เรื่องโดย : นางสาวพิจิตรา โล้วิชากรติกุล
จากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่การเมืองกำลังเข้มข้นต่างฝ่ายต่างงัดกลยุทธ์ออกมาตอบโต้กันอย่างเมามัน ด้านสื่อมวลชนก็นำข่าวและภาพมาเสนอซ้ำแล้วซ้ำอีก
ส่งผลให้แทบทุกครอบครัวต้องเปิดรับข่าวสารจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำไปแล้ว ขณะเดียวกันนั้น...."เด็กและเยาวชน" ตาดำๆ กำลังซึมซับภาพเหตุการณ์ความรุนแรง ความเกลียดชังและความแตกแยกที่เกิดขึ้นในสังคมไทย จนอาจส่งผลกระทบทางด้านจิตใจทั้งในระยะสั้นและระยะยาวของเด็กได้
ร้อนอกร้อนใจไปถึงกลุ่มองค์กรและเครือข่ายต่างๆ ที่ทำงานด้านเด็กและเยาวชน ให้อยู่ๆ นึ่งไม่ได้แล้ว... เช่นเดียวกับ แผนงานสื่อสร้างสุขภาพเยาวชน ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ที่ได้จัดเสวนา "เปิดพื้นที่สื่อสร้างสรรค์ ร่วมกันสร้างสันติในใจเด็ก" เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เทคนิค วิธีการที่จะเสริมสร้างสันติให้เกิดขึ้นในใจเด็กขึ้น ก่อนที่เด็กและเยาวชนจะตกเป็นเหยื่อของกระแสการเมืองไป
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นางสาว
ในประเทศไทย มีสัดส่วนของประชากรที่เป็นเด็กอยู่ถึง 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด จึงอยากให้หลายๆ ฝ่ายหันมาฟังความคิดเห็นของเด็กบ้าง ว่าพวกเขาได้ซึมซับหรือเรียนรู้สิ่งใดไป และอย่าปล่อยให้เด็กและเยาวชนสับสนกับข้อมูลที่ได้รับ จนไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนถูกหรือสิ่งไหนผิด การจัดเสวนาในครั้งนี้จึงเป็นเวทีที่เปิดให้ผู้ปกครอง สื่อมวลชน เด็ก คุณครู และผู้ที่เกี่ยวข้องมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เทคนิค และวิธีการ เพื่อหาแนวทางในการสร้างสันติให้เกิดขึ้นในใจของเด็ก ซึ่งเป็นการเพาะเมล็ดพันธุ์สันติภาพให้เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างยั่งยืน" นางสาวเข็มพร บอกด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความห่วงใย
เด็ก....เปรียบเสมือนผืนผ้าขาว สะอาด บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะแต่งแต้มสีสัน หรือตกแต่งลวดลายใดๆ ก็สามารถซึมซับสิ่งเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย
เช่นเดียวกับนางสาว
ส่วนในระดับชั้นอนุบาล นาง
ด้านนาง
ทางฝั่งตัวแทนครอบครัว นาง
เด็ก....เป็นวัยแห่งการเรียนรู้ การจดจำ และเลียนแบบพฤติกรรมจากคนใกล้ชิด เพราะฉะนั้นครอบครัวและโรงเรียนจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยขัดเกลา สั่งสอน และแนะนำในสิ่งที่ถูกต้องให้กับเด็ก
ส่วนทางด้านพญ.
"อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในขณะนี้ก็นับเป็นสถานการณ์ที่ดีที่จะให้ความรู้ทางด้านการเมืองกับเด็ก เพราะกำลังมีตัวอย่างให้เห็น ทำให้เราสามารถยกเหตุการณ์ต่างๆ มาสอนเขาได้ ขณะเดียวกัน เด็กก็อาจจะเป็นฝ่ายเปิดประเด็นตั้งคำถามขึ้นมาเองก็ได้ ที่สำคัญพ่อแม่ควรหมั่นสังเกตในพฤติกรรมต่างๆ ของลูก ว่าเขากำลังติดตาม สนใจหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ อย่างไร รวมถึงเข้าไปพูดคุย ปรับมุมมองทัศนคติของลูก ให้เขาเกิดความเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นเหตุเป็นผล" พญ.พรรณพิมล กล่าวแนะนำ
เด็ก....จะเกิดสันติขึ้นในใจได้ ต้องเริ่มจากครอบครัวด้วยการเอาใจใส่ ดูแล และเป็นต้นแบบที่ดีให้กับเด็ก ๆ เพื่อวางรากฐานที่สำคัญในการดำเนินชีวิต, โรงเรียนที่ต้องอบรมสั่งสอน เพิ่มเติมความรู้ที่ถูกต้องเหมาะสม สร้างให้เด็กรู้จักคิดได้ด้วยตัวเอง, สื่อมวลชนที่ต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการนำเสนอข้อมูลข่าวสารให้ครอบคลุม เป็นกลาง และสร้างสรรค์มากขึ้น
และสุดท้ายทุกคนในสังคมต้องหันหน้าเข้าหากัน ยอมรับความแตกต่างทางความคิดของผู้อื่นให้ได้ เพราะหากยังยึดถือตัวเองเป็นใหญ่ สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในสังคม น่าเป็นห่วงว่า...อนาคตของประเทศไทยจะเป็นเช่นไร เพราะ "เด็กนั้นไซร้ คือผู้ใหญ่ในอนาคต"
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)