Skip to main content
sharethis

ศาลฎีกาฯ ยกฟ้องจำเลยทั้ง 44 ราย คดีทุจริตกล้ายางฯ ทีมทนายป.ป.ช.ยอมรับคดีจบแล้ว คตส. แจงสำนวนไม่อ่อน-ปัดมีช่องโหว่ ยันทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว เนวินลั่นจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ตกเย็นดอดไปร่วมงานวันเกิดเจ๊เป้า

 

 
 
เว็บไซต์ไทยโพสต์ตีพิมพ์ภาพ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบ.ช.น. จับมือแสดงความยินดีกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ภายหลังศาลฎีกาฯ มีมติยกฟ้องคดีกล้ายาง เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 52
 
 
มติชนออนไลน์ รายงานว่า ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 กันยายน นายบุญรอด ตันประเสริฐ ประธานแผนกคดีเลือกตั้ง เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะรวม 9 คน พิพากษายกฟ้องคดีหมายเลขดำ อม.4/2551 ที่ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายรัฐ (คตส.) โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร คชก. จำเลยที่ 1, นายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง ที่ 2, นายสรอรรถ กลิ่นปทุม อดีต รมว.เกษตรฯ ที่ 3 , นายเนวิน ชิดชอบ อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ จำเลยที่ 4, นายอดิศัย โพธารามิก อดีต รมว.พาณิชย์ ที่ 5 ในฐานะกรรมการ คชก. , คณะกรรมการบริหารโครงการ (กำหนดทีโออาร์) และคณะกรรมการพิจารณาผลประกวดราคา และบริษัทเอกชน ประกอบด้วย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ เมล็ดพันธุ์ จำกัด ในฐานะผู้ชนะการประกวดราคา, บริษัท รีสอร์ตแลนด์ จำกัด ผู้ร่วมเสนอราคา และบริษัทเอกเจริญ การเกษตร จำกัด ผู้ร่วมเสนอราคา เป็นจำเลยที่ 6 - 44
 
โดยยื่นฟ้องในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน และผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ประมวลกฎหมายอาญา ม.157 ที่โทษจำคุก 1- 10 ปี หรือ ปรับ 2,000 – 20,000 บาท , เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ จัดการหรือรักษาทรัพย์สินใด ๆ ร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ ม.151 ที่มีโทษจำคุก 5- 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับ 2,000 – 40,000 บาท , พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ.2542 มาตรา 10 , 13 และพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 และ ผู้ใดหลอกลวงแสดงข้อความ อันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรแจ้ง เพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สามหรือ ทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทำ ถอนหรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 341 ประกอบมาตรา83 และ 86 และโจทก์ขอให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันชำระเงินค่าเสียหายด้วยจำนวน 1,349,684,361.96 ล้านบาท ซึ่งคดีนี้จำเลยทั้ง 44 ให้การปฏิเสธ
 
การอ่านคำพิพากษาครั้งนี้ เลื่อนมาจากวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากนายอดิศัยจำเลย ไม่ได้มาร่วมฟังคำพิพากษาและศาลให้ออกหมายจับ พร้อมปรับเงินประกัน 1 ล้านบาท และในครั้งนี้นายอดิศัยก็ไม่มาฟังคำพิพากษาเช่นกัน แต่ยื่นคำร้องขอเลื่อนผ่านทนายความและให้ศาลอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย ขณะที่จำเลยคนอื่นๆ อาทิ นายเนวิน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายสรอรรถ กลิ่นปทุม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งผู้บริหารบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ มากันครบ
 
จากนั้นศาลอ่านคำพิพากษามีใจความสรุปว่าศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า มีประเด็นที่ต้องวินิจฉัย นายเนวิน จำเลยที่ 4 นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร จำเลยที่ 19 มีความผิดฐานเป็นผู้ริเริ่มโครงการโดยปกปิดข้อเท็จจริงทำให้รัฐได้รับข้อ เสียหาย หรือไม่ ซึ่งเห็นว่าโครงการกล้ายาง เป็นการริเริ่มจากนโยบายรัฐ สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมุ่งสนับสนุนให้มีการปรับโครงสร้างการปลูกยางพาราในประเทศ ทั้งยังมีรายงานการศึกษา แนวทางปฏิรูปยางพาราไทย เพื่อรองรับตลาดยางโลก หาใช่ความคิดเห็นของจำเลยที่ 4 ,จำเลยที่ 19 เพียงฝ่ายเดียว ดังนั้น จำเลยที่ 4 ,จำเลยที่ 19 ไม่มีความผิด พิพากษายกฟ้อง ไม่ต้องชดใช้งบประมาณทั้งหมดคืนรัฐ
 
