Life & hope: เพลงสร้างสรรค์ เพื่อรณรงค์สร้างความเข้าใจเรื่องเอชไอวีในภาษาพม่า

เมื่อเพื่อนพม่าร้องเพลง: เมื่อนั้น....ดนตรีก็ไม่ได้แบ่งใครออกจากใคร และเมื่อนั้นลำนำเพลงสร้างสรรค์สังคมยังคงขับขานสอดประสาน มีชีวิตต่อไป


--------------------------------


1………

……ฉันผิดแปลกแตกต่าง...
ฉันไม่ได้หายใจเหมือนเธอเหรอ
หรือไม่ใช่พวกพ้องเดียวกัน
หรือเราไม่ได้แบ่งปันฝัน.....    
   
เมื่อได้ฟังวาจาร้ายกาจ
จึงต้องใช้หัวใจค้นหา
และอยากจะบอกว่าดวงตา...ไม่อาจมองลึกเท่าใจ….ลึกเท่าใจ

ข้างต้นเป็นเนื้อเพลงไข่มุกในเปลือกหอยฉบับภาษาไทย ที่พี่แดงประเสริฐ เดชะบุญแต่งขึ้น เพื่อสร้างความเข้าใจกับสังคมเรื่องเอชไอวี ไม่ให้มองผู้ติดเชื้อเอชไอวีแบบรังเกียจ หรือถูกกีดกันจากสังคม

แต่ที่ผมรู้สึกคือจริงๆ ลึกไปกว่านั้นคือสะท้อนสภาพสังคมปัจจุบันที่ส่วนใหญ่มองเห็นกันแต่ภายนอก จะด้วยว่าไม่ได้มีเวลารู้จักกันอย่างลึกซึ้ง หรือว่าเป็นการตัดสินคุณค่าจากสิ่งที่เห็นไปแล้ว ก็ตามแต่มันมีอยู่จริง

ผมเชื่อว่าหลายคนชอบฟังเพลง จะแนวไหน สไตล์เหมือนไม่เหมือนกันนั้นเป็นอีกเรื่อง สังคมงานเพลงบ้านเราล้วนมีให้เลือกหลากหลาย แต่นานมาแล้วที่หูผมกรุ่นกริ่นบทเพลงที่ไมใช่บทเพลงความรักของวัยรุ่น หนุ่มสาว ฉันรักเธอ เธอรักฉัน แต่ไม่ได้แปลว่าคนชอบฟังเพลงแนวนี้จะไม่ดี ไม่ใช่แบบนั้นเพราะเราคงไม่อาจตัดสินคนจากการเลือกฟังเพลง หรือบางทีเพลงแนวนั้น อาจจะไม่เข้ากับวัยผมแล้วมั๊ง

นานมาแล้วที่บทเพลงทางสังคมล่องลอย ให้ผู้คนหยิบจับไปฟัง /เรียนรู้ หลายคนฟังเอาเพลินๆ เพื่อความรื่นรมย์ หลายคนฟังแล้วเอาบางท่อนบางตอนกลับไปจัดกระบวนการเรียนรู้ต่อ... ส่วนบางคนน่ะเหรอ! ฟังแล้วก็เก็บกักมันไว้ในความทรงจำเพื่อหวังเป็นแรงใจให้สร้างสรรค์อุดมการณ์ของตนไปข้างหน้า... และเราก็พบอีกว่าในการเติมแต่งบทเพลง... ผู้เขียนและผู้ร้องบางคนหวังเพียงขับกล่อมให้ผู้ฟังซาบซึ้งและเข้าใจท่วงทำนองพร้อมนัยความของคำที่ต้องการเอื้อยเอ่ยเท่านั้น ไม่ต้องกระจายขยายต่อ... เพียงฟังอย่างตั้งใจ และเข้าใจก็เพียงพอแล้ว

ผมอยากเรียกบทเพลงตามกาลและจุดมุ่งหมายแตกต่างเหล่านี้ว่า “บทเพลงสร้างสรรค์สังคม” และในการทำงานเพื่อสังคมมายาวนานของคนหลายๆรุ่นก็ถักทอก่อเกิดบทเพลงเหล่านี้ขึ้นมากมาย จากศิลปินตัวจริง ที่ไปขอให้เขาแต่งเขาร้องเพลงที่มีเนื้อหาสร้างสรรค์สังคมตามประเด็นปัญหาที่เราพยายามขับเคลื่อนรวมไปกับบทเพลงของเขา หรือจากศิลปินสมัครเล่นก็มีเป็นจำนวนมาก ด้วยหวังว่าบทเพลงจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางเพื่อเดินเข้าไปหาหัวใจของคนที่เราต้องการสื่อสารด้วย มีบทเพลงเกี่ยวกับเด็กเยาวชน สิทธิมนุษยชน บทเพลงอนุรักษ์ลำนำป่าเขา บทเพลงวิถีชีวิตผู้คนในพื้นที่ บนเขา ดอย ป่า ที่ราบสูง ทะเลหรือบทเพลงที่เกี่ยวกับชีวิตควมเจ็บป่วย การติดเชื้อเอชไอวี ฯลฯ

 

2.............

