เมื่อเวลา 10.00น. บริเวณสวนสันติภาพ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ประชาชนกว่า 120 คน จัดกิจกรรมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่เชื่อว่าเสียชีวิตในเหตุการณ์สลายการชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงเมื่อวันที่ 13 เม.ย. 52 ที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่สวมเสื้อสีขาว-ดำ ภายในพิธีดังกล่าว ได้มีการนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 4 รูปมาสวดพระพุทธมนต์ และมีการนำแผ่นผ้าใบซึ่งพิมพ์ภาพผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตที่เชื่อว่าเป็นการ์ด นปช. มาขึงไว้ที่ริมรั้วสวนสันติภาพ โดยมีผู้สนใจบันทึกภาพ และจับกลุ่มคุยกันถึงเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงวิจารณ์การเสนอข่าวของสื่อมวลชนว่าไม่เป็นธรรมต่อผู้ชุมนุมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุชุลมุนเล็กน้อย เมื่อมีผู้ตะโกนขอให้ผู้สื่อข่าวมาถ่ายรูป เนื่องจากตำรวจจะปลดป้ายดังกล่าว โดยเว็บไซต์ไทยรัฐรายงานว่า เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวคือ พ.ต.อ. ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.ดินแดง ซึ่งเข้ามาเจรจาขอร้องให้แกนนำ นปช.ปลดป้ายภาพเหตุการณ์ดังกล่าวลง ส่งผลให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจและตั้งคำถามว่า พวกเขาไม่มีสิทธิทำพิธีให้กับผู้ที่พวกเขาเชื่อว่าเสียชีวิตหรือ และได้ช่วยกันขับไล่ ผกก.สน.ดินแดง จนการ์ดของ นปช.ต้องช่วยกันห้ามปราม และขอให้ผู้ชุมนุมกลับเข้าไปในบริเวณพิธี และขอให้ ผกก.สน.ดินแดง ออกจากพื้นที่ดังกล่าว
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำ นปช. รุ่นที่ 2 ให้สัมภาษณ์ว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกฝ่าย ในกรณีที่มีการใช้ความรุนแรงปราบปรามคนเสื้อแดงที่รักประชาธิปไตย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกและให้ต่อสู้อย่างสันติ รวมทั้งเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เมษาเลือด ทั้งนี้ แม้จะยังไม่พบศพ แต่มีการแจ้งคนหายจำนวน 30 คน ซึ่งล่าสุดได้มีการเปิดเผยว่ามีการจับกุมผู้ชุมนุม 19 คนไปยังค่ายทหารจังหวัดสระบุรีหลังจากเกิดเหตุ
นายสมยศ กล่าวต่อว่า เชื่อว่ามีการเคลื่อนย้ายและจัดการศพเหมือนเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 ที่มีผู้สูญหาย 187 ราย โดยไม่พบศพเช่นกัน ทั้งยังมีลักษณะการปราบปรามเหมือนกันด้วย ทั้งนี้ กำลังรวบรวมพยานหลักฐานว่ามีการแทรกแซงจากคนภายนอกและทหารอย่างไร ทั้งเรื่องรถแก๊ส รถเมล์ และเหตุการณ์ที่เพชรบุรี ซอย 5 และ 7
แกนนำ นปช. รุ่นที่ 2 กล่าวว่า รัฐบาลต้องลาออก เพื่อรับผิดชอบต่อความรุนแรงที่เิกิดขึ้น รวมทั้งการโกหกเรื่องการใช้อาวุธปืน เพราะมีการใช้อาวุธจริงและยิงในระดับอกและเข่า ทั้งยังใช้ทหารในการสลายการชุมนุมแทนที่จะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นการขัดกับหลักสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเมื่อรัฐบาลใช้ความรุนแรง รัฐบาลจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ซึ่งเดินทางมาดูแลความเรียบร้อยของการชุมนุม กล่าวว่า เบื้องต้นได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ 200 นาย หากเป็นการทำบุญก็ไม่ว่ากัน แต่หากมีการทำผิดกฏหมาย โดยดำเนินการทางการเมืองหรือชักชวนผู้ชุมนุมก่อความไม่สงบก็จะดำเนินการตามกฏหมาย เพราะอยู่ในระหว่างประกาศภาวะฉุกเฉิน โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ถ่ายภาพการทำกิจกรรมไว้ทั้งหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินเท้าอย่างสงบไปยังบริเวณหน้าปั๊มเชลล์ ถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นจุดแรกที่เสียงปืนดังขึ้นในเช้ามืดวันที่ 13 เม.ย. 52 เวลา 4.00 น. ทั้งนี้ แกนนำ นปช. รุ่น 2 ได้นำชายวัยกลางคน ซึ่งใช้ชื่อว่า "น้อย" ขึ้นกล่าวกับผู้ชุมนุมและผู้สื่อข่าว โดยระบุว่าเขาเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ โดยได้รับแจ้งเมื่อเวลาตี 4 ว่ามีทหารบุกมา จึงเดินทางมายังจุดดังกล่าว เขาเห็นทหารยิงผู้ชุมนุม โดยที่ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ เพราะทหารได้ยิงอย่างต่อเนื่อง และเขามั่นใจว่ามีผู้เสียชีวิตแน่นอน
จากนั้น ผู้ชุมนุมได้วางดอกไม้ พวงหรีดและจุดเทียนเพื่อไว้อาลัยให้กับผู้ที่เชื่อว่าเสียชีวิตในบริเวณดังกล่าว รวมถึงร่วมกันปล่อยนกพิราบ 10 ตัว เพื่่อเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