Skip to main content
sharethis


14 ธ.ค.51   นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา พร้อมด้วยนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม อดีตพรรคพลังประชาชน ตัวแทน " กลุ่มเพื่อนเนวิน " แถลงกรณี รายการความจริงวันนี้สัญจรเปิดวีซีดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีเนื้อหาพาดพิงกลุ่มเพื่อนเนวิน และนักการเมืองบางกลุ่มหักหลังประชาชนว่า พวกตนไม่เคยหักหลังประชาชน และ พ.ต.ท.ทักษิณ รวมถึงปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ว่าหลังเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.50 จะนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็กลับมาได้จริง เมื่อวันที่ 28 ก.พ.51 ซึ่งในวันนั้นเห็นภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ก้มกราบแผ่นดินไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิ ยังหลั่งน้ำตา


 



 "พวกผมทุกคนถึงกับหลั่งน้ำตา ที่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนได้ ต่อมา เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกนอกประเทศ และใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ จนถึงปัจจุบัน เป็นเหตุผลส่วนตัว ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความเชื่อว่า ไม่ได้รับความยุติธรรม ไม่ได้รับความปลอดภัยหากยังอยู่ในประเทศไทย" นายบุญจง กล่าว


 



นายบุญจง กล่าวว่า  กลุ่มพวกตนยังเคารพรัก พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนเดิม ไม่เคยคิดหักหลังประชาชน ตรงกันข้าม การตัดสินใจสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์นั้น ได้คำนึงถึงประเทศชาติ ที่จะต้องหลุดพ้นจากวิกฤติที่ประชาชนได้รับ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ ด้วยการมีรัฐบาลที่สามารถบริหารประเทศได้ โดยจะเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา ในขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ แม้จะมีความทุกข์ก็เป็นความทุกข์ทางใจ หากเทียบกับประชาชนแล้ว เราเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมที่จะเสียสละ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาของประเทศเดินหน้าต่อไปได้ เชื่อว่าสักวันหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ และประชาชน ที่ไม่พอใจต่อการตัดสินใจของพวกตนนั้น จะเข้าใจ


 



นายบุญจง กล่าวว่า กลุ่มเพื่อนเนวินไม่มีความต้องการที่จะตอบโต้การวิพากษ์วิจารณ์ แต่ต้องออกมาเพื่อชี้แจงเนื่องจากถูกกล่าวหาด้วยข้อมูลเท็จ อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดได้ นอกจากนี้ขอเรียกร้องให้ เพื่อนส.ส.ที่เคยทำงานร่วมกันอย่าปลุกระดมประชาชนมากดดันกันอีก ขอให้เคารพในเอกสิทธิ์การตัดสินใจกันด้วย


 



เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า กลุ่มเพื่อนเนวินจำนวน 35 คน อาจเหลือโหวตให้พรรคประชาธิปัตย์เพียงแค่ 10 คน นายบุญจง กล่าวว่า ขอให้รอดูผลการโหวตในวันที่ 15 ธ.ค.เอง เชื่อว่า จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แม้จะมีพลังดูดจากภายนอก เพราะพวกเราต้องการแก้ปัญหาการเมืองที่กำลังสู่ทางตัน


 



ด้านนายศุภชัย โพธิ์สุ กล่าวถึงการหาสังกัดพรรคใหม่ ภายหลังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีว่า เรายังไม่ตัดสินใจที่จะสังกัดพรรคไหน แต่กล้ายืนยันว่า กลุ่มเพื่อนเนวินจะไม่สังกัดพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน แต่จะหารือ จัดตั้งพรรคการเมืองของตัวเองขึ้น ตอนนี้มีชื่อที่คิดไว้แล้วหลายชื่อ แต่รอให้ตั้งรัฐบาลเสร็จจึงจะประกาศ


 



อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์กลุ่มเพื่อนเนวินดังกล่าวมีความว่า จากการที่มีผู้กล่าวหาให้ร้ายพวกข้าพเจ้า และมีผู้ปลุกระดมประชาชนออกมาเคลื่อนไหว กดดันข่มขู่ด้วยวิธีการต่าง ๆ ให้พวกข้าพเจ้า ลงมติสนับสนุนบุคคลที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี จึงขอชี้แจงว่า


 



1.พวกข้าพเจ้าไม่เคยทรยศหักหลังประชาชนและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและได้ปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนในการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 ด้วยการนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศไทยในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 ซึ่งทุกคนคงจำภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ก้มกราบแผ่นดินไทย ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้


