Skip to main content
sharethis

ขอให้บรรดาแกนนำผู้จัดการชุมนุม และผู้ร่วมชุมนุมทุกคน ได้หยุดการกระทำอันเป็นการขัดขวางเส้นทาง เข้า ออก ทำเนียบรัฐบาลดังกล่าวแล้วโดยทันทีเมื่อทราบประกาศนี้ หากไม่ยอมเลิกการกระทำดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมฝูงชนตามลำดับขั้นตอน จากเบาไปหาหนัก โดยในขั้นต้นเจ้าหน้าที่จะใช้เพียงโล่เป็นอุปกรณ์เสริมการปฏิบัติเท่านั้น และจะดำเนินการตามกฎหมายกับบรรดาแกนนำ และ/หรือผู้ชุมนุมที่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย อย่างจริงจังทุกราย

ภาพจากสถานี D-Station เจ้าหน้าที่ทหารพร้อมโล่กำลังตั้งแถว (ที่มา: Thaienews)
 
เช้าวันนี้ (30 มี.ค.) กลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้าน เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ได้สั่งนำรถแท็กซี่ปิดสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อสร้างแนวป้องกัน หลังจากกำลังทหารที่ประจำการในทำเนียบฯ เริ่มมีความเคลื่อนไหว พร้อมขยับรั้วลวดหนาวติดขวางประตูมากขึ้น
 
และตั้งแต่เวลา 7.40 น. ภายในทำเนียบรัฐบาล ได้มีการประกาศกระจายเสียงจากลำโพงภายในทำเนียบรัฐบาล โดยเป็นประกากองบัญชาการตำรวจนครบาล เรื่อง การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ใจความว่า
 
ตามที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ได้มายึดพื้นที่บริเวณ โดยรอบทำเนียบรัฐบาลเป็นพื้นที่ชุมนุม และมีการปิดกั้นประตูทางเข้า- ออก ทุกด้านไว้ โดยบรรดาแกนนำการชุมนุมประกาศเจตนารมณ์ อย่างชัดเจนว่าจะขัดขวางไม่ให้นายกรัฐมนตรี และรับมนตรี เข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2552 เป็นต้นมานั้น
 
กองบัญชาการตำรวจนครบาลขอประกาศให้ทราบว่า พฤติการณ์ของผู้ชุมนุมที่มีการปิดล้อม ปิดกั้นประตู ซึ่งเป็นเส้นทางเข้า-ออก ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขัดขวางการเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ราชการของนายกรัฐมนตรี กับพวกดังกล่าวแล้วนั้น ถือว่าเป็นการชุมนุมที่ไม่สงบ จึงไม่ใช่เป็นการชุมนุมที่อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 63 แต่อย่างใด ในทำนองเดียวกับการที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำการชุมนุมปิดล้อมรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ซึ่งศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ว่าเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีอำนาจหน้าที่ที่จะเข้าสลายการชุมนุมได้
 
จึงขอให้บรรดาแกนนำผู้จัดการชุมนุม และผู้ร่วมชุมนุมทุกคน ได้หยุดการกระทำอันเป็นการขัดขวางเส้นทาง เข้า ออก ทำเนียบรัฐบาลดังกล่าวแล้วโดยทันทีเมื่อทราบประกาศนี้ หากไม่ยอมเลิกการกระทำดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมฝูงชนตามลำดับขั้นตอน จากเบาไปหาหนัก โดยในขั้นต้นเจ้าหน้าที่จะใช้เพียงโล่เป็นอุปกรณ์เสริมการปฏิบัติเท่านั้น และจะดำเนินการตามกฎหมายกับบรรดาแกนนำ และ/หรือผู้ชุมนุมที่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย อย่างจริงจังทุกราย
 
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากบรรดาผู้ชุมนุมเป็นอย่างดี เพราะการแก้ปัญหาทางการเมืองต้องใช้วิถีทางในทางการเมือง ไม่ใช่การใช้กำลังหรือความรุนแรง จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
 
ด้วยความปรารถนาดี
 
กองบัญชาการตำรวจนครบาล
30 มีนาคม 2552
 
 
ขณะที่แกนนำ นปก. ปราศรัยว่า ถ้ามีการสลายและทำร้ายผู้ชุมนุม ผู้สั่งการจะถือเป็นความชั่วร้ายของแผ่นดิน เพราะการชุมนุมเป็นไปโดยสงบไม่ได้ทำลายทรัพย์สิน ไม่ได้เอาชีวิตใคร ใช้สิทธิตามกฎหมายต่อสู้กับรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม และเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลยังสามารถเข้าออกทำเนียบได้ แกนนำผู้ชุมนุมยังเรียกร้องว่าหากคำสั่งตำรวจเป็นคำสั่งที่ชอบธรรม ขอให้ออกมาประกาศต่อหน้าผู้ชุมนุม อย่าใช้วิธีเปิดเทป
 
แกนนำบนเวทียังกล่าวว่า จะไม่ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่มาทำงานในทำเนียบรัฐบาล แต่จะขัดขวางรัฐบาลอภิสิทธิ์  เพราะมีที่มาที่ไม่ชอบธรรมจากการอุ้มของทหาร
 
นอกจากนี้ยังมีการประกาศวิธีการดูแลตนเอง หากถูกฉีดน้ำขอให้คุกเข่าลง และหากถูกแก๊สน้ำตา ให้ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำปิดตาไว้ และเมื่อเวลา 8.30 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ปราศรัยว่า "ด่าอภิสิทธิ์มา 3 เดือนไม่เป็นไร ไม่กี่วันนี้ เฉี่ยวเอว พล.อ.เปรมเท่านั้นเกิดทนไม่ได้"
 
เวลา 8.44 น. นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง กล่าวว่าถ้ามีทหารคิดปฏิวัติยึดอำนาจแล้วเอามาคืนคนเสื้อแดงเราก็ไม่ต้องการเพราะเราต้องการประชาธิปไตยจริงๆ และจะเป็นสิ่งถูกต้องกว่าหากตำรวจทหารที่รักประชาธิปไตยถอดเครื่องแบบแล้วมาร่วมชุมนุมกับ และขอความร่วมมือจากผู้ชุมนุม นปช. ในต่างจังหวัดที่กำลังเดินทางไปชุมนุมตามศาลากลาง จ.ต่างๆ ให้ใช้หลักการ "สงบ เรียบร้อย ปราศจากอาวุธ ไม่ใช้ความรุนแรง"
 

เวลา 9.13 น. นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช. ประกาศว่าหากมีการสลายการชุมนุมเกิดขึ้น ผู้ชุมนุมจะไม่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร และไม่ทำร้ายคนไทยด้วยกันเอง

 

เวลา 10.02 น. นายณัฐวุฒิ ประกาศว่าผู้ชุมนุมไม่ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่มาทำงานในทำเนียบรัฐบาล แต่ขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบรัฐบาลแสดงบัตรประจำตัว เพื่อความสะดวกในการเข้าทำเนียบ ส่วนอภิสิทธิ์ กับสุเทพ ไม่ต้องแสดงบัตร เพราะแสดงบัดสีบัดเถลิงไปแล้วทั่วประเทศไทย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net