ศาลฎีกาฯยังพิเคราะห์ส่วนจำเลยที่ 1-3 และจำเลยที่ 5-8 ประกอบไปด้วยคณะรัฐมนตรีและข้าราชการ กลุ่มคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ซึ่งนายสมคิด ในฐานะประธาน คชก., นายวราเทพ ในฐานะ คชก., ในฐานะผู้ริเริ่มโครงการ, นายสรอรรถ และ นายอดิศัย และข้าราชการระดับอธิบดีหลายกระทรวงที่รวมอยู่ในคณะกรรมการของกระทรวง โดยมีมติอนุมัติงบประมาณ 1,440 ล้านบาท ที่ซื้อกล้ายาง โดยฝ่าฝืนมติ คชก.เดิม ที่ห้ามมิให้ช่วยเหลือกิจการยางพารา ที่มีมาตรการตามกฎหมายช่วยเหลือเป็นระบบอยู่แล้ว แนวทางนำสืบเห็นว่า ข้อกำหนด ห้ามมิให้ช่วยเหลือดังกล่าว น่าจะเป็นการห้ามมิให้ช่วยเหลือในรูปแบบที่มีข้อกำหนดคุ้มครองช่วยเหลืออยู่ แล้ว แต่หากเป็นการช่วยเหลือในลักษณะอื่นย่อมสามารถทำได้ การกระทำของจำเลยกลุ่ม คชก.ไม่เข้าข่ายการกระทำผิดตามฟ้องของโจทก์
 
ศาลฎีกาฯ ยังพิเคราะห์ถึงส่วนกลุ่มข้าราชการที่เป็นผู้กำหนดเงื่อนไข และคณะกรรมการประกวดราคาโครงการกล้ายาง ศาลเห็นว่าในทางนำสืบพบว่า มีขั้นตอนการกำหนดเงื่อนไข หลักเกณฑ์ในการประกวดราคา โดยเปิดกว้างไม่ได้มีการกำหนดคุณสมบัติ เพื่อกีดกันผู้ประกวดราคารายใด รายหนึ่ง จึงเป็นการปฏิบัติเป็นไปตามหน้าที่ พิพากษายกฟ้องเช่นกัน และในส่วนของกลุ่มบริษัทเอกชน ที่มี 3 ราย ประกอบด้วย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ จำกัด ในเครือซีพี, บริษัท รีสอร์ทแลนด์ จำกัด และ บริษัท เอกเจริญการเกษตร จำกัด ศาลพิพากษายกฟ้อง
 
สำหรับนายอดิศัย ที่ก่อนหน้านี้ถูกศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา หลังไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาครั้งแรกนั้น ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งให้เพิกถอนจับดังกล่าวหลังวันนี้ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 44
 
ขณะที่มีผู้ตามมาร่วมให้กำลังใจนายเนวินมากมาย อาทิ นายคะแนน สุภา พ่อตานายเนวิน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม นางพรทิวา นาคาสัย รมว.พาณิชย์ นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข น.ส.นริศรา ชวาลตันติพิพัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ พร้อมแกนนำพรรคภูมิใจไทยคนอื่นๆ อย่าง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา และนายอนุชา นาคาสัย แกนนำกลุ่มมัชฌิมา พรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องชายนายเนวิน นายอนุทิน ชาญวีกูล นายปองพล อดิเรกสาร นายสัมพันธิ์ เลิศนุวัฒ์ นายเอกพร รักความสุข นายทศพล สังขทรัพย์ นายธีระชัย แสนแก้ว แกนนำพรรคภูมิใจไทยพร้อมด้วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จำนวนมาก
 
นอกจากนี้ยังมี ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ที่สังกัดพรรคการเมืองอื่นๆ อย่างนายปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี พรรคเพื่อไทย และนายสมชัย เจริญชัยฤทธิ์ ส.ส.นครสวรรค์ และนางวรศุลี สุวรรณปริสุทธิ์ ส.ส.มุกดาหาร พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และนายวินิจ เลิศรัตนชัย นักจัดรายการชื่อดัง โดยก่อนที่ศาลจะเริ่มอ่านคำพิพากษา สมาชิกพรรคภูมิใจไทยที่มาร่วมให้กำลังใจนายเนวิน ทุกคนต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เนื่องจากเชื่อมั่นว่าผลของคำพิพากษาจะเป็นบวกกับนายเนวิน ซึ่งจะทำให้นายเนวิน รอดพ้นจากความผิดและไม่ต้องรับโทษ
 
