Skip to main content
sharethis

 






การเมือง


กษิต ย้ำดำเนินการ ทักษิณ ตามกฎหมาย


นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาดำเนินคดี ว่าการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดี ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งขึ้นอยู่กับความร่วมมือของ 3 ส่วน คือ อัยการ การดำเนินการเรื่องหนังสือเดินทาง และความร่วมมือกับต่างประเทศ


 


เมื่อถามว่า หากตอนนี้สามารถโทรศัพท์ถึง พ.ต.ท.ทักษิณ จะพูดว่าอะไร นายกษิต กล่าวว่า จะบอกว่าคิดถึง เพราะมีความผูกพันกันอยู่ ตนเคยเป็นที่ปรึกษาจึงมีความผูกพันส่วนตัวกันอยู่ และไม่ได้ทะเลาะกัน


ที่มา: http://www.posttoday.com


 


เตรียมตั้งสุพัตรา มาศดิตถ์เป็นที่ปรึกษาด้านสังคม


เมื่อเวลา 15.00 น. ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้รับฟังเข้าเสนอแนะและปัญหาต่างๆ ภาคสังคม จากคณะกรรมการประสานงานองค์กรเครือข่ายพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) และเครือข่ายภาคประชาชน โดยมีนายจรัส สุวรรณมาลา คณบดี คณะรัฐศาสตร์ฯ นายปณิธาน วัฒนายากร ว่าที่รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ


 


ทั้งนี้เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชน (อพช.) ได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา 10 ประการ อาทิ การตั้งคณะกรรมการปฏิรูปการเมืองงและสังคม การจัดตั้งคณะกรรมการไต่สวนระดับชาติที่เป็นอิสระจากรัฐ เพื่อสอบสวนกรณีความขัดแย้งทางการเมืองและความรุนแรงในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา การจัดทำแผนปฏิบัตินิติบัญญัติ การทบทวนปรับปรุงกลไกการทำงานขอคณะทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมา เพื่อแก้ปัญหาของประชาชนในกลุ่มต่างๆ การปฏิรูประบบภาษี การปฏิรูปที่ดิน การเร่งรัดแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรตามแนวทางของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร การประกันการว่างงาน การจัดทำนโยบายคุ้มครองจัดสวัสดิการแรงงานทุกประเภท การจัดตั้งกองทุนบำนาญผู้สูงอายุเป็นต้น ส่วนทางกลุ่มเครือข่ายเด้กและเครือข่ายพ่อแม่ ได้เสนอให้รัฐบาลมีนโยบายและมาตรการการสร้างสังคมที่มีความสุขแบะลดอบายมุขของประเทศ โดยขอให้ยกเลิกโครงการหวยออนไลน์ หวยใต้ดิน รวมทั้งกำหนดให้มีองค์กรมหาชนทำหน้าที่วิจัยและจัดการความรู้ ส่งเสริมพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ แก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนและครอบครัว และขอให้รัฐบาลจัดเวทีระดมความคิดเห็นของภาคส่วนต่างๆที่ทำงานด้านสังคม


 


นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของงานด้านสังคม เด็ก และเยาวชน ซึ่งตนจะดูแลด้วยตัวเอง โดยจะแต่งตั้งคุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ มาเป็นที่ปรึกษาเพื่อช่วยงานด้านสังคม อย่างไรก็ตามข้อเสนอต่างๆ รัฐบาลจะพยายามเดินหน้าให้มากที่สุด อะไรเริ่มต้นได้ก็จะเริ่มต้น อะไรที่ยังทำไม่ได้ก็จะเริ่มต้นปูทางเพื่อสร้างความเข้าใจ และทำให้ทุกฝ่ายเห็นถึงความจำเป็น


 


จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงบ่ายตนได้บันทึกเทปภาพและเสียง เพื่อสวัสดีปีใหม่กับชาว จ. เชียงใหม่ โดยบอกกับชาวเชียงใหม่ว่าอยากให้ปี 52 เป็นปีแห่งความหวัง และตนมีหน้าที่ที่จะทำให้ความหวังของทุกคนเป็นจริง แต่ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง จึงอยากให้ทุกคนมาช่วยกัน


ที่มา: http://www.komchadluek.com


 


ปธ.กมธ.ทหาร ชี้ ผบ.ทบ.ไม่ต้องแจงแล้ว อ้างได้ข้อมูลชัดเจนแล้วผิดข้อบังคับกลาโหมฐานแทรกแซงการเมือง


