย 7 แห่ง อาทิ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม สถานีรถไฟที่มีคนแน่นขนัด โรงพยาบาล โรงภาพยนตร์ ร้านอาหารชื่อดังและโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวสองแห่ง คือ โรงแรมทัชมาฮาลและโอเบรอย ตั้งแต่คืนวันที่ 26 พฤศจิกายน (หรือเวลา 00.30น. ตามเวลาประเทศไทย) เรื่อยมาจนถึงเช้าวันที่ 27 พ.ย.

 

ยิง-บึ้มมุมไบ/ดับ101ศพ

การก่อการร้ายดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 104ราย ในจำนวนนี้มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วยและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 287 คน ซึ่งบางสื่อรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บมากถึง 200-350 คน รายงานระบุว่า กลุ่มมือปืนพุ่งเป้าสังหารชาวอังกฤษ อเมริกันและอิสราเอล

 

ต่อมาหน่วยคอมมานโดเกิดปะทะกับกลุ่มก่อการร้าย ทำให้ตำรวจเสียชีวิตไป 12 นาย รวมทั้ง นายเฮแมนต์ การ์กาเร่ หัวหน้าทีมปราบปรามก่อการร้ายประจำนครมุมไบ ส่วนกลุ่มมือปืนเสียชีวิต1 รายและถูกจับกุมได้ 9 ราย

 

ญี่ปุ่นตาย 1 - ยุโรปสาหัส 3

ด้านกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น 1 ราย เสียชีวิตและบาดเจ็บอีก 1 ราย ขณะที่ทางการเกาหลีใต้ระบุว่า มีนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ 26 ราย หลบหนีออกมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเมืองมุมไบเปิดเผยว่า มีนักท่องเที่ยวชาวยุโรป 9 รายถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล จำนวนนี้ 3 รายอาการสาหัสเพราะถูกยิง มีรายงานด้วยว่า นักการเมืองยุโรปหลายคน ยังอยู่ในบรรดากลุ่มผู้ถูกจับเป็นตัวประกันด้วย โดยนักการเมืองเหล่านี้ได้เดินทางไปเยือนเมืองมุมไบก่อนการประชุมซัมมิทยุโรป-อินเดีย

 

นายกฯโรตีลั่นล่าคนร้าย

ขณะที่ นายกรัฐมนตรีมันโมฮัน ซิงห์ ของอินเดีย ออกแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ โดยให้คำมั่นจะดำเนินมาตรการทุกอย่างที่จำเป็น เพื่อหาตัวผู้กระทำผิด พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสามัคคี สำหรับกลุ่มมือปืนเหล่านี้ ได้เตรียมการมาอย่างดีและโยงใยกับกลุ่มก่อการร้ายในต่างประเทศ เพื่อจงใจก่อเหตุร้ายเรียกความสนใจจากสาธารณชน

 

ทางด้านเจ้าหน้าที่อินเดีย กล่าวว่า ยังมีคนติดอยู่ในโรงแรมที่มุมไบราว 200 คน หลังถูกกลุ่มติดอาวุธบุกยึดและจับผู้มาพักในโรงแรมเป็นตัวประกัน ขณะที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า หน่วยปฏิบัติการพิเศษของอินเดีย สามารถช่วยชาวต่างชาติที่ถูกจับเป็นตัวประกันในชั้นที่ 19 ของโรงแรมโอเบรอยได้ 4-5 คน เชื่อว่ายังมีกลุ่มมือปืนหลบซ่อนอยู่ในโรงแรมทัชมาฮาล 5 คนและอยู่ในโรงแรมโอเบรอยอีก 3 คน

 

ทั่วโลกออกแถลงประณาม

ด้านสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกแถลงการณ์ระบุว่า นายบัน คี มุน เลขาธิการยูเอ็น ขอประณามเหตุระเบิดหลายระลอก เพื่อโจมตีนครมุมไบของอินเดีย ซึ่งคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์และทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก เนื่องจากเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ นอกจากนี้ นายบันได้แสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ และขอแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับรัฐบาลและชาวอินเดีย รวมทั้งเรียกร้องให้ทางการอินเดีย เร่งหาตัวคนร้ายมารับโทษโดยเร็ว

 

ขณะเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีของผู้ก่อการร้าย และบอกว่า เป็นเหตุการณ์สยองขวัญ พร้อมยืนยันว่า สหรัฐฯจะยืนเคียงข้างชาวอินเดียในช่วงเวลาที่เผชิญภัยพิบัติเช่นนี้และพร้อมให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนรัฐบาลอินเดีย

 

"บารัค"หนุนถอนรากถอนโคน

ทางด้าน ว่าที่ประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า ได้ประณามอย่างรุนแรงและให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกับอินเดียในการกำจัดเครือข่ายก่อการร้ายแบบถอนรากถอน เช่นเดียวกับรัฐบาลอังกฤษ ที่ประณามการโจมตีในอดีตอาณานิคมของตนเองว่า เป็นการกระทำที่อุกอาจ โหดเหี้ยม และสหภาพยุโรป แคนาดา สเปน บราซิล โคลัมเบียและออสเตรเลีย ที่มีพลเมืองได้รับบาดเจ็บไป 2 คนก็ออกมาประณามเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

 

2 นศ.ออสซี่รอดตายหวุดหวิด

นายเดวิด โค้กเกอร์ นักศึกษาออสเตรเลีย วัย 23 ปี ซึ่งพาเพื่อนหญิงวัย 24 ปี มาเลี้ยงฉลองจบการศึกษาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในนครมุมไบ เล่าว่า ยังไม่ทันจะได้กินอาหาร ก็ได้ยินเสียงดังคล้ายประทัด พร้อมเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจ เมื่อหันไปดูพบว่า เพื่อนหญิงถูกยิงขาทะลุ ส่วนตัวเขาเอง โชคดีที่กระสุนยิงเฉียด จึงมีแค่แผลถลอก จังหวะนั้นเขาจึงรีบพยุงเพื่อนหญิงหนีออกจากร้านโดยเร็ว ก่อนจะเรียกแท็กซี่ขับพาออกไปจากสถานที่เกิดเหตุ โดยสิ่งที่เขาจำได้แม่นก็คือ กลุ่มมือปืนที่ก่อเหตุแต่ละคนยังเด็กมาก ดูคล้ายเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งเท่านั้น

 

เผย 3 หญิงไทยยังติดต่อไม่ได้

นายเจษฎา ชวาลภาคย์ กงสุลใหญ่ไทย ณ นครมุมไบ กล่าวว่า มีคนไทยทำงานอยู่ในโรงแรมโอเบรอย 6 คน เป็นพ่อครัว 1 คนและทำงานในสปา 5 คน ขณะนี้ นายวิกาล นามวิเศษ พ่อครัวปลอดภัยและกลับไปอยู่ในบ้านพักแล้ว ส่วนหญิงไทยอีกหนึ่งคนคือ น.ส.นิพพร วัดสง ทราบว่าได้หลบหนีออกจากโรงแรมอย่างปลอดภัย แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้และขณะนี้ติดต่อคนไทยได้อีกสองคนคือ น.ส.พรทิมา ดวงทองและน.ส.ธัญญา แย้มอิ่ม ซึ่งทั้งคู่ยังติดอยู่ในโรงแรมโอเบรอยที่กลุ่มก่อการร้ายยึดไว้ ทั้งสองคนยังซ่อนตัวอยู่กับชาวอินเดียอีก 2 คนบนชั้น10 ขณะนี้ปลอดภัยดี แต่ยังไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ เพราะยังมีการสู้รบกันอยู่ในโรงแรม ส่วนหญิงไทยอีก 2 คนทราบชื่อว่า น.ส.จิระฉัตร และ น.ส.กรรณิการ์ ไม่ทราบนามสกุล ยังติดต่อไม่ได้

 

2 คนมุดโต๊ะคลานหนีรอดหวิว

นายเจษฎา กล่าวต่อว่า ที่โรงแรมทัชมาฮาล มีคนไทยอยู่ในโรงแรมขณะเกิดเหตุยิงกัน 2 ราย คือ น.ส.อังศุมาลิน พิจารณสันต์ และนายคุณาวุฒิ ลิขิตอำนวยพร ซึ่งได้รับการว่าจ้างให้มาตกแต่งโรงแรมในมุมไบ ทั้งสองคนอยู่ในโรงแรมขณะเกิดเหตุ จึงหมอบหลบลงใต้โต๊ะเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมง แล้วคลานตามพนักงานโรงแรมหลบหนีออกมาได้ ขณะนี้ทั้งสองคนมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักกงสุลใหญ่เพื่อรอเดินทางกลับประเทศไทย

