ทั้งนี้แหล่งข่าวชาวพม่าที่อยู่ในเมืองรุ่ยลี ในเขตมณฑลยูนนานเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้านในเขตโกก้างได้รับการช่วยเหลือด้านอาหารจากโครงการอาหารโลก (World Food Program) และจากหน่วยงานเอ็นจีโอกลุ่มต่างๆ แต่โครงการเหล่านั้นถูกระงับชั่วคราวหลังการสู้รบในพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ไม่มีข้าวสารบริโภคเพียงพอ นอกจากนี้ยังถูกนำไปเลี้ยงกองทัพพม่าเป็นดันดับแรก ซึ่งขณะนี้เมืองเหล่ากาย (Laogai) เมืองสำคัญของกองกำลังโกกั้งมีทหารประจำอยู่ทั่วเมือง

 

ด้านโฆษกโครงการอาหารโลกในกรุงย่างกุ้งเปิดเผยว่า ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะสามารถเริ่มการช่วยเหลือด้านอาหารแก่คนในพื้นที่อีกครั้งเมื่อไหร่ เนื่องจากยังกังวลเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ขณะที่ข้อมูลของโครงการอาหารโลกระบุว่า มีประชาชนได้รับการช่วยเหลือด้านอาหารจากยูเอ็นและหน่วยงานเอ็นจีโอกลุ่มอื่นๆ จำนวนกว่า 120,000 คน

 

ก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าจากยูเอ็นและหน่วยงานเอ็นจีโอต้องติดอยู่ในเมืองเหล่ากายจำนวนกว่า 100 คน หลังเกิดการสู้รบกันระหว่างกองทัพพม่าและกองกำลังโกกั้งเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เหล่านี้ได้เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านที่เคยปลูกฝิ่นให้หันมาปลูกพืชชนิดอื่นแทน ขณะที่รัฐบาลพม่าแถลงข่าวก่อนหน้านี้ว่า โรงเรียนและตลาด รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจในเมืองเหล่ากายได้เปิดทำการตามปกติแล้ว ซึ่งแหล่งข่าวในพื้นที่เปิดเผยว่า ไม่เป็นความจริง เพราะนักเรียนและผู้ประกอบการธุรกิจส่วนใหญ่ยังคงอาศัยอยู่ในค่ายพักพิงชั่วคราวในประเทศจีน อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ลี้ภัยจำนวน 13,000 คน ได้กลับบ้านแล้ว แต่อีกกว่า 20,000 คนยังคงอยู่ในค่ายพักพิงชั่วคราวในประเทศจีน เนื่องจากวิตกว่าอาจเกิดการสู้รบระหว่างทหารพม่าและทหารโกก้างอีกครั้ง ส่วนนายเผิงจาเซิง ผู้นำโกก้างยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในเขตควบคุมของกองทัพสหรัฐว้า (United Wa Stae Army)