 



2. พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางออกนอกประเทศไทยด้วยเหตุผลส่วนตัว จากแถลงการณ์ที่เขียนด้วยลายมือตัวเองและการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศ เนื่องจากเชื่อว่าไม่ได้รับความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรมและไม่ปลอดภัยหากอยู่ในประเทศไทย จึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการจะกลับมาประเทศไทยของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี


 



3.พวกข้าพเจ้ายังคงเคารพรักพ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนเดิม และไม่เคยคิดที่จะหักหลังประชาชน ตรงกันข้ามการตัดสินใจของข้าพเจ้าครั้งนี้ ได้คำนึงถึงประเทศที่จะต้องหลุดพ้น จากวิกฤติ ด้วยการมีรัฐบาลที่สามารถบริหารประเทศได้ เหมือนที่พ.ต.ท.ทักษิณ เคยฝากให้พวกข้าพเจ้ายึดเป็นหลักในการทำงานว่า ต้องทำงานเพื่อบ้านเมือง อย่ามัวแต่เล่นการเมือง ต้องคิดถึงผลประโยชน์ของประชาชนมากกว่าประโยชน์ของตัวเอง และหากเปรียบเทียบความทุกข์ของคนทั้งประเทศ พวกข้าพเจ้ายังเชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมที่จะเสียสละเพื่อให้การแก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชนเดินหน้าต่อไปได้


 



4.พวกข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า สักวันหนึ่งพ.ต.ท.ทักษิณและประชาชน ที่ไม่พอใจต่อการตัดสินใจของพวกข้าพเจ้า จะเข้าใจการตัดสินใจในครั้งนี้ ซึ่งพวกข้าพเจ้าไม่มีความประสงค์จะตอบโต้การวิพากษ์วิจารณ์ และคำตำหนิของทุกท่านที่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงและความห่วงใยประเทศชาติ หากแต่จำเป็นต้องชี้แจงในกรณีที่ถูกกล่าวหาให้ร้าย ด้วยข้อมูลเท็จอันจะทำให้ประชาชนเข้าใจผิด และขอวิงวอนไปยังเพื่อน ๆ ที่เคยทำงานร่วมกันมา อย่าได้ปลุกระดมประชาชนมากดดันกันอีกเลย


 



ปชป.ประกบเข้ม ส.ส.คืนหมาหอน


รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.ของพรรคในการซักซ้อมเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 15 ธันวาคม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงตัวเลขพรรคร่วมและกลุ่มการเมืองที่ยังให้กับสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทย โดยมีจำนวน ส.ส. 242 เสียง แบ่งเป็นพรรคประชาธิปัตย์ 167 เสียง พรรคเพื่อแผ่นดิน 21 เสียง อดีตพรรคชาติไทย 13 เสียง อดีตพรรคมัชฌิมาธิปไตย 9 เสียง พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 8 เสียง กลุ่มเพื่อนเนวิน 22 เสียง และกลุ่มนายสรอรรถ กลิ่นประทุม 2 เสียง


 



ทั้งนี้ ในที่ประชุม นายสุเทพ ได้ยืนยันกับแกนนำพรรคว่า จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้แน่นอน แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะใช้วิธีการใดก็ตาม แม้ตัวเลขสนับสนุนพรรคจะอยู่ที่ 242 แต่ในวันโหวตเลือกนายกฯตัวเลขจะเพิ่มในระดับที่ใกล้เคียง 260 เสียง โดยในที่ประชุมยังได้รับการยืนยันจากกลุ่มเพื่อเนวิน แจ้งว่าจะมีส.ส.อดีตพรรคพลังประชาชนที่ไม่เปิดเผยตัว และยังไม่กล้าตัดสินใจมาอยู่กับกลุ่มเนวินประมาณ 12 คน จะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ด้วย


 



มีรายงานด้วยว่า ตลอดในช่วงคืนของวันที่ 14 ธันวาคม นายสุเทพ จะไปทาบทามส.ส.อดีตพรรคพลังประชาชน ที่เตรียมจะย้ายไปสังกัดพรรคกิจสังกัด อีก 6 คน


 



รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ได้แจงให้ส.ส.ดูแลกันเองโดยเมื่อวันที่ 13 ที่ผ่านมาให้มีการดูแลกันเองในสัดส่วน 1 ต่อ 12 และในช่วงคืนมาหอนวันที่ 14 ธ.ค.ได้เพิ่มความเข้มงวดเป็น 1 ต่อ 5 เพื่อดูแลให้มาทันการโหวต นอกจากนั้น สำหรับส.ส.ที่อยู่ต่างจังหวัดหรือใครที่คิดว่าจะเดินทางเข้าประชุมสภาล่าช้า ก็ให้มาพักค้างคืนในกรุงเทพฯ (กทม.) อาทิ ที่โรงแรมกานต์มณี ถนนประดิพัทธ์ เพื่อป้องกันความผิดพลาด ทั้งนี้ สมาชิกพรรคได้นัดรวมตัวกันที่พรรคเวลา 07.00 น. เพื่อรวมตัวกันก่อนเดินทางโดยรถตู้ไปประชุมที่รัฐสภา ส่วนกลุ่มเนวิน ยังคงปักหลักที่ รร.สยามซิตี้ โดยจะออกเดินทางไปยังสภาพร้อมกัน


 



มีรายงานด้วยว่า ที่ประชุมยังได้แสดงความเป็นห่วงกรณีมวลชนเสื้อแดงประกาศชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภา โดยแกนนำพรรคได้ประเมินว่าหากมีการใช้ความรุนแรงหรือใช้กำลังสลายการชุมนุมเพื่อเปิดทางให้ ส.ส.เข้าประชุมเพื่อโหวตนายก พรรคประชาธิปัตย์จะไม่เข้าประชุม แต่จะขอให้เลื่อนระยะเวลาออกไป เพราะไม่ต้องการให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม อย่างไรก็ตามในที่ประชุมยังมีความกังวลกรณีที่เข้าร่วมประชุมสภาได้ และชนะการโหวตนายกรัฐมนตรี จะไม่สามารถออกจากรัฐสภาได้


 


"ประชา"หลบสื่อปิดบ้านเงียบเพื่อไทยเชื่อไม่ถอนชิงนายกฯ


พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้เดินทางออกจากสนามกอล์ฟราชพฤกษ์ ย่านวิภาวดีรังสิตแล้ว ด้วยรถตู้ส่วนตัว โดยไม่มีรถตำรวจนำขบวนเหมือนปกติ


 



ทั้งนี้ ทันทีที่เสร็จสิ้นการออกรอบนั้น พล.ต.อ.ประชา ได้เดินทางออกไปจากสนามทันที โดยไม่มีการอนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าถึงตัวได้ โดยมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามกอล์ฟ ที่ไม่อนุญาตทั้งนักข่าวและช่างภาพ ให้เข้าไปบันทึกภาพได้


 



พร้อมกันนี้ ยังมีรายงานจากบุคคลใกล้ชิดยืนยันว่า พล.ต.อ.ประชา จะไม่มีการเปิดบ้านต้อนรับ ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน ที่จะมาเยี่ยมในช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งตรงกันกับ น.พ.แวมาหะดี แวดาโอ๊ะ ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ยืนยันว่า ไม่มีการประสานงานมา ในการเดินทางไปเยี่ยม พล.ต.อ.ประชา ที่บ้านพัก


 



แกนนำเพื่อไทยเชื่อ"ประชา"ไม่ถอนตัวชิงนายกฯ


ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านพักนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ว่า ในช่วงเย็นวันนี้ (14 ธ.ค.) นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา พร้อมด้วยนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาพบนายเสนาะ โดยใช้เวลาหารือประมาณ 40 นาที


 



นายวิทยา เปิดเผยว่า จนถึงนาทีนี้ นายเสนาะ ไม่รู้สึกกังวล และยืนยันเจตนารมณ์เดิมที่จะเสนอชื่อ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมั่นใจว่ามีเสียงสนับสนุนเพียงพอที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ และเชื่อว่า หาก พล.ต.อ.ประชา ได้ฟังเหตุผลของนายเสนาะ ที่เสนอในครั้งนี้ว่าเป็นการทำเพื่อประเทศชาติ และยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในประเทศ เชื่อว่า พล.ต.อ.ประชา น่าจะไม่ถอนตัว


 



 "ถ้าท่านจะขอถอนตัวก็คงไม่มีเหตุผลพอ แต่ครั้งนี้ทำเพื่อชาติและจนถึงขณะนี้เรายังมั่นใจ ชั่วโมงนี้ถ้าไม่เป็นอย่างนั้น เราคงมาพูดกับผู้ใหญ่ไม่ได้ และที่ท่านสุเทพ (เทือกสุบรรณ) บอกว่าท่านเสนาะนับเลขผิด ก็ขอให้ไปดูในสภาฯ ยังไงก็นับกันในสภาฯ นับกันข้างนอกยังไงก็ไม่ถูกอยู่ดี"นายวิทยา กล่าว



