Submitted on Sat, 2009-08-08 21:59
สหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยให้ตรวจสอบการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารระดับสูงที่ธนาคารแต่งตั้งให้เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทติดตามทวงหนี้ และทำจดหมายถึงอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเข้ามาตรวจสอบเรื่องการโอนย้ายพนักงาน
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 52 ที่ผ่านมาสหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อขอให้ตรวจสอบการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารระดับสูงที่ธนาคารแต่งตั้งให้เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทติดตามทวงหนี้
โดยในจดหมายเปิดผนึกได้ระบุว่า ตามที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)ได้มีนโยบายตั้งบริษัทติดตามทวงหนี้ชื่อบริษัท พาณิชย์ธนพัฒน์จำกัด และได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ไทยพาณิชย์ พลัส ซึ่งธนาคารได้แต่งตั้งนางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ ไปเป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทน ทางสหภาพฯ ตั้งข้อสังเกตว่าการที่นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของธนาคารไปดำรงตำแหน่ง ผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทนั้นขัดต่อข้อบังคับของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือไม่ สหภาพแรงงานมีความห่วงใยผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับธนาคารว่าอนาคตอาจจะเกิดความไม่โปร่งใสในการบริหารงานได้ (ดู: สร.ธทพ.25/2552 ขอให้ตรวจสอบการดำรงตำแหน่งของผู้บริหาร)
จากนั้นในวันที่ 7 ส.ค. 52 ที่ผ่านมาสหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเพื่อขอให้เข้ามาตรวจแรงงานในบริษัท
โดยในจดหมายเปิดผนึกได้ระบุว่าตามที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) ได้ทำการโอนย้ายพนักงานบริษัท ไทยพาณิชย์ลิสซิ่ง มาปฏิบัติงานกับธนาคารตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2551 ปัจจุบันนี้ได้ปฏิบัติงานกับธนาคารมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ธนาคารยังไม่พิจารณาบรรจุให้เป็นพนักงานประจำ ปัจจุบันนี้ได้ทำงานกับธนาคารโดยธนาคารได้ต่อสัญญาจ้างเป็นรายปี 1 ปี และลดลงเหลือ 6 เดือน คือ 1 พฤษภาคม – 31 ตุลาคม 2552 และสวัสดิการที่ได้รับจากธนาคารก็ไม่เท่าที่เดิม ขอเรียนว่า สหภาพแรงงานได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงคุณกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ขอให้พิจารณาบรรจุพนักงานดังกล่าวเป็นพนักงานประจำของธนาคาร และได้ทำจดหมายเปิดผนึกทวงถามเรื่องดังกล่าวแล้วแต่ก็ไม่รับคำตอบใดๆ การที่ธนาคารไม่บรรจุให้เป็นพนักงานประจำและมีการลดการต่อสัญญาจ้างจาก 1 ปี เป็น 6 เดือน และสวัสดิการก็ได้รับไม่เท่าเดิม ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างที่ไม่เป็นคุณ ขัดต่อมาตรา 20 แห่ง พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 และ พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 13 จึงขอให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเข้ามาตรวจสอบ (ดู: สร.ธทพ.29/2552 ขอให้เข้ามาตรวจแรงงาน)
