Skip to main content
sharethis





การเมือง


 


"มาร์ค" ย้ำเดินหน้าตาม "ตำราเศรษฐศาสตร์" ทุ่มหมื่นล้านซื้อใจรากหญ้า


ไทยโพสต์ - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพุธ (11 ม.ค.) เพื่อชี้แจงถึงการจัดสรรงบประมาณกลางปีจำนวนมากที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นโครงการอภิมหาประชานิยมว่า ทั่วโลกต้องใช้มาตรการลักษณะนี้ทั้งนั้น ไม่เกี่ยวว่าเป็นประชานิยมหรือไม่ แต่เป็นไปตามตำราเศรษฐศาสตร์ที่เปิดดูได้ทุกสำนัก ซึ่งมาตรการที่รัฐบาลทำจะไม่เป็นภาระในระยะยาวของการจัดทำงบประมาณ เพราะเป็นเรื่องเฉพาะกิจและเป็นบทบาทที่รัฐบาลพึงกระทำอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญ


 


นายอภิสิทธิ์ยังชี้แจงเรื่องงบจำนวนมากอยู่ในกระทรวงที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดูแลว่า ไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรทั้งสิ้น แต่ที่เอามารวมไว้เพราะต้องการเปิดโอกาสให้ทุกกระทรวงสามารถทำโครงการเสนอเข้ามาได้ ซึ่งยอดงบประมาณใหญ่เป็นยอดที่เอาเงินตรงไปที่ประชาชน จึงไม่เกี่ยวข้องว่าไปอยู่กระทรวงของพรรคใด


 


"โครงการถนนไร้ฝุ่นก็เป็นนโยบายรัฐบาล แต่ประเมินดูแล้วโครงการก่อสร้างทั้งหลายไม่ทันที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้า ซึ่งได้คุยกับรัฐมนตรีในกลุ่มนี้แล้วก็เข้าใจกัน ผมเห็นใจเพราะกระทรวงคมนาคมถูกแรงกดดันมาก จากหลายพื้นที่ที่คาดหวังว่าจะได้โครงการนี้มาอยู่ในบางพื้นที่ แต่เชื่อว่าจะไม่มีการตีรวนจากพรรคร่วมรัฐบาล" นายอภิสิทธิ์กล่าวตอบกรณีข่าวกลุ่มเพื่อนเนวินไม่พอใจ นายกรัฐมนตรียังได้ยอมรับว่า ในการจัดทำงบประมาณปี 2553 จะต้องมีการปรับเปลี่ยน เพราะแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นแค่มาตรการเฉพาะกิจ เมื่อเข้าปีงบประมาณ 2553 ก็ต้องปรับเปลี่ยนแนวทาง อาจมีโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น


 


นายอภิสิทธิ์ยังได้กล่าวถึงการพบปะคณะทูตานุทูต และผู้แทนองค์การระหว่างประเทศว่า ได้ขอให้ทุกประเทศและทุกภูมิภาคอย่าใช้วิธีการกีดกันทางการค้า และหวังว่าทุกคนจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจของตัวเองได้ และหากกีดกันกันเอง ในที่สุดจะซ้ำเติมสถานการณ์ของทุกประเทศ โดยในช่วงค่ำก็จะไปปาฐกถาพิเศษที่จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เพื่อให้ทราบถึงเจตนาของรัฐบาลในการฟื้นฟูประเทศทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจ ความมั่นคง หรือเสถียรภาพทางการเมือง


 


นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ล่าสุดการจัดสรรงบกลางปีมีวงเงินอยู่ที่ 116,700 ล้านบาท โดยยังมี 18 โครงการเช่นเดิม แต่มีการเพิ่มเติมงบประมาณในโครงการเงินสำรองจ่ายฉุกเฉิน จากกว่า 2 พันล้านบาท เป็น 4,091 ล้านบาท


 


รองนายกฯ ผู้นี้ยังได้อธิบายถึงโครงการจ่ายเงิน 2,000 บาทแก่ผู้ประกันตนและข้าราชการว่า จะช่วยเหลือครั้งเดียวรายละ 2,000 บาท โดยจ่ายให้ผู้ประกันตนที่มีเงินเดือนไม่ถึง 14,999 บาท และข้าราชการที่มีเงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาท และเงินจะถึงมือประชาชนในช่วงต้นเดือนเมษายนแน่นอนในรูปเช็คเงินสด ไม่มีการจ่ายผ่านนายจ้าง


 


นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า แนวคิดดังกล่าวต้องการให้เงินกับคนที่ฐานะไม่ดี ซึ่งได้ใช้ข้อมูลผู้เสียภาษีสรรพากรกว่า 8 ล้านคน แต่ผู้เสียภาษีที่รัฐบาลอยากให้กลับไม่มีข้อมูล เนื่องจากไม่ได้เสียภาษี จึงเบนเป้าหมายไปที่สำนักงานหลักประกันสังคม (สปส.) โดยพบว่ามีกว่า 9.3 ล้านรายชื่อ แต่พบว่าหากประชาชน 9.3 ล้านราย มีคนที่เป็นเศรษฐีอยู่ด้วยและไม่ได้จ่ายเงินสมทบ 5% เช่น คนเงินเดือน 1 แสนบาท อาจไม่ได้จ่ายสมทบ 5,000 บาทต่อเดือน แต่กลับจ่ายเพียง 750 บาทต่อเดือน แต่ขณะเดียวกันผู้ที่มีเงินเดือน 15,000 บาท แต่จ่ายสมทบ 750 บาทต่อเดือน ซึ่งพบว่าข้อมูลผู้ที่จ่ายเงินสมทบ 750 บาทต่อเดือนมีจำนวนมาก รัฐบาลจึงตัดที่ 14,999 บาทเพื่อช่วยเหลือเป็นค่าครองชีพประชาชน ส่วนบุคลากรภาครัฐนั้นก็ตั้งเงื่อนไขผู้ที่มีเงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาท


 


"ตัวเลขขณะนี้ยังไม่นิ่ง ซึ่งล่าสุดน่าจะมีรายชื่อประชาชนทั่วไปที่มีรายได้ต่ำกว่า 14,999 บาทต่อเดือนอยู่ที่ 8.1 ล้านคนเศษ ส่วนข้าราชการก็มี 1 ล้านคนเศษ ซึ่งผมคิดว่าจะให้รวมกับข้าราชการบำนาญอีกว่า 2.246 แสนคน เชื่อว่างบประมาณที่ได้รับมาเพียงพอ โดยจะใช้งบประมาณ 18,970 ล้านบาท ซึ่งก็ยังไม่นิ่ง ก่อนที่จะเสนอเป็นกฎหมายเข้าสภาฯ ต่อไป" นายกอร์ปศักดิ์กล่าว


 


 


"เพื่อนเนวิน" เข้าสังกัด "ภูมิใจไทย" เนวินปัดปูทางตัวเองเป็นนายกฯ


เว็บไซต์คมชัดลึก - เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 มกราคม พรรคภูมิใจไทยได้จัดการประชุมสัมมนา เพื่อต้อนรับ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินเข้าสังกัดพรรค ที่โรงแรมสยามซิตี โดยขึ้นป้าย "พรรคภูมิใจไทย" บนเวที พร้อมทั้งชูสโลแกน "ประชานิยม สังคมเป็นสุข" และขึ้นชื่อเว็บไซต์ www.bhumjaithai.org โดยมีแกนนำพรรค พร้อมด้วยอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิ์ และอดีต ส.ส.กลุ่ม 16 มาร่วมงานกันคับคั่ง อาทิ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสรอรรถ กลิ่นประทุม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายเนวิน ชิดชอบ นายอนุชา นาคาศัย นายปองพล อดิเรกสาร นายสุชาติ ตันเจริญ เป็นต้น


 


แกนนำที่ร่วมเปิดตัวครั้งนี้ คือ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ว่าที่หัวหน้าพรรค นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ว่าที่เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข นายชาติชาย พุคยาภรณ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมทั้งเปิดตัว ส.ส.ในกลุ่มจำนวน 30 คน ที่มาร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ได้แก่


 


นายวีระ รักความสุข ส.ส.สัดส่วน นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ส.ส.สัดส่วน นายเพิ่มพูน ทองศรี ส.ส.สัดส่วน นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น นายเชิดชัย วิเชียรวรรณ ส.ส.อุดรธานี นายเฉลิมชาติ การุญ ส.ส.สกลนคร นายทวีวัฒน์ ฤทธิ์ฤาชัย ส.ส.สกลนคร นายประสิทธิ์ ตั้งศรีเกียรติกุล นายณัฐวุฒิ สุขเกษม นายมนต์ไชย ชาติวัฒนศิริ นายมาโนช เฮงยศมาก นายรังสิกร ทิมาตฤกะ นายสนอง เทพอักษรณรงค์ นายสมนึก เฮงวาณิชย์ ส.ส.บุรีรัมย์ นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร นายยรรยง ร่วมพัฒนา นายเลิศศักดิ์ ทัศนเศรษฐ ส.ส.สุรินทร์ นายวิเชียร อุดมศักดิ์ ส.ส.อำนาจเจริญ


 


นายสันทัด จีนาภักดิ์ ส.ส.กาญจนบุรี นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ส.ส.มหาสารคาม นางอุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ นางพัฒนา สังขทรัพย์ ส.ส.เลย นายภิรมย์ พลวิเศษ ส.ส.นครราชสีมา นายมานะศักดิ์ จันทร์ประสงค์ ส.ส.นนทบุรี พ.ต.ท.นุกูล แสงศิริ ส.ส.นครสวรรค์