หากมาดูเพลงที่เกี่ยวข้องกับเอชไอวี ที่ผ่านมามีเพื่อนผู้ติดเชื้อหลายคนลุกขึ้นมาสร้างสรรค์บทเพลงที่มีเนื้อหาเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อให้คนในสังคมเข้าใจเรื่องเอดส์ เข้าใจผู้ติดเชื้อ และบางเพลงก็ต้องการสื่อสารกับตัวผู้ติดเชื้อด้วยกันเอง ว่าติดเชื้อแล้วยังมีอนาคตได้ ชีวิตยังคงเดินหน้าต่อ เอชไอวีสามารถที่จะควบคุมดูแลได้ ให้กำลังใจกันและกัน และเพลงของผมก็เกี่ยวกับเอชไอวี.......

ก่อนรู้เรื่องเพลงของผม ผมมีข้อเท็จจริงอะไรบางอย่างจะบอก

1........คนพม่าในกรุงเทพมหานครมีอยู่เกือบล้านคน มากกว่าจังหวัดอื่น

2........คนพม่าเหล่านี้ถูกมองว่าสร้างปัญหาให้กับสังคมไทย มาแย่งงานคนไทย แต่หากพิจารณางานที่เขาทำ ก็พบส่วนใหญ่เป็นงานที่คนไทยไม่เลือกทำอยู่แล้ว และโปรดรู้ไว้เถอะครับไม่มีใครอยากจากบ้านมาถ้าไม่จำเป็นจริงๆ

3……….คนพม่าเป็นคนแพร่กระจายเชื้อโรคมายังคนไทย แต่ข้อเท็จจริงทุกคนมีสิทธิ์แพร่กระจายเชื้อโรคทั้งหมดถ้าไม่มีข้อมูล ไม่รู้วิธีรักษาดูแลหรือป้องกันตนเองแปลว่าเราต้องทำให้ทุกคนที่อยู่บนผืนแผ่นดินไทยแบบมีข้อมูลใช่มั๊ยล่ะครับ จะได้ปลอดภัยและสุขภาพดีกันทุกคน

4.........ข้อเท็จจริงสำคัญอีกอย่างก็คือว่า.....
คนพม่าชอบฟังเพลงและเพลงบ้านเขาไพเราะ สนุกสนาน
คนพม่าแต่งเพลงเองได้ เล่นดนตรีเป็น

และเงื่อนไขสำคัญอีกอย่างคือว่า........คนพม่าส่วนใหญ่ต้องทำงานอยู่โรงงานทั้งวัน ไม่มีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมที่เราจัดไม่ว่าจะกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ เราจึงคิดว่าเพลงนี่แหล่ะครับง่ายสุด เปิดฟังได้โดยเสรี อยากฟังเมื่อไหร่ก็ฟัง ดึกดื่นค่อนคืนก็เสพได้

               

-----ผมจึงชวนคนพม่าร้องเพลง........ Life & Hope --------

เพลงที่ผมจะพูดถึงเป็นเพลงทำนองเดียวกันกับเพลงไข่มุกในเปลือกหอยนี่แหล่ะครับ หมายถึงเป็นเนื้อหาที่ต้องการสื่อสารสร้างความเข้าใจกับคนฟัง โดยที่เพื่อนพม่าเป็นคนเขียนเอง ร้องเอง เล่นเอง แจกจ่ายในชุมชนพม่าด้วยกันเอง เขาได้ใช้บทเพลงเหล่านี้เป็นตัวเดินเรื่องสร้างความเข้าใจเรื่องเอชไอวี/เอดส์ กับเพื่อนพม่าที่มาอยู่ในเมืองไทยหรือเรียกว่ามันกำลังช่วยถักทอพวกเขาเข้าหากัน

