"มาร์ค" เมินยุบสภา เดินหน้าแถลงนโยบายวันนี้

ผู้ชุมนุม นปช. เปิดทางหน้ารัฐสภา ด้านประตูปราสาทเทวริทธิ์ วานนี้ (29 ธ.ค.) โดยเว้นช่องพอให้ ส.ส. เดินผ่านทีละคน ตามแผนที่นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ขอฉันทามติจากผู้ชุมนุมเมื่อคืนวานนี้ โดนหวังว่าเมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเดินผ่านจะพากันก้มกราบแผ่นดินแผ่นฟ้าขอให้ยุบสภา (ข่าวย้อนหลัง) (ที่มาของภาพ: ASTVผู้จัดการออนไลน์)

 

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 29 ธันวาคม ที่พรรคประชาธิปัตย์ ถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงถึงจุดยืนการแถลงนโยบายรัฐบาล ใจความว่า

 

"ผมขอเรียนผ่านสื่อมวลชนในเรื่องเหตุการณ์ในวันนี้ สิ่งแรกที่อยากจะเรียนกับพี่น้องประชาชนก็คือว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะได้ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ โดยเริ่มต้นด้วยการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเพื่อที่จะ สามารถเข้าบริหารราชการแผ่นดินได้เต็มรูปแบบ รัฐบาลได้กำหนดวันนี้และวันพรุ่งนี้เป็นวันแถลงนโยบาย โดยมีวัตถุประสงค์หลักก็คือว่า อยากจะสามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้ก่อนสิ้นปี เพื่อที่จะให้รัฐบาลสามารถที่จะเดินหน้าในเรื่องสำคัญที่เป็นผลประโยชน์ของ ประเทศชาติและประชาชน หลายท่านคงจะทราบว่า ผมได้ขอคณะรัฐมนตรีแล้วด้วยซ้ำว่าถ้าหากว่าการแถลงนโยบายเริ่มต้นในวันนี้ แล้วต่อเนื่องไปจนถึงวันพรุ่งนี้ ก็จะขอให้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีหลังจากที่มีการแถลงนโยบายโดยทันที ด้วยเหตุผลสำคัญ อย่างน้อย ๆ ที่สุด ระเบียบวาระที่ได้จัดเอาไว้ก็คือ

 

1. เพื่อที่จะได้มีความพร้อมในการอนุมัติข้อตกลงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาเซียนในส่วนของคณะรัฐมนตรีและเมื่อเปิดทำการหลังปีใหม่ก็จะสามารถเดินในขั้นตอนของรัฐสภาได้เลย

 

2. ก็คือมีมาตรการหลายมาตรการที่รัฐบาลอยากที่จะดำเนินการในช่วงวันหยุดปีใหม่ เช่นกรณีค่าธรรมเนียมค่าผ่านทางต่าง ๆ ที่ต้องการที่จะลดเพื่อแบ่งเบาภาระของประชาชน อันนี้ก็ต้องรอให้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีซึ่งจะทำได้ก็ต้องแถลงนโยบายให้เสร็จเสียก่อน

 

3. ก็จะมีเรื่องของปัญหาที่ตกค้างมาเรื่องของเกษตรกร โดยเฉพาะในเรื่องของการรับจำนำข้าวโพดซึ่งประสบกับปัญหาว่ามติคณะรัฐมนตรี เดิมไม่เพียงพอในการที่จะแก้ไขปัญหา จำเป็นต้องแก้ไขมติคณะรัฐมนตรี

 

อันนี้คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงได้กำหนดวันแถลงนโยบายในวันนี้และวันพรุ่ง นี้ และตั้งใจที่จะให้คณะรัฐมนตรีเข้าบริหารราชการแผ่นดินได้ตั้งแต่ก่อนสิ้นปี เพื่อให้บ้านเมืองของเราแล้วก็ประเทศของเราเดินไปข้างหน้าได้ ผมเรียนว่า ความตั้งใจตรงนี้ก็เพราะว่าเราเห็นว่าที่ผ่านมานั้น บ้านเมืองได้ประสบกับปัญหามากมาย และมีปัญหาที่ค้างคารอการแก้ไขอยู่ ไม่ใช่เฉพาะ 3 เรื่องที่ผมยกมาเป็นตัวอย่าง แต่ว่าทุกวันนี้ก็ยังได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนอีกมากว่า รอคอยการแก้ไขโดยเร่งด่วน