 


ทั้งนี้ ขาดเพียง นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม ไม่ได้ร่วมงาน เนื่องจากติดภารกิจในต่างประเทศ ในงานมีการตั้งโต๊ะให้กรอกใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคด้วย


 


เป็นที่น่าสังเกตว่า มี นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู นางบุญรื่น ศรีธเรศ นายนิพนธ์ ศรีธเรศ ส.ส.กาฬสินธุ์ นายวิชัย สามิตร ส.ส.หนองบัวลำภู พร้อมคณะ ส.ส.พรรคเพื่อไทย มามอบดอกไม้ให้กำลังใจแก่นายชวรัตน์ โดยนายชูวิทย์พูดเปรยๆ ต่อสื่อมวลชนว่า "ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก อาจจะมี ส.ส.เข้ามาเพิ่มอีกแต่ต้องคุยกัน"


 


นอกจากนี้ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี น.ส.ศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ นายเฉลิมชัย จีนะวิจารณะ อดีต ส.ส.กทม.พรรคพลังประชาชน พร้อม ส.ก.และ ส.ข.ในพื้นที่ กทม.ได้เข้าแสดงความยินดีด้วย


 


นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ และนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ร่วมกันเป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัวพรรคภูมิใจไทยและสมาชิกพรรค โดยนางพรทิวากล่าวว่า การรวมกันของพรรคภูมิใจไทยเพื่อร่วมกันนำพาประเทศผ่านวิกฤติ และทำให้การเมืองดำเนินต่อไปอย่างเข้มแข็ง แน่นเฟ้น ทั้งนี้ จะมีการคัดเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ภายในเดือนกุมภาพันธ์


 


นายชวรัตน์กล่าวว่า การเข้าร่วมพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากมีแนวคิดเหมือนกันคือสร้างให้สังคมไทยให้มีความสุข และร่วมกันทำงานให้บรรลุนโยบายอันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ โดยนโยบายของพรรคคือ จะเคารพสถาบันสำคัญชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ มิให้บุคคลหรือองค์กรใดล่วงละเมิด ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดำเนินการประชานิยมเพื่อให้ประชาชนและสังคมมีความสุข สร้างความสามัคคีสู่สังคมไทย ทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นสยามเมืองยิ้มอีกครั้ง


 


ด้านนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งมาร่วมเปิดตัว ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ปฏิเสธว่าการที่ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน เข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทยไม่ใช่เป็นการปูทางให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะส่วนตัวไม่อยากเป็นนายกรัฐมนตรี แต่อยากเป็นอย่างทุกวันนี้


 


นายเนวินยังกล่าวด้วยว่า หลังครบกำหนดถูกตัดสิทธิทางการเมือง ยังไม่คิดเล่นการเมือง พร้อมพูดติดตลกว่าอาจเว้นวรรคอีก 5 ปี



 


นายกฯไม่เชื่อตั้งภูมิใจไทยไว้ต่อรอง พท.อัดชูประชานิยมกลบทรยศแม้ว


เว็บไซต์คมชัดลึก - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเพื่อนเนวิน ร่วมกับกลุ่มมัชฌิมาธิปไตยตั้งพรรคภูมิใจไทย ทำให้มีจำนวน ส.ส.เป็นอันดับ 2 ของพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ไม่คิดว่าจะเป็นการตั้งขึ้นมาเพื่อต่อรองรัฐบาล เพราะตนไม่ได้คิดถึงตัวเลข ส.ส.ว่า พรรคใดมีเท่าใด แต่ทุกคนเป็นรัฐบาลที่มีความรับผิดชอบร่วมกัน


 


นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเปิดตัวพรรคภูมิใจไทย ที่มีส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินเป็นแกนหลัก โดยชูนโยบาย "ประชานิยม สังคมเป็นสุข" ว่า การเสนอนโยบายดังกล่าว เป็นเพียงความพยายามกลบเกลื่อนภาพการทรยศหักหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ที่มีพระคุณต่อกลุ่มเพื่อนเนวิน เพราะนโยบายจากพรรคเล็กพรรคน้อย คงไม่สามารถทำให้เป็นรูปธรรมได้จริง


 


ด้านนายศักดา นพสิทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมี ส.ส.อีสาน พรรคเพื่อไทย 30-40 คน อาจย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทยว่า ส.ส.ในพรรคหลายคนหารือกันว่า ถึงเวลาแล้วที่องค์กรต้องปรับตัวใหม่ โดยเปลี่ยนคณะผู้บริหารพรรค ทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และโฆษกพรรค ไม่เช่นนั้นอาจมีการตั้งองค์กรใหม่ขึ้นมา โดยจะเป็นองค์กรประชาธิปไตยแนวก้าวหน้า วิธีดังกล่าวทำด้วยเจตนาดี ไม่ได้ทำเพื่อคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามกระแสสังคมโลก หากพรรคเพื่อไทยยังไม่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น แสดงว่าไม่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของประชาชนที่สะท้อนมายังผู้แทนของเขา ที่ ส.ส.รู้ว่าพรรคจะอยู่ไม่ได้ จึงรอจังหวะย้ายพรรค ดังนั้นขอคณะผู้บริหารพรรครีบปรับตัว เพื่อให้พรรคมีเอกภาพ ประชาชนยอมรับ และจะได้เป็นทางเลือกของประชาชนอย่างแท้จริง


 


 


ณัฐวุฒิเตือนรัฐบาลประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทยฉุดบารมีลดลง


ไทยรัฐ - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าววันนี้ (14 ม.ค.) กรณีพรรคภูมิใจไทยแถลงต้อนรับกลุ่มเพื่อนเนวินเข้าสังกัด ว่า ในฐานะที่เคยร่วมทำงานด้วยกัน ขอแสดงความยินดีกับกลุ่มเพื่อนเนวินที่ได้พรรคสังกัด เข้าใจว่าการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย ที่มีแกนนำคนสำคัญหลายคน อาทิ นาย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสรอรรถ กลิ่นประทุม นายสุชาติ ตันจริญ และ นายอนุทิน ชาญวีระกุล อดีต กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย มาร่วมงานด้วย เป็นการแสดงความพร้อมของพรรคภูมิใจไทยรูปแบบหนึ่ง


 


แกนนำ นปช. กล่าวต่อว่า ส่วนตัวเห็นว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ใช่ปัญหาของพรรคเพื่อไทยในระยะสั้น แต่น่าเป็นอุปสรรคสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า โดยเฉพาะภาวะการนำในรัฐบาลชุดนี้ที่อาจจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์บารมีลดลงไป อีก เพราะแค่กลุ่มเพื่อนเนวินเพียงกลุ่มเดียวก็ยังทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ต้องเกรงใจอย่างมาก


 


 


มติกุดหัวบิ๊กขรก.ฟัน "ทิฟฟี่" ผิดวินัยร้ายแรง "ปปช." ชงไล่ออกปลัดคลัง


เว็บไซต์ไทยโพสต์ - นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกฯ แถลงเมื่อวันพุธถึงผลการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า ตามที่ ป.ป.ช.ได้รับเรื่องกล่าวหาคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ. ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีมีหนังสือสำนักงาน ก.พ.แจ้งเวียนไปยังส่วนราชการ โดยปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และขั้นตอนการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญที่จะแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 9 และกำหนดคุณสมบัติของผู้เข้ารับการคัดเลือกไม่เป็นไปตามมติ ครม.


 


นายกล้านรงค์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังได้รับเรื่องกล่าวหานายสมใจนึก เองตระกูล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง กับพวก ในฐานะคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 9 (กระทรวงการคลัง) ดำเนินการคัดเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมสรรพากรโดยมิชอบ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน โดยมีนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน


 


โฆษก ป.ป.ช.ระบุว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการไต่สวนแล้ว ปรากฏข้อเท็จจริงฟังได้ว่า คุณหญิงทิพาวดีได้นำเสนอเรื่องระบบนักบริหารระดับสูงต่อ ครม.เพื่อขอความเห็นชอบ และอนุมัติให้นำระบบดังกล่าวมาใช้ โดยสำนักงาน ก.พ.จะจัดทำบัญชีของผู้มีสิทธิได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักบริหารระดับสูง กลุ่มที่ 1 (นักบริหาร 9) จากผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมและผ่านการประเมิน โดยผู้ที่ผ่านการประเมินจะมีชื่ออยู่ในบัญชีนักบริหาร และบัญชีจะมีอายุ 2 ปี ซึ่งที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2543 มีมติเห็นชอบให้สำนักงาน ก.พ.นำระบบดังกล่าวมาใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2544


 


เขากล่าวว่า แต่ในวันที่ 15 ส.ค. 2544 คุณหญิงทิพาวดีได้ดำเนินการออกหนังสือเวียน แจ้งส่วนราชการเพื่อดำเนินการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับ 9 เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ ครม.ได้ให้ความเห็นชอบไปแล้ว ซึ่งหลักเกณฑ์เพิ่มเติมดังกล่าวทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายและฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง จนในที่สุดศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาว่า การที่สำนักงาน ก.พ.กำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมดังกล่าวไม่ชอบด้วยมติ ครม. และไม่เป็นธรรมแก่ผู้ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีผู้ผ่านการประเมิน ดังนั้นหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2544 จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย


 


"คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่าผลจากการกระทำของคุณหญิงทิพาวดี ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ได้สร้างความเสียหายแก่ครม.และระบบราชการในด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างร้ายแรงส่งผลเสียหายอย่างใหญ่หลวงในด้านข้อกฎหมาย และคำสั่งทางปกครองทำให้สถานภาพความเป็นข้าราชการและการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ในตำแหน่งของผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับความกระทบกระเทือนอย่างร้ายแรง การกระทำของคุณหญิงทิพาวดีจึงเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบราชการ มติ ครม.หรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 85 วรรคสอง"


 


ส่วนกรณีกล่าวหานายสมใจนึก เองตระกูล ปลัดกระทรวงการคลังขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 9 (กระทรวงการคลัง) นายสมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รองปลัดกระทรวงการคลังในขณะนั้น นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อธิบดีกรมสรรพากรขณะนั้น ปัจจุบันเป็นปลัดกระทรวงการคลัง นายวีระ ไชยธรรม ที่ปรึกษาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ. และนายเมธี ภมรานนท์ ผู้แทน ก.พ. ใน อ.ก.พ. กระทรวงการคลัง ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริตในการคัดเลือกข้าราชการเพื่อดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมสรรพากร


 


ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าว ผู้ได้รับความเสียหายจากการคัดเลือกได้ฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลางและศาลปกครองสูงสุด ซึ่งได้มีการพิพากษาว่าการดำเนินการคัดเลือกไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และมีการกระทำที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้สมัคร โดยพฤติการณ์เชื่อได้ว่ามีการกำหนดตัวบุคคลไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงไม่เป็นธรรมต่อผู้สมัครรายอื่น จึงทำให้คำสั่งแต่งตั้งรองอธิบดีกรมสรรพากรดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย


 


นายกล้านรงค์กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของนายสมใจนึก นายสมหมาย นายศุภรัตน์ และนายวีระ มีมูล ถือเป็นความผิดอาญา ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 ส่วนนายเมธี ซึ่งในขณะกระทำผิดได้พ้นจากราชการไปแล้ว มีมูลความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86


 


"นอกจากนี้นายศุภรัตน์ยังมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการด้วย โดย ป.ป.ช.จะส่งรายงานเอกสารและความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้ถูกกล่าวหาต่อไป" นายกล้านรงค์กล่าว


 


นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ยังไม่ได้รับทราบรายละเอียดกรณีที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดข้าราชการหลายรายที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมสรรพากร (นักบริหารระดับ 9) โดยมิชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของราชการ หรือมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาบางคนมีความผิดวินัยร้ายแรง ซึ่งถ้าผู้ถูกกล่าวหายังเป็นข้าราชการอยู่ คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงต้องมีมติให้ไล่ออกหรือปลดออกจากราชการ


 


"ดังนั้นจึงยังไม่ขอให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยขอทราบรายละเอียดทั้งหมดจาก ป.ป.ช.ก่อน และจะพิจารณาว่ามีประเด็นที่ต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป ผมยังไม่ได้รับทราบรายละเอียด ดังนั้นยังไม่มีความคิดเห็น ขอรับทราบรายละเอียดจาก ป.ป.ช.ก่อน แล้วจะดูว่ามีประเด็นอะไรที่ต้องดำเนินการต่อไป" นายกรณ์กล่าว


 


แหล่งข่าวเปิดเผยว่า สำหรับนายศุภรัตน์ ปลัดกระทรวงการคลังนั้น มีความใกล้ชิดสนิทกับ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกทาบทามให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ


 


 


อดีตทหารพกระเบิดใส่เป้เร่ขาย อ้างเก็บจากขยะทำเนียบฯ


มติชนออนไลน์ - เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 14 มกราคม พ.ต.อ.ณรงค์ ศุภเอม รองผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ แถลงข่าวจับกุมนายพอเจตน์  แผนสง่า อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 2 อ.กระบุรี จ.ระนอง ที่บริเวณหน้าเซเว่น-อีเลฟเว่น ในตลาดบางสะพาน จากการตรวจค้นในกระเป๋าสีน้ำตาลพบวัตถุระเบิดปิงปอง ระเบิดไดนาไมต์ และเครื่องกระสุนปืนหลายขนาดจำนวนมาก จึงแจ้งข้อหามีและพกพาเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ ได้รับอนุญาต นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน สอบขยายผลผู้ต้องหาอ้างระเบิดทั้งหมดเก็บมาจากถังขยะหน้าทำเนียบรัฐบาล กทม. ในระหว่างการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และจะนำไปขายให้เพื่อนที่ จ.ระนอง แต่ระหว่างแวะซื้อของใช้ที่ร้านเซเว่นฯจึงถูกจับกุมดังกล่าว


