Skip to main content
sharethis





การเมือง


เสื้อแดงประกาศรวมตัวชุมนุมใหญ่วันรบ.แถลงนโยบาย


แนวหน้า -  ความเคลื่อนไหวการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. บริเวณท้องสนามหลวงขณะนี้เริ่มมีกลุ่มคนเสื้อแดงทยอยเดินทางมารวมกันโดยรอบเวทีปราศรัย โดยมีการจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุม นายโชคชัย คำลือ ภายหลังกลุ่มคนเสื้อแดง ก่อเหตุปิดล้อมรัฐสภา และทุบรถ ส.ส.ที่สนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม และเจ้าหน้าที่เทศกิจ จากสำนักงานเขตพระนครได้วางกำลังเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับผู้ชุมนุมอยู่รอบบริเวณท้องสนามหลวง ทั้งนี้ ยังไม่มีแกนนำคนสำคัญมาที่เวทีปราศรัยแต่อย่างใด ซึ่งการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ในวันนี้ จะเป็นวันสุดท้าย หลังจากที่ทางแกนนำได้เคยประกาศไว้ว่า จะชุมนุมตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. เป็นเวลา 3 วันเท่านั้น ทั้งนี้ กลุ่ม นปช.ยืนยันว่า ในวันที่รัฐาลแถลงนโยบาย จะกลับมารวมตัวต่อต้านอีกครั้งอย่างแน่นอน



 


สตช.หารือศาลฏีกาเตรียมเสนอถอดยศทักษิณ


สยามรัฐ - พล.ต.ท.วัชรพล ประสานราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติล่าวถึงความคืบหน้าการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรีว่า เรื่องนี้เป็นไปตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบกับศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของกองวินัยว่าคดีดังกล่าวสิ้นสุดหรือยัง เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนที่จะมีการเสนอความเห็นเข้ามาที่ คณะกรรมการฯเพื่อพิจารณามีความเห็นในเรื่องดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ยงไม่ได้รับรายงานความคืบหน้าจากกองวินัยว่าดำเนินการอยู่ในขั้นตอนใดแล้ว



 


เพื่อไทยวิกฤต เลือกตั้งซ่อมติดล็อค 90 วัน สรุปส่งผู้สมัครได้แค่ 14 เขต


แนวหน้า - หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบ 3 พรรคการเมือง ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งซ่อม 22 เขต 29 คนนั้น นายคณวัฒน์  วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสรรหาว่า ยอมรับว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยติดปัญหาในเรื่องของผู้สมัครต้องสังกัดพรรค 90 วัน ทำให้ไม่สามารถ  ส่งผู้สมัครได้ครบ ซึ่งคาดว่าจะสามารถส่งผู้สมัครได้เพียงครึ่งหนึ่งของที่เปิดรับสมัคร หรือประมาณ 14 เขต  ความจริงแล้วทางพรรคเพื่อไทยได้ทำหนังสือไปถึงกกต.เพื่อขอให้พิจารณาเลื่อนการเลือกตั้งออกเป็น แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ ซึ่งจะมีการเปิดรับสมัครในวันจันทร์ที่ 22 ธ.ค.นี้แล้ว อย่างไรก็ตามคาดว่าพรรคน่าจะสรุปการส่งตัวผู้สมัครได้ในวันศุกร์ที่ 18 ธ.ค.นี้


 


มาร์คแบกอื้อดันงบกลางปีลด ดบ.-ค่าเงิน


ASTV ผู้จัดการรายวัน - นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการเข้าหารือร่วมกับสมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)วานนี้ (18 ธ.ค.) ว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) 23 ธ.ค.นี้จะมีการอนุมัติเกี่ยวกับร่างนโยบายเศรษฐกิจและหากมีประเด็นใดต้องแก้ไขร่างดังกล่าวจะกำหนดให้เสร็จภายใน 1-2 วัน เพื่อแถลงนโยบายต่อสภาฯระหว่างวันที่ 29-30 ธ.ค. ในการให้ครม.ชุดใหม่ทำงานได้ทันทีในช่วงปีใหม่และหลังจากวันที่ 30 ธ.ค.จะมีการประชุม ครม.นัดพิเศษเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับกรอบความร่วมมืออาเซียนทันทีเพื่อที่จะส่งสัญญาณด้านต่างประเทศชนิดที่แรงและเร็ว


