สภากาชาดสากลเอเชียใต้คาดมีพลเรือน 250,000 คน ติดอยู่กลางการปะทะระหว่างรัฐบาลศรีลังกา-พยัคฆ์ทมิฬ เผยการบรรเทาทุกข์เป็นไปด้วยความยากลำบาก ผู้บาดเจ็บสาหัส 200 คนไม่สามารถนำออกมาจากพื้นที่ปะทะได้ เหยื่อสงครามทำได้เพียงรอความตาย ด้านกองทัพศรีลังการุกคืบปิดล้อมพื้นที่ตอนเหนือ หวังเผด็จศึกภายในไม่กี่สัปดาห์นี้
แผนที่แสดงเขตที่รัฐบาลสามารถยึดคืนมาได้ในการสู้รบในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ โดยล่าสุดเมืองมุลไลติวู เมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือของศรีลังกา ซึ่งเป็นพื้นที่ยึดครองในเมืองของฝ่ายพยัคฆ์ทมิฬแห่งสุดท้ายก็เพิ่งถูกกอง ทัพรัฐบาลศรีลังกายึดคืนได้
สถานการณ์วิกฤตด้านมนุษยธรรมกำลังเกิดขึ้นในพื้นที่สู้รบระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลม ในทางตอนเหนือของประเทศ หลังจากกองทัพศรีลังกาเข้ายึดพื้นที่สำคัญของฝ่ายกบฏทางตอนเหนือไว้ได้ โดยสภากาชาดสากลระบุว่ามีประชาชนกว่า 250,000 คนติดอยู่กลางกับดักสงคราม
สภากาชาดสากล (ICRC) ประมาณการว่ามีพลเรือนหลายร้อยคนเสียชีวิตระหว่างการปะทะของกองทัพรัฐบาลกับกองทัพพยัคฆ์ทมิฬอีแลม สภากาชาดสากลยังเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายอนุญาตให้หน่วยบรรเทาทุกข์เข้าไปในพื้นที่ทันที
ด้านกองทัพรัฐบาลศรีลังการะบุว่าต้องการสงครามครั้งสุดท้ายในการปราบกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬ โดยหลังจากกองทัพรัฐบาลศรีลังกายึดเมืองมุลไลติวูได้ พวกเขาก็มุ่งสู่ชายฝั่งทะเลทิศตะวันออกเพื่อปิดล้อมฝ่ายกบฏ โดยกองทัพศรีลังกาหวังว่าจะสามารถควบคุมพื้นที่ทางตอนเหนือได้ภายในไม่กี่สัปดาห์นี้
ด้านกองทัพพยัคฆ์ทมิฬอีแลมยังไม่มีความเห็นต่อท่าทีของกองทัพรัฐบาลศรีลังกาดังกล่าว
ขณะที่ Jacques de Maio ผู้อำนวยการสภากาชาดสากล (ICRC) ประจำภูมิภาคเอเชียใต้ กล่าวว่าพลเรือนอยู่ในภาวะที่ต้องสูญเสียในความขัดแย้งนี้
"เราประมาณการว่ามีพลเรือน 250,000 คนที่ติดอยู่ในพื้นที่ห้วงห้ามราว 250 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ๆ มีการสู้รบกันอย่างหนัก" เขากล่าว
"พวกเขาประทังชีวิตเรียบง่ายอยู่ท่ามกลางการยิงปะทะและความเสี่ยงภัย การเข้าถึงการรักษาสุขภาพแทบจะเป็นไปได้ยาก อาหารเป็นสิ่งจำเป็นกับพวกเขา พวกเขาต้องการที่พักชั่วคราว และที่สำคัญที่สุดพวกเขาต้องการหลักประกันความมั่นคง"
สภากาชาดสากลระบุว่าจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ของพวกเขาตามโรงพยาบาลต่างๆ พบว่าขณะนี้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน
ยังคงมีการจำกัดการเข้าถึงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ การมีสภากาชาดสากลในภูมิภาคเป็นสิ่งที่ไร้ความหมาย ทั้งนี้สภากาชาดสากลต้องการนำผู้บาดเจ็บสาหัส 200 คนออกจากพื้นที่ตั้งแต่วันอังคารที่ 27 ม.ค. แต่ไม่สามารถทำได้เพราะไม่มีการประกันความปลอดภัย และผู้ป่วยเหล่านั้น สภากาชาดสากลระบุว่าพวกเขากำลังเผชิญกับความตาย
เลขาธิการทั่วไปสหประชาชาติและสหภาพยุโรปต่างแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อพลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ
Chris Morris ผู้สื่อข่าวบีบีซีที่ติดตามกลุ่มนักข่าวที่เข้าเมืองมุลไลติวูไปกับกองทัพศรีลังการะบุว่า ในเมืองดังกล่าวที่ทหารรัฐบาลยึดได้ไม่มีอะไรอยู่เลย นอกจากบรรดาทหารที่พบอยู่ทุกๆ มุมตึก สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ บ้านเรือนและร้านค้า ได้รับความเสียหายหรือไม่ก็ถูกทำลาย
เขากล่าวว่าการยึดเมืองได้ถือเป็นชัยชนะใหญ่ของกองทัพ แต่ทหารพยัคฆ์ทมิฬก็ยังอยู่อย่างไม่ท้อถอย มีเสียงจากยิงปืนใหญ่ดังก้องอยู่ไม่ไกลไปจากถนนที่รกร้างกลางเมือง
พลจัตวานันดานา อูดาวัตต์ (Nandana Udawatte) ผู้บัญชาการกองกำลังศรีลังกาที่นำคนเข้ายึดมุลไลดิวูกล่าวว่า "การยิงปืนครก, การยิงปืนใหญ่ และการต่อสู้ระยะประชิด" กำลังดำเนินอยู่ในเขต 1.5 กิโลเมตรห่างจากตำบล Puthukkudiyiruppu ของเมืองมุลไลดิวู
ข้อมูลจากฝ่ายสนับสนุนพยัคฆ์ทมิฬกล่าวหาว่าพลเรือนหลายร้อยคนเสียชีวิตจากการยิงปืนใหญ่โดยกองทัพศรีลังกา แต่กองทัพศรีลังกาออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา
ที่มาของข่าว: แปลจาก
'Crisis unfolding' in
ข่าวก่อนหน้านี้
"พยัคฆ์ทมิฬอีแลม" เสียฐานที่มั่นในเมืองแห่งสุดท้ายให้รัฐบาลศรีลังกา, 27/1/2552