Skip to main content
sharethis

แม้จะมีหลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลงานของรัฐบาลที่เพิ่งแถลงในวาระ 6 เดือนของการเข้าบริหารประเทศไปเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่พื้นที่ของสื่อต่างๆ ก็มีไม่มากมายนักสำหรับเสียงของ รากหญ้า ตัวจริง

         

โดยเฉพาะกับรากหญ้า และ คนทำงาน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งต้องเผชิญกับปัญหาความไม่สงบมายาวนานกว่าครึ่งทศวรรษ และคาดหวังกับรัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำอยู่ไม่น้อย

         

ทีมข่าวอิศราลงพื้นที่ชายแดนใต้ พูดคุยกับผู้คนกลุ่มต่างๆ ถึงความรู้สึกที่มีต่อรัฐบาล และผลงานในรอบครึ่งปี...

         

อับดุลอซิซ ตาเดอินทร์ นักสิทธิมนุษยชน และที่ปรึกษาสมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย (ยมท.) มองว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถบริหารประเทศได้อย่างแท้จริง เพราะสถานภาพของตัวเองยังรักษาไม่ได้เลย เนื่องจากมีทหารค้ำอยู่ สังเกตง่ายๆ ทหารต้องการงบประมาณ 7 หมื่นล้านมาใช้จ่ายแบบไม่ต้องชี้แจง (ทำโครงการพัฒนาผ่านกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หรือ กอ.รมน.ภาค 4) ก็ได้ทั้งหมด โดยที่รัฐบาลไม่สามารถตรวจสอบได้มากนัก ชี้ให้เห็นถึงภาวะการไม่มีอำนาจอย่างแท้จริง

         

นอกจากนี้ นโยบายการบริหารประเทศก็ยังไม่มีความชัดเจน ไม่เป็นรูปธรรมเพื่อคลี่คลายปัญหาในระยะยาว ตัวอย่างเช่น เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท (สำหรับลูกจ้างที่มีเงินเดือน 15,000 บาทขึ้นไป) ก็ช่วยเฉพาะชนชั้นกลางที่อยู่รอดอยู่แล้ว แต่กับชาวบ้านกลับไม่ช่วย อย่างมากก็แค่พาไปเที่ยวไปอบรม แล้วอย่างนี้จะแก้ปัญหาได้อย่างไร

         

สำหรับปัญหาภาคใต้ การวางโครงสร้างขององค์กรใหญ่อย่าง ศอ.บต. (ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้) ซึ่งจะพัฒนาไปเป็นสำนักงานบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สบ.ชต.) ก็ยังเป็นปัญหาใหญ่ เพราะตอนนี้ ศอ.บต.ยังไม่มีกฎหมายรองรับ ส่วน สบ.ชต.เองก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นองค์กรลักษณะไหน กฎหมายก็ยังไม่เข้าสภา ทั้งๆ ที่รัฐบาลสามารถยกร่างเองได้เลย

       

ผมมองว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวกฎหมาย แต่อยู่ที่รัฐบาลต้องการทำให้ยืดเยื้อ เพราะหากมีการปรับเปลี่ยนกันจริงๆ ก็ต้องกระทบกับฝ่ายทหาร รัฐบาลเกรงใจทหาร เนื่องจากไม่ได้มีอำนาจอย่างแท้จริงอับดุลอซิซ ย้ำ

         

ขณะที่ อับดุลรอมาน สะแลแม นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) กล่าวคล้ายๆ กันว่า รัฐบาลทำงานแบบฉาบฉวยเกินไป แม้จะมอบงานให้รัฐมนตรีคนโน้น คนนี้ แต่ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดเป็นผลงานสักเท่าไหร่เลย โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา

        

 มีเพื่อนมาถามผมเกี่ยวกับการศึกษาต่อ คือเขาเป็นคนเรียนทั้งสองสาย ทั้งสายสามัญและสายศาสนาจนจบชั้นสูงสุด เขาต้องการเรียนต่อในต่างประเทศ แต่ไม่มีเงิน จึงคิดหันมาเรียนในสถาบันการศึกษาของรัฐ แต่เขาก็ต้องทิ้งโอกาสไป เพราะสถาบันของรัฐไม่มียอมรับวุฒิบัตรของเขา (ที่เรียนจบสายศาสนา) ตรงนี้เป็นปัญหามาก และเป็นมานานแล้วด้วย กระทบกับเยาวชนจำนวนมากในสามจังหวัด แต่รัฐบาลก็ไม่ได้แก้ นี่แค่ ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นอับดุลรอมาน ระบุ 

 

สิโรฒม์ แวปาโอะ หรือ แบเฮาะ ประธานเครือข่ายแก้ปัญหาที่ดินบูโด-สุไหงปาดี กล่าวว่า ในฐานะชาวบ้านคนหนึ่งที่ต่อสู้เรื่องการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติทับที่ทำกินของชาวบ้าน เห็นว่าการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมายังไม่สามารถทำให้ชาวบ้านมั่นใจได้ ส่งผลให้ชาวบ้านไม่เชื่อใจ เพราะการแก้ปัญหาเรื่องสิทธิที่ดินของชุมชนในพื้นที่ยังล่าช้ามาก และไม่เด็ดขาดพอ

         

เมื่อไม่กี่วันมานี้ผมได้ไปยื่นข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาการประกาศอุทยานฯทับที่ดินทำกินด้วยตนเอง แต่รัฐบาลก็บอกเหมือนเดิมว่าจะกลับไปพิจารณา ทั้งๆ ที่มันควรจะพิจารณาไปตั้งนานแล้ว เพราะพวกเราได้ทำสำรวจและส่งข้อมูลอย่างถูกต้องครบถ้วนไปทุกอย่าง นี่คือตัวอย่างหนึ่งที่ทำให้ชาวบ้านไม่มีความมั่นใจแบเฮาะ บอก

         

ด้าน ไซนี สมานสุหลง หญิงมุสลิมวัย 37 ปี แม่ค้าขายลูกชิ้นในตลาด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เห็นว่า รัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำและมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำเดือดร้อนมากกว่าในอดีต โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งยังมีเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่มาซ้ำเดิมอีก

         

 รัฐบาลชุดนี้สอบไม่ผ่านเลย เดี๋ยวนี้หาเงินยากมาก สินค้าราคาแพง ขณะที่รายได้กลับน้อยลง ตอนแรกหวังว่าปีนี้ผลผลิตจะออกได้มากและราคาดี น่าจะมีรายได้บ้าง แต่กลับตกต่ำเช่นเคย ของที่เราซื้อแพง แต่ของที่เราขายกลับราคาถูก ถ้าบอกรัฐบาลได้ อยากให้แก้ปัญหาเรื่องปากท้องของชาวบ้านเป็นสิ่งแรก โดยเฉพาะในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีปัญหาความไม่สงบซ้ำเติมอยู่แล้ว

         

กล่าวเฉพาะปัญหาความไม่สงบ ไซนี บอกว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติยังแก้ปัญหาไม่ถูกทาง และยังไม่สามารถเข้าถึงชาวบ้านได้เลย ชาวบ้านยังต้องหวาดผวาทุกครั้งเวลาออกทำมาหากิน เพราะยังมีการฆ่ากันตายทุกวัน มีความรุนแรงเกิดขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง

         

รัฐยังไม่สามารถยุติปัญหาได้เพราะมัวแต่พูดอย่างเดียว ยังไม่ขยับลงมือทำ ทุกวันนี้ประชาชนเริ่มหมดหวังกับรัฐบาลชุดนี้ และกล้าพูดเลยว่าผิดหวังกับรัฐบาลชุดนี้มาก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตอนหาเสียงพูดไว้ว่าจะทำหลายๆ เรื่อง แต่พอมีอำนาจจริงๆ แทบจับต้องอะไรไม่ได้เลย อยากขอให้รัฐบาลมีความจริงใจมากกว่านี้ เอาเวลาที่ทะเลาะกันเพื่อผลประโยชน์ มาแก้ปัญหาให้กับประชาชนตาดำๆ ที่กำลังรอความช่วยเหลือจากรัฐบาลบ้างเถอะไซนี กล่าว

         

