Skip to main content
sharethis

ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรือกรุงเทพโพลล์ เผยผลสำรวจ "ความคิดเห็นของประชาชนต่อการกระทำและการแสดงออกของกลุ่มต่างๆ " จากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองของไทยที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง และได้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จึงได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นเพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาหาทางออกของวิกฤตการณ์ความขัดแย้งร่วมกันอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน


 


โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกกลุ่มอาชีพที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 1,180 คน เป็นเพศชายร้อยละ 46.2 และเพศหญิงร้อยละ 53.8 เมื่อวันที่ 27 พ.ย.51 สรุปผลได้ ดังนี้


           


1. ความคิดเห็นของประชาชนต่อการกระทำและการแสดงออกของฝ่ายต่าง ๆ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


                                                                        เหมาะสม         ไม่เหมาะสม        ไม่


ความเห็น


- การกระทำและการแสดงออกของกลุ่มพันธมิตรฯ                   11.2                  69.3                 19.5     


- การกระทำและการแสดงออกของรัฐบาล                              22.2                  46.4                 31.4


- การกระทำและการแสดงออกของประธานรัฐสภา                    21.6                  29.0                  49.4


- การกระทำและการแสดงออกของพรรคประชาธิปัตย์               23.7                  37.7                  38.6


- การกระทำและการแสดงออกของทหาร                               42.6                 26.7                  30.7


- การกระทำและการแสดงออกของตำรวจ                              37.3                 35.6                  27.1


- การกระทำและการแสดงออกของสื่อมวลชน                         40.9                 32.2                  26.9


- การกระทำและการแสดงออกของกลุ่มแนวร่วม นปช.              18.6                  48.8                 32.6


- การกระทำและการแสดงออกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร         17.2                  48.7                 34.1


 


โดยให้เหตุผลของการกระทำที่ไม่เหมาะสมของฝ่ายต่างๆ ดังนี้ (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)


- การกระทำและแสดงออกของกลุ่มพันธมิตรฯ           


เห็นว่าไม่เหมาะสม            ร้อยละ 69.3


โดยให้เหตุผลว่า  ก่อให้เกิดความวุ่นวาย รุนแรงเกินเหตุ สร้างความเดือดร้อน เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิต  ไม่เคารพกฎหมาย  ยึดสถานที่สำคัญทำให้เกิดความเสียหายแก่ส่วนรวม


                       


- การกระทำและแสดงออกของรัฐบาล


เห็นว่าไม่เหมาะสม            ร้อยละ 46.4


โดยให้เหตุผลว่า ละเลยและวางเฉยไม่จริงจังในการแก้ปัญหา  ไม่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  เป็นต้นเหตุของความรุนแรง  ยึดผลประโยชน์และรักษาผลประโยชน์ของตน  ควรลาออกเพื่อให้บ้านเมืองสงบ


 


- การกระทำและแสดงออกของประธานรัฐสภา (นายชัย ชิดชอบ)


เห็นว่าไม่เหมาะสม            ร้อยละ 29.0


โดยให้เหตุผลว่า  ไม่เป็นกลาง  ควบคุมการประชุมไม่ได้  ใช้คำพูดไม่เหมาะสม


                       


- การกระทำและแสดงออกของพรรคประชาธิปัตย์


เห็นว่าไม่เหมาะสม            ร้อยละ 37.7


โดยให้เหตุผลว่า  ไม่เป็นกลาง  เอนเอียงเข้าข้างพันธมิตร  อยากเป็นรัฐบาล  ไม่กล้า แสดงออกให้ชัดเจน  ไม่มีบทบาท  ไม่ช่วยแก้ปัญหาอย่างจริงจัง


                       


- การกระทำและแสดงออกของทหาร


เห็นว่าไม่เหมาะสม            ร้อยละ 26.7


โดยให้เหตุผลว่า  ไม่เด็ดขาด  เพิกเฉย ไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง เช่น เข้าไปตรึงกำลังในสนามบินเพื่อป้องกันการบุกยึด และตรวจค้นอาวุธของผู้ชุมนุม เป็นต้น


                       


- การกระทำและแสดงออกของตำรวจ


เห็นว่าไม่เหมาะสม            ร้อยละ 35.6


โดยให้เหตุผลว่า  ทำการเกินกว่าเหตุ  ใช้ความรุนแรง  ทำตามคำสั่งรัฐบาลมากเกินไป


                       


- การกระทำและแสดงออกของสื่อมวลชน


เห็นว่าไม่เหมาะสม            ร้อยละ 32.2


โดยให้เหตุผลว่า  เสนอข่าวไม่เป็นกลาง เสนอข่าวให้เกิดการทะเลาะแตกแยก เสนอข่าวไม่ครบถ้วน


                       


- การกระทำและแสดงออกของกลุ่มแนวร่วม นปช.


เห็นว่าไม่เหมาะสม            ร้อยละ 48.8


โดยให้เหตุผลว่า  ไม่ควรออกมาประกาศสงคราม ก่อเหตุปะทะ ปลุกระดม ทำให้เกิดเหตุความรุนแรงมากขึ้น  และทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกพ้องโดยไม่คิดถึงประเทศชาติส่วนรวม


                       


- การกระทำและแสดงออกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร


เห็นว่าไม่เหมาะสม            ร้อยละ 48.7


โดยให้เหตุผลว่า  ไม่ยอมรับความผิดแล้วกลับมาสู้คดีตามกระบวนการของกฎหมาย ยุยงปลุกกระแสความขัดแย้ง ไม่หยุดให้ข่าวหรือให้สัมภาษณ์ในทางเสียหายแก่ประเทศ   ไม่ยอมวางมือทางการเมือง


                       


2. ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อสถานการณ์ในประเทศในขณะนี้ (จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน) พบว่า


-  ความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการใช้ชีวิต                           ได้คะแนน  4.31


-  ความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางกฎหมาย                  ได้คะแนน  3.58


-  ความเชื่อมั่นในความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ                           ได้คะแนน  3.50


-  ความเชื่อมั่นในความสามารถรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจโลก                   ได้คะแนน  3.24


-  ความเชื่อมั่นในความสามารถยุติปัญหาความขัดแย้งได้ด้วยสันติวิธี        ได้คะแนน  3.17


-  ความเชื่อมั่นศรัทธาในระบบการเมืองไทย                                        ได้คะแนน  2.82


 


3. ทางออกที่เหมาะสมมากที่สุดในการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ 


ให้แต่ละฝ่ายส่งผู้แทนมาเจรจากัน                        ร้อยละ  39.2


ยุบสภา                                                               ร้อยละ 24.3


ใช้กำลังตำรวจ ทหารเข้าสลายการชุมนุม                    ร้อยละ 16.1


จัดตั้งรัฐบาลประชาภิวัฒน์                                       ร้อยละ 12.3


ทหารทำรัฐประหาร                                               ร้อยละ 7.2


ปล่อยให้กลุ่มผู้ชุมนุมดำเนินกิจกรรมต่อไป                 ร้อยละ 0.9


 


4. ผลกระทบที่ประชาชนได้รับจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ 


ได้รับผลกระทบ             ร้อยละ 72.2


โดยผลกระทบที่ได้รับ คือ


- การจราจรติดขัด  เดินทางไม่สะดวก


- โรงเรียนบุตรหลานต้องหยุดการเรียนการสอน 


- ลูกค้ายกเลิกการสั่งซื้อสินค้า ยอดขายตก รายได้ตก กลัวตกงาน 


- เกิดความเครียด


- เกิดความแตกแยกในครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ฯลฯ


 


ไม่ได้รับผลกระทบ            ร้อยละ 27.8

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net