พนักงานการบินไทยกลุ่มหนึ่งในนาม เครือข่ายการบินไทยก้าวหน้า (คกก.) ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 ขอให้พิจารณาระงับการยกเลิกเที่ยวบินที่สนามบินดอนเมือง ลงวันที่ 10 มี.ค.52 จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าว บริษัทการบินไทยจะทำการย้ายฐานปฏิบัติการบิน โดยจัดเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศทั้งหมดมาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพียงสนามบินเดียว เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ.2552เป็นต้นไป

โดยเสนอให้ฝ่ายบริหาร ระงับและทบทวนการย้ายฐานปฏิบัติการบินเส้นทางภายในประเทศทั้งหมด จากสนามบินดอนเมืองมายังสนามบินสุวรรณภูมิไว้ก่อน ทำการศึกษาถึงผลกระทบอย่างรอบด้านโดยนักวิจัยมืออาชีพ และชี้แจงผลสรุปให้ทราบโดยทั่วกันถึงก่อนที่จะมีการออกคำสั่ง เพื่อความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล และเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้บริหารชุดนี้มีแนวทางการบริหารเพื่อบริษัทการบินไทย จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูวิกฤตการเงินของบริษัทฯ ที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ โดยไม่มีนัยหรือผลประโยชน์อื่นใดแอบแฝง

ทั้งนี้ แถลงการณ์ระบุข้อสังเกตถึงการย้ายฐานปฏิบัติการบิน อาทิ 1.เมื่อมีการย้ายฐานการบินภายในประเทศทั้งหมดจากสนามบินดอนเมือง ซึ่งปฏิบัติการบินมากกว่า 40 เที่ยวต่อวัน มาที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาจทำให้เกิดการเพิ่มความแออัดภายในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งมีผลกระทบกับความสะดวกสบายกับผู้โดยสาร และยังอาจเพิ่มความหนาแน่นของการจราจรทางอากาศ โดยส่งผลทำให้เกิดการล่าช้าของเที่ยวบินทั้งหมดที่ปฏิบัติการบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ จึงไม่น่าจะส่งผลดีต่อการปฏิบัติการบินที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

2.การเดินทางที่ไม่สะดวกโดยเฉพาะผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางภายในประเทศและมีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพทางตอนเหนือและปริมณฑล ที่จะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางมา CHECK-IN เพิ่มมากขึ้น อาจจะทำให้มีผลกับการตัดสินใจของผู้โดยสารที่จะเลือกเดินทางกับสายการบินไทยในเส้นทางภายในประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือจะเลือกเดินทางกับสายการบินต้นทุนต่ำที่สนามบิน ดอนเมือง อันอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อฐานลูกค้าของสายการบินไทยในระยะยาว (ซึ่งความสะดวกสบายของ 1D ที่อ้างถึง เป็นเฉพาะเรื่องของการต่อเที่ยวบินที่มีการ CONNECTING FLIGHT เท่านั้น)

3.และจากข้อ 2. เป็นการเปิดโอกาสและเอื้อประโยชน์ ให้กับสายการบินอื่น ในเส้นทางการบินภายในประเทศ ที่มีฐานปฏิบัติการบินอยู่ที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งมีข้อได้เปรียบโดยเฉพาะสำหรับผู้โดยสารภายในประเทศมากกว่าที่สนามบินสุวรรณภูมิ จึงอาจเกิดผลกระทบโดยตรงกับฐานลูกค้าภายในประเทศเช่นเดียวกัน

4.จากข้ออ้างถึง การประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าปีละ 600 ล้านบาทนั้น มิได้จำแนกแจกแจงถึงผลการศึกษาและการเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายส่วนใดบ้าง เพราะยังมีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการ (OPERATING COST) อื่นๆ ที่จะต้องนำมาพิจารณาประกอบ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในสนามบินสุวรรณภูมิ จะต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น อาทิเช่น ค่าบริการการขึ้น-ลงของอากาศยาน (LANDING FEE) ค่าลาดจอด และบริการอุปกรณ์ภาคพื้น ค่าใช้จ่ายรถบริการรับ-ส่งจากอาคารผู้โดยสารไปยังเครื่องบิน ในกรณีที่เครื่องบินจอดบริเวณลาดจอดนอก (REMOTE BAY) รวมถึงค่าใช้จ่ายแฝงที่จะตามมา หากเกิดความล่าช้าของเที่ยวบิน จึงทำให้มีปัญหาเรื่องการตรงต่อเวลา (PUNCTUALITY) ซึ่งเป็นหนึ่งใน POLICY ของบริษัท และที่สำคัญที่สุด คือกลุ่มผู้โดยสารเดิมที่อาจจะเลือกใช้สายการบินอื่น ที่มีฐานปฏิบัติการบินภายในประเทศที่สนามบินดอนเมือง เนื่องจากมีความสะดวกสบายต่อกลุ่มผู้ใช้บริการเดิมมากกว่า

แถลงการณ์ฉบับที่ ๑/๒๕๕๒

เรื่อง ขอให้พิจารณาระงับการยกเลิกเที่ยวบินที่สนามบินดอนเมือง

สืบเนื่องจาก รักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) แถลงข่าวผ่านสื่อต่างๆ ว่า บ. การบินไทย จะทำการย้ายฐานปฎิบัติการบิน โดยจัดเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศทั้งหมด มาที่ท่ากาศยานสุวรรณภูมิเพียงสนามบินเดียว ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นต้นไป โดยให้เหตุผลว่า "เป็นการหารือร่วมกับฝ่ายบริหาร และสรุปว่าเป็นนโยบายที่ดีที่สุดของการบินไทยและของประเทศชาตินั้น คือ การเป็นสนามบินเดียว เพราะทำให้การบินไทยเกิดความสะดวกในการจัดการเที่ยวบิน ต้นทุนและบุคลากร และจะประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า ๖๐๐ ล้านบาทต่อปี รวมถึงความสะดวกสบายของการต่อเที่ยวบินของผู้โดยสาร และยืนยันกับรัฐบาลว่าจะไม่มีการย้ายฐานบินของการบินไทยอีก"

จากนโยบายดังกล่าวของผู้บริหารข้างต้น มีข้อสังเกตุหลายประการ ว่าได้หาข้อมูล ศึกษา และวิเคราะห์หาผลกระทบต่อการดำเนินการของบริษัทฯอย่างรอบด้านหรือไม่ หรือมีการศึกษาข้อมูลแล้ว แต่ยังมิได้ชี้แจงถึงผลกระทบที่จะตามมาในอนาคต และอาจมีนัยยะอื่นใดแอบแฝงในอยู่ในนโยบายที่ออกมาครั้งนี้หรือไม่ อาทิเช่น

๑. เมื่อมีการย้ายฐานการบินภายในประเทศทั้งหมดจากสนามบินดอนเมือง ซึ่งปฏิบัติการบินมากกว่า ๔๐ เที่ยวต่อวัน มาที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาจทำให้เกิดการเพิ่มความแออัดภายในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งมีผลกระทบกับความสะดวกสบายกับผู้โดยสาร และยังอาจเพิ่มความหนาแน่นของการจราจรทางอากาศ โดยส่งผลทำให้เกิดการล่าช้าของเที่ยวบินทั้งหมดที่ปฏิบัติการบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ จึงไม่น่าจะส่งผลดีต่อการปฏิบัติการบินที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

