Skip to main content
sharethis

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 13 มีนาคม 2552 ที่ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กลุ่มนักวิชาการและประชาชน ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง การคัดค้านข้อเสนอให้มีการยกเลิก และแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องพระมหากษัตริย์จากการถูกละเมิด


      


โดยระบุว่า ตามที่ นายใจ อึ๊งภากรณ์ และกลุ่มนักวิชาการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ได้ออกแถลงการณ์เสนอให้มีการยกเลิกหรือแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วยเหตุผลว่า เป็นมาตราที่ก่อให้เกิดผลกระทบกับสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของพลเมืองไทย รวมทั้งการรณรงค์ล่ารายชื่อของ นายธงชัย วินิจจกูล และ 50 นักวิชาการต่างประเทศ เพื่อเรียกร้องให้มีการยกเลิกหรือแก้ไขกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ นั้น


      


นักวิชาการและประชาชนตามรายชื่อข้างท้ายของแถลงการณ์ฉบับนี้ ได้ประชุมวิเคราะห์แง่มุมต่างๆ ในประเด็นนี้อย่างรอบด้านแล้ว และมีความเห็นร่วมกันว่า รัฐบาลและรัฐสภาไม่ควรดำเนินการยกเลิกหรือแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และบทบัญญัติใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นการป้องกันมิให้มีการละเมิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มนักวิชาการดังกล่าวข้างต้น โดยมีเหตุผลประกอบการแสดงจุดยืนทางความคิดดังต่อไปนี้


      


1.การละเมิดหรือการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพองค์พระมหากษัตริย์เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของรัฐ มิใช่ประเด็นหมิ่นประมาทบุคคลทั่วไป เนื่องจากองค์พระมหากษัตริย์ดำรงฐานะเป็นประมุขแห่งรัฐไทย ที่มีระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข


      


2.จึงเป็นความชอบธรรมตามหลักนิติรัฐ ที่ต้องมีกฎหมายปกป้องมิให้มีการละเมิด หรือการหมิ่นประมาทประมุขแห่งรัฐ ซึ่งไม่อยู่ในฐานะที่จะทำการฟ้องร้องต่อผู้ละเมิดหรือหมิ่นประมาทได้ด้วยตนเอง


      


รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ในหมวด 5 แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐส่วนที่ 2 แนวนโยบายด้านความมั่นคงของรัฐ มาตรา 77 จึงกำหนดไว้ว่า "รัฐต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย และบูรณภาพแห่งเขตอำนาจรัฐ และต้องจัดให้มีกำลังทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย จำเป็นและเพียงพอ เพื่อพิทักษ์รักษาเอกราช อธิปไตย ความมั่นคงของรัฐ สถาบันพระมหากษัตริย์ ผลประโยชน์แห่งชาติ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเพื่อการพัฒนาประเทศ"


      


นอกจากนี้ ในหมวด 2 พระมหากษัตริย์ มาตรา 8 ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า "องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้"


      


ทั้งนี้ เพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติในการดูแลปกป้ององค์พระมหากษัตริย์จากการถูกละเมิด ซึ่งมีผลต่อความมั่นคงแห่งรัฐ ประมวลกฎหมายอาญาจึงได้กำหนดไว้ในมาตรา 112 ว่า "ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทหรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี"


      


ดังนั้น การเสนอแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา จึงมิใช่ประเด็นการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเท่านั้น แต่เป็นประเด็นที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งรัฐโดยตรง


      


3.คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่เกิดขึ้นค่อนข้างมากในระยะเวลา 2-3 ปี ที่ผ่านมานี้ เมื่อพิจารณาในภาพรวมแล้ว จะเห็นได้ว่าเป็นการกระทำที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นกระบวนการเพื่อนำไปสู่การล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของประเทศจากรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไปสู่การปกครองรูปแบบอื่น


      


ดังนั้น การเสนอแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปกป้ององค์พระมหากษัตริย์จากการถูกละเมิด หรือการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จึงเป็นประเด็นการต่อสู้ทางการเมืองของกลุ่มที่ต้องการเปลี่ยนระบอบการปกครองของประเทศไทย มิใช่การเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างบริสุทธิ์ใจ


      


4.การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปกป้ององค์พระมหากษัตริย์นั้น ในทางปฏิบัติ อาจมีผู้นำไปใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งบุคคลบางคนได้ จึงขอเรียกร้องต่อเจ้าพนักงานของรัฐให้ระมัดระวังการบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อย่างรอบคอบและเป็นธรรม


      


นักวิชาการและประชาชนตามรายชื่อข้างท้ายแถลงการณ์นี้ จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาล รัฐสภาและสังคมไทย มิให้หวั่นไหวต่อข้อเสนอของกลุ่มที่เรียกร้องให้มีการแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปกป้ององค์พระมหากษัตริย์ จากการถูกละเมิดหรือหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ



      


ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net