Skip to main content
sharethis

อดีตประธานาธิบดีผู้ถูกทำรัฐประหารของฮอนดูรัส และถูกขับออกจากประเทศกลับมาถึงฮอนดูรัสแล้วโดยอาศัยอยู่ที่สถานทูตบราซิลในฮอนดูรัส ท่ามกลางผู้ชุมนุมที่มาเต้นรำและส่งเสียงเชียร์ โดยไม่สนเคอร์ฟิวของฝ่ายรัฐบาลจากการรัฐประหาร ด้านตำรวจฮอนดูรัสบอกพร้อมจับเซลายาหากเขาก้าวออกมาจากสถานทูต

 
มานูเอล เซลายา โบกมือให้กับกลุ่มผู้สนับสนุนที่มารวมตัวกันหน้าสถานทูตบราซิลในฮอนดูรัส
เมื่อวันที่ 21 ก.ย.(Getty Image/Daylife)
 
กลุ่มผู้สนับสนุนเซลายา หลังถูกตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุมในวันที่ 22 ก.ย. ด้านนอกสถานทูตบราซิล
(Reuters Pictures/Daylife)
 
 
อดีตประธานาธิบดีมานูเอล เซลายา ของฮอนดูรัสผู้ถูกยึดอำนาจจากการรัฐประหาร และต้องออกจากประเทศเมื่อราว 3 เดือนที่แล้ว ทำเซอร์ไพรซ์ด้วยการกลับมาในฮอนดูรัส
 
ภาพของเซลายาสวมหมวกคาวบอยประจำตัวยืนยิ้มอยู่บนระเบียงของสถานทูตบราซิลในกรุงเตกูซิกัลปา ได้รับการเผยแพร่ผ่านทางสถานีโทรทัศน์เทเลเซอร์ ซึ่งเป็นสถานีของรัฐบาลเวเนซุเอลา
 
ผู้สนับสนุนเซลายากว่าพันคนออกมารวมตัวที่หน้าสถานทูตเมื่อพวกเขาได้ยินว่าอดีตผู้นำของเขากลับมา ขณะที่ผู้นำชั่วคราวของฮอนดูรัสที่เคยขับไล่เขาออกไปปฏิเสธการกลับมาของเขาในตอนแรก แต่ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็ประกาศเคอร์ฟิว 15 ชั่วโมง เริ่มจากช่วงบ่าย 4 โมงเย็นของวันจันทร์ (21 ก.ย.)
 
"ผมมาถึงเมืองหลวงของฮอนดูรัสแล้ว ซึ่งจะเป็นที่แรกที่จะทำให้ความตั้งใจของประชาชนลุล่วง คือความต้องการให้ผมกลับสู่ตำแหน่ง" เซลายากล่าวผ่านเทเลเซอร์
 
ย้อนไปเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. มานูเอล เซลายา ถูกทหารจับตัวที่บ้านพักทั้ง ๆ ที่อยู่ในชุดนอน ก่อนถูกส่งตัวออกนอกประเทศ โดยปฏิบัติการครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากศาลและรัฐสภา ในช่วงที่มีความตึงเครียดทางการเมืองสูงจากการที่เซลายาวางแผนแก้รัฐธรรมนูญ
 
ทาง BBC รายงานว่าเซลายาข้ามน้ำข้ามภูเขามาถึงกรุงเตกูซิกัลปา ที่เขาบอกว่าต้องการจะมาหารือ เขาไปพักอยู่ชั่วคราวที่สถานทูตบราซิลประจำฮอนดูรัส มีกลุ่มผู้สนับสนุนเขาพากันมารวมตัวอยู่ด้านนอก และอดีตประธานาธิบดีก็ออกมาโบกมือให้ฝูงชน มีผู้อยู่ในเหตุการณ์บางคนบอกว่าเห็นเฮลิคอปเตอร์ทหารบินอยู่เหนือหัว
 
รัฐมนตรีต่างประเทศของบราซิล เซลโซ อโมริม บอกว่าประเทศบราซิลไม่มีบทบาทใดๆ ในการกลับมาของเซลายา พวกเขาเพียงแค่ยอมให้เซลายาพักอาศัยในสถานทูตตามที่เขาเรียกร้องเท่านั้น "เราหวังว่านี่จะเป็นการเปิดหนทางใหม่ไปสู่การเจรจาและทำให้เกิดข้อสรุปอย่างรวดเร็ว" อโมริมกล่าวในการแถลงข่าว
 
ขณะที่เซลายาให้สัมภาษณ์กับ BBC จากในสถานทูตบราซิลว่าเขาได้รับการความช่วยเหลือจากหลาย ๆ หน่วยจนทำให้เขากลับมาได้ เขาบอกว่าเขาเดินทาง "มากว่า 15 ชั่วโมง...ผ่านแม่น้ำและภูเขาจนกระทั่งมาถึงเมืองหลวงของฮอนดูรัสในช่วงรุ่งเช้า"
 
"พวกเราหลบเลี่ยงทหารและตำรวจที่คอยขัดขวาง ซึ่งพวกเขาอยู่กันตามถนนทางหลวง เพราะประเทศนี้ถูกกองทัพลักพาตัวไปแล้ว" เซลายากล่าว เขาบอกอีกว่าเขากำลังปรึกษากับหลายภาคส่วนของสังคมในฮอนดูรัส และกับประชาสังคมโลกเพื่อที่จะ "เริ่มการหารือสำหรับการรื้อสร้างประชาธิปไตยในฮอนดูรัส"
 
ขณะเดียวกันเซลายาก็เรียกร้องให้ทหารอย่าใช้กำลังกับผู้ชุมนุม ส่วนองค์การรัฐอเมริกัน (OAS) ที่เคยระงับสมาชิกของฮอนดูรัสหลังจากการรัฐประหารมาก่อน ก็เปิดประชุมเร่งด่วนในวันจันทร์ (21 ก.ย.) เนื่องจากสถานการณ์ที่พลิกผัน หลายคนกลัวว่าจะเกิดความรุนแรงขึ้นเช่นเดียวกับที่เคยเกิดเมื่อสองครั้งก่อนหน้านี้ที่เซลายาพยายามกลับเข้าประเทศ
 
โฮเซ มิเกล อินซัลซา ประธานองค์การรัฐอเมริกันออกมาเรียกร้องให้เกิดความสงบจากทุกฝ่าย และบอกว่ารัฐบาลชั่วคราวของฮอนดูรัสจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความปลอดภัยของเซลายาและสถานทูตบราซิล
 
ทางด้านกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ออกมายืนยันการกลับประเทศของเซลายาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยับยั้งการกระทำใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง "แน่นอนว่าพวกเราเชื่อว่าเขาได้รับการเลือกตั้งมาตามระบอบประชาธิปไตย และเป็นผู้นำของฮอนดูรัสที่ชอบธรรมตามกฏหมาย"
 
ทางด้านโรเบอร์โต มิเชลเลตตี รักษาการประธานาธิบดีผู้ดำรงตำแหน่งหลังจากที่เซลายาถูกยึดอำนาจ ออกมาบอกในทีแรกว่าเขาไม่เชื่อว่าเซลายาจะกลับมา และคงจะยังอยู่ในโรงแรมที่นิคารากัว
 
แต่พอหลังทราบความจริง มิเชลเลตตีก็ออกมาบอกให้ทางบราซิลส่งตัวเซลายามาดำเนินคดี และบอกว่าบราซิลจะต้องรับผิดชอบหากเกิดความรุนแรงใดๆ "สายตาของโลกตอนนี้จับจองอยู่ที่บราซิลกับฮอนดูรัส" มิเชลเลตตีกล่าว
 
ต่อมารัฐบาลชั่วคราวฮอนดูรัสก็ประกาศขยายเวลาเคอร์ฟิวอีก 26 ชั่วโมง ไปจนถึง 18.00 น. ของวันอังคาร (22 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น และมีการปิดสถานบิน มีนักข่าวรายงานว่าผู้สนับสนุนเซลายาหลายคนฝ่าฝืนกฏเคอร์ฟิว และยังคงอยู่ภายนอกสถานทูต พากันเต้นรำและส่งเสียงเชียร์
 
เซลายาบอกอีกว่าการกลับมาของเขาเป็นหนึ่งใน "ยุทธการแบบสันติ" และเรียกร้องให้นานาชาติให้ความร่วมมือเพื่อให้ฮอนดูรัสกลับสู่ความสงบ
 
 
ชาเวซ พูดถึงการกลับมาของเซลายา
ฮูโก้ ชาเวซ ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ประกาศให้ทราบถึงการกลับประเทศของเซลายา เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ขณะกำลังพูดคุยโทรศัพท์กับเซลายาและภรรยาของเขาผ่านทางรายการโทรทัศน์ของเวเนซุเอลา ชาเวซบอกว่าเซลายาซ่อนตัวในรถบรรทุกและรถแทรกเตอร์เพื่อให้ผ่านด่านตรวจของตำรวจไปได้ เขาเดินทางพร้อมกับคนอีกสี่คนข้ามแม่น้ำและภูเขาสองวันมาจนถึงกรุงเตกูซิกัลปา
 
 
สื่อฮอนดูรัสเผย ถ้าเซลายาก้าวเท้าออกมาจากสถานทูตฯ เขาจะถูกจับ
มาริโอ เปอโดโม รองรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงของฮอนดูรัสกล่าวไว้ใน หนังสือพิมพ์ La Tribuna ของฮอนดูรัสว่า หากมานูเอล เซลายา ก้าวเท้าออกมาจากสถานทูตบราซิลแล้ว เขาจะถูกตำรวจจับกุมทันที โดยมีหมายจับจากศาลรองรับ
 
รองรัฐมนตรีความมั่นคงบอกว่าพวกเขาเข้าใจว่ารูปการณ์อาจออกมาหลากหลาย แต่หน้าที่ของพวกเขาคือการบังคับใช้หมายศาลกับอดีตประธานาธิบดีเซลายา เท่าที่รูปการณ์ในปัจจุบันจะเป็นไปได้ และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติของฮอนดูรัสพร้อมแล้วที่จะกับดุมตัวเขา
 
 
ที่มา แปลและเรียบเรียงจาก
 
Zelaya makes surprise return, Straits Times, 22-09-2009

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net