บทเพลงพูดถึงวิถีชีวิตของหนุ่มสาวพม่าที่ต้องเดินทางจากบ้านมาอยู่เมืองไทย ต้องมาทำงาน มีความเสี่ยงอะไรบ้าง เอชไอวี/เอดส์เป็นหนึ่งในนั้น

บทเพลงพูดถึงการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ ถุงยางอนามัยเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด

บทเพลงพูดถึงการกินข้าว และใช้ชีวิตประจำวันกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีเช่นใช้มีดโกนหนวดหรือกรรไกรตัดเล็บร่วมกันว่าไม่ได้ทำให้ติดเชื้อ ควรกังวลกับเรื่องเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันดีกว่า

หลังจากช่วงเวลาต่อเติมตกแต่งบทเพลงเสร็จสิ้นลงผมพบว่า คนพม่าเป็นนักรณรงค์ที่พร้อมจะทำงานกับคนที่มาจากบ้านเมืองเดียวกัน เพื่อให้เพื่อนเหล่านั้นปลอดภัย หนึ่งในสมาชิกที่เล่นคีย์บอร์ดในวงบอกกับผมว่า "อยากเล่นดนตรีให้คนพม่าที่อยู่ในเมืองไทยฟังเพราะเวลามาอยู่ที่นี่เราจะโหยหาคนที่มีภาษาเดียวกันกับเรา รู้สึกเหมือนมีเพื่อน ซึ่งบทเพลงช่วยได้ และการให้ข้อมูลความรู้ถ้าเราใช้วิธีพูดบอกเขา สอนเขาไม่นานเขาก็ลืม แต่ถ้าเราสื่อสารผ่านบทเพลง ท่วงทำนองของเพลงมันจะดังอยู่ในใจเขาไปอีกนาน ไม่ลืม เนื้อหามันก็จะติดตามไปกับท่วงทำนองของเพลงด้วย”

น่าสนใจนะครับฟังแล้วผมก็คิดต่อไปอีกว่า ถ้าต่อให้เราร้องเพลงไทยที่มีเนื้อหาโคตรดีให้เขาฟังมันก็ไม่อิน ท่วงทำนองมันไม่ได้ฝังลึกในใจหรอกครับ เพราะมันไม่ตรงกับความเป็นเขา

 

3……

เขาไม่ได้พูดถึงการสื่อสารกับคนไทย เพราะคงรู้ว่าคนไทยฟังไม่ออกอยู่แล้วแต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือว่า หากลองมองให้ลึกลงไปอีกสักหน่อยจะเห็นว่าคนพม่าที่อยู่เมืองไทยก็ไม่ได้ต่างจากคนไทย ที่ต้องได้รับการดูแล สร้างความเข้าใจเพื่อให้เขาปลอดภัยเช่นเดียวกัน คนพม่าเองเขาก็อยากให้เพื่อนเขาปลอดภัยล่ะครับ แต่ที่สำคัญคือคนไทยเองก็ต้องมีส่วนช่วยสนับสนุน หรือทำความเข้าใจ ในขณะเดียวกันก็รับรู้และยอมรับการมีอยู่ของเขา ณที่นี่วันนี้นั่นล่ะครับ

ลองใช้หัวใจฟังดูนะครับ....คนไทยก็ฟังได้ บางท่วงทำนองเหมือนเพลงเกาหลี...แต่จะเหมือนอะไร ก็ช่างเท่าที่รู้คือมันเพราะจับใจ เพราะมันร้องออกมาจากหัวใจของพวกเขา ผมแบ่งปันเพลงมาให้ฟังกัน และหากใครจะนำไปใช้เพื่อสื่อสารเรื่องนี้ต่อเนื่องก็ยินดี โดยเฉพาะคนที่ทำงานกับแรงงานพม่าในพื้นที่อื่นๆ นอกจากฟังดนตรีสนุกแล้ว ผมว่าเราได้เรียนรู้อะไรอย่างหนึ่งซึ่งคนทำงานย่อมรู้ดีตั้งแต่ต้นแหล่ะครับว่า ถ้าเราให้เจ้าของปัญหาเป็นคนลุกขึ้นมาจัดการปัญหาด้วยตัวเอง...มันดีที่สุดเลยจริงๆ....ยิ่งถ้าได้ออกแบบตามความถนัด-ความชอบของตัวเองด้วยแล้ว รอยยิ้มจะตามความสุขจะเกิด

ที่สำคัญกลิ่นกรุ่นๆ ของบทเพลงสร้างสรรค์สังคมก็ยังวนเวียนอยู่ต่อไปโดยไม่จำกัด เชื้อชาติ......
       

   ----------------------------------------

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท