Skip to main content
sharethis

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ประสบการและทิศทางการแก้ปัญหาภาคใต้” ในเวทีการสัมมนาแกนนำพรรคมาตุภูมิ เมื่อ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา ถึงพรรคการเมืองที่วาดหวังว่าจะเป็นพรรคการเมืองของพี่น้องมุสลิม กับมุมมองทางการเมืองและการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้

 
 
“บิ๊กบัง” หรือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน มีผู้นำคณะรัฐประหารในนาม “คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” (คปค.) ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น คมช. ทำการโค่นล้มอำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาถึงวันนี้ อดีตผู้บัญชาการทหารบก และอดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแหงชาติ กำลังจะลงสนามการเมือง
 
แม้จะยังไม่ชัดเจนนักว่า ตัวเองจะอยู่ในจุดใดในทางการเมือง แต่ก็เป็นคนสำคัญที่ผลักดันในเกิดการตั้งพรรคการเมืองน้องใหม่ขึ้นมาอีกพรรค คือ “พรรคมาตุภูมิ” จากคำยืนยันของเขาเอง ระหว่างการเดินทางลงไปสัมมนาที่คล้ายกับการเปิดตัวพรรคอย่างเป็นทางการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 2 วันที่จังหวัดนราธิวาสและปัตตานี
 
ต่อไปนี้ เป็นคำกล่าวของ พล.อ.สนธิ ในการปาฐกถาพิเศษ หัวข้อประสบการและทิศทางการแก้ปัญหาภาคใต้ ในเวทีการสัมมนาแกนนำพรรคมาตุภูมิ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมาที่โรงแรมเซาเทิร์นวิว จังหวัดปัตตานี ถึงพรรคการเมืองที่วาดหวังว่าจะเป็นพรรคการเมืองของพี่น้องมุสลิม กับมุมมองทางการเมืองและการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
 
 
000
 
 
“ทุกครั้งที่ผมได้มาที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมมีความสุขเหมือนได้กลับมาบ้านเอง เพราะบรรพบุรุษผมอพยพมาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้เช่นกัน
 
ผมมีความตั้งใจว่าจะทำอย่างไรให้จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสงบเรียบร้อย เพราะถ้าไม่สงบ มันมีผลกระทบต่อพี่น้องทุกคน คือ เรื่องความสุข การทำมาหากินและการเรียนรู้ ปัญหาที่เป็นอยู่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่สะเทือนไปหมด
 
จะแก้ปัญหากันอย่างไร ผมว่าต้องให้พี่น้องประชาชนเป็นผู้แก้ ส.ส.ในจังหวัดใด ก็แก้ในจังหวัดนั้น นักการเมืองท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้านก็มาช่วยกันแก้ โดยนำผู้รู้ ผู้นำศาสนาในท้องที่มาช่วย ถ้าไม่ร่วมมือกันแก้ แล้วไปพึ่งพาอาศัยคนอื่น ที่ไม่ใช่คนในพื้นที่ ไม่ว่า ทหาร ตำรวจหรือใครก็ตาม แน่นอนแก้ไม่จบ ถ้าจะแก้ให้จบ เราต้องแก้กันในหมู่บ้านของตัวเอง ด้วยตัวเราเอง
 
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่พวกเราต้องมาแก้ปัญหาภายในของเราเอง โดยท่านแก้กันเอง ผมว่าทำได้ ในพื้นที่ ตำบล อำเภอของตัวเอง เพราะผมเชื่อว่า ทุกคน ทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน โต๊ะครู โต๊ะอิหม่าม รู้ดีว่า ในหมู่บ้านมีสถานภาพอย่างไร
 
ผมอยากให้ใช้ความสามารถของพื้นที่ตัวเองแก้ปัญหา แล้วให้นักการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งท้องถิ่นและระดับชาติเข้ามามีส่วนร่วม ผมอยากให้ทหาร ตำรวจ ที่มีหน้าที่รักษาความมั่นคง ให้ความปลอดภัยในภาพกว้าง ไม่ว่าโรงเรียน สถานที่ราชการ หรือส่วนใดก็ตาม แต่ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาภายในท้องถิ่น
 
