Skip to main content
sharethis

จากรณีการชุมนุมของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย (คปท.) จากกลุ่มปัญหาการถูกละเมิดในสิทธิที่ดินทำกิน กลุ่มปัญหาไร้ที่ดินทำกิน กลุ่มปัญหานโยบายเรียกคืนที่ดินราชพัสดุ 1 ล้านไร่ และกลุ่มปัญหาชุมชนแออัด คนไร้บ้าน และที่อยู่อาศัยในเมือง เพื่อทวงถามความคืบหน้าจากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งชุมนุมอยู่ที่บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาลมาตั้งแต่วันที่ 4 มี..ที่ผ่านมา และหลังจากที่นายกรัฐมนตรีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เดินทางมาพบกับกลุ่มผู้ชุมนุม เมื่อวันที่ 5 มี..โดยรับปากแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมระดับชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย




วันนี้ (7 มี..52) เครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4 "นายกรัฐมนตรีต้องทำตามสัญญา ข้าราชการประจำต้องสนองนโยบายรัฐบาล" ระบุถึงกระบวนการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมระดับชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งในวันอาทิตย์ที่ 8 มี..นี้ จะมีการประชุมเพื่อเตรียมการร่างคำสั่งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัย เพื่อให้นายกลงนามก่อนนำเสนอคำสั่งเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบในวันอังคารที่ 10 มี..2552 โดยนายกฯ ได้มอบหมายให้ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการและเป็นประธานการประชุมร่วมกับตัวแทนเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ ว่าได้สร้างกังวลว่าการประชุมจะไม่สามารถดำเนินการให้บรรลุตามเป้าหมายได้




เนื่องจาก เครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ ได้ทราบว่าในการประชุมที่จะเกิดขึ้น ณ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 8 มี.. 2552 กระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้นายสุธี มากบุญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ มท 0211.4/719 ลงวันที่ 6 มี..2552 เพื่อแจ้งให้ปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องหรือผู้แทนที่มีอำนาจในการตัดสินใจมาเข้าร่วมประชุมในวันดังกล่าวด้วย




ทั้งนี้ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย มีข้อเสนอว่า หากการประชุมเพื่อเตรียมการร่างคำสั่งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาฯ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 มี.. ต้องประสบความล้มเหลวและไม่เป็นไปตามนโยบายที่นายกรัฐมนตรีได้รับปากกับเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ เนื่องจากการขัดขวางของข้าราชการประจำที่ได้รับเชิญมาร่วมประชุม นายถาวร เสนเนียม จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อความล้มเหลวแต่เพียงผู้เดียว




อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย โดยยึดถือตามกรอบรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้รัฐบาลต้องกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม รวมถึงต้องดำเนินการตามนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภาอย่างเคร่งครัด




"เรายังคงเชื่อมั่นว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่จะมีวิสัยทัศน์กว้างไกลเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม จะใช้ความกล้าหาญในการสั่งการเพื่อแก้ไขปัญหาของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ โดยยึดปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องคนจนและข้อเท็จจริงเป็นหลัก จัดปรับนโยบายและกฎหมายที่ล้าหลังให้สอดคล้อง นำพาไปสู่การกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน" แถลงการณ์ระบุ




ด้านนายประยงค์ ดอกลำไย สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) กล่าวแสดงความเห็นต่อการกระทำข้างต้นว่า หากมองในแง่ดี สามารถตีความได้ว่าเป็นความต้องการที่จะให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือกระทรวงการคลังในเรื่องเกี่ยวกับที่ราชพัสดุ ได้เข้ามารับรู้รับทราบข้อมูลเพื่อนำไปจัดเตรียมคณะทำงานและกระบวนการต่างๆ ในการการแก้ปัญหาให้กับประชาชนผู้เดือดร้อน




แต่หากมองในแง่ร้าย การเอาตัวแทนข้าราชการเข้ามาร่วมตั้งแต่การเตรียมการร่างคำสั่งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาฯ นั้น เพื่อทำให้อุปสรรคขัดขวางดำเนินการแก้ไขปัญหา เพราะจะมีการหยิบยกเอาข้อจำกัดทางกฎหมาย ระเบียบวิธีปฏิบัติที่ล้าหลังและไม่สอดคล้องมาเป็นข้ออ้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้สร้างความกังวลให้กับเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน นอกจากนี้จากการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมาเองก็มักมีการยึดถือหลักของทางราชการเป็นสำคัญ




นายประยงค์ กล่าวต่อมาถึงการประชุมร่วมในวันพรุ่งนี้ว่า จะยังไม่มีการเจรจารายกรณี แม้มีตัวแทนหน่วยราชการจากหลายกระทรวงเข้าร่วม เพราะการพูดคุยจะมุ่งเน้นองค์ประกอบ และกรอบอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัยเป็นสำคัญ แต่เพื่อความแน่ใจทางเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ จะนำกำลังคนไปอย่างเต็มที่




ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มชาวบ้านเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ ได้เตรียมการนัดรวมตัวกัน และทั้งหมดจะเดินทางไปร่วมการประชุมเพื่อเตรียมการร่างคำสั่งคณะกรรมการแก้ไขปัญหา ในเวลา 13.30 .วันพรุ่งนี้ ที่กระทรวงมหาดไทยด้วย


 




แถลงการณ์เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 4


"นายกรัฐมนตรีต้องทำตามสัญญา ข้าราชการประจำต้องสนองนโยบายรัฐบาล"




ตามที่นายกรัฐมนตรีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เดินทางมาพบกับสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2552 และรับปากว่าจะเร่งแก้ไขปัญหาของเครือข่ายโดยจะลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมระดับชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ก่อนนำเสนอคำสั่งเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบในวันอังคารที่ 10 มีนาคม 2552 และจะมีการนัดหมายเพื่อจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการขึ้นในวันที่ 11 มีนาคม 2552 โดยได้มอบหมายให้ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการและเป็นประธานการประชุมเตรียมจัดตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัย ตามข้อเรียกร้องของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ในวันที่ 8 มีนาคม 2552 ณ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นั้น




เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ได้ทราบว่าในการประชุมที่จะเกิดขึ้น ณ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทยในวันที่ 8 มีนาคม 2552 กระทรวงมหาดไทยได้ทำหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ มท 0211.4/719 ลงวันที่ 6 มีนาคม 2552 เพื่อแจ้งให้ปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องหรือผู้แทนที่มีอำนาจในการตัดสินใจมาเข้าร่วมประชุมในวันดังกล่าวด้วย พฤติกรรมที่ นายถาวร เสนเนียม ทำให้เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย เกิดความกังวลว่าการประชุมจะไม่สามารถดำเนินการให้บรรลุตามเป้าหมายได้ ทั้งนี้เนื่องจากข้าราชการซึ่งเป็นตัวแทนของส่วนราชการจะหยิบยกเอาข้อจำกัดทางกฎหมาย ระเบียบวิธีปฏิบัติที่ล้าหลังและไม่สอดคล้องมาเป็นอุปสรรคขัดขวางดำเนินการแก้ไขปัญหา ประกอบกับพฤติกรรมการบริหารประเทศภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ในอดีตที่ผ่านมาได้ยึดแนวทางและการชี้นำของระบบราชการเป็นหลักในการบริหารบ้านเมือง จึงประสบความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาความยากจนของคนรากหญ้ามาโดยตลอด ดังนั้นเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย จึงมีข้อเสนอดังนี้




  1. หากการประชุมเพื่อเตรียมการร่างคำสั่งคณะกรรมการที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 มีนาคม 2552 ต้องประสบความล้มเหลวและไม่เป็นไปตามนโยบายที่นายกรัฐมนตรีได้รับปากกับเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ เนื่องจากการขัดขวางของข้าราชการประจำที่ได้รับเชิญมาร่วมประชุม นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อความล้มเหลวแต่เพียงผู้เดียว



  2. รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย โดยยึดถือตามกรอบรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้รัฐบาลต้องกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม รวมถึงต้องดำเนินการตามนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภาอย่างเคร่งครัด



  3. เรายังคงเชื่อมั่นว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่จะมีวิสัยทัศน์กว้างไกลเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม จะใช้ความกล้าหาญในการสั่งการเพื่อแก้ไขปัญหาของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ โดยยึดปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องคนจนและข้อเท็จจริงเป็นหลัก จัดปรับนโยบายและกฎหมายที่ล้าหลังให้สอดคล้อง นำพาไปสู่การกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน




ชุมชนเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย


ข้างทำเนียบรัฐบาล


7 มีนาคม 2552





 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


- คปท.ประกาศ "จุดยืน" การแก้ปัญหาที่ดินต้องยึดข้อเท็จจริงและความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก


- "มาร์ค" พบเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ รับเป็นประธานคณะกรรมการพิเศษแก้ปัญหาที่ดิน


- เครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ เยือนทำเนียบ จี้ รบ.เร่งแก้ปัญหาที่ดิน คาดชุมนุมใหญ่ 4-10 มี..


- เครือข่ายปฏิรูปที่ดินระดมพลกระทุ้งรัฐวางแนวทางชัดเจนแก้ที่ดินทำกิน


- "ถาวร" ตัวแทนนายกเจรจารับตั้ง "คณะกรรมการชาติ" แก้ปัญหา "ที่ดินทำกิน"


- ภาพข่าว: คปท.ชุมนุมจี้รัฐบาลแก้ปัญหาที่ดิน



ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net