นายวิทยา กล่าวด้วยว่า ในการหารือกับนายเสนาะ ครั้งนี้ ได้พูดถึงขั้นตอนในการเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี โดยกลุ่มสมาชิกพรรคจากพรรคพลังประชาชนเดิมจะมอบภารกิจนี้ให้นายเสนาะ เป็นผู้เสนอชื่อ พล.ต.อ.ประชา เพราะเห็นว่า แม้จะเป็นบุคคลที่มาจากพรรคเล็ก แต่น่าจะเป็นบุคคลที่เป็นกลางและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายได้


 



ชท.เช็กยอดครั้งสุดท้ายเชื่อเกมไม่พลิก"มาร์ค"นั่งนายกฯ


ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่การพรรคชาติไทย เดิม วันนี้ (14 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00น.พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ส.ส.พิจิตร และอดีตประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย ได้เชิญนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยเดิม และอดีตแกนนำพรรคชาติไทย รวมถึงนายชุมพล ศิลปอาชา ว่าที่หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เข้าหารือบรรดา ส.ส.ของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่เหลือ 15 คน เพื่อกำหนดท่าทีในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในเช้าวันที่ 15 ธ.ค.โดยใช้เวลานานร่วม 1 ชั่วโมง ซึ่งมีบรรดา ส.ส.เข้าร่วมประชุมเกือบทุกคนขาดเพียง นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล ส.ส.ปทุมธานี นายสมเจตน์ ลิมประพันธ์ ส.ส.สุโขทัย และ นางปารีณา ปาจารียางกูร ส.ส. ราชบุรี


 



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมมีการหารือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามจำนวนที่เหลือของพรรคชาติไทยพัฒนา ว่า มีเท่าไหร่ ซึ่งได้รับการยืนยันไป ว่า มียอดที่ 12 เสียง นอกจากนี้ ยังมีการต่อสายไปหารือเพื่อเช็กยอดพรรคร่วมรัฐบาลเดิมอื่นๆ ว่า แต่ละพรรคการเมืองและแต่ละกลุ่มล่าสุดมีจำนวนเสียง ส.ส.ที่จะโหวตตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่าไหร่


 



โดยในที่ประชุมมีการประเมินตัวเลขอย่างคร่าวๆ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ มีเสียง 167 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา มี ส.ส.12 เสียง ขาดไป 3 เสียง จากผู้ที่ไม่เข้าประชุมพรรค และไม่ได้กรอกใบสมัครเข้าสังกัดพรรคใหม่ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ซึ่งมี นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เป็นแกนนำมี 8 เสียง พรรคเพื่อแผ่นดิน ที่จะเข้าร่วมกับขั้วฝ่ายประชาธิปัตย์ มี ส.ส. 12 เสียง พรรคภูมิใจไทย หรือจากพรรคมัชฌิมาธิปไตย เดิมมี ส.ส.อีกอย่างน้อย 7 เสียง และกลุ่มเพื่อนเนวินที่มีจำนวน ส.ส.อีกอย่างน้อย 20 เสียง รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวน 226 เสียง ซึ่งมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของ ส.ส.ที่เหลือในสภา


 



ทั้งนี้ ในที่ประชุมยังคาดว่าจะมีกลุ่ม ส.ส.ที่ยังลังเลอยู่ระหว่างการตัดสินใจ อาทิ กลุ่มกิจสังคมของ นายสุวิทย์ คุณกิตติ์ ซึ่งมี ส.ส.ในมืออีก 5 เสียง จะร่วมโหวตให้ขั้วพรรคประชาธิปัตย์ด้วย โดยมีเหตุผลหลักว่า ประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และเบื่อสภาพปัญหาความขัดแย้งของกลุ่มการเมืองที่กระทบต่อสภาพเศรษฐกิจของชาติ ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำอยู่แล้ว จึงเชื่อว่า ขั้วฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถรวมรวมจำนวน ส.ส.ในการจัดตั้งรัฐบาลได้ในที่สุด


 



