ผู้ชุมนุม นปช. ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ที่หน้ารัฐสภาเช้าวันนี้ (29 ธ.ค.) (ที่มาของภาพ: daylife.com/reuters)
นปช.บุก พรรค ปชป. เรียกร้องยุบสภาฯ
กลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติกว่า 150 คน เคลื่อนพลด้วยรถจักรยานยนต์ประมาณ 40 คันมาชุมนุมบริเวณแยกเศรษฐศิริ ถนนกำแพงเพชร 5 ห่างจากพรรคประชาธิปัตย์ประมาณ 300 เมตร ส่วนใหญ่เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างซึ่งประจำวินใกล้เคียง อาทิ บางกะปิ จตุจักร ห้วยขวาง ดินแดง บึงกุ่ม ฯลฯ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบนำรถ 6 ล้อที่ใช้ควบคุมผู้ต้องหา จำนวน 2 คัน ไปจอดขวางบริเวณแยกดังกล่าว เพื่อสกัดไม่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาใกล้พรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และครม. นั่งประชุมกันอยู่ภายในอาคารควง อภัยวงศ์ อย่างไรก็ตามไม่มีแกนนำ นปช. ทั้งรุ่น 1 และ 2 ควบคุมฝูงชนมาแต่อย่างใด มีเพียงวินมอเตอร์ไซต์คนหนึ่งทำหน้าที่ปราศรัยโจมตีนายอภิสิทธิ์ผ่านโทรโข่ง พร้อมเรียกร้องให้ยุบสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นปช. ได้ใช้เวลาชุมนุมบริเวณดังกล่าวเพียง 10 นาที ก่อนที่โฆษกจะประกาศให้ไปรวมตัวกันหน้าอาคารรัฐสภา ทำให้บรรดาผู้ชุมนุมรีบกระโดดขึ้นรถจักรยานยนต์ และกดแตรเสียงดัง ก่อนเคลื่อนพลออกไป
"จตุพร" จี้ยุบสภา-เลือกตั้งใหม่ ระบุชุมนุมย้อนรอย พธม.
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลพิจารณาประกาศยุบสภา เพื่อเริ่มต้นกระบวนการเลือกตั้งใหม่ และพิสูจน์ว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ได้มาด้วยความชอบธรรมภายใต้ระบอบประชาธิปไตย และสะท้อนให้เห็นว่า การชุมนุมของ นปช.ครั้งนี้เป็นการย้อนรอยเหตุการณ์ของพันธมิตรฯ และจะได้รับรู้ถึงความรู้สึกของนายกรัฐมนตรีที่เคยทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร และมีการชุมนุมกดดันรัฐบาลอยู่บริเวณด้านหน้า
"ชัย" โฟนอิน เลื่อนประชุมสภา เป็นบ่าย 2
นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร โฟนอินมายังรัฐสภา โดยกล่าวว่า ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประเมินสถานการณ์ร่วมกัน ถึงการชุมนุมบริเวณด้านหน้ารัฐสภาของกลุ่มเสื้อแดงแล้ว และเห็นว่าควรให้เวลารัฐบาล ได้ประเมินสถาน-การณ์และหาทางแก้ไขปัญหา จนถึงเวลา 14.00 น. ทั้งนี้ หากถึงเวลาดังกล่าวแล้ว รัฐบาลยังไม่มีคำยืนยันว่าจะให้ความปลอดภัยกับ ส.ส. ที่เดินทางมาร่วมประชุมได้ ก็จะมีการเลื่อนการแถลงนโยบายออกไป เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง ซ้ำรอยวันที่ 7 ต.ค.ขณะเดียวกัน นายสุชาติ ลายน้ำเงิน และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จำนวนหนึ่ง ได้เรียกร้องให้ รัฐบาลแสดงความชัดเจนว่า จะมีการแถลงนโยบายในวันนี้หรือไม่ เพราะขณะนี้ ประชาชน และ ส.ส.ฝ่ายค้าน กำลังรอรับฟังนโยบายที่รัฐบาลจะใช้บริหารประเทศ
สุเทพชี้ประชุมบ่าย 2 ไม่ได้ก็เลื่อนได้อีก
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้าพบเพื่อรายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคน เสื้อแดงว่า ในช่วงกลางวัน กลุ่มผู้ชุมนุม ลดลงเหลือประมาณ 3 - 4 พันคนโดยยืนยันว่า รัฐบาล ไม่มีนโยบายที่จะใช้กำลังสลายการชุมนุม รวมถึงยึดการเจรจาเพื่อหาทางออก ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้ประธานวิปรัฐบาล ไปร่วมหารือกับวิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิสภา โดยอาจจะให้มีตัวแทนวิป 3 ฝ่าย ไปเจรจากับผู้ชุมนุมด้วย ส่วนการเลือกแถลงนโยบาย เป็นเวลา 14.00 น. นั้น หากยังไม่สามารถประชุมได้ก็จะเลื่อนเป็นเวลา 19.00 น. - 20.00 น. หรือเป็นเช้าวันพรุ่งนี้ เนื่องจากรัฐบาลมีเป้าหมายจะแถลงนโยบายก่อนสิ้นปี
นอกจากนี้ นายสุเทพ ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ถึง กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง มีความชอบธรรม พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา เนื่องจาก ทุกคนมีแนวคิดที่แตกต่างกันได้ อีกทั้งมองว่าแนวโน้มการเจรจาจะเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตาม ได้ฝากให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปเจรจากับแกนนำว่า หากประสงค์จะพบตนก็ยินดี
"พัชรวาท-สุชาติ" เคลียร์แกนนำ นปช.เหลว ให้เดินเท้าเข้าสภาเท่านั้น
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินทางเข้าเจรจากับนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เพื่อขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดทางให้ ส.ส. สามารถเข้าไปแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาได้ทันเวลา 09.30 น. แต่การเจรจาไม่เป็นผล โดยแกนนำ นปช. ได้ระบุว่า หาก ส.ส.และนายกรัฐมนตรี จะเดินทางเข้ามายังรัฐสภา ก็ต้องเดินเท้าเข้ามา เนื่องจากผุ้ชุมนุมได้กันเส้นทางระยะห่างไว้ 2 เมตร เพื่อให้ส.ส.เดินเข้าได้
ส่วนบรรยากาศภายในอาคารรัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่ด้านนอกยังคราคร่ำไปด้วยกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางมาปิดล้อม ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อกดดันรัฐบาลให้ยุบสภาและลาออก โดยได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจตระเวนชายแดน และกองปราบปราม จำนวน 8 กองร้อย ตรึงกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบบริเวณ
ขณะที่การเข้า-ออกภายในรัฐสภา สามารถเข้า-ออกได้ทางเดียว คือประตูด้าน ถ.พิชัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะอนุญาตให้เข้า-ออกได้เฉพาะผู้ที่มีบัตรประจำตัวของรัฐสภาเท่านั้น โดยกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้นั่งขวางประตู ทำให้การเดินทางเข้าภายในบริเวณรัฐสภาทำได้เพียงการเดินเท้าเท่านั้น
ท้านายกฯ จับมือ "เสื้อแดง" เข้าสภา เหมือนที่จับพธม.
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ทางสถานีโทรทัศน์ ไทยทีวีสีช่อง 3 เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ถึงการเปิดเส้นทางอนุญาตให้สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลเดินเท้าผ่านเข้าไปในอาคาร รัฐสภา ว่า เป็นไปตามมติของผู้ร่วมชุมนุมโดยสงบสันติปราศจากอาวุธ เนื่องจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศว่า เป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทุกคนที่ใส่เสื้อทุกสี และจะมาคลี่คลายความขัดแย้งของสังคมไทยในยามนี้ คงไม่มีความเสียหายอะไร หากนายกรัฐมนตรีจะเดินผ่านแถวของคนไทยที่จะจัดให้นั่งทั้ง 2 ข้างทาง และนายกรัฐมนตรี รวมทั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดินผ่าน ถือว่า เป็นสิ่งที่ไม่ยากอะไร เพราะเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม วันที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปิดล้อมอาคารรัฐสภา ไม่ให้รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ขณะนั้น แถลงนโยบายได้ นายอภิสิทธิ์ ยังสามารถเดินจับมือกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้าไปในอาคารรัฐสภา และเดินออกมาได้อย่างสบายๆ ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงก็ชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ รวมทั้งยืนยันจะไม่สร้างความวุ่นวายอะไร เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินจับกับคนเสื้อเหลืองได้ วันนี้ เมื่อได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็น่าจะเดินจับมือกับคนเสื้อแดงได้เช่นกัน
ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิ ยังได้กล่าวยืนยันความปลอดภัยของ นายกฯ และส.ส. หากจะเดินทางเข้าสภาฯ เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมา (28 ธ.ค.) กล่มผู้ชุมนุมก็เดินเคลื่อนขบวนจากสนามหลวงมาหน้ารัฐสภาหลายหมื่นคน บรรยากาศเป็นไปโดยสงบเรียบร้อย ไม่มีปัญหา ทั้งนี้สามารถควบคุมผู้ชุมนุมได้ หากเกิดปัญหา แกนนำและผู้ชุมนุมที่ละเมิดกฎหมายก็ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ตนไม่หนีไปไหนอยู่แล้ว
เมื่อถามต่อว่า นายกรัฐมนตรี และ ครม. อาจรู้สึกหวาดเสียว แกนนำ นปช. กล่าวว่า หากเป็นคนอื่นอาจรู้สึกเสียว หวาดกลัวได้ แต่เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทั้งประเทศ ก็น่าจะมีความไว้เนื้อเชื่อใจพี่น้องคนไทย ยืนยันจะไม่สร้างความรุนแรง วุ่นวายใดๆ เพราะเมื่อวันที่ 7 ต.ค. นายอภิสิทธิ์ สามารถเดินจับมือกับกลุ่มคนเสื้อเหลืองที่ถืออาวุธ ตะโกนฆ่ามันๆได้ แต่วันนี้ หากไม่สามารถเดินใกล้ชิดคนเสื้อแดงปราศจากอาวุธได้ เกรงว่า ประชาชนคนไทยจะสับสนต่อท่าของนายกรัฐมนตรีได้
เมื่อถามว่า หากนายกรัฐมนตรีกล้าที่จะเดินเข้าไปแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา กลุ่มผู้ชุมนุมจะทำอย่างไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะพนมมือและเปร่งเสียงพร้อมกันว่า ขออำนาจอธิปไตยของเราคืนมา โดยไม่มีตีนตบ ขวดน้ำ มาขับไล่ เพราะทุกคนมีหัวใจเดียวกัน คือ เสื้อแดงรักประชาธิปไตย แต่หากนายกรัฐมนตรี ไม่เดินทางเข้าประชุมรัฐสภาในวันนี้ ตนก็จะรอนายกรัฐมนตรีอยู่ที่รัฐสภา หากรัฐบาลจะยืนยันมาตรการเช่นนี้ไปจนถึงข้ามปี ตนก็จะรอพบนายกรัฐมนตรีในปีหน้าก็ได้ หรือ หากจะย้ายสถานที่ประชุมก็จะเดินทางไปพบนายกรัฐมนตรีที่นั่นด้วย เพราะคนเสื้อแดงแสดงออกอย่างเปิดเผยชัดเจนตลอดมา ปฏิเสธความชอบธรรมในการเข้าสู่อำนาจของนายกรัฐมนตรี และหลายประเด็นคาใจคนรักประชาธิปไตยในบ้านเมืองนี้ ซึ่งข้อเรียกร้องขออำนาจอธิปไตยคืน ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ให้ประชาชนตัดสินใจอีกครั้ง พรรคประชาธิปัตย์ได้เสียงข้างมากก็เป็นรัฐบาลไป หากพรรคอื่นได้เสียงข้างมากก็เป็นรัฐบาลไปไม่มีปัญหา
"นายกฯ จะเข้าประตูไหน เมื่อไหร่อย่างไร ผมจะเปิดทางให้เดิน ยืนยันเมื่อเปิดใจให้เข้า ก็ไม่ปิดกั้นให้ออก ไม่มีแผนล่อเสือเข้าถ้ำใดๆทั้งสิ้น พี่น้องประชาชนจะได้เห็นรัฐมนตรีทั้งคณะ รวมทั้ง นายกษิต (นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ) คนที่จะไปทวงปราสาทเขาพระวิหารคืนให้คนไทย" แกนนำ นปช. กล่าว
..............................
เรียบเรียงจากเว็บไซต์มติชนออนไลน์ และสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น