๒. การเดินทางที่ไม่สะดวกโดยเฉพาะผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางภายในประเทศและมีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพทางตอนเหนือและปริมณฑล ที่จะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางมา CHECK-IN เพิ่มมากขึ้น อาจจะทำให้มีผลกับการตัดสินใจของผู้โดยสารที่จะเลือกเดินทางกับสายการบินไทยในเส้นทางภายในประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือจะเลือกเดินทางกับสายการบินต้นทุนต่ำที่สนามบิน ดอนเมือง อันอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อฐานลูกค้าของสายการบินไทยในระยะยาว (ซึ่งความสะดวกสบายของ 1D ที่อ้างถึง เป็นเฉพาะเรื่องของการต่อเที่ยวบินที่มีการ CONNECTING FLIGHT เท่านั้น)

๓. และจากข้อ ๒. เป็นการเปิดโอกาสและเอื้อประโยชน์ ให้กับสายการบินอื่น ในเส้นทางการบินภายในประเทศ ที่มีฐานปฏิบัติการบินอยู่ที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งมีข้อได้เปรียบโดยเฉพาะสำหรับผู้โดยสารภายในประเทศมากกว่าที่สนามบินสุวรรณภูมิ จึงอาจเกิดผลกระทบโดยตรงกับฐานลูกค้าภายในประเทศเช่นเดียวกัน

             ๔. จากข้ออ้างถึง การประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าปีละ ๖๐๐ ล้านบาทนั้น มิได้จำแนกแจกแจงถึงผลการศึกษาและการเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายส่วนใดบ้าง เพราะยังมีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการ (OPERATING COST) อื่นๆที่จะต้องนำมาพิจารณาประกอบ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในสนามบินสุวรรณภูมิ จะต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น อาทิเช่น ค่าบริการการขึ้น-ลงของอากาศยาน (LANDING FEE) ค่าลาดจอด และบริการอุปกรณ์ภาคพื้น ค่าใช้จ่ายรถบริการรับ-ส่งจากอาคารผู้โดยสารไปยังเครื่องบิน ในกรณีที่เครื่องบินจอดบริเวณลาดจอดนอก (REMOTE BAY) รวมถึงค่าใช้จ่ายแฝงที่จะตามมา หากเกิดความล่าช้าของเที่ยวบิน จึงทำให้มีปัญหาเรื่องการตรงต่อเวลา (PUNCTUALITY) ซึ่งเป็นหนึ่งใน POLICY ของบริษัท และที่สำคัญที่สุด คือกลุ่มผู้โดยสารเดิมที่อาจจะเลือกใช้สายการบินอื่น ที่มีฐานปฏิบัติการบินภายในประเทศที่สนามบินดอนเมือง เนื่องจากมีความสะดวกสบายต่อกลุ่มผู้ใช้บริการเดิมมากกว่า

 จากข้อสังเกตุที่กล่าวมาข้างต้น กลุ่มเครือข่ายการบินไทยก้าวหน้า (คกก.) จึงขอเสนอให้ฝ่ายบริหาร ทำการระงับและทบทวนการย้ายฐานปฏิบัติการบินเส้นทางภายในประเทศทั้งหมด จากสนามบินดอนเมืองมายังสนามบินสุวรรณภูมิไว้ก่อน และควรศึกษาถึงผลกระทบอย่างรอบด้านโดยนักวิจัยมืออาชีพ เมื่อได้เปรียบเทียบหรือวิเคราะห์จากจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของการย้ายฐานปฏิบัติการบินดังกล่าวแล้ว ควรชี้แจงให้ทราบโดยทั่วกันถึงผลสรุปก่อนที่จะมีการออกคำสั่ง ทั้งนี้เพื่อความโปร่งใสและอยู่ในการบริหารงานของบรรษัทที่มีธรรมาภิบาลพึงกระทำ และเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้บริหารชุดนี้มีแนวทางการบริหารเพื่อบริษัทการบินไทย จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูวิกฤตการเงินของบริษัทฯ ที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ โดยมิได้มีนัยหรือผลประโยชน์อื่นใดแอบแฝง

 เครือข่ายการบินไทยก้าวหน้า (คกก.)

 ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๒