 

ประการที่ 2 ที่อยากจะเรียนก็คือว่า แม้ว่าเรามีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะแถลงนโยบายให้เร็วที่สุด แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการให้บ้านเมืองเสียบรรยากาศ และสิ่งสุดท้ายที่เราไม่ต้องการจะเห็นคือภาพของความรุนแรงเกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะว่าจะส่งผลอย่างมากต่อความเชื่อมั่นที่พี่น้องประชาชนคนไทยและพี่น้อง ในต่างประเทศจะมีต่อภาพลักษณ์ของประเทศโดยรวม ซึ่งจะกระทบต่อการแก้ปัญหาอื่น ๆ ที่ตามมา

 

เพราะฉะนั้นวันนี้เมื่อมีประชาชนจำนวนหนึ่งได้มาชุมนุมอยู่หน้ารัฐสภา แล้วก็ได้ปิดกั้นเพื่อที่จะไม่ให้รัฐบาลแถลงนโยบายได้ สิ่งที่ผมได้มอบเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหากับท่านรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแล เรื่องของความมั่นคงและหน่วยงานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็คือว่า จะ ใช้วิธีการในการเจรจาประสานงานจนถึงที่สุด จะต้องไม่มีการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมแล้วก็จะต้องไม่มีเหตุการณ์ซ้ำรอย เหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้บ้านเมืองถลำลึกสู่วิกฤติมากขึ้น

 

ดังนั้น ตลอดทั้งวันผมเรียนว่า เราได้ใช้ทุกช่องทางที่จะประสานงานเจรจา ท่านรองนายกฯ ก็ดำเนินการเอง ประธานวิปรัฐบาลก็ดำเนินการเอง ท่านผู้บัญชาการตำรวจก็ดำเนินการเอง รวมทั้งมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรืออีกหลาย ๆ ฝ่าย ใครที่พอจะพูดจากับทางฝ่ายผู้ชุมนุมได้ เราก็ได้ส่งให้ไปประสานงานและมีการเจรจาอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าไม่สัมฤทธิ์ผล ผมเรียนเรื่องนี้เพื่อยืนยันว่าอันนี้เป็นความตั้งใจของรัฐบาล ที่จะใช้ความอดทน อดกลั้น แล้วก็จะยึดสันติวิธีในการที่จะแก้ไขปัญหา เรียนว่าความพยายามตรงนี้ยังไม่สิ้นสุดนะครับ หลังจากที่ผมแถลงข่าวแล้ว ก็ยังจะมีการเดินหน้าในการเจรจาต่อไปอย่างต่อเนื่อง

 

ประเด็นสุดท้าย ที่อยาก จะเรียนก็คือว่า เมื่อท่านประธานฯ ได้ใช้ดุลยพินิจในการเลื่อนการนัดการประชุมไปเป็นพรุ่งนี้เช้า ผมยังยืนยันว่า รัฐบาลก็มีความมุ่งมั่นที่จะแถลงนโยบายในวันพรุ่งนี้ แล้วก็จะดำเนินการบริหารจัดการภายใต้หลักการที่ได้กล่าวมาแล้วคือไม่ทำให้ เสียบรรยากาศของบ้านเมือง เพื่อที่จะแถลงนโยบายแล้วก็เดินหน้าในการบริหารราชการแผ่นดิน สิ่งที่จะเพิ่มเติมเข้ามาก็มีประเด็นเดียวครับว่า

 

เมื่อในวันนี้เราไม่สามารถเริ่มต้นกระบวนการนี้ได้ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าในวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันหยุดราชการอาจจะต้องมีกระบวนการที่ต่อเนื่อง ผมจึงอยากจะขอไปยังทางสมาชิกรัฐสภารวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่าจะขอ ความกรุณาเสียสละวันหยุดราชการมาทำงานเพื่อให้ประเทศของเราเดินหน้าไปได้ ซึ่งเรื่องนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องก็จะได้มีการประสานงานต่อไป

 

ผมขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ทั้งหมดนี้ยังไม่กระทบกระเทือนกับแนวทางการทำงานอยู่ ถ้าเรายอมเสียสละวันที่ 31 ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ รัฐบาลก็ยังสามารถที่จะเดินหน้าตามแผนการที่ตั้งใจไว้ และผมก็ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านอีกครั้งหนึ่งที่วันนี้ได้รักษาบรรยากาศ ของบ้านเมือง แล้วก็ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการที่จะประสานงานพูดคุยกับผู้ชุมนุมแล้วก็ แนวทางนี้ ผมเชื่อว่าในที่สุดก็จะประสบความสำเร็จและเราก็จะเดินหน้าต่อไปครับ"

 

 

(ช่วงถาม-ตอบ สื่อมวลชน)

 

มีการขีดเส้นตายกรอบเวลาในการเจรจาหรือไม่

เราไม่ควรมีการขีดเส้นตายกรอบเวลา แต่เราทำหลายเรื่องพร้อมกันไป การดำเนินการจะควบคู่กันไปหลายทาง ถ้าสามารถเข้าไปดำเนินการในรัฐสภาได้ เราจะดำเนินการ

 

 

หากไม่สามารถแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้ทันวันที่ 5 มกราคม 2552 จะเกิดอะไรหรือไม่

ที่จริงเรื่องเส้นตายยังห่าง แต่เจตนาของรัฐบาลคือทำอย่างไรให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้โดยเร็วที่สุด ผมยืนยันว่าผมตั้งใจจะแถลงนโยบาย จึงขอร้องว่าในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ขอความกรุณาทุกท่านให้เสียสละมาทำงานนี้ให้สำเร็จ ส่วนเส้นตายนั้นยังไกล ยังไม่ใช่สิ่งที่เป็นข้อกังวล หรือปัจจัยสำคัญในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม จากความพยายามและการเตรียมการหลายๆ ด้าน ผมเชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายได้

 

 

ถ้า นปช.ยังยืนยันชุมนุมต่อไปจะทำอย่างไร

อย่าไปตั้งสมมติฐานว่าต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ผมคิดว่าวันนี้ทุกคนต้องการเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ทุกคนมีความหวัง รัฐบาลก็มีหน้าที่ ดังนั้น เราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด และผมไม่ใช่คนมองโลกในแง่ร้าย แต่มองตามความเป็นจริง ซึ่งเชื่อว่าเป็นไปได้

 

 

เกรงว่าจะมีการก่อความวุ่นวายในคืนวันที่ 29 ธันวาคมหรือไม่

วันนี้ เราได้แสดงออกชัดเจนแล้วว่าในส่วนของภาครัฐไม่ประสงค์ใช้ความรุนแรงใดๆ และขอให้เจ้าหน้าที่ดูแลให้เกิดความเรียบร้อย และกำชับให้ยึดแนวทางนี้ 

 

 

ได้เตรียมแผนสำรองไว้อย่างไร

เราเตรียมการไว้หลายทาง แต่จะใช้แนวทางที่ได้ยึดปฏิบัติตาม และเชื่อว่าจะทำสำเร็จได้

 

 

ถ้าไม่สามารถเข้าไปแถลงนโยบายในรัฐสภาได้ จะย้ายสถานที่การประชุมหรือไม่

ยังไม่มีแนวคิดเปลี่ยนสถานที่

 

 

มีแนวคิดจะลดเวลาในการอภิปรายลงหรือไม่

ให้เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะเราไม่ทราบว่าการอภิปรายจะเป็นอย่างไร อย่างสมัยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง

 

 

ต้องขอให้ทหารช่วยดูแลความปลอดภัยหรือไม่

ผมคิดว่าในชั้นนี้ตำรวจยังดูแลได้ และผมไม่มีแนวคิดใช้กฎหมายพิเศษ แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่ามีความจำเป็นที่ต้องร้องขอให้เจ้าหน้าที่ส่วน อื่นซึ่งรวมถึงทหารด้วย ก็สามารถทำได้

 

 

