รองประธานกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตอบโต้ข้อมูลการลงพื้นที่ของผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ระบุผู้ตรวจการลงพบฝ่ายสนับสนุนและนายทุน แต่ไม่ได้รับฟังฝ่ายผู้คัดค้าน ย้ำโครงการถลุงเหล็กกระทบแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ
เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2552 นายสุพจน์ ส่งเสียง รองประธานกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง กล่าวถึงกรณี ที่นาย
นายสุพจน์ กล่าวต่อไปว่า การลงตรวจพื้นที่ของปลัดกระทรวงเป็นการไปพบปะกับกลุ่มนายทุน และกลุ่มผู้สนับสนุนโครงการเท่านั้น ทั้งที่กลุ่มชาวบ้านผู้เดือนร้อนกำลังเปิดศูนย์คัดค้านอย่างจริงจัง และมีการฟ้องหน่วยงานรัฐ และกลุ่มนายทุนไปแล้ว 6 คดี ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงไม่ได้เข้าไปรับฟังข้อมูลในส่วนของผู้คัดค้านแต่อย่างใด
นายสุพจน์กล่าวด้วยว่า กรณีความขัดแย้งในพื้นที่ ต.แม่รำพึงนั้นไม่ใช้เรื่องขัดแย้งธรรมดา แต่เป็นเรื่องผล
ประโยชน์ชาติ การรุกป่าสงวนแห่งชาติ และป่าคุ้มครอง ไม่ใช้แค่ประเด็นทางสาธารณะ
"เรื่องทางสาธารณะนั้นมันเรื่องเล็กแต่ก็ทำไม่ถูกต้องเช่นกันที่ไปจำกัดสิทธิ์การออกเสียงประชาคมชาวบ้านไม่ให้ผู้มีอายุน้อยกว่า 15 ใช้ทางสาธารณะมีที่ไหนในโลก โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับการโหวตยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 แต่ความจริงตามหลักฐานของอำเภอบางสะพาน การทำประชาคมครั้งนั้นก็ไม่ผ่านเกณฑ์เพราะคนไปออกเสียงไม่ครบตามหลักเกณฑ์ แต่ยังดันทุรังให้กันไปทั้งที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังใช้ทางอยู่อย่างต่อเนื่องมานาน จนถึงปัจจุบัน"
นายสุพจน์ระบุว่าประเด็นใหญ่อีกประเด็นหนึ่งคือพื้นที่ก่อสร้างโครงการซึ่งเป็นต้นน้ำของคลองของ ต. แม่รำพึง และอยู่ใจกลางการปิดอ่าวที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดของอ่าวไทย
"รัฐไม่ให้ความสำคัญ หรือเม็ดเงินต่างชาติที่จะเป็นผลประโยชน์ของใครบางกลุ่มสำคัญกว่า และอยากฝากว่าหากจริงใจลงตรวจสอบข้อมูลจริงควรพบกับชาวบ้าน มิใช้พบผู้นำท้องถิ่นที่วันนี้อยู่ในสถานะแกนนำ สนับสนุนโครงการไปทั้งหมดแล้ว หรือพบเพียงนายทุนเจ้าของโครงการเพื่อดูหนังตัวอย่างนำเสนอด้านดีด้านเดียว" นายสุพจน์ กล่าว
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)