เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา แรงงานไทยกว่า 40 รายที่ได้รับความเดือนร้อนจากการถูกบริษัทจัดหางานหลอกว่าจะให้ไปทำงานที่ประเทศสเปน ได้เข้าร้องเรียนกับรายการสถานีประชาชน ทางสถานีทีวีไทย ทีวีสาธารณะ

โดยผู้เสียหายกว่า 40 คนได้เรียกร้องให้ บริษัทจัดหางานไทยทวี บิสซีเนส จำกัด ถ.โนนพิบูลย์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ออกมารับผิดชอบหลังจากที่พวกเขาได้จ่ายเงินไปกว่า 350,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย แต่เมื่อถึงกำหนดวันเดินทางเจ้าหน้าที่ของบริษัทได้แจ้งเลื่อนการเดินทางออกไปหลายครั้ง โดยอ้างว่านายจ้างชาวสเปนไม่สามารถเดินทางมารับได้

ทั้งนี้ผู้เสียหายได้ระบุว่าบริษัทฯ ได้ติดต่อให้ไปทำงานที่สเปนโดยอ้างว่าติดต่อกับนายจ้างโดยตรง ผ่านแค่วิธีการขึ้นทะเบียนที่สเปนโดยตรง ไม่ผ่านกรมการจัดหางานในไทย

โดยตัวแทนผู้เสียหาย นายบุญจันทร์ สานมานิตย์ กล่าวว่าการที่ได้ตัดสินใจไปทำงานกับบริษัทฯ นี้ เนื่องจากมีใบอนุญาตจัดหาคนไปทำงานต่างประเทศ จากโครงการจัดหางานถูกต้องแล้วยังดำเนินการมากว่า 4 ปี และที่ผ่านมามีการส่งแรงงานไปทำงานยังประเทศต่างๆ โดยไม่มีปัญหาอะไร จึงได้ตัดสินใจเอาที่ดินไปจำนอง

แต่หลังที่จ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้วก็ถูกเลื่อนการเดินทางหลายครั้ง จากนั้นตนจึงนำเอกสารเข้าไปตรวจสอบกับสถานเอกอัครราชทูตสเปนประจำประเทศไทยก็พบว่าเอกสารทั้งหมดเป็นเอกสารปลอม

ทั้งนี้ตนเองเคยเดินทางไปประเทศอิสราเอลมาก่อน 4 ปี โดยได้ไปติดต่อเรื่องภาษีเกี่ยวกับการไปทำงานที่อิสราเอลที่บริษัทฯ นี้ แต่บริษัทได้ทาบทามให้ตนเองเดินทางไปทำงานที่สเปน

โดยขณะนี้ผู้เสียหายทั้งหมดกำลังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้สินที่ไปกู้ยืมมา บางราย บ้าน รถยนต์ ก็กำลังที่จะถูกยึดโดยเจ้าหนี้

อนึ่งก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมานายสมพร เต็มกระโทก อายุ 31 ปี ราษฎรจาก อ.กุดจับ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2550 ที่ผ่านมา ได้ไปติดต่อสมัครงานที่ บ.จัดหางาน ไทยทวี บีสซีเนส จก.ในตำแหน่งคนงานเกษตรกรรม ที่ประเทศสเปน โดยมีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ของบริษัท และพนักงานหลายคน รวมทั้งผู้ชายชาวสเปน ที่แสดงตัวเป็นเจ้าของกิจการในสเปน จนกระทั่งได้จ่ายเงินเป็นค่าหัวหรือค่าบริการจัดหางานไปหลายครั้งรวม 350,000 บาท เพื่อเดินทางไปทำงานที่ประเทศสเปนในลักษณะเดินทางด้วยตนเอง และเชื่อว่าจะสามารถเดินทางไปได้จริงๆ เพราะเป็นบริษัทจัดหางานที่ถูกต้องตามกฎหมาย จนกระทั้งมาถึงต้นเดือนพฤศจิกายนรู้ว่าถูกหลอก เพราะไม่มีการเดินทาง จึงได้นำความไปแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.อุดรธานี เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมาย นอกจากนี้แล้วก็กล่าวว่ามีคนงานอีกเป็นจำนวนมากที่ถูกหลอกลวงในกรณีเดียวกัน

พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ บุญโชติ พงส.สบ.3 สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้สอบผู้เสียหาย ซึ่งเป็นราษฎรจากอำเภอต่างๆของจังหวัดอุดรธานี แต่ส่วนใหญ่เป็นชาวอำเภอกุดจับ ซึ่งมีถึง 41 ราย รวบรวมพยานหลักฐาน ในความผิดฉ้อโกงประชาชน ระหว่างขอความเห็นชอบจับกุมนางกฤษณา สวรรณกูล อายุ 37 ปี เจ้าของใบอนุญาต และนายประมวล วรจักร อายุ 48 ปี ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายต่างประเทศ ได้เข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหา ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยอ้างว่าเคยรับสมัครคนงานบางส่วนไว้ แต่ได้ยกเลิกการรับสมัคร พร้อมจ่ายเงินมัดจำคืนคนงานไปทั้งหมด แต่คนงานเอาไปจ่ายกับคนอื่นไม่เกี่ยวกับบริษัทฯ ตร.ได้ปล่อยตัวไปชั่วคราว

พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ฯ ระบุด้วยว่า ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 4 คน ประกอบด้วย นายพลวัฒน์ ศรีพฤษภูมิ อายุ 34 ปี 72 ม.3 ต.คอนสาย อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี, นางอภิญญา จันลา อายุ 41 ปี 97 ม.10 ต.เชียงเพ็ง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ผู้ประสานงาน ผู้รับเงินจากคนงาน ทั้งภายในบริษัทฯ โรงแรม และบ้านเช่า, นายสรศักดิ์ มาตรประภา อายุ 61 ปี 43 ซ.ประดิพัฒน์ 21 สามเสนใน กทม. เจ้าของบัญชีรับโอนเงิน และนายลิคาโด้ กาเซีย อายุ 37 ปี ชาวสเปน อ้างตัวเป็นนายจ้างจากประเทศสเปนซึ่งทั้งหมดอยู่