ในช่วงเช้าของวันที่ 30 ธันวาคม ได้นัด ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ประเมินสถานการณ์ก่อน

ที่ประชุม ส.ส.ได้ซักซ้อมทำความเข้าใจแล้ว ซึ่งสมาชิกเข้าใจแล้วว่าควรปฏิบัติอย่างไร และพรรคได้เตรียมการที่จะเข้าไปในรัฐสภาไว้หลายทาง เชื่อว่าวันที่ 30 ธันวาคม จะเข้าประชุมรัฐสภาได้

 

 

ถ้ารัฐบาลเข้าไปแถลงนโยบายได้โดยไม่มีฝ่ายค้าน จะถือเป็นพิธีกรรมที่สมบูรณ์หรือไม่

ผมเข้าใจว่าฝ่ายค้านไม่ได้มีปัญหาการเข้าร่วมประชุมอยู่แล้ว สามารถเข้าไปได้ และซักถามได้อยู่แล้ว

 

 

การที่รัฐบาลไม่สามารถเข้าไปแถลงนโยบายได้ในวันนี้ ถือว่าเสียหน้าหรือไม่

ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น ถ้าคิดว่ารัฐบาลเสียหน้า ผมก็คิดว่าดีกว่าประเทศเสียภาพลักษณ์ เสียบรรยากาศ 

 

 

กลุ่ม นปช.ระบุว่ายินยอมให้ ส.ส. เดินเท้าเข้าสภาเท่านั้น

ต้องย้อนกลับไปในวันที่มีการเลือกนายกรัฐมนตรี วันนั้นเราเข้าใจว่าผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธ แต่ด้วยอารมณ์ หรือสถานการณ์ใดก็ตาม ทำให้เกิดภาพออกมาว่ามีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้น เราไม่ต้องการเห็นภาพแบบนั้น

 

 

อยากฝากบอกอะไรไปยังกลุ่มผู้ชุมนุม

ผมเรียนว่าเราเคารพสิทธิทางการเมือง และยอมรับความแตกต่างทางความคิดเห็นทางการเมือง ผมมีความเชื่อหลายอย่าง แต่อาจไม่สอดคล้องกับผู้ชุมนุม แต่ขอยืนยันว่าในหลายเรื่อง ผมมั่นใจในแนวทาง ที่เรากำลังดำเนินการอยู่ และอยากย้ำว่าที่ผ่านมาบ้านเมืองมีปัญหามาตลอด วันนี้เรากำลังจะมีโอกาสดึงหลายสิ่งหลายอย่างอย่างออกจากวิกฤต ก็อยากให้นึกถึงประโยชน์ของบ้านเมือง และสิ่งที่ท่านบอกว่าหวงแหนคือระบอบประชาธิปไตย ก็เป็นสิ่งที่ผมต้องการปกป้องเช่นเดียวกัน ดังนั้น ผมไม่ประสงค์ที่เห็นใครเอาเหตุการณ์ไม่สงบไปเป็นข้ออ้างในการทำลาย ประชาธิปไตย ผมจึงต้องพยายามรักษาประชาธิปไตยและบรรยากาศของบ้านเมือง และให้กระบวนการของรัฐสภาเดินต่อได้

 

 

นปช.อ้างว่ารัฐบาลมาด้วยความไม่ชอบธรรม

ประเด็น นี้สมาชิกที่เป็นแกนนำของผู้ชุมนุม มีโอกาสที่จะซักถามในรัฐสภาได้อยู่แล้ว และพวกเราพร้อมที่จะตอบอยู่แล้ว ถ้าท่านพูดข้างนอก ก็พูดอยู่ฝ่ายเดียว จะไม่ได้ฟังคำตอบที่เป็นเหตุผลที่จะมาแลกเปลี่ยนกันในรัฐสภา

 

 

มองอย่างไรต่อข้อเรียกร้องให้ยุบสภา

ขณะ นี้สถานการณ์มาถึงจุดที่เราต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น และต้องแก้ปัญหาพื้นฐานบางอย่าง และผมเรียนแล้วว่าการคืนอำนาจให้ประชาชน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะมีการดำเนินการ

 

 

ที่มา: เรียบเรียงจากมติชนออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท