บ่ายวันที่ 25 กันยายน 2552 ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์วิถีเกษตรกรรม ที่คัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าของบริษัท พาวเวอร์ เจเนอเรชั่น ซัพพลาย จำกัด ในเขตอำเภอหนองแซง จังหวัดสระบุรี และเขตอำเภอภาชี จังหวัดอยุธยา ร่วมกับกลุ่มชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากบ่อจำกัดขยะ ของบริษัท เบ็ตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด ในเขตตำบลหนองปลาไหล และกุดนกเปล้า อำเภอเมืองฯ จังหวัดสระบุรี ซึ่งปิดถนนพหลโยธิน ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 99 ได้จัดการเผาพริกเผาเกลือประกอบการแถลงข่าวกับสื่อมวลชน เนื่องจากถูกผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีแจ้งความดำเนินคดีข้อหาปิดถนนทางสาธารณะกับแกนนำชาวบ้าน 6 คน คือ นายนพพล น้อยบ้านโง้ง และนายคูณทวี หรือน้อย ซึ่งเป็นแกนนำคัดค้านบ่อกำจัดขยะเบ็ตเตอร์เวิลด์กรีน และนายตี๋ ตรัยรัตนแสงมณี นายสมคิด ดวงแก้ว นางวัชรี เผ่าเหลือทอง และนายสุปรีดี หรือเปรี้ยง ซึ่งเป็นแกนนำคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าหนองแซง
“เราขอแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีได้กลั่นแกล้งแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำทั้ง 6 ท่าน โดยงัด พ.ร.บ.ทางหลวง มาตรา 39 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 229 มาเล่นงาน โดยอ้างว่าทำให้ปิดทางสาธารณะอันน่าจะทำให้เกิดเหตุอันตราย โดยถูกจับขณะกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าสามคน คือ นายนพพล น้อยบ้านโง้ง และนายคูณทวี หรือน้อย และนายสุปรีดี หรือเปรี้ยง โดยตำรวจได้ติดต่อมายังแกนนำอีกสามท่านให้ขอเข้ามอบตัว มิเช่นนั้นจะไม่ยอมให้แกนนำที่ถูกจับเอาไว้แล้ว 3 คนประกันตัว จึงเป็นเหตุให้เราต้องออกแถลงการณ์และเผาพริกเผาเกลือผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าหนองแซง และบ่อกำจัดขยะเบ็ตเตอร์เวิลด์กรีน ขอให้ตกนรกหมกไหม้ไม่ได้ผุดได้เกิด กับการกระทำที่เสมือนเป็นทาสรับใช้บริษัท เพาเวอร์ เจเนอเรชั่น ซัพพลาย จำกัด” นายเฉลิม ฉิมพะวงษ์ แกนนำชาวบ้านคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าหนองแซงกล่าว
หลังจากนั้นชาวบ้านทั้งหมดได้ยุติการชุมนุมเพื่อรวมพลเคลื่อนไปที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี เพื่อติดต่อขอประกันตัวแกนนำที่ถูกจับ 3 ราย แต่ตำรวจได้นำแกนนำทั้งสามไปฝากขังกับศาลแล้ว ชาวบ้านทั้งหมดต้องไปทำเรื่องประกันตัวในชั้นศาล แต่ผลปรากฎว่า ศาลไม่ยอมให้ประกันตัว แม้ว่าชาวบ้านได้ยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัวทั้ง 3 รายก็ตาม โดยศาลได้อ้างเหตุผลว่า เกรงว่าแกนนำทั้งสามจะออกไปปลุกระดมให้ชาวบ้านปิดถนนอีกครั้งโดยกลุ่มชาวบ้านได้ประชุมสรุปว่า ในวันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2552 ชาวบ้านจะไปยื่นอุทธรณ์คำร้องเพื่อขอให้ประกันตัวต่อศาล และแกนนำอีกสามรายที่ยังไม่ได้มอบตัวจะมามอบตัวในวันเดียวกันนี้
“ชาวบ้านทั้งหมดจะต่อสู้ในคดีความที่ถูกผู้ว่าฯกล่าวหาร่วมกันกับแกนนำที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี โดยจะทำให้เห็นความจริงว่ายังมีความยุติธรรมอยู่ในสังคมหรือไม่ ระหว่างผู้ว่าฯที่อำนวยความสะดวกให้บริษัททุกๆ เรื่อง เพื่อให้เกิดโรงไฟฟ้าหนองแซงขึ้นให้ได้กับชาวบ้านที่ยืนหยัดปกปักรักษาผืนแผ่นดินที่ปลูกข้าวเลี้ยงชีพ กระบวนการพิจารณาคดีในครั้งนี้จะเป็นบรรทัดฐานหรือบทเรียนสำคัญให้กับสังคมไทยว่า ถ้าหากเราถูกตัดสินจำคุกกระบวนการยุติธรรมยังมีความสถิตยุติธรรมอยู่หรือไม่ และเราจะไม่มีวันหยุดต่อต้านคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าหนองแซงและบ่อกำจัดขยะเบ็ตเตอร์เวิลด์กรีน แม้แกนนำทั้ง 6 จะถูกจับและแจ้งความดำเนินคดี การกลั่นแกล้งรังแกครั้งนี้ของผู้ว่าฯ ยิ่งกลับสร้างให้เรามีอารมณ์โกรธแค้นที่จะต่อต้านโครงการเหล่านี้ในหนทางรุนแรงยิ่งขึ้น” นายเฉลิม ฉิมพะวงษ์ กล่าว