 


พ.ต.อ.ณรงค์แถลงด้วยว่า ระหว่างการจับกุมผู้ต้องหาอ้างเป็นข้าราชการทหารยศสิบเอกสังกัด กอ.รมน.จ.ระนอง ทำงานด้านการข่าวและยาเสพติด เมื่อตรวจสอบพบเป็นทหารนอกประจำการ ซึ่งจะสืบสวนหาต้นตอที่มาของระเบิดดังกล่าว เนื่องจากเชื่อว่าผู้ต้องหายังมีเครือข่ายที่มีระเบิดปิงปองและระเบิด ไดนาไมต์อีกจำนวนมาก เพื่อนำมาจำหน่ายทั่วไป 



 


 






คุณภาพชีวิต


 


สธ.สั่งเก็บปลากระป๋อง "ชาวดอย" ล็อตช่วยน้ำท่วมพ้นตลาด


ไทยรัฐ - นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในวันนี้ (14 ม.ค.) ว่า นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง เก็บปลากระป๋องบริจาคคือ ยี่ห้อชาวดอย ซึ่งผลิตจากบริษัททองกิ่งแก้วฟู๊ดส์ เลขที่ 17/1 หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จำหน่ายโดย บริษัท ไทย เอ ดี ฟู๊ดส์ เลขที่ 5/145 หมู่ 1 ถนนพระรามที่ 2 แขวงแสมดำ บางขุนเทียน กทม. ผลิตวันที่ 24 ธันวาคม 2551 หมดอายุ วันที่ 24 ธันวาคม 2554 เลขที่ อย. 74-07040-1-0050 ล็อตการผลิต TSE 77


 


หลัง ชาวบ้านที่ตำบลชัยบุรี จังหวัดพัทลุง ได้รับบริจาคอาหารช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งภายในถุงบรรจุปลากระป๋อง ข้าวสาร บะหมี่สำเร็จรูปและของใช้ประจำวัน เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2552 ที่ผ่านมาหลังจากนั้นได้เปิดปลากระป๋องดังกล่าวบริโภค พบว่ามีกลิ่นเหม็นเน่า เนื้อปลาเละ เมื่อลองชิม เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน จึงได้นำปลากระป๋องทั้งหมดไปส่งคืนที่ผู้ใหญ่บ้าน โดยให้ส่งตรวจวิเคราะห์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.ตรัง เป็นการด่วน แล้ว คาดว่าจะทราบผลในวันพรุ่งนี้ ขณะเดียวกันได้สั่งการสำนักงานสาธารณสุขทั่วประเทศ เก็บปลากระป๋องยี่ห้อดังกล่าวและผลิตในล็อตเดียวกัน ออกจากท้องตลาดทั้งหมด รวมทั้งในเขต กทม.ด้วย เพื่อความปลอดภัยของประชาชน


 


โดย หากพบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ได้มาตรฐาน ถือเป็นอาหารผิดมาตรฐาน ตาม พ.ร. บ.อาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 28 มีโทษปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือหากพบสิ่งปนเปื้อนอันตรายเจือปนอยู่ ถือว่าเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่าย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่โรงงานผลิตเป็นการด่วนว่าได้ตามมาตรฐาน จีเอ็มพีหรือไม่ และสืบหาสาเหตุการเน่าเสียด้วย


 


 


ขยายฐานรับค่าครองชีพ ต่ำกว่า 1.5 หมื่นรัฐช่วย 2 พัน


ไทยรัฐ - นาย ไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าววันนี้ (14 ม.ค.) ถึงนโยบายและมาตรการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะจ่ายเงินให้กับผู้ประกันตน คนละ 2,000 บาท เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ว่า จากการหารือกับสำนักงบประมาณ พบว่า ยังมีเงินส่วนที่สามารถขยายให้ครอบคลุมผู้ประกันตนได้มากขึ้น จากเดิมที่รัฐบาลจะให้เงิน 2,000 บาท กับผู้มีรายได้ไม่เกิน 14,000 บาท จึงได้ปรับฐานตัวเลขรายได้มาอยู่ที่ไม่เกิน 14,999 บาท โดยมีผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือครั้งนี้เพิ่มเป็น 8,138,815 คน และเรื่องดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี แล้ว ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) จะเป็นผู้รับผิดชอบประสานกับกรมบัญชีกลาง เพื่อโอนเงิน 2,000 บาท เข้าเลขที่บัญชีให้กับผู้ประกันตนดังกล่าว ประมาณเดือน เม.ย.