 

เหยื่อเผยนาทีระทึกถล่มมุมไบตาย 101 ศพ

โดยสตรีผู้หนึ่งซึ่งเป็นแขกของโรงแรมทัชมาฮาล โรงแรม 5 ดาว ที่เป็นหนึ่งในเป้าหมายของการถล่มกล่าวว่า เป็นเวลา 6 ชั่วโมงที่เจ็บปวดมาก ตัวเธอพร้อมแขกอีก 25 คน ต้องนอนบนพื้นโรงแรมระหว่างที่มือปืนเดินพล่านไปทั่ว และยิงต่อสู้กับหน่วยคอมมานโดที่เข้ามาช่วย จนกระทั่งพนักงานดับเพลิงพังกระจกห้องเข้ามา ทุกคนเลยไต่บันไดลงมาข้างล่างได้อย่างปลอดภัย

 

ด้านแขกชาวอังกฤษผู้หนึ่งเผยว่า ตัวเองอยู่ในกลุ่มคนกว่าสิบคนที่ถูกมือปืน 2 คน ต้อนขึ้นไปชั้นบนของโรงแรม โดยมือปืนเหล่านี้เด็กมาก ดูแล้วเหมือนเด็กผู้ชาย สวมกางเกงยีนและเสื้อยืด มือปืนบอกว่าต้องการตัวคนที่ถือพาสปอร์ตอังกฤษและอเมริกันแล้วพาเดินขึ้นบันไดไป คิดว่าน่าจะพาขึ้นไปบนหลังคา แต่ตัวเขาและตัวประกันอีกคนแอบหนีมาได้บนชั้นที่ 18

 

ด้านบรูก แซทช์เวลล์ วัย 28 ปี อดีตดาราละครทีวีเรื่องเนเบอร์สของออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์ว่าตัวเองเพิ่งเดินออกไปซื้อบุหรี่ข้างนอกแล้วกลับเข้ามาในโรงแรมทัชมาฮาลตอนที่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นเลยเดินไปทางห้องน้ำบนชั้นหนึ่งซึ่งอยู่ติดกับล็อบบี้ ในนั้นมีคนอัดอยู่กันประมาณ 6 คน ทุกคนตัวแข็งด้วยความกลัว แล้วก็เริ่มปิดล็อกตัวเองไว้ในห้องน้ำเล็กๆ ซึ่งต่างรู้ดีว่าไม่ใช่ความคิดที่ฉลาดเลย แต่ไม่มีทางออกจึงต้องทำเช่นนี้ ส่วนตัวเธอนั้นแอบอยู่ในตู้เล็กๆ ซึ่งเธอกลัวมากเพราะมีคนถูกยิง และมีคนตายอยู่ข้างนอก ตอนหลังมีพนักงานโรงแรมมาช่วยต้อนคนออกจากโรงแรม ซึ่งเธอบอกว่าสถานการณ์ตอนนั้นเต็มไปด้วยความโกลาหล ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

 

ขณะที่นางเอริกา มานน์ ส.ส.เยอรมนี ซึ่งเป็นผู้แทนการค้าอียูไปประชุมที่อินเดีย และเป็นหนึ่งในผู้ที่ติดอยู่ในโรงแรมทัชมาฮาล ได้โทรศัพท์คุยกับสถานีโทรทัศน์บ้านเกิดว่าแขกหลายร้อยคนที่ถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ในโรงแรมกระจุกตัวอยู่ในห้องๆ เดียว มีคนแก่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถนั่งลงได้ คนที่อยู่ในนั้นได้โทรศัพท์คุยกับสถานทูตของตัวเอง และคนข้างนอกเลยทำให้รู้ว่ากองกำลังอินเดียได้ปิดล้อมโรงแรมไว้แล้ว ขณะนี้ทุกคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

 

 

 

 

เรียบเรียงจาก เว็บไซต์แนวหน้าและคมชัดลึก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท