สมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีของกัมพูชากล่าวถึงผู้นำไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย อ้างอิงถึงคำปราศรัยของนายกษิตที่เรียกตนเองว่า "นักเลง" พร้อมตอกไม่ได้ขึ้นมาเป็นนายกโดยการปล้นอำนาจ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแก้ต่าง คาดแปลภาษาคลาดเคลื่อนทำให้ฮุนเซ็นเข้าใจผิด

เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา สมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีของกัมพูชากล่าวถึงผู้นำไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย อ้างถึงคำปราศรัยของนายกษิตที่เรียกตนเองว่า "นักเลง" เป็นการดูหมิ่น พร้อมตอกไม่ได้ขึ้นมาเป็นนายกโดยการปล้นอำนาจ

นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวกับผู้สื่อข่าว ระบุถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซ็น กล่าวโจมตีนายกรัฐมนตรีไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ว่าเป็นเรื่องความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในการแปลเนื้อหาจากภาษาไทย ซึ่งอาจทำให้สมเด็จฮุนเซ็นเข้าใจผิด พร้อมระบุว่ากระทรวงการต่างประเทศจะทำความเข้าใจผ่านช่องทางการทูตต่อไป

นายธฤตกล่าวถึงการเคลื่อนกำลังทหารตามชายแดนไทย- กัมพูชา โดยยืนยันว่า ฝ่ายไทยจะหลีกเลี่ยงการใช้กำลังและใช้ความอดกลั้นอย่างถึงที่สุด เน้นการเจรจาเป็นสำคัญ ซึ่งมีกลไกต่างๆ แก้ไขปัญหานี้อยู่แล้ว ขอให้ทุกฝ่ายยึดมั่นในแนวทางนี้ต่อไป อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศมั่นใจว่า รายงานข่าวดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อกำหนดการการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ของนายอภิสิทธิ์ ในวันที่ 18 เมษายนนี้

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ว่านายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมเด็จฮุนเซ็นได้ออกมากล่าวเตือนประเทศไทยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าไทยอาจจะต้องเผชิญกับการต่อสู้หากไทยละเมิดพื้นที่พิพาทอีก

ทั้งนี้ สมเด็จฮุนเซ็นได้เท้าความถึงการรุกเส้นเขตแดนบริเวณใกล้เขาพระวิหารโดยกองกำลังฝ่ายไทยจำนวนกว่า 100 คน เมื่อปีที่ผ่านมา โดยครั้งนั้นส่งผลให้เกิดการยิงต่อสู้กันและเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต

"ผมบอกคุณนะ หากคุณรุกล้ำเข้ามาอีก เราจะต่อสู้ กองกำลังบริเวณชายแดนได้รับคำสั่งแล้ว" ฮุนเซ็นกล่าวและว่า "ผมเป็นผู้นำของกัมพูชาซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน ไม่ใช่ได้มาโดยการปล้นอำนาจ" เขากล่าวเพิ่มเติมโดยพาดพิงไปถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ขาดเสถียรภาพของไทย โดยระบุว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเดินทางมาเยือนกัมพูชาในวันที่ 18 เม.ย. ทั้งได้กล่าวโจมตีนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศต่อกรณีที่นายกษิตเคยกล่าวหมิ่นประมาทเขามาก่อน  

"เขาดูหมิ่นผม เขาเรียกผมว่านักเลง จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมดูหมิ่นกษัตริย์ของคุณ หรือหากผมดูหมิ่นนายกรัฐมนตรีของคุณ หรือบรรพบุรุษของคุณ ผมไม่โกรธคุณ แต่กรุณาใชhถ้อยคำที่ให้เกียรติกัน"

เนื้อหาเพิ่มเติมจาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1238503386&grpid=00&catid=01