 


นายไพฑูรย์ กล่าวถึงโครงการแก้ปัญหาการว่างงาน จำนวน 5,224 ล้านบาท ที่เสนอเข้า ครม. เมื่อวานนี้ (13 ม.ค.) ว่า ได้รับแจ้งจากสำนักงบประมาณว่า ในขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีงบประมาณเพียงพอ จึงได้ให้กระทรวงแรงงานเกลี่ยงบประมาณโครงการเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงาน เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน จำนวน 6900 ล้านบาท มาปรับใช้ และฝึกอาชีพให้กับผู้ว่างงาน 500,000 คน โดยรัฐบาลยังอนุมัติงบกลาง จำนวน 120 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการเร่งด่วน ซึ่งคณะกรรมการโครงการฯ ที่มีนายกอร์ปศักดิ์เป็นประธาน จะมีการประชุมในสัปดาห์หน้า เพื่อกำหนดรายละเอียดโครงการฯ ส่วนการช่วยเหลือแรงงานนอกระบบ ก.แรงงาน จะนำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุม ครม.ครั้งต่อไป


 


ส่วน โครงการที่ สปส.นำเงินไปฝากไว้กับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอีแบงก์) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รมว.แรงงาน กล่าวว่า มั่นใจเงินดังกล่าวจะไม่สูญหายไป เพราะธนาคารทั้ง 2 แห่งจะเป็นผู้รับผิดชอบ และ สปส.นำเงินไปฝากเพื่อปล่อยกู้ในแต่ละธนาคารไม่มากนัก โดยนำไปฝากที่ ธ.ก.ส. เพียง 300 ล้านบาทก่อน ขณะที่ธนาคาร SME มีเงินฝากจำนวน 1,000 ล้านบาท ในงวดแรก นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดที่จะกระจายเงินไปฝากกับธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ อีก โดยในวันที่ 15 ม.ค. จะเรียกธนาคารพาณิชย์หลายแห่งมาหารือ เพื่อเข้าร่วมโครงการนี้


 


ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคม เปิดเผยยอดช่วยเหลือผู้ประกันตนจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่ซานติก้าผับ ซอยทองหล่อ 11 (เอกมัยซอย 9 ) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 00.30 น. เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2552 ที่ผ่านมา พบมีผู้เสียชีวิตเป็นผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับประโยชน์ทดแทน จากสำนักงานประกันสังคม จำนวน 41 ราย โดยมีลูกจ้างของซานติก้าผับเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ 8 ราย ผู้ประกันตนเสียชีวิตไม่เนื่องจากการทำงาน 25 ราย และผู้เสียชีวิตขณะสิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตนเกิน 6 เดือน 8 ราย สำนักงานประกันสังคมจ่ายเงินทดแทนและประโยชน์ทดแทนรวม 5,319,626.12 บาท


 


นอกจากนี้ สำนักงานประกันสังคมได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 8 เจ้า ของพื้นที่เข้าไปตรวจสอบข้อมูล เพื่อให้การช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตนที่ประสบอุบัติเหตุ อย่างเต็มความสามารถ และได้ประสานงานให้โรงพยาบาลที่ผู้ประกันตนเข้ารับการรักษาในเบื้องต้นดูแล รักษาอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามขอให้ทายาทหรือผู้มีสิทธิยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนโดยนำหลักฐาน ต่าง ๆ คือ แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส.2-01) สำเนา บัตรประชาชนของผู้จัดการศพ หลักฐานจากฌาปณสถานหรือมัสยิดที่แสดงว่าเป็นผู้จัดการศพ สำเนาใบมรณบัตร สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ประเภทออมทรัพย์หน้าแรก ซึ่ง มีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้จัดการศพ (กรณีรับเงินทางธนาคาร) มายื่นขอรับประโยชน์ทดแทนได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขา ที่ท่านสะดวกทันที เพื่อขอรับสิทธิประโยชน์แต่หากมีข้อสงสัยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขาที่ท่านสะดวก หรือ โทร 1506


 


 






ต่างประเทศ


 


บุชร่วมประชุมครม.นัดสุดท้ายลั่นภูมิใจผลงานรัฐบาล


เว็บไซต์คมชัดลึก - (14ม.ค.) ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชของสหรัฐ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งสุดท้ายเมื่อวานนี้ก่อนจะพ้นตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม โดยบอกว่ารัฐบาลนี้ได้สร้างผลงานดีเยี่ยม เขารู้สึกภาคภูมิใจอย่างมากและจะเดินออกจากกรุงวอชิงตันพร้อมกับความสำเร็จได้อย่างยืดอก นอกจากนี้บุชได้กล่าวขอบคุณรัฐมนตรีทั้งหลายสำหรับการทำงานที่ผ่านมา และการให้ความร่วมมือกับทีมงานถ่ายโอนอำนาจของว่าที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา เขายังกล่าวแสดงความปรารถนาอย่างแท้จริงว่าประธานาธิบดีคนใหม่จะประสบความสำเร็จในการบริหารประเทศ


