วานนี้ (21 เม.ย.) มีพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลง การก่อสร้างประตูระบายน้ำในลำน้ำปิง ระหว่าง จังหวัดเชียงใหม่ กับกลุ่มผู้ใช้น้ำฝายพญาคำ ฝายหนองผึ้งและฝายท่าวังตาล ณ หอประชุมอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายมงคล สุกใส นายอำเภอสารภี เป็นประธาน
อย่างไรก็ตามพิธีดังกล่าวต้องถูกล้มเลิกลง เมื่อนายกว้าง เกิดศรี ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำฝายหนองผึ้งและนายสมบูรณ์ บุญชู รองประธานฝายพญาคำและสมาชิกสภาเทศบาล ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ยืนยันจะไม่ลงนามในบันทึกข้อตกลงให้สร้างประตูระบายน้ำดังกล่าว ซึ่งนายบุญชูกล่าวว่าที่ผ่านมามีผู้เสนอเงินให้เดือนละ 3 หมื่นบาท ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ไม่ยินยอมให้มีการสร้างประตูระบายน้ำเพราะเกรงว่าจะมี ผลกระทบระยะยาวทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้ง
ขณะที่นายมงคล สุกใสนายอำเภอสารภีกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการเรียกประชุมชาวบ้าน และจัดประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็น 7 ครั้ง และได้ออกแบบสอบถามประชาชน 2,500 ชุด ประชาชนร้อยละ 78 เห็นด้วยกับการสร้างประตูระบายน้ำ ขณะเดียวกันหากมีผู้จ่ายเงินจริง ขอให้นำหลักฐานมายืนยันด้วย
อย่างไรก็ตามในการลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าวนายบุญทา ไชยวุฒิ ตัวแทนจากฝายท่าวังตาลได้ยินยอมลงนามในบันทึกดังกล่าว โดยจะต้องไม่มีการรื้อฝายทั้ง 3 แห่งและจัดตั้งคณะกรรมการโดยมีชาวบ้านมีส่วนร่วมทุกกระบวนการ
ด้านนายสมบูรณ์ บุญชู ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวประชาธรรมว่า ข้อตกลงรัฐเสนอนั้น ชาวบ้านรู้สึกว่าไม่มีความชัดเจน จึงไม่ลงนามยอมรับ ชาวบ้านอยากจะให้ข้อตกลงรัดกุมและมีรายละเอียดที่ชัดเจนมากกว่านี้
ผู้ที่จะมาเป็นคณะกรรมการต้องระบุให้เรารู้ว่าเป็นใครบ้าง ส่วนที่บอกว่ามีตัวแทนจากภาคประชาชนนั้น เราก็ไม่รู้ว่าใครคือตัวแทนนั้น ที่สำคัญคือข้อตกลงเรื่องการดูแลเหมืองฝายที่จะต้องมีคนของแต่ละฝ่ายในจำนวนที่เท่ากัน นายสมบูรณ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายสมบูรณ์ กล่าวต่อว่า ข้อตกลงระบุว่า จะปล่อยให้ฝายเก่าที่มีอยู่ล่มสลายไปตามกาลเวลา ตนคิดว่าไม่ถูกต้อง ควรบำรุงรักษาฝายเก่าควบคู่ไปกับการสร้างประตูกั้นน้ำด้วย ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดโครงการดังกล่าวขึ้น หน่วยงานรัฐก็ไม่เคยเข้ามาดูแล หรือให้เงินสนับสนุนดูแลฝายแต่อย่างใด ชาวบ้านต้องช่วยกันซ่อมแซมเอง
ทั้งนี้ หากรัฐยังดึงดันที่จะก่อสร้างประตูระบายน้ำและรื้อฝายต่อไป จะส่งผลให้ชาวบ้านไม่มีน้ำใช้ในการเกษตรกรรม โดยพื้นที่ที่อาศัยน้ำจากฝายพญาคำครอบคลุม 8 ตำบล ทั้ง จ.เชียงใหม่และ จ.ลำพูน ได้แก่ ต.หนองหอย ต.หนองผึ้ง ต.ยางเนิ้ง ต.สารภี ต.ไชยสถาน ต.ชมภู ต.หนองแฝก และ ต.อุโมงค์
สำหรับประตูระบายน้ำในแม่น้ำปิง พร้อมรื้อย้ายฝายเก่า 3 แห่งนั้น เป็นโครงการก่อสร้างที่ริเริ่มตั้งแต่ปี 2548 เมื่อครั้งเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเป็นโครงการของกรมชลประทาน มีการลงนามสัญญาก่อสร้างไปแล้วกับบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 วงเงิน 464,672,320 บาท ระยะเวลาก่อสร้าง 720 วัน
โดยการดำเนินการตามโครงการจะประกอบด้วย 1.การสร้างประตูระบายน้ำชนิดบานเหล็กโค้ง ขนาดบานระบายน้ำกว้าง 12.50 เมตร สูง 6.50 เมตร จำนวน 6 บาน พร้อมระบบควบคุมน้ำอัตโนมัติ 2.บันไดปลาโจน ขนาดกว้าง 3 เมตร ยาวประมาณ 270 เมตร 3.อาคารท่อส่งน้ำปากคลองขนาด 2 คูณ 2 เมตร จำนวน 3 แห่ง เพื่อส่งน้ำให้กับพื้นที่ฝายทั้ง 3 แห่ง และ 4.การรื้อฝายท่าศาลา(ฝายพญาคำ) ฝายหนองผึ้ง และฝายท่าวังตาล
ตามรายละเอียดโครงการที่มีการนำเสนอชี้แจง ระบุว่า ประตูระบายน้ำจะสามารถบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในเขตเมืองเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี และยังสามารถใช้ประโยชน์ในการส่งน้ำให้แก่พื้นที่การเกษตรของท่าศาลา (ฝายพญาคำ) ฝายหนองผึ้ง และฝายท่าวังตาล จำนวน 10,000 ไร่ 5,200 ไร่ และ 8,100 ไร่ ตามลำดับ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการก่อสร้างเนื่องจากถูกผู้ใช้น้ำจากเหมืองฝายคัดค้าน