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่ก่อนศาลจะอ่านคำพิพากษาจนจบ บรรดากองเชียร์จากพรรคภูมิใจไทยที่รออยู่หน้าห้องพิจารณาคดี อาทิ นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นายเอกพร รักความสุข บ้านเลขที่ 111 และบรรดาส.ส.ของพรรค ซึ่งชมการถ่ายทอดสดการอ่านคำพิพากษาผ่านโทรศัพท์มือถือ เดินมาแจ้งกับสื่อมวลชนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่าศาลอ่านคำพิพากษาว่าจำเลยในกลุ่มนักการเมืองหลุดคดีหมดแล้ว ศาลยกฟ้องแล้ว ทำให้บรรดากองเชียร์ต่างพูดคุยแสดงความดีใจกันใหญ่
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมคิด ลงมาจากห้องพิจารณาคดีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าจะฟ้องกลับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) หรือไม่ นายสมคิดได้แต่ยิ้มพร้อมส่ายหน้าไปมา ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับนายเนวิน ที่มีสีหน้ายิ้มแย้ม และพยายามปัดที่จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวโดยขออนุญาตพูดเพียงแค่ว่า “ผลของคดีทั้งหมดก็เป็นไปตามคำพิพากษา นับจากวันนี้ไป คิดว่าอีกไม่ถึง 2 ปี น้ำยางจากต้นกล้ายาง 90 ล้านต้นก็คงจะสร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรที่เข้าโครงการ”
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ให้สัมภาษณ์นั้น น้ำเสียงนายเนวินสั่นเครือและมีหยดน้ำตาไหลออกมา โดยนายเนวินพยายามสะกดอารมณ์ให้สัมภาษณ์จนจบว่า“ผมเชื่อว่ารายได้จากการจำหน่ายยางพารา จะเป็นรายได้ที่นำมาสู่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของชาติ สำหรับผมจะไม่มีการดำเนินการใดๆ ต่อ ชีวิตหลังจากวันนี้ไป ยังเหลือภารกิจเดียวที่จะทำก็คือ จะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์”
 
ด้านนายสรอรรถ กล่าวว่า จะไม่ฟ้องกลับ ป.ป.ช.หรือใครอีก เพราะเชื่อว่าการเมืองทุกอย่างเมื่อจบแล้วก็ต้องจบ หวังว่าประชาชนคงจะเข้าใจ และให้โอกาสพวกตนกลับมาทำงานให้สังคมอีกครั้ง หลังจากพ้นจากโทษเว้นวรรคทางการเมืองจากคดียุบพรรคไทยรักไทย ซึ่งเหลือเวลาอีก 3 ปีเศษ
 
ด้านนายชวรัตน์ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า รู้สึกดีใจและหายใจโล่งขึ้น เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน และเป็นการแสดงออกชัดเจนว่านายเนวินบริสุทธิ์ ซึ่งบอกมานานแล้วแต่ไม่มีใครฟัง หลังจากนี้ก็มีกำลังใจในการทำงานเพิ่มขึ้นเพราะได้รับความยุติธรรมจาก ตุลาการ และเราก็ต้องทำงานทางด้านบริหารของเราไป
 
อย่างไรก็ตามก่อน หน้านี้ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ นายชวรัตน์ ให้สัมภาษณ์ก่อนศาลฎีกาฯอ่านคำพิพากษากรณีถ้านายเนวินพ้นวิกฤตตรงนี้ไปได้ แล้ว จะเป็นครูใหญ่ที่สามารถเป็นแกนนำพรรคภูมิใจไทยที่มีประสิทธิภาพได้หรือไม่ ว่า นายเนวินสามารถช่วยได้มาก เพราะมีความรู้ทางการเมืองมาก คลุกคลีกับการเมืองมานาน รู้เรื่องการเมืองดีกว่าตนมาก ซึ่งได้ลาราชการเพื่อไปให้กำลังใจด้วยตัวเอง
 
"สำหรับงานเลี้ยงที่พรรคภูมิใจไทยในวันที่ 22 กันยายนนั้น ไม่เกี่ยวกับกรณีคำตัดสินของนายเนวิน เป็นการเลี้ยงสังสรรค์ ส.ส.ไม่ใช่การเลี้ยงฉลองอะไร อย่าได้เข้าใจผิด มันฉลองอะไรไม่ได้"นายชวรัตน์กล่าว
 
ด้านนายอนุทินกล่าวว่า หลังจากนี้คงไม่มีการเลี้ยงฉลองอะไร แต่จะไปรวมตัวกันที่อาคารสิริภิญโญ ถนนศรีอยุธยา ขณะที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นางพรธิวา นาคาศัย เลขาธิการพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้าราชการกระทรวงมหาดไทยซึ่งมาร่วมให้กำลังใจมีจำนวนมากเช่นกัน อาทิ นายมานิต วัฒนเสน อธิบดีกรมการปกครองท้องถิ่น(สถ.) ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่เดินตามติดนายเนวินออกจากศาลฎีกา และยังมีนายไพรัตน์ สกลพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน ว่าที่อธิบดีสถ. นายวิเชียร พุฒิวิญญู รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ว่าที่ผู้ว่าฯนนทบุรี และนายวิโรจน์ จวะรังสรรค์ รองผู้ว่าฯมหาสารคาม ว่าที่ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ มาร่วมให้กำลังใจนายเนวินด้วย
 