 


"เราจะขอยืนยันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนตั้งแต่ปลายม.ค.52นี้เป็นต้นไปซึ่งได้หารือกับเลขาธิการอาเซียนแล้วส่วนจะประชุมจริงได้เมื่อไหร่จะไม่ได้อยู่ที่ไทยแล้วจะกลับไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านว่าเขาพร้อมเมื่อไหร่และหลังจากปีใหม่ไปประมาณ 21 ม.ค.จะขอเปิดสมัยประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างงบประมาณกลางปีซึ่งแผนกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งหมดจะชัดเจนทันที" นายอภิสิทธิ์กล่าว


 


 อย่างไรก็ตาม ส่วนของปัญหาข้อพิพาทไทย-กัมพูชาเกี่ยวกับเขาพระวิหารนั้นจะพยายามนำกรอบที่เคยวางไว้ไปหารือกับกัมพูชาต่อหลังการประชุมอาเซียนซึ่งมั่นใจว่าการเจรจาน่าจะง่ายขึ้นเพราะรัฐบาลปัจจุบันไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนโดยเฉพาะผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเลซึ่งหากการเจรจาล่าช้าออกไปทั้งไทยและกัมพูชาจะไม่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย


 


นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงข้อเสนอ ส.อ.ท. 7 เรื่องเร่งด่วนอาทิ การดูแลค่าเงินบาท การลดดอกเบี้ยนโยบายอีก 1% การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 20-25% ฯลฯ ว่า นโยบายการเงินเช่น เรื่องดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยนพร้อมจะรับข้อเสนอที่จะไปหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)และคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) แบบลับๆ ยืนยันว่าจะไม่มีการทะเลาะกันให้สื่อมวลชนเห็นเช่นที่ผ่านมาเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปในทิศทางเดียวกันและเกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนกรณีงบประมาณจะมากกว่าแสนล้านบาทหรือไม่นั้นยอมรับว่ามีข้อจำกัดเพราะมีกฎหมายดูแลการขาดดุลงบประมาณ แต่ทั้งหมดรัฐบาลยืนยันว่าจะไม่ทำให้เสียวินัยการเงินและการคลัง


 


ผู้นำฝ่ายค้านไม่ลงตัว เพื่อไทยให้โอกาสรบ.


ข่าวหุ้น - นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่ออกมาว่า อาจจะมีการผลักดันเพื่อให้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรค โดยให้ ร.ต.อ.เฉลิมอยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อจะได้มีคุณสมบัติเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรได้นั้น


         


นายวิชาญ กล่าวว่า วันนี้ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ และตัวผู้นำฝ่ายค้าน เพราะคงต้องรอให้รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อน จึงยังไม่ได้สรุป จากนี้พรรคจะต้องพูดคุยถึงการจัดวางตัวบุคคลในการอภิปรายนโยบายรัฐบาลไว้เบื้องต้นบ้างแล้วซึ่งต้องดูว่ารัฐบาลจะแถลงอะไรบ้าง


ส่วนประเด็นที่มีการพูดกันว่า ในฐานะที่ต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านจะมีการตั้งรัฐมนตรีเงามาตรวจสอบการทำงานรัฐบาลหรือไม่ นายวิชาญ กล่าวว่า ส.ส.ที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยหลายคนถือว่ามีความชำนาญในแต่ละด้าน ถ้า ส.ส.คนใดสนใจในนโยบายด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษคงจะมีการจับตามองแต่ไม่ถึงกับต้องมีรัฐมนตรีเงา


 


นอกจากนี้ก็กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีทุกคนก็ต้องทำงานเพื่อประเทศ ตนไม่อยากให้ไปทำงานเหมือนฝ่ายค้านที่ผ่านมา คือ จ้องจะเป็นฝ่ายค้านอย่างเดียว แต่ควรจะปล่อยให้รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำงานก่อน เพราะวันนี้เขายังไม่ได้เริ่มทำงาน จึงขอให้รอดูผลงานของพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะเป็นอย่างที่ได้แถลงหรือไม่ ก่อนที่จะวิพากษ์วิจารณ์ เตรียมวางตัวคนอภิปรายนโยบายรัฐบาล


 


