ข่าวการ เลื่อนการสรรหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ของพรรคเพื่อไทย ดูเหมือนว่าจะยิ่งตอกย้ำสภาพที่ไร้หัวไร้หางอย่างยิ่ง หลังจากที่เด็ดหัวขบวนอย่าง พตท ทักษิณ ไปได้ และตามด้วยหัวขบวนอย่างนายสมัคร ทุกอย่างก็ดูเหมือนว่า ขาดทิศทาง ขาดความเป็นเอกภาพ

นี่ เป็นสภาพที่ต้องยอมรับล่ะว่า หัวหน้าพรรคที่แท้จริงของพรรคเพื่อไทยนั้นคือ ทักษิณ ชินวัตร แต่มันจะมีประโยชน์อะไร หากข้อจำกัดมากมายที่เกี่ยวกับทักษิณในขณะนี้ ทำให้พรรคการเมืองของปีกเสื้อแดงต้องทดถอยถึงเพียงนี้ และนี่คือจุดอ่อนของพรรคเพื่อไทย หากพิจารณาเปรียบเทียบกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีลักษณะความเป็นสถาบันพรรคการเมืองมากกว่าพรรคอื่น ๆ

คำถามคือ เมื่อไหร่พรรคเพื่อไทยจะก้าวพ้น ทักษิณ ชินวัตร และเป็นพรรคการเมืองที่คนเสื้อแดง และคนไทยมองเห็นความเป็นมืออาชีพเสียที

การ ที่พรรคการเมืองยังยึดติดและแทบจะพังทลายลงไปเพียงแค่ตัวบุคคลคนเดียวของ พรรคไม่สามารถอยู่ร่วมภาระกิจทางการเมืองกับพรรคได้นั้น แสดงถึงความอ่อนแออย่างถึงที่สุด พรรคการเมืองหากจะอยู่ไม่ได้นั้น ก็ด้วยเพราะเหตุผลว่า ประชาชนไม่ให้การสนับสนุน ไม่ใช่ผู้ใหญ่ในพรรคไม่ให้การสนับสนุน นี่คือ สิ่งที่ท้าทายพรรคเพื่อไทย อยู่ ณ ปัจจุบันนี้

เมื่อ เปรียบเทียบกับพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว เห็นทีจะต้องเปรียบเทียบกับพรรคน้องใหม่อย่างพรรคพันธมิตร ที่เพิ่งประกาศจัดตั้งพรรคการเมืองและหันมาต่อสู้ในสภาฯ แม้ว่าแกนนำ พธม จะได้ก่อวิบากกรรมให้แก่สังคมไทย 193 วัน แต่เขาก็มีจุดขายเป็นขนมสายไหมอย่าง "การเมืองใหม่" ความจริงแล้วหากมองย้อนกลับไปในอดีตครั้งพรรคไทยรักไทยเริ่มต้น ก็ชูคำขวัญ "คิดใหม่ ทำใหม่" ความใหม่นั้น เป็นจุดขายทางการเมืองได้เสมอ แม้พธม จะหน้าแตกเพราะเสนอรูปธรรมของการเมืองใหม่ในลักษณะการเมืองโบราณอย่าง 70/30 แต่เขาก็ยังพยายามกอดคำว่าการเมืองใหม่เดินหน้าต่อไปจนถึงทุกวันนี้ ที่เขาประกาศว่า พรรคพันธมิตร เป็นการเมืองที่ใหม่กว่าพรรคประชาธิปัตย์

คำถามคือ อะไรคือ "ความใหม่" หรือ จุดขายของพรรคเพื่อไทย

หาก กล่าวอย่างไม่เกรงใจ สภาพการณ์ตอนนี้ของพรรคเพื่อไทย เป็นสภาพที่รอวันแยกตัวไปอยู่พรรคอื่น และ รอวันแพ้ เมื่อปีกลองของการเลือกตั้งดังขึ้น เพราะพวกเขาไม่มีแม้แต่นโยบายที่สร้างจากการมีส่วนร่วมของประชาชนฐานล่างที่ สนับสนุนพวกเขา น่าเสียดายว่า ช่วงเวลาที่สับสนอยู่ตอนนี้ สิ่งที่พรรคการเมืองควรจะทำเป็นอย่างยิ่ง คือ การรับฟังเสียงและข้อมูลจากประชาชนเพื่อนำพาไปสู่การจัดทำนโยบายของ พรรคการเมืองนั้น ๆ

พรรค เพื่อไทยก็ยังคงวนเวียน ไร้หัวไร้หาง ไร้ความเป็นมืออาชีพอยู่ในขณะนี้ และหากมัวรอว่าเสื้อแดงจะลงคะแนนเสียงให้นั้น รับรองว่าจะต้องพบกับความพ่ายแพ้ เพราะแม้นเสื้อแดงจะเป็นมวลชนพื้นฐานให้ แต่ชัยชนะจะต้องได้รับการสนับสนุนจากประชาชนที่ไม่มีสีอยู่ในขณะนี้

ข้อเสนออย่างเป็นรูปธรรมคือ พรรคเพื่อไทย จะต้องปฏิรูปองค์กรครั้งใหญ่ โดยปรับ Focus ไป ที่ประชาชน ไม่ใช่ที่การแย่งชิงอำนาจ หรือ ดิสเครดิตเพียงรัฐบาลอภิสิทธิ์ การเมืองที่ไม่ใช่แค่การโค่นฝ่ายตรงข้าม แต่เป็นการเมืองที่สร้างรากฐานมาจากประชาชน โปรดจัดเวทีแล้วนำ สส ทั้งหมดของท่าน ไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เน้นอีกทีว่า ไปรับฟัง ไม่ใช่ไปปราศรัย นำความทุกข์ร้อนของประชาชนออกมาออกแบบในฐานะนักการเมืองมืออาชีพ รับฟังจากทุกจังหวัด ทุกอาชีพ แล้วสังเคราะห์ออกมาให้ได้