เมื่อวันที่ 24 ต.ค.52 ประธานาธิบดีบารัก โอบามา แห่งสหรัฐ ประกาศให้ไข้หวัดใหญ่ 2009 เป็นภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อเปิดทางให้แพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสามารถดำเนินการในเรื่องต่างๆ ได้อย่างทันท่วงทีโดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนที่เยิ่นเย้อจากรัฐบาลกลาง โดยคำประกาศนี้มีขึ้นไม่กี่วันภายหลังจากที่รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหรัฐได้เตือนว่าความต้องการวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่นั้นมีมากกว่าปริมาณวัคซีนที่มีอยู่
ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไข้หวัด 2009 ยังคงมีอยู่ ขณะที่จำนวนผู้ป่วยในหลายๆ ชุมชนทั่วประเทศก็ยังพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และความเป็นไปได้ที่การแพร่ระบาดจะกลายเป็นภาระหนักหนากว่าที่ทรัพยากรด้านการสาธารณสุขจะรับไหวก็ยังคงมีอยู่ในบางพื้นที่ ดังนั้นการหาตัวผู้ติดเชื้อ การนำมาตรการด้านสาธารณสุขมาใช้ การให้คำแนะนำที่ถูกต้องแก่เจ้าหน้าที่และประชาชน ตลอดจนพัฒนาวัคซีนที่ได้ผลก็จะช่วยลดการแพร่ระบาดลงได้
ทั้งนี้มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัด 2009 ทั่วโลกอย่างน้อย 4,999 คน นับตั้งแต่เกิดการระบาดเมื่อเดือนเมษายน ส่วนในสหรัฐนั้นมีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน และขณะนี้มีรายงานว่ากำลังเกิดการขาดแคลนวัคซีนป้องกันหวัด 2009 ขึ้น โดยหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่าบางรัฐในสหรัฐต้องการวัคซีนมากกว่าจำนวนที่ทางการจัดให้ถึง 10 เท่าเลยทีเดียว
ขณะที่ในวันที่ 25 ต.ค. ทางการซาอุดีอาระเบียได้สั่งปิดโรงเรียน 2 แห่ง ในจังหวัดกาสซิมเนื่องจากพบนักเรียน 2 คนเสียชีวิตด้วยโรคหวัด 2009 ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดมรณะชนิดนี้ในซาอุฯ เพิ่มเป็น 39 คน ขณะนี้ทางการซาอุฯ กำลังจับตามองการแพร่ระบาดของไข้หวัด 2009 อย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าชาวต่างชาติร่วม 2 ล้านคนจากทั่วโลกที่เดินทางมาประกอบพิธีฮัจญ์จะนำพาเอาโรคร้ายนี้ติดตัวมาด้วย
ด้านกระทรวงสาธารณสุขตุรกีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัด 2009 เป็นรายแรกของประเทศ เป็นคนไข้วัย 29 ปี ที่เข้ารักษาตัวด้วยโรคนิวมอเนีย และถูกตรวจพบว่าติดเชื้อหวัดชนิดนี้ แต่รายงานไม่ได้ระบุว่าผู้ตายเป็นชายหรือหญิง
สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทยนั้น นพ.วิชัย โชควัฒน ประธานคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมาถึงความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่า ขณะนี้การวิจัยวัคซีนหวัด 2009 มีความคืบหน้าไปกว่า 90% แล้ว และเชื่อว่าการผลิตวัคซีนน่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ได้ ส่วนการสั่งนำเข้าวัคซีนหวัด 2009 ชนิดเชื้อตายจำนวน 2 ล้านโด๊สนั้น ล็อตแรก 1 ล้านโด๊ส จะส่งมาถึงในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ และล็อตที่ 2 อีก 1 ล้านโด๊สจะส่งถือในวันที่ 2 ม.ค. 2553
ส่วนความคืบหน้าในการจัดสร้างโรงงานผลิตวัคซีนหวัด 2009 ว่า ขณะนี้ ทาง อภ.ได้ยกเลิกการเจรจาในการใช้สถานที่ผลิตที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) แล้ว หลังจากที่ได้ประเมินความคุ้มค่าในการลงทุน เพราะสามารถเช่าพื้นที่ผลิตได้เพียงแค่ 5 ปี ดังนั้น จึงอยู่ระหว่างการนำเสนอ ครม. โดยจะก่อสร้างเพิ่มเติมที่ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ใช้งบประมาณ 300 ล้านบาท
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)