ผู้นำชั่วคราวฮอนดูรัสกลับลำ บอกจะไม่ยอมให้เซลายาคืนสู่อำนาจ ทั้งยังมุ่งใช้มาตรการปราบปรามผู้ประท้วงอย่างเด็ดขาด ภรรยาเซลายาบอกผู้นำรัฐประหารไม่เหลือทางอื่นนอกจากใช้กำลังกับผู้ชุมนุม ส่วนเซลายาขู่คณะรัฐประหารจะลงจากอำนาจหรือจะให้เกิดความรุนแรงในวงกว้าง เผยมีการตั้งกองทัพประชาชนตามชายแดนฮอนดูรัสแล้ว
การชุมนุมของกลุ่มผู้สนับสนุนเซลายาในกรุงเตกูซิกัลปา เมื่อวันที่ 31 ก.ค.
(REUTERS/Edgard Garrido)
ผู้ประท้วงรายหนึ่งได้รับบาดเจ็บหลังมีเหตุปะทะกับตำรวจ
(AFP/La Tribuna)
ชายสวมหน้ากากคนหนี่งในการประท้วงหน้ารัฐสภาฮอนดูรัสในวันที่ 31 ก.ค.
(AP Photo/Arnulfo Franco)
เซียวมาลา เดอ คาสโตร ภรรยาของเซลายา (หญิงที่สวมชุดดำ) กำลังทักทายผู้ชุมนุมในกรุงเตกูซิกัลปา
(REUTERS/Edgard Garrido)
ตำรวจรักษาความปลอดภัยที่หน้ารัฐสภา บนเสามีกราฟิตี้เขียนว่า "ฆาตกร"
(REUTERS/Edgard Garrido)
ตัดความหวัง ผู้นำรัฐบาลรัฐประหารเผยไม่มีวันให้เซลายาคืนตำแหน่ง
จากเดิมเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ผู้นำชั่วคราวของฮอนดูรัส นายโรเบอร์โต มิเชลเลตตี เปิดเผยว่าอาจยอมให้มานูเอล เซลายา ประธานาธิบดีที่ถูกยึดอำนาจกลับคืนสู่ตำแหน่ง ท่ามกลางกระแสคัดค้านจากกลุ่มระดับสูงทั้งในสภาและในภาคธุรกิจของฮอนดูรัส
แต่ในวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมาผู้นำชั่วคราวกลับประกาศอีกครั้งว่าจะไม่ยอมให้เซลายากลับคืนสู่อำนาจอีก ทั้งยังได้แถลงอีกว่าทางการฮอนดูรัสมีสิทธิ์ระงับวีซ่าการฑูตของฑูตสหรัฐฯ ในฮอนดูรัส ซึ่งเป็นการตอบโต้การที่ทางการสหรัฐฯ ประกาศระงับวีซ่าการฑูตของเจาหน้าที่จากรัฐบาลชั่วคราวของฮอนดูรัสสี่ราย แต่ทางการฮอนดูรัสก็ยังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ กับสหรัฐฯ ในตอนนี้
ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ออสการ์ อาเรียส ประธานาธิบดีคอสตาริกา ผู้เคยเป็นคนกลางในการเจรจาระหว่างเซลายากับมิเชลเลตตี พยายามเสนอแผนการนิรโทรกรรมทั้งฝ่ายผู้ก่อรัฐประหารและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยต้องให้เซลายากลับคืนสู่ตำแหน่ง แต่ในวันศุกร์ (31 ก.ค.) ศาลของฮอนดูรัสก็ยังคงออกหมายจับเซลายาและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลก่อนหน้านี้สามรายในข้อหาปลอมแปลงเอกสารราชการ ใช้อำนาจในทางมิชอบ
ขณะที่ออสการ์ อาเรียส กล่าวว่าเขายังคงต้องการให้แผนการคืนเซลายากลับสู่ตำแหน่งเป็นหัวข้อในการเจรจากับรัฐบาลชั่วคราว และตัวแทนเจรจาของเขาควรได้พบปะกับหลายภาคส่วนในสังคมของฮอนดูรัสโดยเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจที่ดูมีจุดยืนแข็งกร้าวต่อการให้เซลายาคืนตำแหน่ง