ที่พรรคเพื่อไทย พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา สมาชิกพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ระบุพร้อมเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการทหาร ทุกเรื่องในการให้สัมภาษณ์พาดพิงทางการเมืองว่า คงไม่จำเป็นต้องเชิญ ผบ.ทบ.มาชี้แจงแล้ว แม้ว่า ผบ.ทบ.พร้อมเข้าชี้แจงก็ตาม เนื่องจากเรื่องการพิจารณาจบไปแล้ว หลังจากที่เจ้ากรมพระธรรมนูญได้เข้ามาชี้แจงพร้อมยืนยันถึงกรณี ผบ.ทบ.และผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.)ให้สัมภาษณ์ทางการเมืองเข้าข่ายการเข้าไปแทรกแซงทางการเมืองชัดเจนตามข้อบังคับของกระทรวงกลาโหม ซึ่งถือว่าได้ข้อมูลชัดเจนแล้ว ดังนั้น คณะกรรมาธิการการทหารฯได้ทำหนังสือส่งไปให้ปลัดกระทรวงกลาโหมแล้ว


 


พ.ต.ท.สมชาย กล่าวด้วยว่า ดังนั้น ต่อไปขอให้ระมัดระวังในการให้สัมภาษณ์ทางการเมือง เพราะถือว่าเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงในกองทัพอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อกองทัพและตนเองได้ซึ่งไม่เป็นผลดีในภาพรวม สิ่งสำคัญยังเป็นสาเหตุหนึ่งในการทำลายระบอบประชาธิปไตยด้วย ส่วนในการเลือกตั้งซ่อม 26 เขตเลือกตั้งนั้น ก็ขอฝากให้กองทัพแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองและการเลือกตั้ง เพราะไม่ต้องการให้เข้าข้างเอนเอียนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเนื่องจากทุกวันนี้ทั่วโลกกำลังจับตาดูว่ากองทัพอย่างใกล้ชิด จึงไม่อยากให้เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการจัดตั้งรัฐบาล


ที่มา: http://www.naewna.com


ศาลนัดตรวจสอบพยานคดียึดทรัพย์ทักษิณ26มี.ค.52


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้(25ธ.ค.2551) ว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง องค์คณะผู้พิพากษา 9 คน ได้นัดพร้อมเพื่อกำหนดกระบวนพิจารณาคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยฐานมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวจำนวน 7.6 หมื่นล้านบาทเศษ ตกเป็นของแผ่นดิน


 


โดยวันนี้ ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ และบุคคลซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ถือครองทรัพย์สิน ได้ยื่นคำร้องขอขยายเวลายื่นคำคัดค้านออกไปอีก หลังจากที่ศาลเคยมีคำอนุญาตให้ขยายเวลายื่นคำคัดค้านมาแล้ว ซึ่งศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ก่อนหน้านี้ศาลอนุญาตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ถูกกล่าวหาขยายเวลายื่นคำให้การได้จนถึงวันที่ 20 ม.ค.2552 ส่วนบุคคลซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ถือครองทรัพย์สินรายอื่น ให้ยื่นภายใน 3 ม.ค.2552 ซึ่งเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว ประกอบกับในชั้นไต่สวนของ คตส.ได้ให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาและบุคคลที่มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ นำพยายหลักฐานยื่นคัดค้านเกี่ยวกับบัญชีทรัพย์สินแล้วเช่นกัน จึงยังไม่มีเหตุเพียงพอ จึงให้ยกคำร้อง


 


ขณะที่ศาลมีคำสั่งให้ฝ่ายโจทก์และจำเลย พร้อมตรวจสอบพยานหลักฐานในวันที่ 26 , 27 และ 30 มี.ค. 2552 ในเวลา 10.00 น. โดยให้คู่ความยื่นบัญชีพยาน เสนอต่อศาลก่อนวันนัดตรวจสอบพยานหลักฐานไม่น้อยกว่า 7 วัน



นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ รับผิดชอบสำนวนคดี กล่าวว่า ในส่วนของโจทก์ ตามบัญชีพยาน มีพยานบุคคลที่จะเสนอให้ศาลไต่สวนประมาณ 100 คน อย่างไรก็ดี ในส่วนที่มีบุคคลที่มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สิน ยื่นคำคัดค้านนั้น ขณะนี้อัยการยังไม่ได้รับสำเนาจากศาล จึงไม่ทราบรายละเอียดคำคัดค้านว่า เป็นการยื่นคัดค้านบัญชีจำนวนเท่าใด


ที่มา: http://www.siamrath.co.th






เศรษฐกิจ


สตช.-ธปท. ร่วมมือกันวางมาตรการป้องกันแบงก์ปลอม


พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง   ผู้ช่วย ผบ.ตร.ประชุมร่วมกับตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เพื่อเร่งรัดป้องกันปราบปรามการแพร่ระบาดของธนบัตรปลอม   พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เชิญผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และธนาคารพาณิชย์ มาร่วมประชุมเรื่องการแพร่ระบาดของการใช้ธนบัตรปลอม ซึ่งได้ข้อสรุปว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานต่อที่ประชุมว่าปกติสามารถตรวจสอบธนบัตรปลอมได้ และมีการจับกุมได้ทุกครั้ง   ซึ่งแต่ละปีจับกุมได้น้อยมากเมื่อเปรียบเทียบธนบัตรจริงที่ใช้อยู่ในท้องตลาด   พร้อมยืนยันว่าธนบัตรที่ออกจากธนาคาร และตู้เอทีเอ็ม เป็นธนบัตรที่ถูกต้องทุกใบ   ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย ได้วางมาตรการร่วมกันเพื่อให้ความมั่นใจกับประชาชน


 


พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า   สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีหนังสือ 2 ฉบับ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยแนะนำว่าต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์เตือนประชาชน ธนบัตรปลอมมีเป็นประจำการตรวจสอบมี 2 ส่วนคือ ธนาคารตรวจสองเองและตำรวจจับกุมได้ ซึ่งปีนี้ตำรวจจับกุมได้มากกว่าเลยทำให้รู้สึกว่า การแพร่ระบาดมีมาก แต่ความจริงตำรวจทำงานได้มาก ส่วนแหล่งต้นต่อการผลิตกำลังสืบสวนจากกระดาษที่ใช้พิมพ์ธนบัตร


 


ตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า   สถานการณ์ที่พบธนบัตรปลอมในปัจจุบันถือว่าอยู่ในเกณฑ์ไม่ผิดปกติ พื้นที่มีการแพร่ระบาดเป็นเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่ ซึ่งช่วงหลังอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน   การตรวจพบธนบัตรปลอม 60 เปอร์เซ็นต์มาจากจับกุมตำรวจ การแพร่ระบาดมาจากสภาพเศรษฐกิจ ปัญหาธนบัตรปลอม ผลิตในประเทศไทย จากคุณภาพแตกต่างของจริงมาก เพราะประชาชนสังเกตุได้ด้วยตัวเอง ส่วนรางวัลนำจับ ปี 2551 ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับไปแล้ว


ที่มา: http://www.naewna.com


 


สปสช.เตรียมแผนรับมือคนถูกเลิกจ้างปีหน้านับล้าน


นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า จากสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในประเทศไทยขณะนี้ ส่งผลให้สถานประกอบการหลายแห่งเลิกจ้างแรงงาน ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ได้ประเมินว่าในปี 2552 จะมีประชาชนที่เป็นผู้ประกันตนในบริษัทเอกชนที่คาดว่าจะถูกเลิกจ้างหรือตกงานไม่ต่ำกว่า 800,000-1,200,000 คน ส่งผลให้ประชาชนกลุ่มนี้ จะต้องเปลี่ยนสิทธิการรักษาพยาบาลจากผู้ประกันตน เป็นผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ภายหลังตกงานแล้ว 6 เดือน และไม่เลือกประกันตนเองตามมาตรา 39 พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 ซึ่ง สปสช. ได้เตรียมแผนรองรับ โดยจะต้องเสนอของบประมาณเพิ่มเติมจากรัฐบาล เพราะจำนวนผู้มีสิทธิ์เพิ่มขึ้น เนื่องจากในการจัดทำงบประมาณประจำปี 2552 ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่เดือน ต.ค. 2551 ที่ผ่านมา ทาง สปสช. ได้เตรียมงบประมาณสำหรับรองรับประชาชนที่ขอย้ายสิทธิ์เพียง 2,000 คนเท่านั้น ซึ่งเป็นการประเมินตัวเลขในขณะที่ประเทศไทยยังไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ดังนั้น งบประมาณที่จะเสนอขอเพิ่มเติม จะเป็นการนับตัวเลขจำนวนผู้ขอย้ายสิทธิ์ตามจริง แต่ยังไม่จำเป็นถึงขั้นการของบเหมาจ่ายรายหัวเพิ่มเติมแต่อย่างใด


 


เลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า เรื่องคุณภาพการรักษาพยาบาลนั้น ขอให้ผู้ประกันตนที่เปลี่ยนสิทธิ์มั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ มาตรฐานแน่นอน เพราะมีระบบควบคุมคุณภาพการบริการประชาชนอยู่แล้ว เช่น การกำหนดอัตราส่วนระหว่างแพทย์ต่อผู้ป่วย ขณะที่ รพ.รัฐเองนั้น จะมีประชาชนมาขึ้นทะเบียนมากขึ้น และส่งผลให้ได้รับงบฯเพิ่มขึ้นตามมา ซึ่งจะส่งผลดีต่อโรงพยาบาลนั้นมีงบฯใช้จ่ายหมุนเวียนในโรงพยาบาลมากขึ้น


 


"หากมีผู้ประกันตนที่เป็นโรคไตวายเรื้อรังต้องการย้ายสิทธิ์ มายังระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ก็ไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องสิทธิประโยชน์การรักษา เนื่องจากปัจจุบันสิทธิประโยชน์มีความครอบคลุม และประชาชนสามารถมั่นใจคุณภาพของยาได้ โดยเฉพาะยาจำเป็นที่มีราคาแพง ไม่ว่าจะเป็นยารักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ยารักษาโรคจอประสาทตาเสื่อม และ ยารักษาการเจริญพันธุ์ก่อนวัยในเด็ก เป็นต้น" นพ.วินัย กล่าว


ที่มา: ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 26 ธ.ค. 2551 (กรอบบ่าย)


 


ททท.ดึงทัวร์แผ่นดินใหญ่ลุยตรุษจีน นักธุรกิจลุงแซมโหวตกรุงเทพฯ มหานครแห่การท่องเที่ยว!


นายชาญชัย ดวงจิตต์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานลอสแอนเจลิสเปิดเผยว่า นิตยสาร Global Traveler ซึ่งเป็นนิตยสารด้านท่องเที่ยวชั้นนำของสหรัฐฯ ได้จัดทำแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้อ่าน 31,000 คน ระหว่างเดือน ม.ค.-ส.ค. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารนักธุรกิจชาวสหรัฐฯ เกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยว สถานประกอบการ และผู้ให้บริการ ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวให้ความประทับใจประจำปีนี้ อาทิ โรงแรม สายการบิน แหล่งท่องเที่ยว บริษัทบัตรเครดิต บริษัทรถเช่า ปรากฏว่า กรุงเทพมหานครได้รับการโหวตให้เป็น "Best International Business City 2008" โดยจะมีพิธีมอบรางวัลในวันที่ 15 ม.ค.2552Hotel Bel-Air เมืองลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ


 


"การที่กรุงเทพมหานครได้รับรางวัล แสดงให้เห็นถึงความเป็นมาตรฐานสากลของสินค้าท่องเที่ยวในไทย สะท้อนให้เห็นถึงกระแสความนิยมที่มีต่อไทยจากกลุ่ม Business Traveler ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพ สำหรับการประชาสัมพันธ์ เพื่อขยายผลการรับรางวัลครั้งนี้ จะสร้างเสริมภาพลักษณ์ในเชิงบวกให้กับไทยในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีความคุ้มค่าในการใช้จ่ายมากที่สุด"


 


นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท.เตรียมจับมือรัฐบาลจีน ดึงนักแสดงศิลปวัฒนธรรมของจีน 200 คน มาร่วมแสดงในเทศกาลตรุษจีน ที่จัดขึ้นในไทยที่ถนนเยาวราช และอีก 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ สงขลา เชียงใหม่ นครราชสีมา ชลบุรี ภูเก็ต พร้อมทั้งจับมือกับซีอีเอชแอล ซึ่งเป็นบริษัทนำเที่ยวขนาดใหญ่ของเมืองกวางโจว ที่มีสาขา 200 แห่ง เพื่อทำโปรโมชั่นร่วมกันเปิดบูธขายแพ็กเกจท่องเที่ยวราคาพิเศษ คาดว่าจะช่วยให้มีคนร่วมกิจกรรมตรุษจีน 500,000 คน มีเงินสะพัด 550 ล้านบาท


 


นายสรรเสริฐ เงารังษี ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก ฮ่องกง ไทเป ญี่ปุ่น เกาหลี จีน กล่าวว่า ททท.เตรียมงบ 8 ล้านบาท กระตุ้นให้คนจีนมาเที่ยวไทย โดยจะเน้นส่งสารชี้แจงสถานการณ์ในไทย เพื่อขอความร่วมมือให้จีนยกเลิกการประกาศคำเตือนเดินทางมาไทย


ที่มา: ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 26 ธ.ค. 2551 (กรอบบ่าย)


 






ความมั่นคง-คุณภาพชีวิต


อนุพงษ์ พร้อมทำตาม รบ.หากต้องการยุบ ศอ.บต. เหตุเป็นสิทธิ์ฝ่ายการเมือง ย้ำอย่าเพิ่งไปวิจารณ์แค่อักษร 4 ตัวสองจุด


พล.อ.อนุพงษ์   เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึง กรณีที่รัฐบาลจะจัดตั้งองค์กรใหม่ขึ้นมาแก้ไขปัญหาภาคใต้โดยยุบศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ว่า หลาย ๆ คนจะต้องเข้าใจ สื่อเองก็จะต้องเรียนรู้ ซึ่งผู้ที่กำหนดนโยบาย และผู้ใช้อำนาจรัฐคือรัฐบาล ซึ่งผู้ใช้อำนาจรัฐในการบริหาร จะเห็นแนวทางอย่างไร เป็นสิทธิ์ของฝ่ายการเมือง ที่ได้รับฉันทานุมัติจากประชาชนในการกำหนดแนวนโยบาย เพราะฉะนั้นเราเป็นข้าราชการประจำก็ได้เพียงเสนอแนะ และปฏิบัติตามกรอบที่ฝ่ายการเมืองกำหนด คำตอบคือทำได้ทั้งนั้น ทุกคนก็ปรารถนาที่จะให้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้สงบก็คงจะเป็นแนวทางร่วมกันคิดร่วมกันทำได้


 


เมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ หากมีการยุบ ศอ.บต. จริง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีความเห็น เพราะเป็นเรื่องนโยบาย ตนต้องเป็นนักการเมืองก่อน ตนจึงจะพูดส่วนนั้น เมื่อถามว่า หากมีการยุบ ศอ.บต.จะเกิดผลกระทบต่อกองทัพหรือไม่ เพราะกองทัพได้วางยุทธศาสตร์ไว้หมดแล้ว   พล.อ.อนุพงษ์   กล่าวว่า จะเป็นอย่างไรต้องไปดูในรายละเอียด เพราะเรายังไม่เห็นจะไปวิพากษ์วิจารณ์แค่อักษรสี่ตัว กับจุดสองจุด ว่าดีหรือไม่ดี   ศอ.บต.ดี หรือไม่ดี ตนคงตอบไม่ได้   ต้องไปดูมาตรการ หรือองค์กร ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งตนเข้าใจว่าการทำทุกสิ่งทุกอย่าง น่าจะเป็นทิศทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าใครคิดจะทำอะไร และจะต้องดูว่าของเก่าเป็นอย่างไรมีปัญหาอย่างไร   หรือมีแนวคิดเป็นอย่างไร   รวมถึง จะมีการปรับปรุงแก้ไขอย่างไร มันก็น่าจะออกไปในแนวทางที่ดีขึ้น


 


เมื่อถามว่า การปรับเปลี่ยนจะมีการพูดคุยกับคณะรัฐมนตรีเมื่อใด พล.อ.อนุพงษ์   ตอบว่า "เป็นรัฐมนตรีถึงจะคุย แล้วผมจะไปประชุม ครม.ได้อย่างไร" สำหรับกรณีที่นายกฯมอบให้นายสุเทพดูแลงานด้านความมั่นคงจะมีกรอบการทำงานอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า "ผมจะตอบอย่างไรดี   ผมจะไปขอคุยกับท่านได้อย่างไร ท่านต้องเรียกผมไปคุย เพราะฉะนั้นมาถามว่าผมจะไปขอคุยกับท่าน ผมจะไปตอบอย่างไร" เมื่อถามว่า หากนายสุเทพ เรียกเข้าไปพูดคุยพร้อมเข้าไปหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์   หัวเราะพร้อมกล่าวว่า จะตอบอย่างไรดี


 


เมื่อถามว่า รัฐบาลให้เหตุผลว่าองค์กรใหม่ที่จะตั้งขึ้นมาจะบูรณาการงานมหาดไทยให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับกองทัพเหมือนเป็นการมานับหนึ่งใหม่หรือไม่   พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า โดยหลักพื้นฐานทั่วๆไป ตนยังไม่รู้ การมองอย่างนี้เหมือนเป็นการคิดในแง่ร้าย   ไม่ว่าใครจะทำอย่างไรก็ต้องคิดทำให้ดีขึ้น   จะต้องดูว่าของเก่าเป็นอย่างไร   และมีจุดโหว่ ช่องว่างอย่างไร และจะปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างไร ก็ต้องคิดพื้นฐานการทำงานอย่างนั้น ถ้าจะให้สังคมเข้าใจ ที่จะมีหลัก มีเหตุมีผล เสนอนั้นอย่างนั้นไม่ดีหรือว่า เขาไม่ได้ยุบ


ที่มา: http://www.naewna.com


 


ศาลแปดริ้วตัดสินประหารอดีตตร.อุ้มฆ่าเรียกค่าไถ


เมื่อเวลา 10.00 น วันที่ 25 ธันวาคม ที่ห้องพิจารณา 12 ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา องค์คณะผู้พิพากษาศาลจังหวัดฉะเชิงเทา ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา


 


คดีระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดฉะเชิงเทรา โจทย์ กับ ดต.สุริยา ชะระจำนงค์ เรื่อง ความผิดต่อเสรีภาพ ความต่อชีวิต ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ พรบ.อาวุธปืน


 


คำพิพากษาตามคดีหมายเลขดำ ที่ 3881/2551 วันที่ 25 ธันวาคม 2551 โจทย์ฟ้องว่า วันที่ 8 สิงหาคม เวลากลางวัน ถึงวันที่ 9 สิงหาคม ต่อเนื่องกัน จำเลยกับพวกอีก 3 คน ร่วมกันมีอาวุธปืนสั้นของทางราชการ ใช้ขู่เข็ญนายสมชาย แซ่เหลี่ยง นางสาวศิริวรรณ แซ่เหลี่ยง เด็กหญิงปภัสสร ธาราพิศ เด็กชายปวริส ธาราพิศ เด็กหญิงบี สมสร และเด็กหญิงพีรดา สมสอน และใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายให้ได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต


 


ใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหายจนทำให้นายสมชาย แซ่เหลี่ยง และนางสาวศิริวรรณ แซ่เหลี่ยง จนเสียชีวิต และเด็กหญิงปภัสสร ธาราพิศ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้ เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่จำนวน 3,000,000 บาท   นอกจากนี้จำเลยกับพวกยังได้ปล้นเอาทรัพย์โทรศัพท์เคลื่อนที่ สร้อยคอทองคำ เงินสด จำนวน 10,000 บาท และรถยนต์กระบะไปใช้เป็นพาหนะ แล้วร่วมกันทำร้ายผู้เสียหาย โดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนโดยทรมาน และกระทำทารุณโหดร้าย เพื่อตระเตรียมการ เพื่อความสะดวกในการกระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลบเลี่ยงให้พ้นอาญาที่กระทำไว้ให้ถึงแก่ความตาย แล้วเคลื่อนศพไปซ่อนเร้นเพื่อปิดบังการตาย เหตุเกิดที่ตำบลบางคา อำเภอราชสาส์น จังหวัดฉะเชิงเทรา และในเขตพื้นที่จังหวัดชลบุรี ต่อเนื่องและเกี่ยวพันกัน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199,288,289,310,313,340,340ตรี,371 ประกอบมาตรา 80,83และ91 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พศ.2490 มาตรา 7,8 ทวิ 72,72 ทวิ


 


จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลได้พิเคราะห์พยานโจทย์ เห็นว่า พยานหลักฐานของโจทย์มีน้ำหนักมั่นคง ฟังได้ว่า จำเลยกับพวก ร่วมกันกระทำความผิดจริง การกระทำของจำเลย เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมาน หรือกระทำทารุณโหดร้าย เพื่อปกปิดความผิดของตน และเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่น ที่ตนได้กระทำไว้ ลงโทษประหารชีวิต ฐานเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ รวมกันเอาตัวเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และเอาตัวบุคคลอายุกว่า 15 ปี ไปโดยขู่เข็ญโดยใช้กำลังประทุษร้ายหน่วยเหนี่ยวหรือกักขัง เป็นเหตุให้ผู้ถูกเอาตัวไป ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังถึงแก่ความตาย ให้ประหารชีวิตจำเลย


 


ฐานพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่มีเหตุอันควร จำคุก 1 ปีฐานช่วยซ่อนเร้น ย้ายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายจำคุก 6 เดือน เมื่อลงโทษฐานประหารชีวิตในความผิดกระทงแรกแล้ว ไม่อาจจะโทษกระทงอื่นมารวมเข้าได้อีก คดีนี้โจทย์มีประจักษ์พยานมาเบิกความอย่างมั่นคงหลายปาก เห็นจำเลยกับพวกกระทำความผิด และเจ้าพนังงานตำรวจ ติดตามจับกุมตัวได้เกือบจะทันทีทันใด ภายหลังเกิดเหตุ คำรับสารภาพของจำเลย เกิดจากการจำนนต่อพยานหลักฐาน ไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ประกอบกับพฤติการณ์แห่งคดีมีลักษณะร้ายแรง เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมอำมหิต ผิดวิสัยของมนุษย์ จึงไม่มีเหตุอันสมควรปราณีที่จะลดโทษให้ คงให้ประหารชีวิตจำเลยสถานเดียว


ที่มา: http://www.komchadluek.com


 


"ยุรนันท์-แก้วสรร-เอธัส" ประสานเสียงพัฒนา "สลัม"


เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.51 เวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์คนไร้บ้าน ริมทางรถไฟถนนจรัลสนิทวงศ์ เขตบางกอกน้อย ได้มีการจัดเวทีเสวนานโยบายหรือดีเบตนโยบายด้านที่อยู่อาศัยของคนจนและชุมชนแออัด โดยมีผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. 3 รายได้แก่ นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครหมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครหมายเลข 12 อิสระ และนายเอธัส มนต์เสรีนุสรณ์ ผู้สมัครหมายเลข 14 พรรคสุวรรณภูมิ ร่วมการเสวนา


 


ทั้งนี้ นายยุรนันท์กล่าวว่า ตนไม่มีแนวคิดที่จะผลักไสชุมชนแออัดหรือสลัมออกจากกทม. แต่มีความตั้งใจจะพัฒนาให้ดีขึ้น ซึ่งหากตนได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.สิ่งใดสามารถทำได้จะพยายามทำอย่างเต็มที่ ส่วนสิ่งใดเกินอำนาจหน้าที่ก็จะประสานไปยังหน่วยงานหรือกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ หรือกระทรวงมหาดไทย หาแนวทางช่วยเหลือ ขณะเดียวกันก็ต้องพิจารณาว่าชุมชนแออัดสร้างความเดือดร้อนให้ใครและเหมาะสมกับการอยู่อาศัยต่อไปในอนาคตรุ่นลูกรุ่นหลานหรือไม่ด้วย


 


ด้านนายแก้วสรรระบุว่า ผู้ว่าฯ กทม.ต้องเข้าใจและยอมรับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ว่ามีความต้องการขั้นต่ำที่สุดคือเรื่องที่อยู่อาศัย ซึ่งทุกคนต้องมีที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ ตนมีแนวคิดให้กทม.ทำหน้าที่เป็นแลนด์แบงค์ จัดหาที่ดินให้สหกรณ์ชาวบ้านซึ่งรวมตัวกันก่อตั้งเป็นชุมชนใหม่บนพื้นที่ว่างเปล่าซึ่งยังมีอีกมากในกทม. ขณะเดียวกันหากชุมชนแออัดเดิมไม่ต้องการรื้อย้ายออกจากพื้นที่ กทม.ก็ต้องดำเนินการซ่อมแซมปรับปรุงให้ดีขึ้นตามแต่กรณี ด้วยวิธีการจัดการที่เหมาะสม


 


ขณะที่นายเอธัสระบุว่า หากกทม.ต้องการย้ายชุมชนแออัดในเมืองออกไปอยู่รอบนอกก็ต้องมีการจัดเตรียมสถานที่ต้นแบบเอาไว้เป็นตัวอย่างด้วย โดยจะต้องเป็นชุมชนที่มีการคมนาคมสะดวกและมีสาธารณูปโภคพื้นฐานเช่นโรงเรียน โรงพยาบาล และแหล่งงานที่ครบถ้วน ส่วนชุมชนใดไม่มีเหตุจำเป็นต้องย้ายก็จะต้องพัฒนาให้ดีเช่นเดียวกัน


ที่มา: http://www.siamrath.co.th


 


ลดค่าเรือด่วนเจ้าพระยา1 บาท 5 มค.


กรมการขนส่งทางน้ำฯ   ปรับลด ค่าโดยสารเรือด่วนจ้าพระยาลง 1 บาทมีผล 5 มค. แต่ยังตรึง ค่าเรือข้ามฟาก และเรือคลองแสนแสบ


 


นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ทางกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ได้แจ้งให้ทราบว่าจะมีการปรับลดราคาค่าโดยสารทางเรือ แต่จะปรับเฉพาะเรือด่วนเจ้าพระยา โดยปรับลดลง 1 บาท โดยเรือพิเศษธงส้มจากราคา 14 บาท เหลือ 13 บาท เรื่อด่วนพิเศษธงเหลือง จากราคา 19 บาท เหลือ 18 บาท และ จากราคา 28 บาทเหลือ 27 บาท มีผลตั้งแต่ วันที่ 5 ม.ค. ส่วนเรือข้ามฟากและเรือคลองแสนแสบ ยังคงตรึงราคาไว้ก่อน เนื่องจากได้มีการปรับลดลงมาก่อนหน้านี้แล้วหลายครั้ง แต่ทั้งนี้ต้องรอดูราคาน้ำมันเป็นหลัก


 


รมช.คมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังไม่มีการแบ่งหน่วยงานดูแลกันอย่างชัดเจน แต่คาดว่าคงได้หน่วยงานเดิมของพรรคชาติไทยเดิม ที่เคยดูแลอยู่ คือ หน่วยงานด้านการขนส่งทางน้ำ ซึ่งหลังจากมีการแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการและมีการแบ่งงานกันเรียบร้อยแล้ว คงต้องมีการเดินทางไปตรวจเยี่ยมกันทุกหน่วยงาน


ที่มา: http://www.posttoday.com


 






ต่างประเทศ


ผลสอบชี้โอบามาและผู้ช่วยไม่เกี่ยวคดีเร่ขาย ส.ว.


นายเกร็ก เคร็ก ว่าที่ปรึกษากฎหมายของนายบารัก โอบามา ซึ่งเตรียมสาบานตนรับเก้าอี้ผู้นำคนที่ 44 ของสหรัฐฯ ใน 20 ม.ค.ปีหน้า เผยแพร่ผลการสอบสวนภายใน เมื่อ 23 ธ.ค. พบว่านายโอบามาและทีมงานผ่องถ่ายอำนาจ แม้พบมีการพูดคุยโทรศัพท์แต่ไม่ได้เจรจาในทางมิชอบกับนายร็อด บลาโกเยวิช ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์ซึ่งถูกกล่าวหาเร่ขายเก้าอี้ ส.ว.ที่ว่าลงหลังนายโอบามาลาออก


 


การเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นหลังนายโอบามาและ 2 ผู้ช่วยระดับสูงของเขา คือ ราห์ม เอ็มมานูเอล และวาเลอรี ยาร์เรตต์ ถูกอัยการกลางสอบสวนในคดีดังกล่าวเช่นกันเมื่อสัปดาห์ก่อน นายเคร็กเผยอีกว่า ไม่มีคนวงในของนายโอบามาในนครชิคาโก ทราบเรื่องอื้อฉาวจนกระทั่งนายบลาโกเยวิชถูกจับเมื่อ 9 ธ.ค.


 


ขณะเดียวกัน นายโอบามาและครอบครัวซึ่งอยู่ระหว่างหยุดพักผ่อน เข้าร่วมพิธีศพและลอยอังคารนางมาเดลีน ดันแคน คุณย่า วัย 86 ปี ผู้ชุบเลี้ยงเขาที่เมืองฮอนโนลูลู รัฐฮาวาย ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อ 2 พ.ย. 2 วันก่อนโอบามาคว้าชัยเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อ 4 พ.ย.


 


ด้านนางฮิลลารี คลินตัน ว่าที่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ เลือกผู้มานั่งเก้าอี้ รมช. 2 คน คือนายเจมส์ สไตน์เบิร์ก อดีต ผช.ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ และนายจาค็อบ ลูว์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ซึ่งต่างทำงานในยุคอดีตประธานาธิบดี บิลล์ คลินตัน แต่ทั้ง 2 คนยังต้องให้วุฒิสภารับรองก่อน


 


ที่มา: ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 26 ธ.ค. 2551 (กรอบบ่าย)


 


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net