Skip to main content
sharethis

วันนี้ (29 ก.ค.) ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวประธานการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา เป็นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยหวั่นจะมีการเสียประโยชน์ว่า ส่วนตัวมีความเคารพในความซื่อสัตย์สุจริต และความรักชาติของนายสุเทพ และเราก็ทำงานกันเป็นทีม มีการหารือกันตลอดเวลา ส่วนการตัดสินใจใดๆนั้น ก็ต้องไปที่ตัวนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ในสิ่งที่เกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยดินแดนนั้นก็ต้องไปรายงานต่อสภาและขอความเห็นชอบจากรัฐสภา ฉะนั้นจึงไม่มีอะไรที่จะเป็นข้อสงสัย ทั้งนี้การเจรจาความมีตัวบทกฎหมายกำกับอยู่ ก็ต้องมีขั้นตอนทางรัฐธรรมนูญ

ต่อคำถามที่ว่านายสุเทพไม่เคยมีประสบการณ์เจรจาระหว่างประเทศมาก่อนนั้น นายกษิตกล่าวว่า นายสุเทพก็เจรจามาตลอดชีวิต และอยู่ที่ว่าจะมีการเตรียมข้อมูลให้อย่างไร ซึ่งเราได้จัดเจ้าหน้าที่ไปรายงานเป็นระยะๆ ส่วนกระทรวงพลังงานทำเอกสารข้อมูลรายละเอียดเรื่องพื้นที่ทับซ้อนมาหมดแล้ว จึงคิดว่ารองนายกฯ ทราบข้อมูลที่จำเป็นแล้ว ขอให้สบายใจได้

นายกษิต กล่าวด้วยว่า เราทำงานร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะกระทรวงพลังงาน ข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับพื้นที่ทางทะเลก็อยู่ที่กองทัพและกรมเชื้อเพลิง หากไปคาดการณ์ว่าคนนั้นคนนี้จะไม่ดี ตนคิดว่าต้องให้ความเคารพในความที่เป็นนักการเมืองที่ดีและความเป็นมืออาชีพของนายสุเทพ และนี่เป็นรัฐบาลที่เอาเรื่องธรรมาภิบาลความโปร่งใสเป็นตัวตั้ง ก็ไม่อยากให้มีการคาดการณ์ตีโพยตีพายล่วงหน้า

การเจรจาครั้งนี้เป็นการเจรจาต่อรองระหว่าง 2 ประเทศ เพื่อผลประโยชน์ของคนทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งมีผลประโยชน์อันมหาศาล ไม่มีอะไรที่จะต้องเป็นข้อสงสัยที่จะไปบอกว่าคนนั้นไม่ดี หรือคนนี้ไม่ดี โดยส่วนตัวคิดว่าเราควรจะเลิกที่จะคิดไม่ดีต่อกันและพยายามที่จะช่วยกันคิดช่วยกันทำในเชิงสร้างสรรค์ดีกว่า เราเจ็บปวดกับเรื่องไม่ดีงามมาตลอดเวลาแล้ว ตอนนี้เราจะทำให้มันดีและจะเร่งการเจรจา

“ที่สำคัญฝ่ายกัมพูชาก็เป็นระดับรองนายกรัฐมนตรี เราก็เลยมานั่งคิดกันในรัฐบาลว่า เพื่อจะให้หัวหน้าคณะผู้แทนมีความทัดเทียมกัน ผมก็เป็นรองหัวหน้าคณะอยู่ และเราก็มีทีมที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งแผนที่ทางทะเล มีท่านทูตวศิน (นายวศิน  ธีรเวชญาณ) เป็นผู้เจรจาทางด้านเทคนิค ซึ่งเป็นนักกฎหมายระหว่างประเทศมือหนึ่ง” นายกษิต กล่าวและว่า ขอให้มีความมั่นใจในความโปร่งใสและการปรึกษาหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าไปตีโพยตีพายหรือไปตีตราบาปคนเสียก่อน

ส่วนเรื่องแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา นายกษิต กล่าวว่าได้ยกเลิกไปหมดแล้วตั้งแต่สมัยนายเตช บุนนาค ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี และที่ผ่านมาทั้งนายเตชและตนได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วหลายครั้ง ส่วนฝ่ายกัมพูชาก็ได้ตอบรับว่าเราได้ยกเลิกแล้ว ซึ่งเรื่องก็จบแล้ว ไม่มีอะไรทั้งนั้น

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net