Skip to main content
sharethis

กลุ่มวิชั่น ออฟ ฮิวแมนนิตี้ (Vision of Humanity) เปิดเผยรายงานผลสำรวจดัชนีสันติภาพโลกประจำปี 2009 ซึ่งจัดขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่สาม โดยในปี 2009 ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก เหตุขัดแย้งรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้น และปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองในหลายประเทศได้ทำให้ความสงบสุขของโลกในปีที่ แล้วลดน้อยลง แต่ประเทศที่มีสันติภาพมากที่สุดในโลก 5 อันดับแรกจากการสำรวจทั้ง 144 ประเทศ ได้แก่ นิวซีแลนด์ เดนมาร์ก นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และออสเตรีย ส่วนญี่ปุ่นติดอันดับ 7

ขณะที่ประเทศที่มีความสงบสุขใน 5 อันดับสุดท้ายจาก 140-144 ได้แก่ ซูดาน อิสราเอล โซมาเลีย อัฟกานิสถาน และอิรัก ซึ่งประเทศเหล่านี้ประสบความขัดแย้งหรือการสู้รบ

ส่วนประเทศไทยยังคงอยู่ที่อันดับ 118 เหมือนเมื่อปีที่แล้ว (2008) และพม่าอยู่ในอันดับ 126 สำหรับเกณฑ์ที่ใช้ชี้วัดดัชนีสันติภาพประกอบด้วย ปัจจัยทั้งภายในและภายนอกรวม 23 เรื่อง โดยมองทั้งในแง่ปริมาณและคุณภาพ เช่น สถิติการฆาตกรรม จำนวนประชากรในเรือนจำ การใช้จ่ายด้านอาวุธ จำนวนผู้เสียชีวิตในสนามรบ เสถียรภาพทางการเมือง ความสัมพันธ์กับชาติเพื่อนบ้าน และระดับการเคารพสิทธิมนุษยชน

ส่วนสาเหตุที่ทำให้นิวซีแลนด์มีความสงบสุขที่สุดเป็นเพราะได้รัฐบาลใหม่ ที่มีความแข็งแกร่งในการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว อัตราการเกิดคดีฆาตกรรมค่อนข้างต่ำ และระดับการเคารพสิทธิมนุษยชนค่อนข้างสูง

ขณะที่ไทยมีคะแนนไม่ค่อยดีในเรื่องเสถียรภาพการเมืองและการเคารพสิทธิ มนุษยชน แนวโน้มเกิดเหตุก่อการร้าย แนวโน้มการประท้วงรุนแรง และระดับความรุนแรงของการก่ออาชญากรรม ส่วนพม่ามีรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชน การใช้จ่ายด้านการทหาร และความขัดแย้งภายในมากขึ้นในปีที่แล้ว

นอกจากนี้ผลสำรวจยังพบว่า 3 ประเทศมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ของโลกยังคงมีสันติภาพอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ ได้แก่ จีนอยู่อันดับ 74 สหรัฐอันดับ 83 และรัสเซีย อันดับ 136

ในส่วนของสหรัฐเลื่อนขึ้น 6 อันดับแม้ประสบวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้อันดับสูงขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะแนวโน้มการก่อการร้ายลด ลง และอันดับของประเทศอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกับสหรัฐลดลง แต่สหรัฐยังมีการซื้อหาอาวุธได้ง่าย นักโทษในคุกมีจำนวนมาก และตัวเลขผู้เสียชีวิตในสนามรบเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทำให้อันดับไม่สามารถสูง ขึ้นได้มากกว่านี้

นอกจากนี้ ไคลด์ แมคคอนแน็กกี้ ประธานสถาบันเศรษฐศาสตร์และสันติภาพ ที่จัดทำสำรวจดัชนีสันติภาพ บอกว่า สันติภาพมีส่วนทำให้เศรษฐกิจเติบโต และการยุติเหตุรุนแรง เช่น ความไม่สงบ อาชญากรรมและสงคราม จะทำให้โลกลดการใช้จ่ายและการขาดทุนทางธุรกิจได้ถึงปีละ 7 ล้าน 2 แสนล้านดอลลาร์

ที่มา: มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1244024390&grpid=04&catid=06

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net