 


นอกจากนี้บุชได้กล่าวแจกแจงผลงานที่ประสบความสำเร็จในช่วง 8 ปีที่ดำรงตำแหน่ง เช่น การปกป้องประเทศทำให้ไม่มีเหตุก่อการร้ายเกิดขึ้นนับจากเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2544 การพัฒนาเรื่องการศึกษา การลดภาษี และข้อตกลงการค้า


 


แต่สมาชิกพรรคเดโมแครตในคณะกรรมาธิการยุติธรรมของสภาผู้แทนราษฎร ได้เผยแพร่รายงานฉบับหนึ่งเมื่อวันอังคาร เรียกร้องให้รัฐบาลใหม่ของโอบามาดำเนินการสอบสวนทางอาญาต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลในสมัยของบุชว่ามีการกระทำที่ละเมิดกฎหมายโดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของประเทศหรือไม่ รวมทั้งเสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งคล้ายกับคณะกรรมาธิการสอบสวนเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน ที่มีอำนาจเรียกบุคคลเข้าให้การ เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงและเสนอแนะแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดการใช้อำนาจในทางมิชอบ


 


รายงานระบุว่า นโยบายที่เป็นปัญหา ประกอบด้วย วิธีการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติการดักฟังการติดต่อสื่อสารโดยไม่ต้องขออำนาจจากศาล การแก้แค้นกับคนที่วิจารณ์รัฐบาล การบิดเบือนข้อมูลข่าวกรอง และการปลดอัยการด้วยเหตุผลทางการเมือง ขณะที่ทำเนียบขาวยังไม่แสดงความเห็นต่อรายงานฉบับนี้ และว่าที่ประธานาธิบดีโอบามาไม่ได้สนับสนุนแนวคิดนี้


 


 


ทัพยิวถล่มเดือด-เคลื่อนพลล้อมกาซาซิตี


สยามรัฐ - ชาวปาเลสไตน์กว่าแสนคนแห่หนีตายจ้าละหวั่น หลังทหารยิวเคลื่อนทัพปิดล้อมเมืองกาซาซิตี ก่อนยิงถล่มกับฮามาสอย่างดุเดือด ด้านประธานกาชาดสากลช็อกกับภาพคนเจ็บ ขณะที่ยูเอ็นและนานาชาติยังถกเครียดหาทางหยุดยิง สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สถานการณ์สู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธอิสลามหัวรุนแรงฮามาสของปาเลสไตน์ ที่ฉนวนกาซา ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 19แล้ว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา


 


รายงานข่าวแจ้งว่า การสู้รบตลอดช่วงค่ำวันอังคารและช่วงเช้าวันพุธที่ผ่านมานั้นกองกำลังของทั้งสองฝ่าย ได้เปิดยิงโจมตีใส่กัน รวมทั้งฝูงบินรบของอิสราเอล ได้ปฏิบัติการโจมตีพื้นที่เป้าหมายนับสิบแห่ง จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากซึ่งจนถึงขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 971 คน และผู้บาดเจ็บมีมากกว่า 4,000 คนโดยส่วนใหญ่ผู้สูญเสียเป็นชาวปาเลสไตน์


 


พร้อมกันนี้ รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า กองทัพอิสราเอลทั้งทางบกและทางอากาศได้รุกคืบเข้าไปจนใกล้เมืองกาซาซิตีเข้าไปทุกขณะ โดยในเวลานี้ยังคงปิดล้อมพื้นที่จาบาลิยาและเบอิต ซึ่งเป็นย่านชานเมืองกาซาซิตี ส่งผลให้ประชาชนราว 1 แสนคนในพื้นที่ดังกล่าวต้องอพยพออกจากบ้านเรือนกันอย่างอลหม่าน เพราะหวั่นเกรงอันตรายจากการสู้รบ


 


ขณะที่ นายจาคอบ เคลเลนเบอร์เกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการกาชาดสากลหรือไอซีอาร์ซี เปิดเผยว่า ตนรู้สึกช็อกและไม่สามารถยอมรับได้กับสถานการณ์ในกาซา ที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และบรรดาผู้บาดเจ็บเหล่านั้น ยังไม่ได้รับการรักษาเยียวยา


 


ขณะเดียวกัน ทางด้านนายบัน คี มูน เลขาธิการแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็น ที่เดินทางถึงกรุงไคโรแล้ว ก็มีกำหนดการพบปะกับประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัก ผู้นำอียิปต์เพื่อหารือเรื่องการหาแนวทางให้ทั้งอิสราเอลและฮามาสหยุดยิง เช่นเดียวกับนานาชาติก็ได้พยายามหาทางให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงเช่นกัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net