บริษัทนายหน้ายอมจ่ายค่าเสียหายให้แรงงานที่ถูกหลอกไปสวีเดนแล้ว

9 ต.ค. 52 แรงงานไทยที่ถูกหลอกให้ไปทำงานเก็บผลไม้ป่าที่สวีเดนประมาณ 400 คน ได้เดินทางมายังกระทรวงแรงงาน เพื่อตรวจสอบรายชื่อ และตกลงค่าใช้จ่าย ที่เสียให้กับบริษัทจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ประเทศสวีเดน ทั้ง 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท สยามโรยัล เซอร์วิสเซส กรุ๊ป จำกัด บริษัท ที.เอส.ลอว์. แอนด์บิสซิเนส จำกัด บริษัทสินซันชาย จำกัด และบริษัท ไทยบลูเบอรี่ จำกัด ซึ่งแต่ละบริษัทได้มีการแยกพูดคุยเจรจาเป็นรายบุคคลกับแรงงานไทย เพื่อจ่ายเงินคืนบางส่วน ซึ่งแรงงานแต่ละคนจะได้รับเงินคืนในจำนวนที่ไม่เท่ากัน

โดยแรงงานที่กลับมาก่อนครบสัญญาจ้าง จะได้รับเงินคืนขั้นต่ำ 21,000 – 23,000 บาท รวมถึงค่าเก็บผลไม้ของแต่ละคน และบริษัทนายหน้ารับปากกับแรงงานว่าจะจ่ายเงินคืนได้ครบทุกคน ในสัปดาห์หน้า

สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่มแรงงานที่ถูกหลอกลวงที่ได้ยื่นต่อนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 52 คือ (ดู: แรงงานถูกหลอกไปสวีเดนยื่นหนังสือถึงนายกฯ ให้สั่งการแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างเร่งด่วน) ทางนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้ส่งเรื่องดังกล่าวให้กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงานและกระทรวงยุติธรรม ดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป

อนึ่งบริษัทนายหน้า 4 บริษัท ได้ส่งแรงงานไปสวีเดนโดยทยอยเดินทางไปตั้งแต่เดือน พฤษภาคม – สิงหาคม 2552 โดยยอดแรงงานที่ทั้ง 4 บริษัท จำนวน 5,911 คน โดยแยกเป็นดังนี้

· บริษัท สยามโรยัล เซอร์วิสเซส กรุ๊ป จำกัด จำนวน 2,372 คน

· บริษัท สินซันชาย จำกัด จำนวน 1,668 คน

· บริษัท ไทย บลูเบอรี่ เซอร์วิส จำกัด จำนวน 738 คน

· บริษัท ที.เอส.ลอว์. แอนด์ บิสซิเนส จำกัด จำนวน 1,133 คน

โดยบริษัทนาหน้าทั้ง 4 บริษัท อ้างว่าจะคืนทุนในระยะเวลา 1 เดือนจากการเก็บผลไม้ แต่ทั้งนี้เมื่อเดินทางไปถึงประเทศสวีเดนพบว่าในการทำงานเก็บลูกเบอรี่มีความยากลำบากต้องไปเก็บตามป่าเขา เดินทางไกล และลูกเบอรี่ก็ไม่ได้มีให้เก็บมากนัก โดยทางนายหน้าที่สวีเดนจะเก็บค่าใช้จ่ายวันละ 150 โครน (ประมาณ 750 บาท) เป็นค่าเช่ารถ (ไม่รวมน้ำมัน) ค่าที่พัก ค่าอาหาร ซึ่งได้รับอาหารคือไก่ย่าง 1 ขา ไข่ต้ม 2 ฟอง ต่อวัน ซึ่งไม่เพียงพอ ทำให้แรงงานต้องหาเห็ดหรืออาหารป่าในแถบนั้นมาหมกกินประทังชีวิต

เมื่อไปทำงานในตอนแรกๆ จะสามารถเก็บลูกเบอรี่ได้ประมาณวันละ 36 กิโลกรัม โดยนายหน้าจะรับซื้อกิโลกรัมละ10 โครน แต่เมื่อนานไปก็เก็บได้น้อยลง จากนั้นกลุ่มแรงงานได้ไปขอความช่วยคณะของนายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 52 ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับการเหลียวแล จากนั้นแรงงานไทยส่วนใหญ่ก็มีความประสงค์ที่จะกลับบ้านและได้รับการช่วยเหลือจากสมาคมแม่บ้านไทยในสวีเดนประสานกับทางสถานฑูตฯ จึงได้กลับบ้าน และได้เข้าร้องเรียนปัญหานี้กับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้นายนิยมกล่าวว่าปัญหาส่วนใหญ่ที่แรงงานที่ต้องเผชิญในขณะนี้ก็คือเรื่องหนี้สินทั้งของบริษัทนายหน้าที่นำไปทำงาน รวมถึงเงินกู้นอกระบบ และยังมีเพื่อนแรงงานที่ยังติดค้างอยู่ที่สวีเดนอีกหลายคนที่ไม่สามารถกลับมาได้

ข่าว