24 ก.ค. 52 มีรายงานว่า ทางการพม่าอนุญาตให้นักการทูตชาวอังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศสและอิตาลีเข้ารับฟังการไต่สวนนางอองซาน ซูจีครั้งสุดท้ายในชั้นศาลวันนี้

นักข่าวในย่างกุ้งคนหนึ่งกล่าวว่า “ทางการไม่ได้เชิญหรือแจ้งให้นักการทูตทราบถึงการไต่สวนในครั้งนี้เหมือนทุกครั้งที่เคยปฏิบัติ แต่รัฐบาลยอมให้นักการทูตจากชาติที่ต้องการเข้ารับฟังการไต่สวนได้”

ขณะที่การไต่สวนที่ผ่านมา ทางการพม่าอนุญาตให้ทูตต่างชาติและนักข่าวต่างชาติสามารถเข้ารับฟังการไต่สวนได้สองครั้งจากการสุ่มเลือก

มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากสถานทูตสหรัฐก็ได้รับอนุญาตให้สามารถเข้าร่วมรับฟังการไต่สวนนายจอห์น วิลเลียม เย็ตตอว์ ชายอเมริกันวัย 53 ปีที่ถูกทางการพม่าตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายเข้าเมือง หลังว่ายน้ำเข้าไปยังบ้านพักของนางซูจีด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม นายจีวิน หนึ่งในทีมทนายความของนางซูจีเปิดเผยว่า ทางการพม่าเพิ่งอนุญาตให้ทีมทนายความ 3 ใน 4 คนเข้าพบนางอองซาน ซูจีในช่วงบ่ายวานนี้ โดยทั้งหมดได้หารือกันถึงการไต่สวนครั้งสุดท้ายของนางซูจี โดยได้เตรียมเอกสารหลักฐานจำนวนกว่า 23 หน้าต่อสู้คดีให้กับนางซูจี ขณะที่ทีมทนายความเตรียมร้องขอให้ทางการปล่อยตัวนางซูจีในการไต่สวนดังกล่าวด้วย 

ด้านนางฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐได้เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนางซูจีในการประชุมอาเซียนที่ภูเก็ต โดยกล่าวว่า หากรัฐบาลพม่าไม่ปล่อยตัวนางซูจี อาเซียนควรทบทวนว่าควรจะขับพม่าออกจากการเป็นสมาชิกหรือไม่

ส่วนนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทยแสดงความคิดเห็นว่า อาเซียนยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะขับไล่พม่าออกจากกลุ่ม เพราะที่ผ่านมา อาเซียนได้ดำเนินการกับพม่าแล้วภายใต้กฎเกณฑ์ของอาเซียน

“แม้อาเซียนและประเทศทางตะวันตกมีจุดมุ่งหมายที่เหมือนกัน แต่วิธีการและนโยบายก็ไม่สามารถเป็นไปในแบบแผนเดียวกันได้ และการที่อาเซียนขับพม่าออกจากกลุ่มยิ่งจะทำให้พม่าต้องอยู่โดดเดี่ยวในอนาคต และนั่นคงไม่ใช่การแก้ปัญหาต่างๆในพม่าได้” นายอภิสิทธ์กล่าว

ส่วนบรรยากาศรอบเรือนจำอินเส่งวันนี้ มีผู้สังเกตการณ์ สมาชิกพรรคเอ็นแอลดี รวมถึงผู้ให้การสนับสนุนนางซูจีมารวมตัวกันหน้าทางเข้าเพื่อติดตามการไต่สวนและให้กำลังใจนางซูจีกว่า 150 คน และมีแนวโน้มว่าจำนวนผู้มาให้การสนับสนุนนางซูจีจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้มาสังเกตการณ์อยู่โดยรอบ

............................................................
(ที่มา / Mizzima/Irrawaddy)