มุสลิมในประเทศไทยมี 6 ล้านกว่าคน ส่วนใน 3 จังหวัดและ 4 อำเภอของสงขลา มีประมาณ 1 ล้าน 7 แสนคนเศษ ผมต้องการสร้างศักยภาพ เสนอแนะให้เขามีศักยภาพที่เกิดประโยชน์กับพี่น้องมุสลิม และกับสังคมไทยด้วย
 
ผมมีโอกาสไปทำอุมเราะห์ (พิธีกรรมทางศาสนาอิสลามอย่างหนึ่ง) เมื่อปีที่แล้ว ที่เมืองมักกะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย มีนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ นายนัจมุดดีน อูมา อาจารย์วันมูหะมัดนอร์ มะทา และผู้ใหญ่หลายคนไปด้วย
 
ผมคิดขึ้นมาได้ว่า การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่มี ซึ่งไม่รู้ว่าถูกกันหรือไม่ถูกกัน มาร่วมช่วยกันคิดกันดีไหมว่า จะแก้ปัญหากันอย่างไร เรามาร่วมหัวกันอีกซักครั้ง เพราะครั้งที่แล้ว เป็นกลุ่มวาดะห์ ซึ่งก็ผ่านพ้นยุคนั้นไปแล้ว เรามารวมตัวกันใหม่ เพื่อช่วยกันสร้างพลังในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
 
ผมกลับมาก็เลยคุยกันให้เกิดความเป็นรูปธรรมมากขึ้น เชิญผู้หลักผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง เชิญนายเด่น โต๊ะมีนา และอีกหลายคนมาร่วมกันคิด ทุกคนก็ตกลงกันว่า เราจะมารวมแนวคิดและอุดมการณ์เดียวกัน เพื่อจะทำให้แนวคิดมาสู่การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดเป็นความคิดของทุกคนว่า จะอยู่ในพรรคการเมือง
 
การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยพี่น้องประชาชนอย่างเดียวไม่ได้ โดยต้องอาศัยการเมืองมาร่วมกันแก้ โดยมี ส.ส.เข้ามามากก็จะมีเสียงมากๆ จึงจะสามารถเข้าไปมีส่วนในการเสนอแนะ ชี้แนะ ให้นโยบายการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ จึงเกิดพรรคมาตุภูมิขึ้น
 
ปัญหาที่เกิดขึ้นที่สำคัญเวลานี้ คือ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีต จะทำอย่างไรให้มันหมดไป ผมคิดว่าที่ผมพูดอออกไป หลายคนคงเห็นด้วย ถ้าเผื่อว่ามันไม่ทำให้เกิดอคติขึ้นมา คิดว่าการที่เราจะทำงานใหญ่ แน่นอน เราต้องลืมเรื่องเล็ก ถ้าจะทำงานใหญ่ ต้องให้ลืมเรื่องเล็ก
 
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ขอให้เป็นเรื่องที่เราต้องตัดทิ้งออกไป แล้วนำมาคิดเรื่องใหญ่ ถ้าท่านไม่สามารถทำอย่างนี้ได้ ไม่มีทางที่จะทำให้เป็นปึกแผ่น ถ้าเราไม่สามารถทำตรงนี้ได้ แนวความคิดในการสร้างพลังของคน 6 ล้านคนไม่เกิดประโยชน์ ถ้าทำได้พื้นที่ตรงนี้อีกเกือบ 2 ล้านคน ต้องเกิดประโยชน์ ถ้าท่านเป็นหนึ่งเดียว
 
ชีวิตผมไม่เคยโกรธใคร ไม่เคยเกลียดใคร และไม่เคยอิจฉาใคร เพราะฉะนั้นตรงนี้ เราทำดู มันจะมีความสุข แล้วเราให้อภัยกัน ทุกคนทำอะไรก็ตาม มันมีทั้งความผิด ความถูก มีความพอใจ ไม่พอใจ เราคบคนตั้งแต่สองคนขึ้นไป มันเป็นสังคม เมื่อเป็นสังคม ความคิดมันก็หลากหลายและแตกต่างกัน ความคิดไม่เหมือนกันก็เกิดขึ้น
 