หลังการหารือ พล.ต.สนั่น และ นายบรรหาร ไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ โดยรีบก้าวขึ้นรถทันที ขณะที่บรรดาลูกพรรคที่เหลือต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่า การกำหนดท่าทีและสรุปสถานการณ์การเมือง ก่อนที่จะโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งยืนยันว่า พรรคชาติไทยพัฒนา จะไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนในการโหวต


 



ขณะที่ นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ กล่าวสั้นๆ เพียง ว่า หมอดูทักมาว่าหลังการประชุมให้ลูกพรรคพูดให้น้อยจนกว่าจะถึงเวลาเลือกโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 15 ธ.ค.ตนจึงไม่มีอะไรจะให้สัมภาษณ์


 



มัชฌิมาฯยันไม่ต่ำ7เสียงชัวร์หนุน"มาร์ค"ตั้งรัฐบาล


ที่บ้านพักนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน อดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ย่านสนามบินน้ำ วันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 18.00 น. กลุ่ม ส.ส.มัชฌิมาธิปไตยเสียงส่วนใหญ่ อาทิ นางพรทิวา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท อดีตเลขาธิการพรรคมัชฌิมา ฯ , นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส.สุรินทร์ , พญ.อุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีษะเกษ และนายมานิต นพอมรบดี ได้ทะยอยเดินทาง มาร่วมรับประทานอาหารเย็นกับนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน อดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมา ฯ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ฯ โดยการรับประทานอาหารเย็น เป็นการนัดรวมตัว ส.ส. เพื่อหารือการเตรียมความพร้อมลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ ( 15 ธ.ค.)


 



นางพรทิวา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท กล่าวยืนยันว่า การเปลี่ยนขั้วพรรคการเมืองตั้งรัฐบาลจะไม่เกิดขึ้น ซึ่งจนถึงขณะนี้ ส.ส.มัชฌิมาธิปไตย จำนวน 10 คน มี ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 7 คน ที่ชัดเจนแล้วว่า จะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ จัดตั้งรัฐบาล


 



ทั้งนี้ ในส่วนของ ส.ส. 3 คน ซึ่งเป็น ส.ส.จังหวัดภาคอีสาน ประกอบด้วยนายอารยะ ชุมดวง ส.ส.สุโขทัย , นางกรรณิการ์ เจริญพันธ์ ส.ส.สุรินทร์ และนายสมนึก เฮงวานิช ส.ส.บุรีรัมย์ ที่ยังไม่ชัดเจนว่า จะมีมติสนับสนุนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลกับฝ่ายใดนั้น เท่าที่ได้โทรศัพท์ติดต่อพูดคุยกัน ทราบว่า มีอย่างน้อย 1 คน ที่น่าจะมาร่วมสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ อย่างไรก็ดี นางพรทิวา กล่าวชี้แจง แม้ ส.ส.ของพรรคส่วนใหญ่ ที่ไม่ต่ำกว่า 7 คน จะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ แล้วจะมี ส.ส.บางส่วน ไม่ร่วมสนับสนุน ก็ถือว่า เป็นเอกสารสิทธิ์ ส.ส. โดยพรรคก็ให้อิสระ ส.ส.


 



นางพรทิวา กล่าวด้วยว่า ในการเดินทางไปประชุมสภาพรุ่งนี้ เบื้องต้นคิดว่า จะนัดหมายกลุ่ม ส.ส.เริ่มเดินทางจากบ้านพักนางอนงค์วรรณ แต่ทั้งนี้ต้องรอดูความพร้อมอีกครั้ง


 



ด้านนางอนงค์วรรณ อดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมา ฯ กล่าวว่า การเดินทางมาของกลุ่ม ส.ส.วันนี้ ไม่ได้เป็นการนัดหมายเพื่อประชุมกัน แต่เป็นการมาพบร่วมรับประทานอาหารเย็น และให้กำลังใจกัน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ เธอจะติดตามการประชุมสภาฯ อยู่ที่บ้าน


 



"ส่วนตัวเห็นว่า การทำหน้าที่ ส.ส.ในวันนี้ ถือว่ามีคุณค่าและคุ้มค่า ที่จะทำงานการเมืองโดยมีเป้าหมายเพื่อประเทศชาติอย่างไรก็ดี แม้จะไม่สามารถทำงานด้านการเมืองได้ในช่วง 5 ปี แต่ก็หวังว่า รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้น จะมีอายุยาวนานพอ ที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติได้"


 


 


 


 


 


 


ที่มา : http://www.komchadluek.com


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net