“อานันท์” ตอบสหภาพฯ ให้ฝ่ายจัดการและสหภาพฯ ทำความเข้าใจกันเอง
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 52 ที่ผ่านมานายอานันท์ ปันยารชุน นายกกรรมการ ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ส่งจดหมายถึงสหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ โดยได้นายอานันท์ระบุว่าได้รับทราบเรื่องตามจดหมายและเอกสารประกอบแล้ว และได้มอบหมายให้ฝ่ายจัดการของธนาคารดำเนินการปรับความเข้าใจกับทางพนักงานและสหภาพแรงงานไทยพาณิชย์ (ดู: จดหมายจากนายอานันท์ ปันยารชุน ถึงประธานสหภาพแรงงานไทยพาณิชย์)
ออกแถลงการณ์ชลอการชุมนุมไปก่อน
จากนั้นในวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมาสหภาพแรงงานไทยพาณิชย์ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 6 เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในการเคลื่อนไหวของสหภาพฯ
แถลงการณ์ 6/2552
เพื่อนสมาชิกสหภาพแรงงานและพนักงานทุกท่าน
ตามที่ธนาคารได้มีนโยบายตั้งบริษัทติดตามทวงหนี้และจะยุบเลิกหน่วยงานเพื่อให้ พนักงานไปปฏิบัติงานกับบริษัทที่ตั้งขึ้นนั้น กรณียุบเลิกหน่วยงานสหภาพแรงงานได้เรียกร้องให้ธนาคารปฏิบัติตามข้อตกลง เกี่ยวกับสภาพการจ้างที่ธนาคารได้ทำร่วมกับสหภาพแรงงานเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2542 และเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2552 สหภาพแรงงานและสมาชิกได้ไปที่บ้านท่านอานันท์ ปันยารชุน นายกกรรมการธนาคาร เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกให้ท่านพิจารณายกเลิกนโยบายดังกล่าว เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2552 ท่านได้ตอบสหภาพแรงงานโดยสรุปว่าเรื่องดังกล่าวได้มอบหมายให้ฝ่ายจัดการของ ธนาคารดำเนินการปรับความเข้าใจกับทางพนักงานและสหภาพแรงงานและเชื่อว่า เรื่องทั้งหลายจะคลี่คลายไปในทางที่ดีและเกิดความเข้าใจกันในที่สุด ท่านอานันท์อยากให้เรื่องทั้งหลายคลี่คลาย แต่ยังมีผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่บางคน ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น โดยได้สั่งห้ามไม่ให้พนักงานที่สาขาชิดลมมาร่วมชุมนุมฟังคำชี้แจงของสหภาพใน วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม 2552 อยากจะบอกท่านว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการขัดคำสั่งท่านอานันท์ และขัดขวางการดำเนินการของสหภาพแรงงานมีความผิดตามกฎหมาย จึงขอให้ท่านยุติพฤติกรรมดังกล่าวทันที
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2552 ธนาคารได้ออกประกาศความคืบหน้าล่าสุดกรณีการจัดตั้งบริษัทติดตามหนี้ลงใน Intranetของ ธนาคารว่าคณะผู้บริหารธนาคารได้รับทราบถึงข้อกังวลใจของพนักงาน และมิได้นิ่งนอนใจต่อกรณีที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาธนาคารได้มีการพูดคุยกับพนักงานในข้อกังวลใจ และได้มีการปรับปรุงเงื่อนไขการโอนย้ายและการจ้างงานให้ชัดเจนยิ่งขึ้นตาม ข้อเสนอแนะของพนักงาน สหภาพขอเรียนว่า ที่พนักงานกังวลใจก็เพราะได้ฟังคำพูดจากท่าน และพนักงานไม่ได้เสนอเงื่อนไขใดๆให้ธนาคารนำไปปรับปรุงเลย ใน ส่วนที่ธนาคารเปิดโอกาสให้พนักงานได้พิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบ โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา ทั้งนี้ หากยังมีพนักงานที่มีความไม่สบายใจต่อกรณีดังกล่าว ผู้บริหารธนาคารยินดีให้ข้อมูลเพิ่มเติมและพูดคุยกับพนักงาน จนกว่าจะเกิดความเข้าใจที่ดีต่อกัน เนื่องจากพนักงานทุกคนเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัวเดียวกันและยังมีความ เป็น “ไทยพาณิชย์” เช่นเดิม
สหภาพขอเรียนว่า เมื่อธนาคารเปิดโอกาสให้พนักงานพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบโดยไม่จำกัดเรื่องเวลา ก็ ขึ้นอยู่กับพนักงานว่าจะตัดสินใจอย่างไร ถ้าสมาชิกสหภาพและพนักงานท่านใดพิจารณาว่าไปอยู่บริษัทแล้วมีความก้าวหน้า และได้สวัสดิการเพิ่มแล้วสมัครใจไปสหภาพก็ไม่คัดค้าน แต่ไปแล้วความเป็นสมาชิกสหภาพจะสิ้นสุดลง หากเกิดปัญหาขึ้นในอนาคตสหภาพจะช่วยเหลืออะไรท่านไม่ได้ ในส่วนท่านที่ไม่ไปบริษัทก็ไม่ต้องเซ็นเอกสารใดๆที่ฝ่ายจัดการหรือผู้บังคับ บัญชาของท่านนำมาให้เซ็น เพราะหากธนาคารจะโอนย้ายท่านไปทำงานกับนายจ้างอื่นก็จะต้องได้รับความยินยอม จากท่านก่อน
เพื่อนสมาชิกและพนักงานทุกท่าน เมื่อธนาคารเลื่อนเวลาออกไปโดยไม่มีข้อจำกัด สหภาพแรงงานก็จะชลอการชุมนุมออกไปเช่นกัน แต่หากธนาคารไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง หรือมีการข่มขู่สมาชิกสหภาพขอให้สมาชิกแจ้งมายังสหภาพ สหภาพ แรงงานจะเข้าไปปกป้องคุ้มครองสิทธิพี่น้องทุกคนทันที ขอให้ทุกท่านจงเชื่อมั่นสหภาพแรงงานองค์กรตัวแทนของท่านว่าจะไม่ทอดทิ้งท่าน เพราะสหภาพก่อตั้งขึ้นมาเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์เกี่ยวกับสภาพการจ้าง และส่งเสริมความพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง และระหว่างลูกจ้างด้วยกัน หากพนักงานอยากให้สหภาพทำหน้าที่ตัวแทนของท่านได้อย่างเข้มแข็งท่านก็อย่า ทอดทิ้งสหภาพ จงร่วมใจกันสมัครเป็นสมาชิกกันให้มากๆเพื่อให้สหภาพได้คอยช่วยเหลือคุ้มครอง ทุกท่านตลอดไป
ความสำเร็จในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากใครคนใดคนหนึ่ง แต่เกิดจากพลังความสามัคคีของพี่น้องทุกคน
|
เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
ไทยพาณิชย์ ปรับกลยุทธ์ตั้งบริษัททวงหนี้ การันตีโยกพนักงานไม่มีลอยแพ
สหภาพฯ ไทยพาณิชย์ บุกบ้าน “อานันท์” ยื่นจดหมายให้ยกเลิกนโยบายการตั้งบริษัทติดตามหนี้
สหภาพแรงงานไทยพาณิชย์กระทุ้งธนาคารเป็นผู้นำตลาด อย่าเรียกเก็บค่าทวงหนี้
สหภาพแรงงาน ธ.ไทยพาณิชย์ หวั่นตกงาน หลังไทยพาณิชย์ตั้งบริษัททวงหนี้
สหภาพแรงงานไทยพาณิชย์รวมตัวประท้วง หวั่นถูกลอยแพ
ไทยพาณิชย์ ปรับกลยุทธ์ตั้งบริษัททวงหนี้ การันตีโยกพนักงานไม่มีลอยแพ
สหภาพฯ ไทยพาณิชย์ บุกบ้าน “อานันท์” ยื่นจดหมายให้ยกเลิกนโยบายการตั้งบริษัทติดตามหนี้
สหภาพแรงงานไทยพาณิชย์กระทุ้งธนาคารเป็นผู้นำตลาด อย่าเรียกเก็บค่าทวงหนี้
สหภาพแรงงาน ธ.ไทยพาณิชย์ หวั่นตกงาน หลังไทยพาณิชย์ตั้งบริษัททวงหนี้
สหภาพแรงงานไทยพาณิชย์รวมตัวประท้วง หวั่นถูกลอยแพ