ถ้าเราจะทำให้ให้ความคิดที่แตกต่างกันเกิดปัญหา สิ่งที่จะทำให้เกิดเป็นนโยบายหลักก็ทำไม่ได้
 
ถึงเวลานี้ เราต้องลืมเรื่องเล็ก แล้วมาทำเรื่องใหญ่ ความขัดแย้งที่มันเกิดขึ้นทั้งหมดในเวลานี้ ลืมไปซะ ให้อภัยกันซะ แล้วหันมาทำเรื่องใหม่
 
ผมเชื่อว่า บุคคลที่สำคัญๆ ที่มีความคิดแตกต่างกัน จะเปลี่ยนใจได้ ถ้าพวกเราทุกคน ลืมมันเถอะนะ หันกลับมาคิดเรื่องใหม่
 
ผมเดินทางมาที่นี่วันสองวัน เห็นอะไรที่เป็นเรื่องความคิดที่แตกต่าง ค่อนข้างแยะทีเดียว ผมเพิ่งรู้ว่า ความคิดที่แตกต่างกันนั้นมันมีมานานแล้ว กลายเป็นการฝั่งลึกขอความรู้สึกที่ขัดแย้งกันไป ผมอยากเห็นการอภัยให้กัน แล้วหันมาช่วยกันแก้ปัญหา
 
การเมืองบ้านเราในเวลานี้ มันเกิดผลกระทบกับการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย โดยเฉพาะความแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น ความขัดแย้งของความต่างสีต่างสันในกรุงเทพก็เกิดขึ้นค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้นมันก็เป็นโอกาส วิกฤตของประเทศกำลังเกิดขึ้น เราต้องสร้างวิกฤตนี้ให้เป็นโอกาสที่ดี เพื่อจะทำอย่างไรให้เรามีศักยภาพในพื้นที่ 3 จังหวัดมากขึ้น
 
ผมบอกกับพรรคมาตุภูมิว่า แนวนโยบายของพรรคในเวลานี้ที่ประชาชนทั้งประเทศรับได้ และต้องการมากๆ ก็คือ เราต้องเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่สีใดสีหนึ่ง เพราะคนจำนวนมากในประเทศกำลังหาที่พึ่งอยู่ จะเอาคนไหนดี ถ้าเขาหาไม่ได้ เขาก็หันมาหาตรงกลาง เพราะฉะนั้นเราต้องเป็นพรรคที่อยู่ตรงกลาง
 
ประการที่สองต้องเป็นพรรคที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต แล้วก็เป็นนักการเมืองที่มีอุดมการณ์ ประการที่สามคือ ต้องเป็นพรรคที่สร้างความสมัครสมานสามัคคีของคนทั้งชาติ เพราะฉะนั้น พรรคการเมืองนี้ ต้องเป็นพรรคที่มีเอกลักษณ์ ที่โดดเด่นขึ้นมาทันทีใน 3 หลักดังกล่าว คือความซื่อสัตย์สุจริต โดยใช้หลักการศาสนาอิสลามเข้าไปเกี่ยวข้องในการคิด ในการกำหนดนโยบายของพรรค
 
ถ้าใช้ 3 หลักการตรงนี้ ก็จะเป็นจุดขายที่ดีของพรรค ส่วนอื่นๆ ก็จะคล้ายกันทุกพรรค ไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจ การศึกษา ซึ่งก็มีควงามสำคัญที่ต้องทำพร้อมกัน
 
อีกอันหนึ่งที่น่าสนใจเวลานี้คือ เรื่องประชานิยม ซึ่งก็มีความสำคัญที่มันมีผลพลอยได้มาสู่หมู่บ้าน มันดีมั้ยกับการที่หมู่บ้านจะได้รับกองทุน เพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาของชุมชน อะไรที่มันดีของรัฐบาลที่ผ่านมา ก็ต้องดำรงรักษาไว้ อะไรที่ไม่ดี เราก็อย่าเข้าไปเกี่ยวข้อง จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสรรหาของใหม่ในสิ่งที่ประชาชนยังนิยมอยู่

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net