ภรรยาเซลายาเผย ผู้นำรัฐประหารหมดหนทาง จึงหันมาใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม
กลุ่มผู้สนับสนุนเซลายายังคงดำเนินการประท้วงอย่างต่อเนื่อง โดยได้ปิดถนนสายหลักที่มุ่งเข้าสู่กรุงเตกูซิกัลปาในวันที่ 31 ก.ค. ซึ่งทางตำรวจปราบจลาจลได้ยิงแก๊สน้ำตาและจับกุมกลุ่มผู้ประท้วง มีผู้ประท้วงอย่างน้อยหนึ่งรายได้รับบาเจ็บ ขณะที่อีกหลายรายถูกจับกุม ขณะที่การประท้วงในวันที่ 30 ก.ค. ซึ่งมีเหตุปะทะ ดานิเอล โมลินา โฆษกตำรวจระบุว่ามีอย่างน้อย 25 ราย ได้รับบาดเจ็บ และ 88 รายถูกจับกุม
ทางด้านมิเชลเลตตีบอกว่ารัฐบาลชั่วคราวจะไม่อดทนต่อการปิดถนนที่ทำให้การจราจรติดขัดในเตกูซิกัลปาและเมืองอื่น ๆ อีกแล้ว
ขณะเดียวกันผู้สนับสนุนเซลายาอีกหลายพันคนก็ออกมาเดินขบวนในเขตอื่นของกรุงเตกูซิกัลปา โดยมีเซียวมารา คาสโตร เดอ เซลายา ภรรยาของมานูเอล เซลายาเข้าร่วมด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้เธอถูกทหารปิดกั้นไม่ให้ไปพบกับสามีที่เมืองแถบชายแดนในนิคารากัว โดยเซียวมาราบอกว่าผู้นำรัฐประหารดูจะไม่มีวิธีอื่นเหลืออีกแล้วนอกจากการใช้กำลังกับผู้ชุมนุม "ซึ่งพวกเราจะไม่ขอยอมรับหรืออนุญาตให้กระทำ เพราะพวกเราเชื่อในสันติและเสรีภาพ" เซียวมารากล่าว "สิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของพวกเรา"
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีผู้ประท้วง 3,000 คน ออกมาเดินขบวนและสวดภาวนาให้กับผู้ประท้วงที่ถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บเมื่อวันพฤหัสบดี (30 ก.ค.) ที่ผ่านมา
สื่อฮอนดูรัสอ้างเซลายากับชาเวซเตรียมกองกำลังบุกรัฐบาลรัฐประหาร
หนังสือพิมพ์ La Prensa ของฮอนดูรัสรายงานเมื่อวันที่ 30 ก.ค. ว่า ประธานคณะกรรมการเพื่อสันติของรัฐสภานิคารากัวได้กล่าวหาเซลายาว่ากำลังเตรียมกองกำลังโดยอาศัยการสนับสนุนจากรัฐบาลของเวเนซุเอลลา เพื่อโจมตีรัฐบาลชั่วคราวของมิเชลเลตตี
โดยแม็กซิมิโน รอดริจซ์ ประธานคณะกรรมการเพื่อสันติของรัฐสภา แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ช่องสองว่าเซลายาอาจกำลังเตรียมการเปิดฉากโจมตีจาก เอล โอโคตอล เมืองของนิคารากัวที่มีชายแดนติดกับฮอนดูรัส โดยรอดริจซ์ยังไดระบุอีกว่าประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ ของเวเนซุเอลลา จะคอยเกื้อหนุนด้านทรัพยากรในการติดอาวุธให้กับกองกำลังเพื่อโจมตีรัฐบาลมิเชลเลตตี
La Prensa ยังได้รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่รัฐสภาจากพรรคฝ่ายค้านอีกว่า กลุ่มที่สนับสนุนประธานาธิบดีดาเนียลไม่อยากให้ประชาชนเข้าไปในเขตเมือง เอล โอโคตอล เนื่องจากต้องการซ่อนสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่
เซลายาขู่จะใช้ความรุนแรงกับคณะรัฐประหาร พร้อมจัดตั้ง "กองทัพประชาชน"
เมื่อวันศุกร์ (31 ก.ค.) มานูเอล เซลายา ประธานาธิบดีผู้ถูกยึดอำนาจของฮอนดูรัสเตือนรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 4 ของรัฐบาลนิคารากัวว่า "จะให้คณะรัฐประหารลงจากอำนาจหรือจะให้เกิดความรุนแรงในวงกว้าง"
เซลายายังได้กล่าวอีกว่าประชาชนมีสิทธิ์ที่จะประท้วงหรือก่อการจลาจล เพราะในกรณีนี้ประชาชนชาวฮอนดูรัสถูกกดขี่อย่างโหดร้าย
หลังจากนั้นไม่นาน นักข่าวเอเอฟพีก็พบว่ามีชาวฮอนดูรัสซึ่งเป็นสมาชิก "กองทัพประชาชน" ของเซลายาเริ่มทำการฝึกซ้อมในที่พักชั่วคราวชายแดนฝั่งนิคารากัว
ผู้ที่เป็นสมาชิกของ "กองทัพประชาชน" ส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่มที่ไม่ได้ติดอาวุธ พวกเขาออกกำลังกาย เดินขบวน และปฏิบัติตามคำสั่งภายใต้การบังคับบัญชาของผู้นำซึ่งพวกเขาบอกว่าเป็นทหารผ่านศึกของฮอนดูรัส โดยผู้นำยังได้บอกอีกว่ามีการจัดตั้งกลุ่มแบบเดียวกันนี้ในที่อื่นๆ ตามเขตชายแดน
โดยในวันพุธ (29 ก.ค.) ที่ผ่านมาเซลายาประกาศว่า จากการอนุญาตของประธานาธิบดีฝ่ายซ้ายของนิคารากัว ดาเนียล ออร์เตก้า เขาจะสามารถจัดตั้งกองกำลังของเขาเองจากผู้สนับสนุนเขากว่า 300 คนที่มารวมตัวกันที่เมือง เอล โอโคตอล
นี่จะเป็น "กองกำลังประชาชนที่จะเป็นผู้คุ้มกันประธานาธิบดีของพวกเขากลับประเทศ" เซลายากล่าว
ทางด้านของประธานาธิบดีนิคารากัวก็ออกมากล่าวในวันศุกร์ (31 ก.ค.) ซึ่งเป็นวันครบรอบ 30 ปีกองทัพอากาศ ให้กองทัพของนิคารากัวเตรียมการหากมีใครก็ตามอย่างเช่นรัฐบาลชั่วคราวของฮอนดูรัสคิดโจมตี โดยออร์เตก้าอ้างว่าหากต้องการให้ประเทศสงบต้องเตรียมพร้อมกับสงครามที่จะเข้ามารุกรานประเทศ
ออร์เตก้า ยังได้ขอให้กองทัพของฮอนดูรัสอย่า "ไหลไปตาม" นโยบายของกลุ่มที่ขับไล่เซลายา และเรียกร้องให้ช่วยกันหาทางออกของวิกฤติการเมืองในครั้งนี้
ที่มา: แปลและเรียบเรียงจาก
Honduran Interim Leaders: Zelaya Can't Be Restored, FREDDY CUEVAS and ALEXANDRA OLSON, ABC news via AP, 31/07/2009
Mel y Chávez arm men to attack, La Prensa , 30/07/2009
Exiled Zelaya threatens Honduras govt with "violence", Francisco Jara, AFP, 01/07/2009
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)