นายมนตรี คงตระกูลเทียน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยหลังรับทราบคำตัดสินคดีกล้ายาง ว่า ในนามของบริษัทเจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ จำกัด ต้องขอขอบพระคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรมแก่โครงการยางพารา 1 ล้านไร่ว่าได้ดำเนินการไปอย่างสุจริต และได้ยกฟ้องคำฟ้องทั้งหมดตามคำตัดสินที่ได้รับทราบโดยทั่วกัน
 
"บริษัทฯ ขอเรียนว่าบริษัทฯ ที่ผ่านมามีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการผลิตกล้ายางชำถุง จำนวน 90 ล้านต้นในโครงการยางพารา 1 ล้านไร่ให้ลุล่วงตามเป้าหมายของโครงการโดยไม่ได้ทำให้ภาครัฐ เกษตรกรหรือประเทศชาติเสียหาย ซึ่งผลดำเนินการปรากฏว่า โครงการนี้บริษัทฯได้ดำเนินการโดยจริงจังและจริงใจทำให้เกษตรกรพึงพอใจ เพราะกล้ายางของบริษัทฯมีคุณภาพดี เมื่อนำไปปลูกก็ให้ผลเกินคาดซึ่งเป็นที่ประจักษ์ของประชาชนทั่วไป" นายมนตรีกล่าว
 
นายมนตรี กล่าวว่า ผลสรุปของคดีวันนี้ น่าจะทำให้ข้อสงสัยต่างๆที่หลายฝ่ายเฝ้าติดตามมาตลอดหมดไป ขณะเดียวกันบริษัทฯจะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าและพัฒนานวัตกรรม ตลอดจนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับยางพาราอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันในตลาดโลกให้กับเกษตรกรผู้ปลูกยางของไทย เพราะมีแนวโน้มว่าความต้องการยางพาราในตลาดโลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามการขยาย ตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศจีน และอินเดียที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อมั่นว่ายางพาราจะเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่จะทำให้พี่น้องเกษตรกรไทย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
 
นายดนัย อนันติโย ทีมทนายความ ป.ป.ช. โจทก์ กล่าวว่า คดีนี้ถือว่าศาลฎีกาพิจารณาสิ้นสุดแล้วแม้ว่านรัฐธรรมนูญจะระบุว่าสามารถ อุทธรณ์ได้ภายใน 30 วันถ้ามีหลักฐาน แต่ก็เป็นการให้สิทธิ์ฝ่ายจำเลยเท่านั้นไม่ใช่ฝ่ายโจทก์ดังนั้น ถือว่าคดีนี้จบแล้ว เมื่อถามว่าคดีนี้จะเป็นบรรทัดฐานให้กับคดีหวยบนดินในวันที่ 30 ก.ย.หรือไม่ นายดนัย กล่าวว่า ข้อเท็จจริงของทั้ง 2 คดีนี้แตกต่างกัน ดังนั้น จะเอามาใช้เป็นบรรทัดฐานได้
 
นายอุดม เฟื่องฟุ้ง อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาของการฟ้องร้องคดี ที่จะต้องมีจุดจบออกมาแบบใดแบบหนึ่ง แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร การดำเนินงานของ คตส.ถือว่าเสร็จสิ้นตามกระบวนการไปแล้ว ตั้งแต่ส่งเรื่องฟ้องศาลแล้ว และการทำงานที่ผ่านมา กรรมการทุกคนก็ถือว่าทำหน้าที่ได้อย่างดีที่สุด ไม่ว่าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร เราก็ต้องยอมรับ
 
นายอุดม กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การทำสำนวนฟ้องร้องคดีกล้ายาง ไม่ได้อ่อนตามหรือมีช่องโหว่แต่อย่างใด กรรมการทุกคน ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบตามข้อกฎหมาย และหลักฐานเท่าที่มีอย่างดีที่สุดแล้ว
 
ในเวลา 21.40 น. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาร่วมงานวันเกิดนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่ร้านอาหาร "กินเส้น" ย่านสนามบินน้ำ จ.นนทบุรี จากนั้นไม่นาน นายเนวิน ชิดชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ทยอยเดินทางมาสมทบ ทั้งสามพยายามหลีกเลี่ยงผู้สื่อข่าว เพราะเกรงว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นงานเลี้ยงฉลองหลังพ้นคดีกล้ายาง
 
ที่มา: เรียบเรียงจากมติชนออนไลน์ และเว็บไซต์ไทยโพสต์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net