Skip to main content
sharethis

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 51 ใหม่ ว่าจะขยายตัวเพียง 3% จากเดิมที่คาดไว้ 5.1% เนื่องจากไตรมาส 4 นี้จีดีพีติดลบ 2-3% จาก   การใช้จ่ายภายในประเทศฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมมาก ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและการปิดสนามบิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าและนักท่องเที่ยวในช่วงท้ายปี คาดว่าไตรมาสแรกปีหน้าจีดีพียังติดลบอยู่ ส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอย และทั้งปี 52 จีดีพีจะขยายตัวเพียง 1% เท่านั้น


 


ภาวะเศรษฐกิจเดือน พ.ย. ที่ผ่านมาชะลอตัวอย่างรุนแรง และต่อเนื่องจากเดือน ต.ค. ทั้งด้านการส่งออกที่ติดลบ 18% จากการปิดสนามบิน และสัญญาณการบริโภคที่น่าเป็นห่วง จากการที่ภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ติดลบ 4% รวมถึงการลงทุนที่ติดลบ 6.4% ส่งผลให้ไตรมาส 4 จีดีพีน่าจะติดลบ 2-3% นับเป็นการติดลบครั้งแรกของ   ปี ชี้ชัดว่าเศรษฐกิจตกหลุมลึกจริง โดยเฉพาะการบริโภคที่ติดลบนั้นเริ่มน่ากลัว ส่วนเดือน ธ.ค.ก็น่าจะเป็นไปในทำนองเดียวกัน


 


ส่วนเงินเฟ้อทั้งปีนี้ น่าจะลดลงมาอยู่  ที่ 5.6% จากราคาน้ำมันที่ลดลงเร็วมาก ขณะที่การส่งออกทั้งปีน่าจะยังขยายตัวที่ 19.7% แต่จากการนำเข้าที่สูงขึ้น ทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดน่าจะขาดดุล 1.5% ของจีดีพี และยอมรับว่าการขาดดุล ทั้งดุลบัญชีเดินสะพัดและดุลการคลังนั้น ถือว่าอันตราย เพราะอาจเหมือนสหรัฐ แต่ของไทยยังไม่รุนแรงเท่า จึงต้องจับตาดูดุลบัญชีปีหน้าอย่างใกล้ชิด โดยหากขาดดุล 2-3% ถือว่าน่ากลัว ดังนั้นต้องขึ้นอยู่กับนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนที่ต้อง บริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและนโยบายการเงินการคลัง ต้องไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต่อไป


 


ทั้งนี้คาดว่า หลังจากไตรมาส 2 ของปี 52 เป็นต้นไป จีดีพีน่าจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้เฉลี่ยที่ 1%  โดยมีช่วงที่ 0-2% และการที่จะทำให้ทั้งปีโต    ถึง 2% ได้นั้น หมายความว่ารัฐบาลต้องเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังอย่างต่อเนื่อง และต้องเกิดประสิทธิภาพเต็มที่ทุกโครงการ


 


นายสมชัย กล่าวว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง และนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลังได้สั่งการให้ สศค.หาช่องทาง อัดฉีดเงินเข้าระบบเพิ่มเติม และเห็นว่ายังมีอีกหลายช่องทางที่ทำได้รวมเป็นเงินเกือบ 4 แสนล้านบาท นอกจากการขาดดุลเพิ่ม 1 แสนล้านแล้ว ยังมีส่วนที่ค้ำประกันเงินกู้ให้รัฐวิสาหกิจอีก 1 แสนล้านบาท การกู้ตรงจากต่างประเทศยังมีช่องอีก 140,000 ล้านบาท และการกู้มาปล่อยต่อให้รัฐวิสาหกิจอีก 50,000 ล้านบาท


 


นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุ โสฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจปี 52 จะขยายตัวต่อเนื่องหรือไม่ต้องรอดูการแถลงนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ หากมีการเบิกจ่ายงบประมาณและเป็นไปตามเป้าหมายจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มาก โดยเห็นว่าการเมืองในประเทศที่ชัดเจน    จะช่วยดึงความเชื่อมั่นและทำให้บรรยากาศภายในประเทศดีขึ้น แต่ต้องดูปัจจัยภายนอกด้วย


ที่มา: เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 26 ธ.ค. 2551

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net