พท.ปูดทหาร 2 พันลงอีสาน หยันมาร์ค ฝีมือคนละชั้น


ข่าวหุ้น - พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีแสดงจุดยืนว่าจะแก้ไขปัญหาของกองทัพ ภายใต้สถานการณ์แทรกแซงการเมืองอย่างต่อเนื่อง


 


โดยล่าสุดปลัดกระทรวงกลาโหมก็ออกมาคัดค้านนายอภิสิทธ์ควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือแม้แต่สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของทหาร ก็ให้เวลาเผยแพร่ข่าวรัฐบาลพรรคปรชาธิปัตย์มากเกินไป ทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มทำงานอย่างผิดสังเกตุ ทำให้ศรัทธาประชาชนที่มีต่อกองทัพภายใต้การดูแลของพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดาผบ.ทบ.ตกต่ำที่สุด


 


พ.ต.ท.สมชาย ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้มีการเตรียมการจัดส่งทหาร 2 พันนายกระจายลงพื้นที่ทั่วภาคอีสานและเหนือ เพื่อทำงานมวลชน โฆษณาชวนเชื่อให้ประชาชนสนับสนุนรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เช่นที่ คมช.เคยทำเมื่อครั้งจัดทำประชามติรัฐธรรมนูญ 2550 และการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 25550  จึงขอให้ประชาชนช่วยจับตามองถึงความไม่ยุติธรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยอาศัยกองทัพเป็นตัวผลักดัน ถือเป็นพฤติกรรมปากว่าตาขยิบ ซึ่งตนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร จะเสนอเป็นวาระประชุมและเรียกผู้นำเหล่าทัพเข้าชี้แจงต่อไป


 


ผู้นำต่างชาติส่งสารแสดงความยินดีกับอภิสิทธิ์


คมชัดลึก - วันที่ 18 ธันวาคม ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายอีริค จี จอห์น เอกอัครทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยได้เข้าพบอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ โดยใช้เวลา 30 นาที จากนั้นนายอภิสิทธิ์  กล่าวว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐฯมาแสดงความยินดี ในโอกาสที่ตนรับตำแหน่ง โดยได้หารือถึงการทำงานร่วมกันระหว่างสหรัฐฯกับไทย และตนได้ยืนยันไปว่า จะเดินหน้าในการประชุมอาเซียนซัมมิทและตน ได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆที่สหรัฐฯห่วงใยมาโดยตลอดในทางการเมืองให้ค่อยๆคลี่คลายลงไป



ผู้สื่อข่าวถามว่า ทูตสหรัฐฯมีมุมมองต่อประเทศไทยอย่างไรหลังเกิดวิกฤติทางการเมืองของไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้แสดงความหวังและเห็นว่าเป็นโอกาสของเราที่จะก้าวพ้นจากเหตุการณ์ต่างๆในอดีตที่ชาวโลกห่วงใย ซึ่งตนคิดว่าเขาก็เข้าใจเราดีแล้ว เพราะสถานการณ์คลี่คลายไปได้จุดหนึ่ง แต่ก็ยอมรับว่างานของเราข้างหน้าก็ยังหนักอยู่ มีปัญหาหนักในเรื่องเศรษฐกิจซึ่งสหรัฐฯ ก็เผชิญปัญหานี้เช่นกัน ทั้งนี้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐ ไม่มีปัญหา ความร่วมมือต่างๆยังคงเดินหน้าต่อไป



มีรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศว่า ภายหลัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้ (18 ธ.ค.) กระทรวงการต่างประเทศได้รับสารแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ล่าสุด จาก 4 ประเทศ คือ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ราชอาณาจักรภูฏาน สาธารณรัฐประชาชนจีน กัมพูชา และ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ



 


โดยสารของ นายนิโกลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส มีสาระสำคัญแสดงความพร้อมสานต่อความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ให้แน่นแฟ้นทุกระดับ สนับสนุนการเสริมสร้างสถาบันประชาธิปไตยของไทยให้มั่นคง พร้อมหวังว่าจะเห็นความสมานฉันท์ในประเทศไทยเพื่อส่งเสริมบทบาทของไทยในฐานะประธานอาเซียน



เช่นเดียวกับ นายเวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ยืนยันความสัมพันธ์ที่ดี ร่วมสร้างความมั่งคั่งเสถียรภาพในระดับภูมิภาค


 


กรณ์ ยันส่ง SMS ชวนแก้วิกฤตไม่ผิดกม. บอกเป็นยุทธศาสตร์การสื่อสารปชช.