อับดุลฮากิม ยีสามะแอ ชาวประมงใน จ.ปัตตานี กล่าวเช่นกันว่า รู้สึกผิดหวังกับรัฐบาลชุดนี้ เพราะเวลาที่ผ่านมามักพูดมากกว่าทำงานเพื่อประชาชน และเมื่อเกิดปัญหาความรุ่นแรงในพื้นที่ ตัวนายกฯเองก็ยังไม่ลงมารับฟังปัญหา บ่งบอกถึงความไม่จริงใจ ถ้าบอกถึงรัฐบาลได้อยากขอให้ลงมาดูพวกเราบ้างว่าเดือดร้อนมากขนาดไหน สินค้าราคาแพง แต่ผลผลิตของชาวบ้านกลับราคาถูก

         

แม้หลายเสียงที่ ทีมข่าวอิศราไปรับฟัง จะพูดถึงรัฐบาลในแง่ลบ และรู้สึกสิ้นหวัง แต่ก็ยังมีอีกหลายคนเหมือนกันที่ให้กำลังใจรัฐบาลชุดนี้...

 

รอกีเยาะ มินุด หญิงมุสลิมวัย 48 ปี ชาวบ้าน อ.เทพา จ.สงขลา หนึ่งในสี่อำเภอรอยต่อของจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า นับจากพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคที่ครองใจประชาชนในพื้นที่มาทุกสมัย และล่าสุดได้มาเป็นรัฐบาล ก็สามารถแก้ปัญหาเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ได้จริง เหตุร้ายรายวันลดลง ความรุนแรงเบาบางกว่าเดิมมาก ทำให้ชาวบ้านกล้าออกไปกรีดยาง ซึ่งต่างจากสมัยก่อนที่ไม่กล้าไป เพราะกลัวคนร้ายซุ่ม จะออกไปตลาดก็กลัวระเบิด ทำให้ชาวบ้านจำต้องอยู่แต่ในบ้าน

 

แม้ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ ภาวะเศรษฐกิจในพื้นที่จะตกต่ำลงกว่าเดิม แต่ รอกีเยาะ มองในแง่บวกว่า ปัญหาเศรษฐกิจก็ส่งผลกระทบไปทุกพื้นที่ แต่ทุกวันนี้ยังดีที่คนสามจังหวัดยังออกไปทำงานได้ อย่างน้อยก็ดีกว่าทำไม่ได้เลย

         

รอกีเยาะ ยังเห็นว่า นโยบายของรัฐบาลสามารถช่วยเหลือประชาชนได้มาก โดยเฉพาะด้านการศึกษาที่มีนโยบายเรียนฟรีจริง ทำให้คนจนที่ไม่มีรายได้มีโอกาสกว่าในอดีต ส่วนเรื่องเศรษฐกิจนั้น เข้าใจว่ามันต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา และมั่นใจว่ารัฐบาลชุดนี้จะสามารถแก้ปัญหาได้

 

เช่นเดียวกับ น.ส.ไพรหงค์ ไม้ข้าม แม่ค้าใน จ.ยะลา วัย 27 ปี ที่บอกว่า 6 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้พยายามแก้ปัญหาอย่างดีที่สุดแล้ว แม้ผลที่ออกมาจะยังไม่ดีนัก แต่ก็ต้องให้เวลากันบ้าง เพราะช่วงที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามารับหน้าที่ ปัญหาในประเทศและต่างประเทศมีมากมาย ทุกเรื่องเป็นปัญหาหมด การที่พรรคประชาธิปัตย์สามารถแก้ปัญหาได้เท่านี้ก็ถือว่าดีแล้ว และมองว่านายกฯอภิสิทธิ์เป็นคนดี และทุ่มเทเพื่อบ้านเมืองจริงๆ

        

 การแก้ปัญหาที่ผ่านมาอาจจะได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้างก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา ทุกคนควรให้เวลาและโอกาสพรรคประชาธิปัตย์ 6 เดือนถือว่าน้อยเกินไปที่จะมาประเมินการทำงานน.ส.ไพรหงค์ ระบุ

         

ทั้งหมดคือเสียงจาก รากหญ้าจะตำหนิ ชื่นชม หรือก่นด่า แต่ก็เป็นเสียงของประชาชนที่ต้องถือว่าเป็น เสียงสวรรค์ของนักการเมือง!

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net