“กษิต” เผยทำหนังสือเวียนประเทศอาเซียน เรียกร้องพม่า อภัยโทษ ซูจี

วันนี้ (14 ส.ค.52) นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวโดยการโฟนอินจากประเทศมาเลเซียมายังกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างการเดินทางไปประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-มาเลเซีย (เจซี)ว่า ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย กรณีสถานการณ์ในพม่า ส่วนการประชุมสมัยพิเศษรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน คงไม่มีการประชุมดังกล่าวเพราะมี 2-3 ประเทศไม่พร้อม อย่างไรก็ตาม ประเทศสมาชิกอาเซียน 3-4 ประเทศก็ได้ออกแถลงการณ์ของตัวเองคู่ขนานกับแถลงการณ์ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
ส่วนเหตุผลของประเทศที่ไม่พร้อมประชุมสมัยพิเศษนั้น  เพราะคิดว่าเราทำเต็มที่แล้วและส่วนตัวคิดว่ารัฐบาลพม่าก็ตระหนักดีถึงความต้องการของประชาคมโลกในเรื่องการปลดปล่อยนักโทษการเมืองทั้งหมด และการที่จะต้องมีการเลือกตั้ง รวมทั้งการจะต้องมีความสมานฉันท์แห่งชาติ ซึ่งการที่จะให้มีการเลือกตั้งที่ฟรีและแฟร์ ทั้งหมดนี้โดยองค์รวมแล้วสิทธิเสรีภาพของนางอองซาน ซูจี รวมทั้งนักโทษการเมืองคนอื่นก็เป็นเรื่องสำคัญ
 
“เป็นเรื่องขึ้นอยู่กับรัฐบาลพม่าและอย่าลืมว่าศาลลงโทษ 3 ปี แต่ท่านประธานตาน ฉ่วย (ประธานสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐพม่า) ลดเหลือ 18 เดือน ณ วันนี้เราได้มีข้อเสนอเวียนไปประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมด เพื่อขอให้ทางฝ่ายรัฐบาลพม่าพิจารณาที่จะอภัยโทษให้ท่านอองซาน ซูจี ซึ่งโดยปริยายก็รวมถึงนักโทษการเมืองคนอื่นด้วย รวมทั้งได้ทำสำเนาให้แก่รัฐมนตรีต่างประเทศพม่าด้วย” นายกษิต กล่าวและว่าต้องดูโรดแม็บของรัฐบาลพม่า ถ้าการเลือกตั้งฟรีแอนด์แฟร์ ก็ต้องรวมทุกคน แล้วจะเอาบางคนบางกลุ่มอยู่นอกการเมืองได้หรือไม่ ประเด็นก็มีอยู่แค่นี้ เป็นสิ่งที่ทั่วโลกเรียกร้องและตนคิดว่าเป็นความปรารถนาของคนพม่าด้วย

ประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 15 ที่ชะอำ-หัวหิน

นายกษิต กล่าวถึงการจัดประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 15 ว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ประชุมร่วมกับฝ่ายความมั่นคง ถึงการเตรียมจัดประชุมดังกล่าวเป็นระยะ ซึ่งได้ข้อยุติและได้นำเรียน สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีแล้ว

“ณ วันนี้ เราก็ได้ตัดสินใจแล้วว่า จะไปประชุมที่ ชะอำ-หัวหินครับ ในวันที่ 23-25 ต.ค. และไม่เชิงเป็นการเปลี่ยนสถานที่เพราะเป็นออพชั่นที่ได้พิจารณากันมาตลอดเวลา รวมทั้งที่ภูเก็ตก็มีงานกินเจ ซึ่งได้เริ่มเตรียมการแล้วครับและได้เริ่มเรียนให้คณะทูตของอาเซียนทราบแล้วครับ” นายกษิตกล่าว

ทั้งนี้ การเลือกสถานที่คำนึงถึงเรื่องความมั่นคงปลอดภัยของผู้นำอาคันตุกะเป็นสำคัญ และเรื่องความพร้อมการดูแลต่างๆ ก็ต้องฟังฝ่ายความมั่นคงเป็นตัวตั้ง พร้อมวิงวอนประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ให้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพเพราะเป็นหน้าตาของประเทศเป็นความเจริญเจ้าหน้าของประเทศ การจะประท้วงคัดค้านหากทำในกรอบกฎหมายไม่เป็นปัญหา แต่การที่จะขัดขวาง อันนี้ตนคิดว่าไม่ถูกต้องและทำความเสียหายให้แก่ประเทศ ผู้แพ้คือประเทศไทย เราต้องชนะร่วมกันโดยการจัดงานเป็นเรื่องเป็นราวเพราะนี่เป็นงานของประเทศ

เมื่อถามว่าหน่วยงานความมั่นคงเห็นว่าการจัดประชุมที่ จ.ภูเก็ต ไม่มีความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ นายกษิต กล่าวว่า อย่าไปโยงแบบนั้นเพราะที่ จ.ภูเก็ตเสร็จไปหนึ่งงานแล้ว ตอนนี้จะจัดอีกงานก็มีการเทียบกันระหว่างพัทยา ภูเก็ต กรุงเทพฯ หัวหิน ในที่สุด การประชุมกันทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปว่า ณ วันนี้ ในช่วงนี้ ไปที่ชะอำ-หัวหินเป็นสิ่งเหมาะสมที่สุด เพราะต้องคิดถึงความปลอดภัยอาคันตุกะ แขกบ้านแขกเมืองของเรา รวมทั้ง ความพร้อมในการดูแลความสะดวก เรื่องห้องพักที่ว่าง ทั้งหมดเป็นองค์รวม

“กษิต” ไม่ชี้แจงต่างชาติ กรณีเสื้อแดงถวายฎีกา

ในเรื่องการถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นที่สนใจของต่างประเทศ นายกษิต กล่าวว่าไม่เห็นมีใครถาม และข้อเสนอของเสื้อแดงก็มีคนค้านมากมาย ต้องดูข่าวทั้ง 2 ทางอย่าดูเสื้อแดงอย่างเดียว ทุกแวดวงก็ออกมาค้านทั้งนั้น เพราะไม่ถูกต้องตามครรลอง

ส่วนความจำเป็นในการชี้แจงต่อต่างประเทศ นายกษิต กล่าวว่า ทำไมต้องไปชี้แจงเพราะมีคณะทูตนั่งอยู่เต็มกรุงเทพฯ แล้วและผู้สื่อข่าวต่างประเทศก็น่าจะอยู่เต็มเมือง