แนวหน้า - นายกรณ์ จาติกวณิช ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ขอความร่วมมือผู้ประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 ราย ประกอบด้วยเครือข่าวเอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ ในการส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนร่วมแก้วิกฤติชาติกับพรรคประชาธิปัตย์ว่า ทั้งหมดเป็นยุทธศาสตร์ในการสื่อสารระหว่างประชาชนกับรัฐบาล ซึ่งทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งนี้พิจารณาเรื่องข้อกฎหมายก็พบว่าไม่ผิดกฎหมาย และไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม พรรคต้องขออภัยประชาชนที่อาจไม่ชอบพรรคประชาธิปัตย์ แต่อยากให้เปิดใจกว้างร่วมรับฟังนโยบายของพรรค ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการบังคับให้ประชาชนต้องเสียเงินฟรี เพราะเมื่อได้รับข้อความแล้วก็เป็นสิทธิของประชาชนที่จะเห็นด้วยหรือไม่ หากเห็นด้วยก็ส่งข้อความตอบรับถึงจะเสียเงิน 3 บาท จากนั้น จะมีข้อความยืนยันว่าระบบได้ตอบรับแล้ว





       






เศรษฐกิจ


ค่าไฟจ่อขึ้น14สต.ต่อหน่วย


สยามรัฐ - นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) หรือเรกกูเรเตอร์ เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือค่าเอฟที งวดประจำเดือนม.ค.-เม.ย. 2552 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากรอบเดือนที่ผ่านมา(ต.ค.-ธ.ค.51 )ที่เคยเพิ่มขึ้น 14.85 สตางค์ต่อหน่วย ทั้งนี้ คาดว่าจะปรับขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากแม้ระดับราคาน้ำมันซึ่งเป็นเชื้อเพลิงในการการผลิตไฟฟ้าจะปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แต่ที่ผ่านมาเรกกูเรเตอร์ได้ปรับขึ้นค่าเอฟทีแบบขั้นบันไดซึ่งไม่ได้ครอบคลุมราคาที่แท้จริงทั้งหมด เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบมากนัก ดังนั้น ในงวดเดือนม.ค.-เม.ย.ที่จะถึงนี้คาดว่าอาจจะต้องพิจารณาทยอยปรับขึ้นค่าเอฟทีอีกเล็กน้อยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เรกกูเตอร์อยู่ระหว่างการศึกษาราคาที่เหมาะสมโดยคาดว่าจะมีการประชุมเพิ่มพิจารณาค่าเอฟทีได้ประมาณปลายปีนี้หรือไม่เกินต้นปี 2552 แน่นอน


 


คาดน้ำมันปรับลดต่อ


สยามรัฐ -   นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า หลัง 6 มาตรการ 6 เดือน ของรัฐบาลหมดลงในเดือนม.ค.ปีหน้า ต้องรอว่ารัฐบาลใหม่จะมีการต่อมาตรการการลดภาษีน้ำมันต่อไปหรือไม่ หากลดให้ต่อก็จะมีการพิจารณาเสนอให้คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางปรับลดราคาค่าโดยสารลงอีก


 


ต่อข้อถามที่ว่า รถประจำทางได้มีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใช้ก๊าซธรรมชาติ(เอ็นจีวี)มากขึ้น แต่การปรับราคาค่าโดยสารยังคงอ้างอิงอยู่กับราคาน้ำมันอยู่เพราะเหตุใดนายชัยรัตน์ กล่าวว่า รถในกรุงเทพฯเท่านั้นที่มีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ แต่รถที่วิ่งต่างจังหวัดยังไม่มีการปรับ ดังนั้น ตารางปรับค่าโดยสารยังต้องอ้างอิงราคาน้ำมันต่อไปก่อน ส่วนจำนวนรถส่วนตัว มีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)และเอ็นจีวีลดลงมากจากราคาน้ำมันที่ลดลง ส่วนรถประจำทางยังคงมีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ในอัตราปกติ


 


นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)กล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางมีมติให้รถโดยสารประจำทางของขสมก.และรถร่วมบริการลดอัตราค่าโดยสารลง 0.50-1.0 บาท มีผลวันที่ 22ธ.ค.นี้เป็นต้นไป เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนและให้การดำเนินงานเป็นไปตามมติคณะกรรมการฯ ขสมก.และรถเอกชนร่วมบริการจะปรับลดค่าโดยสารลงทุกประเภททั้งรถโดยสารธรรมดาและรถปรับอากาศในวันดังกล่าว


 


โดยรถโดยสารธรรมดา(ครีม-แดง)จะจัดเก็บค่าโดยสาร จาก 7.50 บาทเหลือ 7.00 บาทรถโดยสารธรรมดา(ขาว-น้ำเงิน) จาก 8.50 บาทเหลือ 8.00 บาท รถทางด่วน จาก 9.50 บาทเหลือ 9.00 บาท รถกะสว่างจาก 9.00 บาท เหลือ 8.50บาท รถโดยสารปรับอากาศ(ครีม-น้ำเงิน) จาก 12-20 บาทเหลือ 11-19 บาท รถโดยสารปรับอากาศ (ยูโรทู )จาก 13-25 บาทเหลือ 12 -24 บาท รถมินิบัสจาก 7.00บาทเหลือ 6.50 บาท รถสองแถว จาก 6.00 บาทเหลือ 5.50 บาทสำหรับผู้ใช้บริการที่ซื้อคูปองล่วงหน้าสามารถนำมาใช้ได้เช่นกัน โดยใช้คูปองคู่กับเงินสดตามอัตราค่าโดยสารที่ปรับใหม่



 


นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมัน กล่าวว่า แนวโน้มราคาน้ำมันในประเทศจากนี้จนถึงสิ้นปี มีโอกาสที่ผู้ค้าน้ำมันในประเทศจะปรับลดราคาได้ลิตรละ 1 บาทจากระดับราคาในปัจจุบัน ซึ่งเป็นไปตามราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แม้กระทรวงพลังงานจะมีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเต็มเพดานที่ลิตรละ 7 บาทจากระดับลิตรละ 4 บาทแล้ว


        






ต่างประเทศ


ไทม์ ยกให้โอบามาเป็นบุคคลแห่งปี แต่บอกว่าเลือกรองลำบากกว่าแยะ


ASTV ผู้จัดการรายวัน -  รอยเตอร์ - นิตยสารไทม์ ยกให้บารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นบุคคลแห่งปีคนล่าสุด จากการเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนแรกที่ได้ครองเก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาว ทว่ายังมีบุคคลที่เข้ารอบการพิจารณาบุคคลแห่งปี 2008 ซึ่งน่าจับตาไม่แพ้กันอีก 4 คน คือ เฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ นิโกลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีของฝรั่งเศส แซราห์ แพลิน ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีพรรครีพับลิกัน และจางอี้โหมว ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวจีนผู้อยู่เบื้องหลังพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ณ กรุงปักกิ่งอันยิ่งใหญ่


        


สื่อมะกันเผย อิรักบุกรวบขรก.ฐานวางแผนรัฐประหาร


ASTV ผู้จัดการรายวัน  -  รอยเตอร์ - ทางการอิรักบุกรวบข้าราชการ 35 คน กลางกระทรวงมหาดไทย โดยบางรายถูกตั้งข้อหาวางแผนรัฐประหาร หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐฯ รายงานวันพุธ(17) อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าความมั่นคงระดับอาวุโสในกรุงแบกแดด การจับกุมครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 3 วันก่อน เป็นปฏิบัติการของหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายชั้นเยี่ยม ซึ่งมีรายงานว่า ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรีนูริ อัลมาลิกี สื่อมะกันรายงาน


 


เจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับอาวุโสหลายคนอ้างว่า มีหลักฐานสำคัญที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างพวกที่ถูกจับกุมกับกลุ่มอัลอาวดะ ซึ่งถูกกล่าวหาว่า พยายามสถาปนาพรรคบาธของอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุซเซน ขึ้นมาอีกครั้ง นิวยอร์กไทมส์กล่าว


 


ในกระทรวงมหาดไทยที่กล่าวว่า พวกที่ถูกควบคุมตัวพยายามติดสินบนข้าราชการคนอื่น ๆ เพื่อรวบรวมสมัครพรรคพวก โดยเจ้าหน้าที่พบเงินจำนวนมากมายระหว่างการบุกจับกุมกลุ่มผู้ต้องสงสัยด้วย


      


เวที นปช.เงียบมีเสื้อแดงแค่ 300 ฟังปราศรัย


แนวหน้า - บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.บริเวณท้องสนามหลวงในขณะนี้มีกลุ่มคนเสื้อแดงนั่งรับฟังการปราศรัยของแนวร่วม นปช. อยู่บริเวณด้านหน้าเวทีปราศรัยกว่า 300 คน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของการ์ด นปช.




  






คุณภาพชีวิต


ม็อบยางพารา เข้ายื่น 4 ข้อเรียกร้องวอนรัฐช่วยเหลือ


แนวหน้า - เครือข่ายเกษตรกรภาคประชาชนและภาคีจังหวัดตรัง กว่า 100 คน นำโดยนายอานนท์ ศรีเพ็ญ ผู้ประสานเครือข่าย ประท้วงหน้าศาลากลางจังหวัดตรัง และยื่นข้อเรียกร้องผ่านนายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ผวจ.ตรัง เพื่อให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาราคายางพาราที่กำลังตกต่ำ เหลือเพียงกิโลกรัมละ 25-30 บาท ต่ำกว่าต้นทุน โดยยื่นข้อเรียกร้อง 4 ข้อ คือ 1.ให้มีการประกันราคาน้ำยางสดและยางแผ่นดิบไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 80 บาท 2.ควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภค 3.ให้มีการพักชำระหนี้เกษตรกรโดยไม่คิดดอกเบี้ย และ 4.ให้ยุติการคุกคาม ดำเนินคดีทางอาญาและแพ่งต่อเกษตรกรที่ถูกเขตอนุรักษ์ประกาศทับที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยในชุมชนดั้งเดิม-



 


ศก.ซบรากหญ้าหนี้เพิ่มเร่งรัฐฟื้นฟูหวั่นตกงาน


คมชัดลึก - ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงผลประเมินสถานภาพของประชาชนระดับรากหญ้า ทำการสำรวจทั่วประเทศระหว่างวันที่ 8-15 ธันวาคมนี้ ว่าประชาชนระดับรากหญ้าประสบปัญหาเศรษฐกิจมากถึง 42.6% มีสาเหตุมาจากต้นทุนค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากราคาสินค้ามากที่สุด 38.02% และรู้สึกว่าเศรษฐกิจแย่ 22.54% และราคาพืชผลทางการเกษตรลดลง 21.92%



 


ทั้งนี้ ประชาชนรากหญ้าระบุว่า ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดย 62.64% มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น ขณะที่การออมลดลง 59.24% ส่วนรายได้ก็ลดลงเช่นกันมีสัดส่วน 41.89% ซึ่งหากแยกกลุ่มรากหญ้าตามอาชีพ เกษตรกรพบว่าภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นถึง 61.85% ส่วนกลุ่มครูภาระหนี้เพิ่มขึ้น 66.67% คนขับรถแท็กซี่มีหนี้เพิ่มขึ้น 50% กลุ่มรถโดยสารมีหนี้สินเพิ่มขึ้น 63.30%



 


 ด้านสถานภาพหนี้ของครัวเรือนระดับรากหญ้าภาพรวม 94.57%  ระบุว่าเป็นหนี้ มีเพียง 5.43% ที่ไม่มีหนี้สิน ซึ่งแยกตามวัตถุประสงค์การกู้ยืมส่วนใหญ่ 22.51% เป็นการกู้มาเพื่อลงทุน รองลงมา 20.21% กู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ส่วนการกู้เพื่อใช้จ่ายประจำวันมี 19.53% โดยแหล่งเงินกู้ยังมีบางส่วนกู้จากแหล่งเงินกู้นอกระบบ แม้ส่วนใหญ่จะกู้จากในระบบ ด้านหนี้สินภาพรวม มีภาระหนี้เฉลี่ยรายละ 210,387.2 บาท อัตราการผ่อนชำระ 8,282 บาทต่อเดือน โดย 66.70% เป็นหนี้ในระบบ ส่วนหนี้นอกระบบมีสัดส่วน 33.30%


ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net